เที่ยวฮ่องกง 2023 อัปเดตพิกัดน่าไป ! ไหว้พระ ช้อปเพลิน เดินชมงานอาร์ต

          หลังโควิด 19 คลาย ฮ่องกงก็พร้อมอ้าแขนต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบ เราไม่รอช้า พาไปลุยเที่ยวฮ่องกง 2023 ปักหมุดจุดหมายและกิจกรรมใหม่ ๆ ที่ขอบอกว่ามาแล้วอาจหลงรักเกาะแห่งนี้ได้ง่าย ๆ

          เกาะขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ที่มีพื้นที่ราว ๆ 1,100 ตารางกิโลเมตร แต่กลับอัดแน่นไปด้วยสีสันและวัฒนธรรม ทำให้ “ฮ่องกง” (Hong Kong) ขึ้นชื่อว่าเป็นมหานครเปี่ยมเสน่ห์ ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวครบทุกแนว ตั้งแต่ทิวทัศน์ธรรมชาติไปจนถึงตึกระฟ้า วัดวาอาราม แหล่งช้อปปิ้ง ของกินอร่อย ๆ รวมไปถึงสวนสนุกระดับโลก ซึ่งก่อนหน้านี้ฮ่องกงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ทำให้ต้องปิดพรมแดน พร้อมกำหนดมาตรการกักกันอันเข้มงวด เป็นเหตุให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง

          ทว่าตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะพูดออกมาดัง ๆ ว่า “Hello Hong Kong” เพราะเกาะฮ่องกงเปิดให้ทุกคนมาเยือนอีกครั้ง แบบไม่มีการตรวจหาเชื้อโควิด 19 เพิ่มเติม กักตัว หรือกรอกเอกสารให้ยุ่งยาก ใครที่ยังไม่เคยไปต้องลองปักหมุดมาสักครั้ง หรือใครที่เคยไปแล้วจะกลับมาเที่ยวใหม่ก็ไม่เบื่อแน่นอน และครั้งนี้กระปุกดอทคอมมีโอกาสได้ร่วมเดินทางไปกับ การท่องเที่ยวฮ่องกง (Hong Kong Tourism Board) พร้อมเก็บบรรยากาศและอัปเดตที่เที่ยวเด็ด ๆ ทริปเที่ยวฮ่องกง 2023 มาฝากเพื่อน ๆ กันด้วย

          การเดินทางจากประเทศไทยไปยังฮ่องกงนั้น มีเที่ยวบินตรงจากหลากหลายสายการบิน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ทั้งนี้ คนไทยไม่จำเป็นต้องขอวีซ่า แต่ต้องเตรียมพาสปอร์ต ตั๋วเครื่องบิน และที่พักให้พร้อม

• ไม่มีเงื่อนไขและข้อกำหนดเกี่ยวกับการได้รับวัคซีนอีกต่อไป (จากเดิมที่กำหนดให้ผู้ไม่มีถิ่นพำนักในฮ่องกงต้องได้รับวัคซีนตามหลักเกณฑ์)
• นักท่องเที่ยวทุกคนต้องตรวจโควิด 19 ด้วยชุดตรวจแอนติเจน (ATK) และมีผลเป็นลบ ภายใน 24 ชั่วโมง สำหรับการสุ่มตรวจเมื่อเดินทางมาถึง สามารถตรวจด้วยตัวเองแล้วถ่ายภาพผลตรวจ พร้อมหลักฐานระบุตัวตน วัน เวลาประกอบ โดยเก็บภาพถ่ายผลตรวจเอาไว้ตลอดเวลาที่อยู่ฮ่องกง
• ฮ่องกงยกเลิกข้อบังคับการใส่หน้ากากอนามัยทั้งภายในและภายนอกอาคาร รวมถึงในรถสาธารณะ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป

          ถ้าเตรียมตัวตามนี้ อึดใจเดียวก็ผ่าน ตม. มาได้สบาย ๆ จากนั้นจะนั่งรถไฟ Airport Express รถบัส หรือแท็กซี่ จากสนามบินเข้าเมืองก็ตามสะดวก และเมื่อพร้อมแล้ว เรามาดู 13 พิกัดที่เที่ยวฮ่องกง ครบทั้งชิล ช้อป ชิค กันต่อได้เลย

          จุดชมวิวสุดฮอตที่ไม่ไปก็เหมือนมาไม่ถึง ตั้งอยู่บน Victoria Peak ยอดเขาที่สูงที่สุดในฝั่งเกาะฮ่องกง หากย้อนไปในอดีต The Peak ถูกใช้เป็นสถานที่ส่งสัญญาณให้กับเรือเดินสมุทรที่เข้ามาค้าขายในช่วงศตวรรษที่ 19 ต่อมามีขุนนางระดับสูงมาสร้างที่พักอาศัยอยู่ด้านบน และเนื่องจากอยู่บนยอดเขาสูงทำให้การเดินทางขึ้นไปแต่ละครั้งลำบาก รถราง หรือ Peak Tram จึงถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 1888 และล่าสุดก็เพิ่งปรับโฉมและตัวสถานีใหม่เมื่อปี 2022 ถือเป็นรถรางเจเนอเรชั่นที่ 6 แล้ว โดยระหว่างการเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาด้วยรถราง เรายังได้สัมผัสประสบการณ์ “The Peak Tram illusion” ที่รู้สึกเหมือนวิวตึกกำลังเอียงไปข้างหน้า พาให้ตื่นเต้นและแปลกตา ไม่เหมือนการขึ้นรถรางที่อื่น

          เมื่อขึ้นมาถึงยอดเขาแล้ว เราก็พุ่งตัวต่อไปยัง Sky Terrace 428 ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่มีความสูง 428 เมตร จากระดับน้ำทะเล จึงเป็นที่มาของชื่อ Sky Terrace 428 มุมนี้เผยให้เห็นทิวทัศน์ของตึกระฟ้าและท้องอ่าวที่สวยงาม โดยเฉพาะช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าและตึกต่าง ๆ ทยอยเปิดไฟระยิบระยับขึ้นยามค่ำคืน นับเป็นโมเมนต์ที่ดีต่อใจสุด ๆ ใครพาแฟนมาด้วยคงฟินน่าดู

• ที่ตั้ง : 128 Peak Road, The Peak, Hong Kong
• เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.00-21.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.00-21.00 น.
• ค่าเข้าชม The Peak Tram และ Sky Terrace 428 : HK$122 ต่อเที่ยว (ประมาณ 538 บาท)*
• เว็บไซต์ : www.thepeak.com.hk
• Google Map : http://bitly.ws/AxsF

          ชมวิวเมืองจากจุดพีคกันไปแล้ว จะพลาดชมวิวท้องทะเลแบบพาโนรามาได้ไง กับถนนสายดาราที่ทอดยาวกว่า 400 เมตร ขนานไปกับริมอ่าววิกตอเรีย บริเวณนี้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงปูชนียบุคคลที่มีส่วนทำให้ฮ่องกงกลายเป็นฮอลลีวูดแห่งตะวันออก ไฮไลต์ก็คือรอยประทับมือและลายเซ็นของดารา-ผู้กำกับระดับโลกอย่าง เฉินหลง, เจ็ท ลี, เหลียง เฉาเหว่ย และหว่อง กาไว ฯลฯ ซึ่งไม่นานมานี้ก็ได้รับการปรับปรุงพื้นที่โดยสถาปนิกชื่อดังอย่าง James Comer ให้ทันสมัย ดูคลีน ๆ สบายตา มีที่นั่งพักเป็นโครงไม้ พูดเลยว่าไม่ใช่แค่ถ่ายรูปสวย แต่ถ้ามีเวลานั่งเพลิน ๆ ยังได้แอบมองไลฟ์สไตล์ของชาวฮ่องกงที่มาออกกำลังกาย หรือพาน้องหมาเดินเล่นในบริเวณนี้อีกด้วย เป็นมุมผ่อนคลายกลางเมืองชั้นดีเลยล่ะ

• ที่ตั้ง : Salisbury Road, Tsim Sha Tsui, Hong Kong
• เวลาเปิด-ปิด : เปิด 24 ชั่วโมง
• เว็บไซต์ : www.avenueofstars.com.hk/en/
• Google Map : https://bit.ly/3Dq2rG9

          สายมูคงรู้กันดีว่า ฮ่องกงขึ้นชื่อเรื่องการไหว้พระ ขอพร เพราะมีวัดดัง ๆ มากมายให้แวะเวียนไปเยี่ยมชม แต่สำหรับวัดเจ้าแม่กวนอิม ฉีซ้าน หรือที่คนฮ่องกงเรียกว่า ฉี่ซ้านจี๋ แห่งนี้ บอกเลยว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุด Unseen ที่ไม่ได้มาง่าย ๆ เพราะทางวัดจำกัดผู้มาเยือนแค่ 800-1,000 คนเท่านั้น ใครอยากมาจึงต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน เพื่อแลกกับความเงียบสงบและเต็มไปด้วยมนตร์ขลัง

          เมื่อมีโอกาสดี ๆ แบบนี้แล้ว เราจึงไม่พลาดเก็บบรรยากาศของที่นี่มาฝาก เริ่มด้วยรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมสีขาวกระจ่างที่มีความสูงถึง 76 เมตร เทียบเท่าตึก 23 ชั้น และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ใต้ฐานดอกบัวเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ส่วนตัวอารามมีความมินิมอลด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานความเคร่งขรึมตามประเพณีของวัดพุทธจีนเข้ากับนวัตกรรมสมัยใหม่อย่างลงตัว รายล้อมด้วยทิวเขาสีเขียวสดชื่นที่พร้อมโอบรับผู้มาเยือนด้วยกลิ่นอายบริสุทธิ์ ปราศจากสิ่งเจือปน เสมือนเป็นการชำระล้างทางจิตวิญญาณไปในตัว

          การบูชาเจ้าแม่กวนอิมที่นี่ไม่ได้ใช้ธูปหรือเทียน หากแต่ใช้เพียงการตักน้ำ โดยให้เราค่อย ๆ เดินไปถวายในอ่าง เพื่อรักษาธรรมชาติให้ยั่งยืน ที่ประทับใจเป็นพิเศษก็คือทุกดีเทลของอารามแห่งนี้แฝงไปด้วยข้อคิดทางธรรม ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ชนิดเดียวกัน แต่ตัดแต่งต่างกัน สื่อถึงการมองโลกได้หลายด้าน ขั้นบันไดที่กว้างไม่เท่ากัน สะท้อนว่ายิ่งก้าวขึ้นที่สูงก็ยิ่งยากลำบาก พูดเลยว่ามาที่เดียวทั้งอิ่มบุญและอิ่มใจ

• เกร็ดน่ารู้ : ลี กาชิง มหาเศรษฐีชาวฮ่องกง บริจาคทรัพย์สินราว 7,000 ล้านบาท (หรือ 1,700 ล้านเหรียญฮ่องกง) เพื่อสร้างวัดนี้ขึ้นมา

• ที่ตั้ง : 88 Universal Gate Road, Tai Po, New Territories, Hong Kong
• เวลาเปิด-ปิด : 09.30-17.00 น.
• เว็บไซต์ : www.tszshan.org
• Google Map : http://bitly.ws/Axwz

          พาวกกลับเข้าใจกลางเมือง มาดื่มด่ำมรดกทางศาสนา พร้อมชมงานออกแบบสวนสวยกันที่สำนักชีฉีหลิน ศาสนสถานที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าคอนกรีต เป็นสถานที่แห่งแรกในฮ่องกงที่สร้างขึ้นจากไม้ โดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว ด้วยเทคนิคการออกแบบตามลักษณะราชวงศ์ถังดั้งเดิม ด้านหน้ามีสระบัว สัญลักษณ์ทางพระพุทธศาสนา พลางได้ยินเสียงสวดมนต์แว่วมากล่อมเกลา จากที่ร้อน ๆ เหนื่อย ๆ จิตใจก็เย็นลงทันที

          ก่อนที่จะเดินมายังสำนักชีฉีหลิน เราจะต้องลัดเลาะผ่านสวนหนานเหลียนที่เชื่อมต่อจากถนนด้านหน้าเสียก่อน ซึ่งพอก้าวเท้าเข้ามาก็ทำเอาตกตะลึงไปเลย ใครจะไปนึกว่าฮ่องกงจะมีสวนสวยสไตล์ลูกครึ่งจีน-ญี่ปุ่นเช่นนี้ บนพื้นที่ 35,000 ตารางเมตรของสวนหนานเหลียมประกอบไปด้วยต้นไม้ หิน และสระน้ำใหญ่ พร้อมฉากหลังเป็นภูเขาและวิวอาคารสูงตระหง่านทางฝั่งตะวันออกของเกาลูน ภายในสวนมีศาลาสีทองอร่ามตั้งอยู่ เดินถัดไปก็จะพบอาคารไม้กลางน้ำ ที่ทำเป็นร้านให้ดื่มชาพลางชมบรรยากาศสวนเซน หรือถ้าท้องร้องก็สามารถลิ้มรสอาหารมังสวิรัติแบบชาวพุทธได้ที่ร้านอาหาร Chi Lin Vegetarian ซึ่งซ่อนตัวอยู่ด้านหลังน้ำตกของสวนหนานเหลียน เสิร์ฟอาหารจีนมังสวิรัติเพื่อสุขภาพ เน้นผักและผลไม้ตามฤดูกาล ปรุงด้วยน้ำมัน เกลือ และน้ำตาลน้อย ไม่ใช้ผงชูรส ถึงหน้าตาจะธรรมดา แต่ความอร่อยเกินคาด

• ที่ตั้ง : 5 Chi Lin Drive, Diamond Hill, Kowloon, Hong Kong (Chi Lin Nunnery) / 60 Fung Tak Road, Diamond Hill, Kowloon, Hong Kong (Nan Lian Garden)
• เวลาเปิด-ปิด : สำนักนางชีฉีหลิน เวลา 09.00-16.30 น. สวนหนานเหลียน เวลา 06.30-19.00 น.
• เว็บไซต์ : http://hk.chilinhk.cn/buddhism/, http://nanliangarden.org
• Google Map : http://bitly.ws/AxzR

          ใครอยากมีคู่ ห้ามพลาดมาขอพรที่วัดหว่องไทซิน หรือที่คนไทยเรียกกันติดปากกันว่า วัดหวังต้าเซียน นอกจากความอลังการของซุ้มประตูและสถาปัตยกรรมภายในวัดที่ได้รับอิทธิพลมาจากลัทธิเต๋า ขงจื๊อ และศาสนาพุทธแล้ว ผู้คนยังมักเดินทางมากราบไหว้เทพเจ้าหว่องไทซิน ซึ่งเชื่อกันว่าขอพรแล้วจะสมปรารถนาทั้งด้านโชคลาภและสุขภาพ รวมถึงเซียมซีที่นี่ยังว่ากันว่าแม่นเว่อร์ ! มิน่าล่ะคนถึงแน่นวัดตลอดวัน สำหรับทีเด็ดที่หลายคนตั้งใจมาขอพรอยู่ตรงลานขวามือ อันเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าเย่วโหลว หรือ ผู้เฒ่าจันทรา ตามตำนานจีน ท่านจะลงมาโลกมนุษย์เพื่อผูกด้ายแดงแห่งดวงชะตาระหว่างคู่รัก เอ้า ! จะรอช้าทำไม คนโสดต้องจัดด้ายแดงผูกไว้รัว ๆ แล้วอย่าลืมระบุสเปกให้ท่านช่วยด้วยนะ

          อีกหนึ่งห้องลับที่เราอยากชี้เป้า คือโถงใต้บันไดข้างวิหารหลัก ที่เรียกว่า Taisui Yuenchen Hall ซึ่งเต็มไปด้วยรูปเคารพของเทพเจ้าไท้ส่วยเอี้ยถึง 60 องค์ ตามปีนักษัตรจีน เป็นจุดที่เสริมดวงชะตาให้มีพลังยิ่งขึ้นนั่นเอง

• ที่ตั้ง : 2, Chuk Yuen Village, Wong Tai Sin, Kowloon, Hong Kong
• เวลาเปิด-ปิด : 07.00-16.30 น.
• เว็บไซต์ : www.wongtaisintemple.org.hk/en/about-wong-tai-sin
• Google Map : http://bitly.ws/AxDb

          มาฮ่องกงทั้งทีก็ต้องลุยสตรีตช้อปปิ้ง จะได้ครบทุกรสชาติ ซึ่งนอกจากย่านจิมซาจุ่ย หรือมงก๊ก ที่ขาช้อปโปรดปรานแล้ว ทริปนี้เราก็แวะมาอัปเดตตลาดเซ็นทรัล ที่เพิ่งรีโนเวทใหม่สด ๆ ร้อน ๆ เมื่อปีที่ผ่านมากันหน่อย เดิมทีบริเวณนี้เคยเป็นตลาดสดแห่งแรกของฮ่องกง สร้างตั้งแต่ ค.ศ. 1842 ก่อนจะปรับโฉมให้กลายเป็นศูนย์กลางชุมชนที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์ท้องถิ่นมากมาย ทั้งร้านชา ร้านบะหมี่ ร้านขายของฝาก ของที่ระลึกน่ารัก ๆ และพื้นที่สุดชิคสำหรับจัดอีเวนต์ มีแค่ 3 ชั้น แต่เดินเพลิน แถมยังได้กลิ่นอายระหว่างความเก่าของตลาดแผงลอยแบบดั้งเดิมและร้านสมัยใหม่ผสมผสานกัน หากใครไม่รู้จะไปเดินเที่ยวฮ่องกงแถวไหนดี ลองสตาร์ตที่ Central Market แห่งนี้ก็เริดนะ

• ที่ตั้ง : 93 Queen’s Road Central, Hong Kong
• เวลาเปิด-ปิด : 10.00-22.00 น.
• เว็บไซต์ : www.centralmarket.hk/en
• Google Map : https://bit.ly/3VOAkaR

           จากตลาดมาสู่ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของฮ่องกง เดินแล้วแทบลืมทางออก เพราะที่นี่ไม่ใช่แค่แหล่งช้อปปิ้ง แต่ยังเป็นศูนย์รวมประสบการณ์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการได้เพลิดเพลินกับสินค้าแบรนด์ดังกว่า 450 ร้าน เดินชมแกลลอรี่ศิลปะของอาร์ทิสต์รุ่นใหม่ เลือกลิ้มลองมื้ออร่อยจาก 70 ร้าน โดยมีร้านอาหาร 11 แห่ง ที่สามารถมองเห็นวิวของท่าเรือได้เต็มตา รวมไปถึงมีโรงแรมไว้รองรับแขกจากทั่วโลก นอกจากนี้ทางห้างยังเปิดจุดชมวิวสุดพิเศษอย่าง Ocean Terminal Deck ที่ออกแบบเหมือนดาดฟ้าเรือสำราญ ให้อิ่มเอมกับภาพอ่าววิกตอเรียแบบ 270 องศา บางช่วงยังมีชิ้นงานศิลปะมาจัดแสดงให้ถ่ายรูปกันเก๋ ๆ ด้วย

• ที่ตั้ง : 3-27 Canton Road, Tsim Sha Tsui, Kowloon, Hong Kong
• เวลาเปิด-ปิด : 10.00-22.00 น.
• เว็บไซต์ : www.harbourcity.com.hk/en/
• Google Map : http://bitly.ws/AxGo

          เพียงไม่กี่กิโลเมตรถัดมาบน Victoria Dockside โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ริมน้ำย่านจิมซาจุ่ย เราก็มายืนอยู่หน้าห้างสรรพสินค้าสไตล์คอมเพล็กซ์ใหม่เอี่ยม K11 MUSEA ที่พูดง่าย ๆ ว่าเป็น Muse หรือเทพีแห่งใหม่ริมทะเลฮ่องกงเลยก็ว่าได้ ที่นี่สร้างขึ้นตามคอนเซ็ปต์ Art Mall ด้วยการผสมผสานแบรนด์ดังระดับโลกและสตรีตแบรนด์หน้าใหม่ที่กำลังเติบโต เช่น MoMA Design Store ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และร้าน Fortnum & Mason สาขาแรกนอกประเทศอังกฤษ โดยมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะของตัวเองเสริมทัพไปอีกเลเวล การเดินเล่นในห้างแห่งนี้เราจึงได้ช้อปปิ้ง พร้อมละลานตาไปกับงานศิลป์คอลเล็กชั่นพิเศษ “The K11 Kollection” กับผลงานมาสเตอร์พีซ 13 ชิ้น มูลค่ากว่า 20 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 89 ล้านบาท อาทิ อินสตอลเลชั่นขนาดใหญ่อย่าง The Roots โดย Danny Lee หรือ โคมไฟหลากสี Duo Colour Double Polyhedron Lamp โดย Olafur Eliasson ซึ่งผลงานทุกชิ้นล้วนคัดสรรโดย Mr.Adrian Cheng ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารของ K11

          ในส่วนของร้านอาหารก็ไม่น้อยหน้า ทางห้างจัดร้านระดับท็อปมารวมตัวกันไว้แล้ว เช่น Yung’s Bistro ที่ยกความอร่อยของห่านย่างในตำนานจากร้าน Yung Kee มาไว้ที่นี่ ร้าน Tominokoji Yamagishi ความอร่อยระดับเกียวโต มิชลิน 1 ดาว นอกจากนี้ยังมีร้านดัง ๆ อีกกว่า 50 ร้านให้เลือก นักชิมต้องถูกใจสิ่งนี้

• ที่ตั้ง : Victoria Dockside, 18 Salisbury Road, Tsim Sha Tsui, Hong Kong
• เวลาเปิด-ปิด : 10.00-22.00 น.
• เว็บไซต์ : www.k11musea.com/
• Google Map : http://bitly.ws/AxIN

          สำหรับใครที่อยากเปิดหูเปิดตากับมุมมองใหม่ ๆ ขอกระซิบว่าฮ่องกงกำลังเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงศิลปะที่มาแรงของโลก ว่าแล้วก็รีบมาเช็กอินกับพิพิธภัณฑ์ที่เรา Recommend เลย เริ่มกันที่พิพิธภัณฑ์พระราชวังฮ่องกงในย่านเกาลูนตะวันตก ซึ่งหลังใช้ระยะเวลาพลิกโฉมถึง 5 ปี ก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2022 ภายในรวมเอาขุมทรัพย์โบราณล้ำค่ากว่า 900 ชิ้น รวมถึงคอลเล็กชั่นเครื่องสังคโลกจีนที่หาชมได้ยากมาจัดแสดง โดยนำมาจากพระราชวังต้องห้าม หรือพิพิธภัณฑ์พระราชวังในกรุงปักกิ่ง (Palace Museum in Beijing) อันศักดิ์สิทธิ์ ถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่และมีมูลค่ามากที่สุดที่ส่งมอบให้สถาบันทางวัฒนธรรมนอกจีนแผ่นดินใหญ่ตั้งแต่เคยมีมา เชื่อเถอะว่าได้ชมแล้วตาเคลือบทองเลยจริง ๆ

• ที่ตั้ง : West Kowloon Cultural District, 8 Museum Drive, Kowloon, Hong Kong
• เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์, พุธ, พฤหัสบดี และอาทิตย์ เวลา 10.00-18.00 น. / วันศุกร์, เสาร์ และวันหยุด เวลา 10.00-20.00 น.
• ค่าเข้าชม : บัตรเข้าชมทั่วไป HK$ 50 (ประมาณ 220 บาท)* / บัตรเข้าชมนิทรรศการพิเศษ HK$ 120 (ประมาณ 529 บาท)*
• เว็บไซต์ : www.hkpm.org.hk/en/home
• Google Map : https://bit.ly/3Tt94gh

          พิพิธภัณฑ์ศิลปะด้าน Visual Culture ระดับโลกแห่งแรกในเอเชีย ที่เพิ่งเปิดเมื่อปี 2021 มาพร้อมไอเดีย Musuem and More ซึ่งก็เป็นมากกว่าพิพิธภัณฑ์สมดังคอนเซ็ปต์ เพราะภายในอาคารรูปทรงตัว T กลับหัวแห่งนี้ มีพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการในแกลลอรี่ถึง 33 ห้อง โรงภาพยนตร์ 3 แห่ง ศูนย์กลางการเรียนรู้ และสวนบนดาดฟ้าที่หันหน้าเข้าหาอ่าววิกตอเรีย โดนใจคนชอบเสพงานศิลป์สุด ๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นที่ตั้งของศูนย์วิจัยมิวเซียม ร้านอาหาร พอถึงเวลาประมาณ 2 ทุ่ม สนามด้านหน้าก็จะมีการแสดงแสงสีที่เรียกว่า “SerendiCity” ให้ผู้คนนั่งดูแสงเหนือจำลองโดยไม่ต้องไปไกลถึงขั้วโลก เรียกว่าเป็นอีกแลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่น่าไปสำรวจ

          ในช่วงตั้งแต่วันนี้ - 14 พฤษภาคม 2566 ทาง M+ ได้จัดงานฉลองครบรอบ 1 ปี ด้วยนิทรรศการพิเศษของศิลปินร่วมสมัยชาวญี่ปุ่น ผู้คลั่งไคล้ในลวดลายจุด Yayoi Kusama: 1945 to Now รวบรวมผลงานของเธอตั้งแต่อดีตจวบจนถึงยุครุ่งเรือง แฟนตัวยงของศิลปินคนนี้ไม่ควรพลาดเชียว

• ที่ตั้ง : West Kowloon Cultural District, 38 Museum Drive, Kowloon, Hong Kong
• เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-พฤหัสบดี, วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-18.00 น. / วันศุกร์ เวลา 10.00-22.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
• ค่าเข้าชม : แตกต่างกันไปแล้วแต่นิทรรศการ
• เว็บไซต์ : www.mplus.org.hk/en/
• Google Map : https://bit.ly/3Tu9J19

          เพิ่มดีกรีความอาร์ตแบบถ่ายรูปสนุกด้วย ก็ต้องที่นี่เลย K11 Atelier พื้นที่จัดแสดงนิทรรศการพิเศษที่หยิบยกเอาผลงานไฮไลต์จาก ARTE MUSEUM ของ d'strict บริษัทดิจิทัลครีเอทีฟดีไซน์ชื่อดังจากประเทศเกาหลีใต้ มาถ่ายทอด โดยตีความวัตถุและพื้นที่ของธรรมชาติในธีม ETERNAL NATURE ผ่านรูปแบบของมัลติมีเดียอาร์ตและเอฟเฟกต์ภาพอันน่าทึ่ง ทั้งโถงแบ่งเป็น 4 โซน ให้เราค่อย ๆ ละเลียดและดำดิ่งไปกับสีสันของภาพเคลื่อนไหว เสียงทรงพลัง และกลิ่นหอมละมุน สะกดทั้งตาทั้งใจ จนอยากให้มีสัก 10 โซนไปเลย ปิดท้ายที่โซนของที่ระลึก ซึ่งนักช้อปตัวจริงอย่างเราก็ไม่พลาดที่จะสอยกระเป๋ามาหนึ่งกรุบ

• ที่ตั้ง : K11 Atelier Kings Road,Tsat Tsz Mui, Hong Kong
• ค่าเข้าชม : วันจันทร์-ศุกร์ ราคา HK$ 128 (ประมาณ 564 บาท)* วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ HK$ 148 (ประมาณ 652 บาท)*
• เวลาเปิด-ปิด : 11.00-19.00 น. (เข้าก่อน 18.00 น.)
• เว็บไซต์ : https://www.k11atelier.com/hk/kings-road/, https://artem-hk-en.artemuseum.com/
• Google Map : http://bitly.ws/Ay7D

          ถ้ามีเวลาว่างสักหนึ่งวัน เปลี่ยนบรรยากาศจากตัวเมืองออกมาเที่ยวเกาะในเกาะกันไหม ? อย่าเพิ่งทำหน้าสงสัย เพราะที่ที่เราจะพาไปก็คือ เกาะเฉิ่งเจ้า หรือ เกาะยาว นั่นเองค่ะ วิธีเดินทางก็ง่าย ๆ แค่ขึ้นเรือที่ท่าเรือเซ็นทรัลหมายเลข 5 แล้วใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมงก็จะถึงเกาะขนาดเล็กรูปร่างคล้ายดัมเบล ครอบคลุมพื้นที่เกือบ 3 ตารางกิโลเมตร แต่ถึงจะจิ๋วก็แจ๋วนะ เพราะที่นี่รู้จักกันดีในฐานะเกาะตากอากาศ มีทางเดินริมน้ำ บรรยากาศคึกคัก มองเห็นเรือประมงจอดเรียงรายริมชายฝั่ง และร้านอาหารซีฟู้ดแน่นขนัด รวมถึงมีชายหาดสำหรับเล่นกีฬาทางน้ำและทางเดินเขาระดับง่าย ครบทั้งกิจกรรม อาหาร และประวัติศาสตร์ ในเกาะเดียว

          ไกด์สาวท่าทางกระฉับกระเฉงพาเราเดินไต่ระดับเชิงเขาเตี้ย ๆ ลัดเลาะผ่านหมู่บ้านขึ้นมายังจุดชมวิว เฉิ่งเจ้า บนศาลาชมวิวทางเหนือของเกาะเป็นจุดสูงสุดที่เราสามารถมองเห็นวิวโดยรอบ ทั้งทะเล ภูเขา และแหลมที่ยื่นออกไป รวมถึงอีกด้านหนึ่งของเกาะลัมมาและสะพานซิงหม่า สะพานแขวนชื่อดังอีกด้วย หากกำลังขายังแข็งแกร่งอยู่จะเดินลงไปยังชายหาดด้านล่างก็ย่อมได้ แต่ถ้าเน้นชิล ๆ แค่นั่งรับลมชมวิวบนยอดเขานี้ก็คุ้มค่าเหนื่อยแล้ว

          บริเวณกลางหมู่บ้านเป็นที่ตั้งของวัดยุกฮุย (วัดปักไท) ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเทพเจ้าแห่งท้องทะเลในราชวงศ์เต๋า ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวประมงบนเกาะ อีกทั้งยังเป็นสถานที่จัดงานเทศกาล Cheung Chau Bun หรือเทศกาลซาลาเปา ที่มีแห่งเดียวในโลก โดยชาวบ้านจะทำซาลาเปามา และมีการแข่งขันปีนหอคอยเพื่อเก็บซาลาเปาดังกล่าวให้มากที่สุด ใครชนะก็จะได้รับการยกย่องให้เป็นตัวตึงผู้แข็งแรงนัมเบอร์วันแห่งเกาะเฉิ่งเจ้าไปเลย

          ในช่วงปีหลังเกาะนี้เริ่มป๊อปปูล่าร์มากขึ้น คนหนุ่มสาวเริ่มย้ายมาเปิดร้านรวงและคาเฟ่สมัยใหม่ เป็นผลดีให้นักท่องเที่ยวได้ทั้งชิมขนมหวาน เครื่องดื่มรสชาติเข้มข้น พร้อมกับถ่ายรูปร้านมินิมอลไว้โพสต์ลงโซเชียล ใครเห็นก็ต้องแปลกใจว่าที่นี่คือที่ไหนในฮ่องกงกันแน่ ? ส่วนเมนูเด็ดประจำเกาะนี้ นอกจากปลาเก๋าตัวโต ยำหนังปลาแซ่บ ๆ และกุ้งล็อบสเตอร์หอมมันแล้ว อย่าลืมเตรียมพื้นที่ในท้องไว้สำหรับ “Kwok Kam Kee” ซาลาเปานำโชคจากรุ่นสู่รุ่น มีไส้ต่าง ๆ ทั้งไส้หวาน ไส้ถั่วแดง ถั่วดำ พร้อมแสตมป์สัญลักษณ์อักษรจีนสีแดง ที่แปลว่าปลอดภัย และลูกชิ้นปลา “Kam Wing Tai” ของว่างริมทางที่คนฮ่องกงและคนจีนตอนใต้ชื่นชอบ กินแบบออริจินัลได้ความเนื้อเด้งหวานอร่อย หรือจะราดซอสผงกะหรี่กับสะเต๊ะก็ได้รสชาติไปอีกแบบ

• ที่ตั้ง : ห่างจากเกาะฮ่องกงไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 10 กิโลเมตร โดยขึ้นเรือข้ามฟากไปยังเกาะเฉิ่งเจ้า จากท่าเรือเซ็นทรัลหมายเลข 5
• Google Map : http://bitly.ws/Ay4B

          ปิดท้ายด้วยการย้อนวันวานกันที่ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ ดินแดนแห่งเทพนิยายที่ครองใจนักท่องเที่ยวชาวไทยมาตลอด เพราะเป็นดิสนีย์แลนด์ที่มาง่ายและใกล้บ้านเราที่สุด พอผ่านประตูเข้ามาก็ขอแอ๊บลืมอายุกันไปก่อน รีบหาซื้อที่คาดผมคาแรกเตอร์ดิสนีย์มาสวมใส่ จะได้อินกับบรรยากาศยิ่งขึ้น จากนั้นก็มาชมโชว์ “Follow Your Dreams” การแสดงดนตรีสดกลางแจ้ง และการออกสเต็ปของเหล่าตัวการ์ตูน พร้อมฉากหลังสุดอลังการอย่างปราสาท Castle of Magical Dreams โดยมีลูกเล่นเป็นน้ำพุ โปรยละอองชุ่มฉ่ำให้ผู้ชมได้สดชื่นไปตลอดโชว์

          และแล้วก็ถึงคราวสนุกสนานกับเครื่องเล่นโซนต่าง ๆ ตามใจชอบ แต่ที่พลาดไม่ได้ก็ต้อง Tomorrow Land นี่แหละ เพราะมีเครื่องเล่นใหม่จาก Ant-Man and The Wasp: Nano Battle! ให้เราต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับแอนท์-แมน และ เดอะ วอสพ์ รวมไปถึงการแสดงแสงสียามค่ำคืน “Momentous Nighttime Spectacular” ที่ตรึงสายตาของทุกคนไว้อยู่หมัดด้วยมัลติมีเดียขั้นสูง สาดภาพและแสงไปทั่วปราสาท พร้อมจอม่านน้ำ เลเซอร์ และพลุสุดตระการตา ชนิดที่ต้องเห็นด้วยตาตัวเองจริง ๆ จนตอนนี้ก็ยังมูฟออนจากโมเมนต์น่าประทับใจตรงหน้าไม่ได้เลย

• ที่ตั้ง : Sunny Bay, Lantau Island, Hong Kong
• ค่าเข้า : บัตรเข้าสวนสนุกประเภท 1 วัน HK$ 639 หรือประมาณ 2,816 บาท*
• เวลาเปิด-ปิด : วันพุธ และวันศุกร์-จันทร์ เวลา 10.30- 20.00 น. (ปิดวันอังคารกับพฤหัสบดี)
• เว็บไซต์ : www.hongkongdisneyland.com/th/
• Google Map : http://bitly.ws/Ay6J

          ไม่ว่าจะมีเวลากี่วัน ฮ่องกงก็เป็นปลายทางที่เติมเต็มความสุขได้ครบทุกรูปแบบ ทั้งช้อปปิ้งได้จุก ๆ ไหว้พระเสริมดวง ชิมของอร่อย ชมงานศิลปะสุดพิเศษ และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ให้ค้นหาแบบไม่มีเบื่อ มากี่ครั้งก็ตกหลุมรักซ้ำ ๆ ได้เสมอ โดยตั้งแต่เดือนมีนาคมไปจนถึงสิ้นปี 2023 การท่องเที่ยวฮ่องกงจัดแคมเปญ “Hello Hong Kong” ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยการมอบของสมนาคุณกว่า 1 ล้านรายการ ไม่ว่าจะเป็นแจกตั๋วเครื่องบินฟรีจำนวน 500,000 ใบ จากสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค, ฮ่องกง เอ็กเพรส แอร์เวย์ และฮ่องกงแอร์ไลน์ วอยเชอร์ HK Goodies สำหรับแลกเครื่องดื่ม หรือคูปองเงินสดไว้ใช้ช้อปปิ้งกว่า 140 แบรนด์ร้านค้าทั่วฮ่องกง ใครที่กำลังวางแผนเที่ยว การลิสต์ฮ่องกงไว้ในแพลนประจำปีนี้ก็น่าสนนะ

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง (*ค่าเงิน ณ วันที่ 23 ก.พ. 66)

• แนะนำ 22 ที่เที่ยวฮ่องกงฮอตฮิต ทริปเที่ยวฮ่องกงด้วยตัวเองไม่ควรพลาด
• ไหว้พระฮ่องกง รวมวัดเสริมพลังการงาน การเงิน และความรัก

ขอบคุณข้อมูลจาก : discoverhongkong.com, thepeak.com, avenueofstars.com, tszshan.org, hk.chilinhk.cn, nanliangarden.org, wongtaisintemple.org.hk, harbourcity.com.hk, k11musea.com, centralmarket.hk, hkpm.org.hk, mplus.org.hk, artemuseum.com, hongkongdisneyland.com