อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี สวรรค์แห่งทะเลอันดามัน

          หากเอ่ยถึงที่เที่ยวทะเลชื่อดังของไทย เกาะพีพี ทะเลแหวก หรืออ่าวมาหยา แหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี  น่าจะติดอยู่ในลิสต์อันดับต้น ๆ เพราะมีท้องทะเลที่สวยงาม หาดทรายขาวสะอาด ล้วนแต่เป็นเสน่ห์ดึงดูดให้นักเดินทางจากทุกสารทิศอยากจะไปสัมผัสความงามเหล่านั้นสักครั้ง วันนี้เราเลยจะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี กันให้มากขึ้น

          อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 47 ของประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ครอบคลุมพื้นที่ 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลหนองทะเล ตำบลไสไทย ตำบลอ่าวนาง และตำบลปากน้ำ มีพื้นที่ทั้งหมด 242,437 ไร่ (พื้นที่อุทยานทางทะเลและเกาะ 200,849 ไร่) โดยนับเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่สวยงาม รวมถึงมีทิวทัศน์ใต้ทะเลอันงดงาม

• หาดนพรัตน์ธารา ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองกระบี่เพียง 17 กิโลเมตร แต่เดิมเรียกว่าหาดคลองแห้ง โดดเด่นด้วยทรายละเอียดปะปนด้วยเปลือกหอยเล็ก ๆ มีทิวสนขึ้นเรียงรายงดงาม น้ำทะเลใส สามารถมองเห็นไปถึงใต้ท้องทะเลได้อย่างชัดเจน ชายหาดเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน

• อ่าวนาง ชายหาดยาวสวยงาม อยู่ห่างจากหาดนพรัตน์ธาราประมาณ 6 กิโลเมตร แวดล้อมด้วยภูเขาหินปูนรูปทรงแปลกตา ตั้งตระหง่านอย่างโดดเด่น แซมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ เบื้องหน้าเป็นชายหาดขาว พร้อมกับน้ำทะเลสีเขียวมรกต ยามเย็นบรรยากาศจะโรแมนติกมาก เพราะเป็นอีกหนึ่งจุดที่สามารถชมพระอาทิตย์ตกดินได้อย่างสวยงามที่สุดในกระบี่ มีร้านอาหาร ที่พัก บริษัททัวร์มากมายตั้งอยู่บริเวณนี้ และจากอ่าวนางก็สามารถเช่าเรือไปเที่ยวชมเกาะใกล้เคียง พร้อมทั้งดำน้ำดูปะการังได้

• ถ้ำพระนาง เชื่อกันว่าสถานที่แห่งนี้เป็นที่สถิตของพระนางอันศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเรือแถบนี้เคารพสักการะ หากแต่สวยงามน่าประทับใจ ลองนักท่องเที่ยวเข้าไปอยู่ภายในถ้ำและมองออกมาข้างนอก ปากโพรงถ้ำจะมีหินย้อยลงมาเป็นฉากระย้า มีท้องทะเลกว้างและเกาะน้อยใหญ่เรียงราย ยามพระอาทิตย์ตกจะเป็นอีกหนึ่งมุมมองที่สวยงาม

• อ่าวไร่เลย์ ชายหาดที่มีความโดดเด่นสวยงาม ด้วยทิวเขาหน้าผาหินปูนสูงตระหง่าน จึงกลายเป็นที่ปีนหน้าผาสุดฮิตของนักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัย มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเพื่อปีนหน้าผามากมาย ซึ่งพวกเขาจะได้เห็นทัศนียภาพของเวิ้งชายหาดยาวขาวสะอาด น้ำทะเลสีเขียวมรกต และผืนป่าเขียวขจี ยิ่งถ้าปีนหน้าผาในช่วงพระอาทิตย์ตกดินก็จะได้เห็นพระอาทิตย์สีเหลืองทองอร่ามกำลังเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลอย่างสวยงามอีกด้วย สำหรับหาดไร่เลย์มีทั้งหมด 2 ฝั่ง คือ หาดไร่เลย์ตะวันตกและหาดไร่เลย์ตะวันออก มีโขดหินคั่นระหว่างหาดทั้งสอง ซึ่งทั้ง 2 หาดก็มีความสวยงามไม่แพ้กัน

• เกาะปอดะ เกาะสวยที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของอ่าวนาง ห่างจากฝั่งประมาณ 8 กิโลเมตรเท่านั้น เป็นอีกจุดหนึ่งที่มีแนวปะการังสวยงาม น้ำทะเลใส จึงเป็นจุดที่นักดำน้ำมักจะไปดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นกันที่นี่ เพราะมีหาดทรายขาว น้ำทะเลใส และเป็นจุดที่ตกปลาได้ดีเพราะไม่ได้รับผลกระทบจากลมมรสุมมากนัก สามารถเช่าเรือได้จากบริเวณอ่าวนาง เพื่อเดินทางมาเที่ยวยังเกาะแห่งนี้ได้โดยสะดวก

• เกาะพีพีดอน มีพื้นที่ประมาณ 28 ตารางกิโลเมตร เป็นสถานที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พพ.7 และเป็นเกาะที่มีร้านค้า ร้านอาหาร ห้องน้ำ พร้อมทั้งที่พัก จุดเด่นคือ เวิ้งอ่าวคู่ของอ่าวต้นไทรและอ่าวโละดาลัม ที่เป็นภาพจำของเกาะพีพีของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทางเหนือของเกาะคือแหลมตง เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวเล ที่ส่วนใหญ่อพยพมาจากเกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล อีกทั้งยังมีธรรมชาติสวยงาม ดำน้ำชมปะการังได้รอบเกาะ

• เกาะพีพีเล ตั้งอยู่ห่างจากเกาะพีพีดอน 2 กิโลเมตร มีพื้นที่เพียง 6.6 ตารางกิโลเมตร ประกอบไปด้วย ภูเขาหินปูน หน้าผาสูงชัน และหาดทรายขาวสะอาดสวยงาม นั่นก็คือ “อ่าวมาหยา” อัญมณีสำคัญของท้องทะเลไทย เพราะมีหาดทรายขาวละเอียด ล้อมรอบด้วยทิวทัศน์สวยงาม น้ำทะเลสีเขียวมรกตผืนกว้างที่สวยและสงบ สมดั่งฉายาสวรรค์แห่งอันดามันอย่างแท้จริง อีกทั้งยังเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ระดับโลกหลายเรื่อง พร้อมทั้งมีเวิ้งอ่าวสวย ๆ คือ “อ่าวปิเละ” มีลักษณะคล้ายกับห้องลากูน โอบล้อมด้วยเขาหินปูนสูงใหญ่ตั้งตระหง่าน ภายในมีน้ำทะเลใสจนมองเห็นพื้นทรายใต้ท้องน้ำ มีแนวปะการังที่ยังอุดมสมบูรณ์ และ “อ่าวโละซามะ” ที่ตั้งอยู่ทางใต้ของเกาะ สามารถเดินมาจากอ่าวมาหยาได้

• เกาะไม้ไผ่ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะพีพีดอน ซึ่งมีความโดดเด่นที่หาดทรายนั้นขาวนุ่ม มีแนวปะการังอยู่บริเวณหน้าหาด ทอดยาวตั้งแต่ทางด้านทิศเหนือไปจนถึงทิศใต้ โดยปะการังส่วนใหญ่เป็นปะการังหูกวาง นักท่องเที่ยวสามารถดำน้ำตื้นชมได้อย่างง่ายดาย บริเวณหาดจะมีจุดกางเต็นท์ของอุทยานแห่งชาตินพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการนอนค้างคืนบริเวณหาด

• เกาะยูง ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะพีพีดอน มีชายหาดซึ่งเป็นหาดหินอยู่ทางด้านทิศตะวันออกและมีหาดทรายเล็กน้อยตามหลืบเขา นอกจากนี้ยังมีแนวปะการังสวยงามชนิดต่าง ๆ ที่ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เป็นมรกตกลางท้องทะเลอันดามัน แต่ด้วยอุณหภูมิโลกที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ ทำให้หลายฝ่ายเป็นห่วงที่ปรากฏการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อโลกใต้ท้องทะเลของเกาะยูง อุทยานจึงประกาศปิดเกาะเพื่อป้องกันการเกิดปะการังฟอกขาว โดยจะไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ทุกชนิด ซึ่ง ณ วันที่ 30 มีนาคม 2565 ยังคงปิดไม่มีกำหนด

• ทะเลแหวก ที่จะอยู่บริเวณเกาะทับ เกาะหม้อ และเกาะไก่ โดยทั้ง 3 เกาะนี้ตั้งอยู่ใกล้กัน มีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม มีเกาะไก่เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่ทางทิศใต้ ส่วนเกาะทัพและเกาะหม้อ เป็นเกาะเล็ก ๆ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากอิทธิพลของน้ำขึ้นและน้ำลง ทำให้เกิดสันทรายสีขาวสะอาดทอดตัวยาวสวยงาม เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งใน Unseen Thailand ที่ไม่ควรพลาด

• ถ้ำไวกิ้ง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะพีพีเล ภายในถ้ำทางทิศตะวันออกและทิศใต้ จะพบภาพเขียนสีสมัยประวัติศาสตร์เป็นรูปช้างและรูปเรือชนิดต่าง ๆ และมีหินที่มีลักษณะคล้ายเศียรพญานาคอีกด้วย

• สุสานหอย 75 ล้านปี ตั้งอยู่บนชายทะเลบ้านแหลมโพธิ์ ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพื้นที่อุทยาน เป็นลานหินกว้างยื่นลงไปในทะเล เมื่อเข้าไปดูใกล้ ๆ จะเห็นเป็นซากหอยอัดแน่นจนกลายเป็นหาดหินริมทะเล โดยซากหอยเหล่านี้ได้ทับถมกัน มีน้ำประสานธาตุปูนจับตัวให้กลายเป็นหินแข็งทับอยู่บนชั้นหินลิกไนต์และหินดินดาน

• เส้นทางศึกษาธรรมชาติเขาหงอนนาค มีระยะทางประมาณ 3.7 กิโลเมตร เป็นเส้นทางที่มีความเหมาะสมในการศึกษาธรรมชาติ เพราะมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง ประกอบไปด้วยป่าดิบชื้นและป่าดิบแล้ง นอกเหนือจากความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติแล้วยังมี “จุดชมทิวทัศน์ผาหงอนนาค” ซึ่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพได้รอบทิศทาง และยังเป็นจุดสำหรับชมดวงอาทิตย์ขึ้นและตกที่สร้างความประทับใจได้ไม่แพ้กัน

          *** นักท่องเที่ยวสามารถเข้าเที่ยวชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติ โดยจองผ่านแอปพลิเคชัน QueQ ซึ่งแบ่งเป็น 4 รอบ รอบละ 2 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 06.00-14.00 น. และสำหรับกรณีขึ้นไปเที่ยวชมในช่วงเวลาเช้ามืดเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้น ให้เตรียมไฟฉาย อุปกรณ์ที่จำเป็น และประสานไปยังเจ้าหน้าที่อุทยานก่อนเสมอเพื่อความปลอดภัย

          ภายในอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จะมีที่พักทั้งของอุทยานแห่งชาติและเอกชน (เกาะพีพี, หาดไร่เลย์, อ่างนาง) ไว้คอยให้บริการนักท่องเที่ยว โดยในส่วนของอุทยานจะมีทั้งบ้านพักอุทยานและพื้นที่กางเต็นท์ ดังนี้
 

• พีพี 110/1 (บ้านทะเลแหวก 1) บ้านพักโซน 1 โซนที่ทำการอุทยานแห่งชาติ บนฝั่งหาดนพรัตน์ธารา 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พักได้ 3 คน/หลัง ราคา 1,500 บาท
   
• พีพี 110/2 (บ้านทะเลแหวก 2) บ้านพักโซน 1 โซนที่ทำการอุทยานแห่งชาติ บนฝั่งหาดนพรัตน์ธารา 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พักได้ 3 คน/หลัง ราคา 1,500 บาท
   
• พีพี 110/3 (บ้านทะเลแหวก 3) บ้านพักโซน 1 โซนที่ทำการอุทยานแห่งชาติ บนฝั่งหาดนพรัตน์ธารา 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พักได้ 3 คน/หลัง ราคา 1,500 บาท
   
• พีพี 110/4 (บ้านทะเลแหวก 4) บ้านพักโซน 1 โซนที่ทำการอุทยานแห่งชาติ บนฝั่งหาดนพรัตน์ธารา 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พักได้ 3 คน/หลัง ราคา 1,500 บาท
   
• พีพี 107/1(บ้านปอดะ 1) บ้านพักโซน 1 โซนที่ทำการอุทยานแห่งชาติ บนฝั่งหาดนพรัตน์ธารา 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พักได้ 3 คน/หลัง ราคา 1,500 บาท
   
• พีพี 107/2 (บ้านปอดะ 2) บ้านพักโซน 1 โซนที่ทำการอุทยานแห่งชาติ บนฝั่งหาดนพรัตน์ธารา 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พักได้ 3 คน/หลัง ราคา 1,500 บาท
   
• พีพี 107/3 (บ้านปอดะ 3) บ้านพักโซน 1 โซนที่ทำการอุทยานแห่งชาติ บนฝั่งหาดนพรัตน์ธารา 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พักได้ 3 คน/หลัง ราคา 1,500 บาท
   
• พีพี 107/4 (บ้านปอดะ 4) บ้านพักโซน 1 โซนที่ทำการอุทยานแห่งชาติ บนฝั่งหาดนพรัตน์ธารา 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พักได้ 3 คน/หลัง ราคา 1,500 บาท
   
• พีพี 101/1 (บ้านสุสานหอย 1) บ้านพักโซน 1 โซนที่ทำการอุทยานแห่งชาติ บนฝั่งหาดนพรัตน์ธารา 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พักได้ 3 คน/หลัง ราคา 1,500 บาท
   
• พีพี 101/2 (บ้านสุสานหอย 2) บ้านพักโซน 1 โซนที่ทำการอุทยานแห่งชาติ บนฝั่งหาดนพรัตน์ธารา 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พักได้ 3 คน/หลัง ราคา 1,500 บาท
   
• พีพี 101/3 (บ้านสุสานหอย 3) บ้านพักโซน 1 โซนที่ทำการอุทยานแห่งชาติ บนฝั่งหาดนพรัตน์ธารา 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พักได้ 3 คน/หลัง ราคา 1,500 บาท
   
• พีพี 101/4 (บ้านสุสานหอย 4) บ้านพักโซน 1 โซนที่ทำการอุทยานแห่งชาติ บนฝั่งหาดนพรัตน์ธารา 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พักได้ 3 คน/หลัง ราคา 1,500 บาท

          - ลานหาดนพรัตน์ธารา (พื้นที่กางเต็นท์) เป็นการจองพื้นที่สำหรับกางเต็นท์ ผู้ใช้บริการต้องนำเต็นท์ไปเอง

          ทั้งนี้ การจองที่พักในอุทยานแห่งชาติ (บ้าน/ลานกางเต็นท์) ตรวจสอบและจองได้ที่ nps.dnp.go.th

• จากจังหวัดกระบี่ ไปตามถนนสายในเมือง-ในสระ ระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร จากตัวเมืองกระบี่ถึงหาดนพรัตน์ธารา จากนั้นใช้เส้นทางเลียบชายทะเลที่เชื่อมระหว่างหาดนพรัตน์ธาราและหาดบ้านอ่าวนางไปทางทิศใต้ ระยะทาง 6 กิโลเมตร สำหรับการไปชมอ่าวพระนางต้องนั่งเรือประมาณ 20 นาที และจากหาดนพรัตน์ธารามีทางแยกไปสุสานหอย 75 ล้านปี ระยะทาง 11 กิโลเมตร
   
• เครื่องบิน จากท่าอากาศยานกรุงเทพฯ มาลงที่สนามบินจังหวัดกระบี่ จะมีแท็กซี่หรือรถประจำทางให้บริการ แต่ต้องมาขึ้นรถที่หน้าสนามบิน โดยแท็กซี่จะส่งถึงที่ ส่วนราคาก็แล้วแต่จะตกลงกัน สำหรับรถประจำทางต้องมาลงในเมืองก่อน จากนั้นจึงต่อรถประจำทางสายกระบี่-อ่าวนาง ก็จะถึงที่ทำการและที่พักอุทยานแห่งชาติ ซึ่งอยู่บริเวณหาดนพรัตน์ธารา (ผ่านอ่าวนาง)
   
• รถไฟ จากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ มาลงได้ทั้งที่สถานีรถไฟจังหวัดตรัง สถานีรถไฟพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี หรือสถานีรถไฟทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช จากนั้นต่อรถโดยสารเข้าจังหวัดกระบี่ ต่อรถประจำทางสายกระบี่-อ่าวนาง ก็จะถึงที่ทำการและที่พักอุทยานแห่งชาติ ซึ่งอยู่บริเวณหาดนพรัตน์ธารา (ผ่านอ่าวนาง)
   
• รถโดยสารประจำทาง การเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง สามารถติดต่อซื้อตั๋วได้ที่สถานีขนส่งสายใต้ มีบริษัทเดินรถ 2 บริษัท คือ บริษัท ขนส่ง จำกัด และบริษัท ลิกไนท์ทัวร์ จำกัด ลงที่ตัวจังหวัดกระบี่ จากนั้นจึงต่อรถประจำทางสายกระบี่-อ่าวนาง ก็จะถึงที่ทำการและที่พักอุทยานแห่งชาติ ซึ่งอยู่บริเวณหาดนพรัตน์ธารา (ผ่านอ่าวนาง)

          มีประกาศจาก เฟซบุ๊ก สำนักอุทยานแห่งชาติ - National Parks of Thailand ว่า นักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้อตั๋วเข้าอุทยานแห่งชาติ สามารถใช้ระบบ DNP e-Ticket จอง-จ่าย-เที่ยว ครบจบในแอปเดียวได้แล้ว นำร่องอุทยานแห่งชาติ 6 แห่ง ได้แก่
 

• อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ - Khao Yai National Park
• อุทยานแห่งชาติเอราวัณ Erawan National Park
• อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ - Doi Inthanon National Park
• อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน - Mu Ko Similan National park
• อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี
• อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา

          โดยนักท่องเที่ยวสามารถทำตามขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้
 

• โหลดแอป QueQ
• จองวันเที่ยว
• กรอกรายละเอียด
• ชำระเงิน (เครดิต/เดบิต หรือคิวอาร์โค้ด)
• รับตั๋วแบบ e-ticket ในแอป แสดงกับเจ้าหน้าที่ได้เลย
• นักท่องเที่ยวจองคิวผ่านแอป QueQ และชำระเงิน ได้ตั้งแต่ 1 มกราคม 2566

          ทั้งนี้ สำหรับการเข้าอุทยานแห่งชาติ (6 แห่ง) ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 2566 เป็นต้นไป

ภาพจาก สำนักอุทยานแห่งชาติ - National Parks of Thailand

          ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
          ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท

          **หมายเหตุ เมื่อชำระค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติแล้ว กรุณาพกบัตรค่าบริการติดตัวขณะท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติเพื่อการตรวจสอบ

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

ขอบคุณข้อมูลจาก : park.dnp.go.th, portal.dnp.go.th, อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี, thai.tourismthailand.org, thailandtourismdirectory.go.th, krabi.thailocallink.com