แจกแพลนเที่ยวเชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน กับพิกัดจุดเช็กอินไปได้ตลอดทั้งปี

          โดยเราได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณปอ-สิทธิโชค พงศ์พฤกษา เจ้าของ Mori Natural Farm เกี่ยวกับแนวคิดการอยู่ร่วมกับธรรมชาติให้ออกมาได้กลมกลืนที่สุด ตั้งแต่การวางแผนทำฟาร์มออร์แกนิก แปลงปลูกผักปลอดสาร และที่พักสไตล์ล้านนาผสมกับกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น จนได้มาเป็นฟาร์มสเตย์น่ารักที่แสนจะอบอุ่นแห่งนี้นี่เอง 

          ที่ Mori Natural Farm มีทั้งโซนที่เป็นคาเฟ่และบ้านพัก โดยคาเฟ่จะให้บริการอาหารและขนมหวานที่ทำจากวัตถุดิบปลอดสารของทางฟาร์ม มีของอร่อย ๆ ให้เลือกกินเพียบ ทั้งเครปเค้กชาเขียวเนื้อนุ่มละมุนลิ้น บลูเบอร์รีชีสเค้ก เค้กมะพร้าว และน้ำฮันนี่เลมอนแสนสดชื่น นอกจากนี้ยังมีเซตอาหารทั้งไทย ฝรั่ง และญี่ปุ่น ไว้สำหรับคนชอบอาหารสไตล์ออร์แกนิกเพื่อสุขภาพด้วย

ขนมหวานในคาเฟ่ Mori Natural Farm

บ้านโมริ วาบิ ซาบิ

          ไฮไลต์เด่น ๆ ของ Mori Natural Farm นอกจากธรรมชาติที่สวยงาม อากาศบริสุทธิ์ และบ้านพักสไตล์ญี่ปุ่นผสมล้านนาแล้ว ยังมีความน่ารักของเหล่าสัตว์โลกตัวน้อยอย่างน้องหมา ครอบครัวสายพันธุ์อาคิตะทั้ง 4 ตัว ซึ่งพันธุ์นี้นับว่าเป็นสุนัขที่เหล่าซามูไรจากประเทศญี่ปุ่นนิยมเลี้ยงไว้เพื่อล่าหมีโดยเฉพาะ และยังมีสายพันธุ์เฟรนด์ลี่อย่างโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ 1 ตัว ชื่อพี่แม็กซ์ นอกจากนี้ยังมีน้องแมวอีกกว่า 11 ตัว ไก่และเป็ดเทศอีกหลายตัวเลย แขกที่มาเข้าพักสามารถไปเล่นและถ่ายรูปกับน้อง ๆ ได้ แต่ต้องอยู่ในความดูแลของเจ้าของบ้านพักนะ

          หลังจากที่เดินในฟาร์มเกษตรอินทรีย์ เล่นกับน้องหมาน้องแมวใน Mori Natural Farm จนหนำใจ ท้องก็เริ่มร้องแล้ว เราเลยเดินทางมายัง บ้านสวนทูนอิน ร้านอาหารบ้านกลางป่าของศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ ซึ่งมี ป้าติ๋ม-สุมาลี วงษ์สวรรค์ ภรรยา เป็นเจ้าของร้านคนปัจจุบัน ร้านนี้บอกเลยว่าอาหารอร่อยทุกอย่าง เพราะการันตีด้วยรางวัลบิบ กูร์มองด์ MICHELIN Guide Thailand 2022 เลย

อาหารและบรรยากาศร้านบ้านสวนทูนอิน

          ในอดีตบ้านหลังนี้เคยเป็นเรือนรับรองแขกส่วนตัวและมีบริเวณที่เป็นห้องทำงานส่วนตัวของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ รวมถึงยังมีลานอนุสาวรีย์ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช และบ้านมิวเซียม ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ด้วย ปัจจุบันเปิดให้บริการในส่วนของบ้านพักและร้านอาหารท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์และเงียบสงบของป่าเขา มีธารน้ำใสไหลริน และได้รับการแต่งแต้มให้งดงามด้วยสีสันของดอกไม้

          เมนูอาหารของบ้านสวนทูนอินจะเน้นเป็นอาหารไทยโบราณ ซึ่งทุกเมนูเป็นสูตรลับเฉพาะที่ตกทอดมาจากแม่ของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ ที่ป้าติ๋มรับช่วงสืบสานและทำให้ครอบครัวกินมาโดยตลอด ได้แก่ ม้าฮ่อหน้าปลาแห้งแตงโม แกงส้มเปลือกแตงโม ปลาตะเพียนทอดกับน้ำปลายำ ซี่โครงหมูอบกะหล่ำปลี และข้าวเหนียวเปียกข้าวโพด ที่บอกเลยว่ารสชาติกลมกล่อมอร่อยสมคำร่ำลือจริง ๆ

บรรยากาศร้านบ้านสวนทูนอิน

• สอบถามรายละเอียดหรือจองโต๊ะได้ที่ เฟซบุ๊ก Tune In garden หรือโทรศัพท์ 0-5387-9251

          นั่งชิล ๆ กันมาทั้งวันแล้ว ขอแอดเวนเจอร์กันบ้างกับ โป่งแยง ซิปไลน์ แอนด์ จังเกิ้ล โคสเตอร์ สถานีความมันและฐานผจญภัยที่มีให้เล่นมากมาย ตั้งอยู่ที่ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม ก่อนถึงม่อนแจ่มเพียง 2 กิโลเมตร ด้านในมีกิจกรรมสุดลุ้นระทึกให้ทำมากมาย เช่น จังเกิ้ล โคสเตอร์ เป็นเครื่องเล่นคล้ายรถไฟเหาะ นั่งได้ 1-2 คน โดยเราจะนั่งบนรถรางแบบเปิด แล้วแล่นมาตามรางคดเคี้ยวลงมาจากเขา สามารถควบคุมความเร็วได้โดยก้านควบคุมเบรก ซึ่งความเร็วสูงสุดจะอยู่ที่ 40 กิโลเมตร/ชั่วโมง หวาดเสียวน่าดูเหมือนกัน แต่ก็สนุกมาก ๆ ด้วยสำหรับคนที่ชอบความเร็วและตื่นเต้น

          นอกจากนี้ยังมี ซิปไลน์ หรือโหนสลิง ที่มีมากถึง 36 สถานี บางสถานีเป็นการปั่นจักรยาน ปั่นสามล้อกลางอากาศ และควิกจั๊มพ์ ซึ่งคล้ายกับบันจี้จั๊มพ์ เป็นการกระโดดจากความสูง 14 เมตร มายังฐานด้านล่างด้วยความเร็วในระยะ 5 เมตรแรก และจะช้าลงในระดับต่อมา โดยจะค่อย ๆ ลงจนถึงฐานด้านล่าง

          หรือถ้าใครไม่อยากหวาดเสียว จะนั่งชิล ๆ ชมธรรมชาติ เพลิดเพลินกับสายลมเย็น ๆ ก็สามารถเลือกนั่งที่ร้านกาแฟชื่อว่า Jungle De Cafe คาเฟ่นี้อยู่ติดริมน้ำตกขนาดกำลังพอเหมาะ มีมุมเปลตาข่ายและที่นั่งเล็ก ๆ บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบายเลย

• สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก Pongyang Jungle Coaster Zipline Camp&Resort หรือโทรศัพท์ 09-2865-9933

          ปิดท้ายวันแรกด้วยการช้อปปิ้งที่ถนนคนเดินวัวลาย ไปเที่ยวชมศิลปะและอุดหนุนผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นกัน โดยถนนคนเดินแห่งนี้จะตั้งอยู่ที่ถนนวัวลาย กินพื้นที่ทั้งเส้นเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร และเปิดเฉพาะวันเสาร์ ตั้งแต่เวลาประมาณ 17.00 น เป็นต้นไป และจะปิดประมาณ 22.00 น. ซึ่งช่วงเวลาที่คนเยอะที่สุดจะเป็นช่วง 19.00-20.00 น.

• สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก Rose Lanna farm ฟาร์มกุหลาบลานนา หรือโทรศัพท์ 08-7177-7012

          เอาใจคนเที่ยวเชียงใหม่ในวันธรรมดาที่ไม่ตรงกับเสาร์-อาทิตย์ ถึงแม้จะไม่มีถนนคนเดินท่าแพให้เดินช้อปปิ้ง แต่เราก็ยังมี เฮือนม่วนใจ๋ ร้านอาหารเหนือระดับรางวัลมิชลิน บิบ กูร์มองด์ ในปี 2020 ตั้งอยู่ในซอยราชพฤกษ์ ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ บรรยากาศในร้านมีทั้งโซนด้านนอกที่เป็นโอเพ่นแอร์ และห้องด้านในเป็นห้องแอร์ ตกแต่งด้วยโต๊ะ-เก้าอี้ไม้ สำหรับเมนูแนะนำ เช่น ออร์เดิร์ฟเมือง ในเซตประกอบด้วย น้ำพริกอ่อง น้ำพริกหนุ่ม แคบหมู ไส้อั่ว และแกงฮังเล มาพร้อมผักลวกและฟักทอง ลาบหมูคั่ว เห็ดถอบคั่วใส่หมู ข้าวซอย รวมถึงอาหารทั่วไปอย่างแหนมผัดไข่ หมูกรอบ และของหวานอย่างเฉาก๊วย ข้าวเหนียวเปียกข้าวโพด เป็นต้น

• สอบถามรายละเอียดหรือจองโต๊ะได้ที่ เฟซบุ๊ก Huen Muan Jai เฮือนม่วนใจ๋ หรือโทรศัพท์ 09-8261-8029

          ต้อนรับวันที่ 3 กับกิจกรรมเวิร์กช็อปย้อมผ้าจากสีธรรมชาติ (Indigo dye) ด้วยการนำวัตถุดิบ สีย้อมผ้าจากธรรมชาติ มาผสานโดยใช้เทคนิคภูมิปัญญาชาวบ้านจนเกิดเป็นลวดลายสีคราม ที่สตูดิโอแน่นหนา แหล่งการเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องผ้าทอและผ้าย้อม โดยอาจารย์แพทริเซีย และคุณลาโมนา ชีสแมน ผู้เชี่ยวชาญเรื่องผ้าไทย ชาวอังกฤษ

          สตูดิโอแน่นหนา ตั้งอยู่ที่ซอยช่างเคี่ยน ถนนห้วยแก้ว จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเข้าไปถึงจะได้เจอกับบรรยากาศแสนร่มรื่น ความเป็นกันเองของอาจารย์แพทริเซีย และความร่าเริงสดใสของคุณลาโมนา ผู้บรรยายและสาธิตกิจกรรมสนุก ๆ ของเราในวันนี้ โดยเริ่มตั้งแต่ประวัติความเป็นมาของสตูดิโอ ว่ามาจากความหลงใหลในลวดลายที่สวยงามของผ้ามัดหมี่ และต้องการจะอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นทั้งผ้าทอและการย้อมผ้าจากสีธรรมชาติ ไปจนถึงขั้นตอนการทำผ้าย้อมครามแบบง่าย ๆ ที่เราได้ลงมือทำด้วยตัวเอง

          ทั้งนี้ สตูดิโอแน่นหนามีโปรแกรมเวิร์กช็อปให้เลือกทั้งระยะสั้น 2-3 ชั่วโมง (ไม่เกิน 15 คน/กรุ๊ป) และโปรแกรม 1 วัน (ไม่เกิน 10 คน/กรุ๊ป) ซึ่งจะต้องจองล่วงหน้า เพราะสตูดิโอรับเพียงวันละกรุ๊ปเท่านั้น ส่วนราคาก็ขึ้นอยู่กับจำนวนคนที่เข้าร่วมกิจกรรมแต่ละกรุ๊ป ซึ่งโปรแกรมที่เราได้เข้าร่วมนั้นเป็นโปรแกรมระยะสั้น เพียง 3 ชั่วโมง โดยเป็นการเรียนรู้และทดลองทำผ้าเช็ดหน้าลายย้อมครามในลวดลายต่าง ๆ สำหรับใครที่อยากเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ทำผ้าย้อมจากสีธรรมชาติ หรือหาซื้อผ้าทอมัดหมี่พื้นเมือง ก็สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ เฟซบุ๊ก Studio Naenna หรือโทรศัพท์ 08-5695-4450

          มาเชียงใหม่ทั้งที ถ้าไม่ได้กินข้าวซอยก็คงเหมือนจะมาไม่ถึง เราได้รับคำแนะนำจากเจ้าถิ่นว่าข้าวซอยร้านนี้อร่อยเด็ด เป็นรสชาติต้นตำรับ ถูกปากทั้งคนเมืองและนักท่องเที่ยว พูดมาขนาดนี้ก็ต้องลองแล้วล่ะ กับร้านข้าวซอยแม่สาย ตั้งอยู่ในซอยราชพฤกษ์ ตำบลช้างเผือก ตัวเมืองเชียงใหม่ เป็นร้านขนาดกำลังดี มีที่นั่งทั้งด้านในและหน้าร้าน บรรยากาศค่อนข้างคึกคัก ทั้งลูกค้าขาประจำ ขาจร และไรเดอร์ของบริการส่งอาหารหลายแบรนด์ เราสั่งทั้งข้าวซอยไก่ และข้าวซอยหมู ก็ได้น้ำแกงเข้มข้น รสชาติถึงเครื่องดี หอมเครื่องเทศผงกะหรี่ และน้ำแกงก็ไม่มันเยิ้มจนเกินไป รสชาติกลมกล่อมอร่อยสมคำร่ำลือจริง ๆ 

          เป็นอย่างไรกันบ้างกับทริปตะลุยเที่ยวเชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน ที่เรานำมาฝากกัน ครบรสทั้งสายธรรมชาติ วิถีสโลว์ไลฟ์ สายแอดเวนเจอร์ และช้อปปิ้งสุดเพลิน แถมยังได้ลิ้มลองอาหารรสเลิศจากร้านขึ้นชื่อของเมืองเชียงใหม่ด้วย ใครที่กำลังจะมีแพลนเดินทางไปเชียงใหม่ แต่ไม่รู้จะไปไหนดี ก็ลองนำตัวอย่างทริปนี้ไปปรับใช้ได้ตามชอบเลยนะ ขอให้มีความสุขกับการเดินทางไปเที่ยวเชียงใหม่

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

ขอบคุณข้อมูลจาก
thai.tourismthailand.org, เฟซบุ๊ก Mori Natural Farm โมริ เนเชอรัลฟาร์ม เชียงใหม่, เฟซบุ๊ก Tune In garden, เฟซบุ๊ก Pongyang Jungle Coaster Zipline Camp&Resort, เฟซบุ๊ก Rose Lanna farm ฟาร์มกุหลาบลานนา, เฟซบุ๊ก Wasunthara Eatery Farm บ้านวสุนธารา ลุงวิลาศ, เฟซบุ๊ก Huen Muan Jai เฮือนม่วนใจ๋, เฟซบุ๊ก Studio Naenna