ร้อนนี้ห้ามพลาด 7 ที่เที่ยวรับลมร้อน ณ เมืองเลย

          จังหวัดเลย ชวนเที่ยวหน้าร้อนตามลายแทงไปเที่ยว 7 ที่เที่ยวรับลมร้อน ณ เมืองเลย มาวางแผนเดินทางล่วงหน้าเพื่อความคุ้มค่าและผ่อนคลายตามฤดูกาลกันเถอะ

          หน้าร้อนแบบนี้จะไปเที่ยวไหน ? จะทำอะไร ? ก็ดูจะไม่น่าสนใจแถมอารมณ์ก็ร้อนไปตามอุณหภูมิของอากาศไปหมด วันนี้เราและหยิบเอาอีกหนึ่งจังหวัดสุดฮิตอย่าง "จังหวัดเลย" เมืองท่องเที่ยวที่หลายคนอาจจะคิดว่าเที่ยวได้แค่เฉพาะในช่วงฤดูหนาวเท่านั้นมาแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้ไปเที่ยวกันกับ "7 ที่เที่ยวร้อนนี้...มาเลย" แคมเปญแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวหน้าร้อน จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเลย ที่มาขอเชิญชวนเหล่านักท่องเที่ยวฝ่าลมร้อนในช่วงเดือนมีนาคม ถึงพฤษภาคมนี้ไปทำกิจกรรมกับ 7 สถานที่ท่องเที่ยว...ห้ามพลาดในจังหวัดเลยกัน ส่วนจะมีที่ไหน ? และกิจกรรมอะไรน่าสนใจบ้างตามไปชมกันเลยค่ะ

1. ผจญภัย ณ เลย

          ร้อน ๆ แบบนี้ได้เล่นนำก็คงดีกับที่นี่เส้นทางน้ำตกปลาบ่า หรือ น้ำตกตาดสาน ตั้งอยู่หมู่บ้านปลาบ่า หมู่ที่ 1 ตำบลปลาบ่า เป็นน้ำตกที่ตกมาจากแผ่นหินขนาดใหญ่ลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่างเหมาะสำหรับเล่นน้ำและนั่งพักผ่อนรับประทานอาหาร อีกทั้งยังมีกิจกรรมผจญภัยสุดมันอย่างล่องแพ, พายเรือคายัก, ชมไร่-สวน, ชมวิถีชีวิตสองฝั่งแม่น้ำ, ขี่รถ ATV และตามรอยไปชมแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงต่าง ๆ ทั้งนี้สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามและจองทริปได้ที่โทรศัพท์  08 4355 0588, 09 3536 2519 (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ thai.tourismthailand.org)

2. อร่อยทุกไร่


          นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวจะมีมากมายจนนับไม่ถ้วนแล้ว พูดถึงเมนูผลไม้ที่จังหวัดเลยก็มีให้ได้ลิ้มลองกันหลายชนิดแถมรสชาติผลไม้ที่นี่ก็อร่อยไม่เหมือนที่ใครอีกด้วย กับกิจกรรมชิม ชม ช้อปสวนผลไม้ตามเส้นทางผลไม้เมืองร้อน ตั้งแต่เดือนมีนาคม-มิถุนายน อันได้แก่ สับปะรด, มะม่วง และเงาะ ที่บริเวณตำบลน้ำหมาน อำเภอเมือง และบ้านบุฮม อำเภอเชียงคาน

3. ดอกไม้สะพรั่ง


          มาสัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติชมกุหลาบพันปีสีแดงและสีขาว ที่จะเผยความสวยงามชูช้อบานในช่วงหน้าร้อน ตั้งแต่เดือนมีนาคม-เมษายน พร้อมทั้งยังสามารถเดินเที่ยวศึกษาเส้นทางธรรมชาติชมพันธุ์ไม้นานาชนิด บริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงได้อีกด้วย ทั้งนี้สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง โทรศัพท์ 0 4280 1956 หรือที่เว็บไซต์ phuluang.net

4. แห่ต้นดอกไม้วันสงกรานต์


5. ผ่อนคลายกลางสายน้ำ


          กิจกรรมล่องแพ พักผ่อน เล่นน้ำคลายร้อน หรือจะนอนดูดาวพร้อมรับประทานอาหารบนแพ ณ อ่างเก็บน้ำห้วยกระทิง และอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำหมาน อำเภอเมือง


          และอีกหนึ่งสถานที่แนะนำคือ "แก่งคุดคู้" แหล่งท่องเที่ยวหน้าร้อนยอดฮิตในเมืองเลยกับการเดินทางไปชมความสวยงามยามน้ำ ลดของแม่น้ำโขงที่เผยให้เห็นความงามของสันทรายกลางแม่น้ำ แถมริมฝั่งยังเต็มไปด้วยหินก้อนกลมมนอีกนับล้านก้อน นอกจากการเดินลงไปเดินย่ำบนทรายน้ำโขงเล่นน้ำอย่างสนุกสนานแล้ว ยังสามารถเดินทางมาอิ่มอร่อยกับเมนูอาหารบนฝั่งพร้อมกับชมทิวทัศน์ของชุมชนริมโขงและฝั่งเพื่อนบ้านประเทศลาวได้อีกด้วย

6. ไม้ดอกและการเกษตร

          ใช่ว่าฤดูร้อนจะไม่มีดอกไม้ เพราะอีกหนึ่งกิจกรรมเด็ดของจังหวัดเลยก็คือ การท่องเที่ยวเชิงเกษตรชมสวนเกษตรทฤษฎีใหม่ แหล่งปลูกแมคคาเดเมีย ไร่สตรอว์เบอร์รีปลอดสารพิษ และชมดอกไม้ที่ชูช่อบานในช่วงหน้าร้อน ณ สวนป่านาปอ, บ้านห้วยน้ำผัก, บ้านบ่อเหมืองน้อย อำเภอนาแห้ว เป็นต้น

7. ฤดูกาลดูนก


          และอีกหนึ่งกิจกรรมที่ห้ามพลาดในช่วงฤดูร้อน คือ เส้นทางดูนกนานาชนิด นกประจำถิ่นและนกหายากอีกหลากหลายสายพันธุ์ บริเวณหลังคาของภาคอีสาน ในระดับความสูง 1,400 เมตร บริเวณอุทยานแห่งชาติภูสวนทราย  ตั้งอยู่ในเขตอำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย บนเนื้อที่ประมาณ 73,225 ไร่ ซึ่งที่นี่มีนกมากกว่า 200 ชนิด 36 วงศ์ มีทั้งนกประจำถิ่น นกอพยพ

          ส่วนนกที่เด่นในอุทยานแห่งชาติภูสวนทราย คือ นกปากนกแก้วหางสั้น (Short-tailed Parrotbill) นกมุ่นรกคอแดง (Rufous-throated Fulvetta) เป็นนกประจำถิ่น หายากไม่พบบ่อย หรือพบเฉพาะในบางพื้นที่ นักท่องเที่ยวสามารถดูนกได้ตลอดปี และในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม จะสามารถพบเห็นนกที่น่าสนใจ ได้แก่ นกมุ่นรถคอแดง นกหัวขวานจิ๋วคิ้วขาว, นกกินปลีหายาวคอดำ, นกโพระดกหน้าผาดำ, นกปีแพรสีเขียว, นกระวังไพรปากเหลือง เป็นต้น ทั้งนี้อุทยานแห่งชาติภูสวนทรายมีเจ้าหน้าที่นำทาง แนะนำ ทำกิจกรรมดูนก โดยจัดทำเส้นทางดูนกไว้ 4 เส้นทาง ดังนี้

          1. เส้นทางฐาน ตชด. เก่า จุดเริ่มต้น ทางเข้าบ้านพักนักท่องเที่ยว-ฐาน ตชด. เก่า บรรจบถนนลาดยางสายแยกทางหลวงชนบท หมายเลข 1268 อุทยานแห่งชาติภูสวนทรายได้จัดทำบังไพรไว้บริการ เส้นทางมีต้นไทรอยู่หลายต้น ระยะทาง 2.7 กิโลเมตร เวลาในการดูนกอย่างน้อย 2 ชั่วโมง นกที่พบ เช่น นกปากนกแก้วหางสั้น นกมุ่นรกคอแดง นกกะลิงเขียดสีเทา ไก่ฟ้าหลังขาว นกจับแมลงสีฟ้า เหยี่ยวรุ้ง เป็นต้น

          2. เส้นทางถนนลาดยาง ถนนลาดยางสายแยกทางหลวงชนบท หมายเลข 1268 หลักกิโลเมตรที่ 3-6 เป็นเส้นทางดูนกที่สภาพป่าสองข้างทางเปิดโล่ง มองเห็นกว้างไกล ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาดูนกประมาณ 4 ชั่วโมง นกที่พบ เช่น นกปากนกแก้วหางสั้น นกพญาไฟใหญ่ นกแซงแซว นกพญาปากกว้างอกสีเงิน นกขุนแผนหัวแดง เป็นต้น

          3. เส้นทางเนินสำนึกบาป เส้นทางเส้นนี้จะแยกจากเส้นทางที่ 2 บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 4- 5 สภาพป่าเป็นป่าไผ่และป่าดิบเขา มีต้นไทรหลายต้น ฤดูฝนจะมีทาก ควรเตรียมยาทาป้องกันและถุงกันทาก ระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลาดูนกอย่างน้อยประมาณ 4 ชั่วโมง นกที่พบ เช่น นกปากนกแก้วหูเทา นกปากนกแก้วหางสั้น นกมุ่นรกคอแดง นกกระติ๊ดเขียว ไก่ฟ้าหลังขาว นกเปล้าท้องขาว นกขุนทอง นกเอื้องถ้ำ นกกางเขนน้ำหลังเทา เป็นต้น

          4. เส้นทางหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติภูสวนทรายที่ 1 (ภูหัวห้อม) เส้นทางนี้อยู่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติภูสวนทรายที่ 1 (ภูหัวห้อม) อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 15 กิโลเมตร สภาพป่าเป็นป่าเต็งรัง ระยะทางดูนกประมาณ 2 กิโลเมตร นกที่พบ เช่น นกอัญชันป่าขาเทา นกเขียวก้านตองหน้าผากสีทอง นกโพระดกธรรมดา นกแซงแซวสวรรค์ นกกินแมลงหัวสีทอง เหยี่ยวหัวแดง เหยี่ยวภูเขา เป็นต้น

          สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย โทรศัพท์ 0 4280 7616 เว็บไซต์ dnp.go.th และ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย จังหวัดเลย

          เรื่องน่ารู้

          ● ระยะทางจากตัวเมืองจังหวัดเลยถึงแต่ละอำเภอ

          อำเภอเชียงคาน  47        กิโลเมตร

          อำเภอภูเรือ        50        กิโลเมตร

          อำเภอท่าลี่         47        กิโลเมตร

          อำเภอภูหลวง     49        กิโลเมตร

          อำเภอนาแห้ว     125      กิโลเมตร

          ทั้งนี้สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ในจังหวัดเลย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเลย โทรศัพท์ 0 4281 2812 หรือเว็บไซต์ i-san.tourismthailand.org พร้อมอัพเดทข่าวสารผ่านทาง เฟซบุ๊ก เที่ยวอีสาน.com 

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
i-san.tourismthailand.org, เฟซบุ๊ก เที่ยวอีสาน.com