อลังการมาก ! ทุ่งทานตะวันเขาใหญ่ บานสะพรั่งเต็มไร่มณีศร

          เชื่อว่าหลายคนต้องอึ้งกับภาพสวยตระการตาของ "ทุ่งทานตะวัน เขาใหญ่" ที่บานสะพรั่งทั่วทุ่งเหมือนกับทุ่งดอกไม้ในต่างประเทศอย่างแน่นอน ก็เพราะทุ่งทานตะวันสวย ๆ นี้ตั้งอยู่ภายในไร่มณีศร บนเขาใหญ่...สวิตเซอร์แลนด์แดนอีสานของเรานี้เอง วันนี้เราเลยไม่รอช้าแวะไปหยิบเอาที่สุดของรีวิวทุ่งทานตะวันเขาใหญ่ของ คุณ Vanda_PE สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ไม่ขอพลาดฤดูกาลท่องเที่ยวทุ่งทานตะวันในปีนี้ พร้อมเก็บภาพความงามของทุ่งทานตะวันเขาใหญ่ พร้อมแนะนำเส้นทางแบบละเอียดยิบมาให้เพื่อน ๆ ได้ลองตามรอยไปเที่ยวกัน แถมยังแอบพ่วงท้ายด้วยการแปะเส้นทางเที่ยวทุ่งทานตะวันลพบุรี ทุ่งทานตะวันในตำนานที่ไม่ว่าปีไหน ๆ ก็ต้องไปให้ได้ มาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้เพื่อน ๆ กันด้วยค่ะ

          สำหรับ "ทุ่งทานตะวัน เขาใหญ่" ตั้งอยู่ภายใน "ไร่มณีศร" บนพื้นที่ 540 ไร่ ในหมู่บ้านคลองเสือ หมู่ที่ 15 ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถชมดอกทานตะวันบานสะพรั่งเต็มท้องทุ่งถึงต้นปี 2559 เลยทีเดียว (เสียค่าเข้าชมไร่คนละ 20 บาท) ว่าแล้วอย่ามามัวเสียเวลาออกตามไปหาความอลังการของทุ่งทานตะวัน เขาใหญ่ อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดกันเลยค่ะ ^_____^

          ดินฟ้าอากาศเมืองไทยปีนี้ดูจะไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอย ไม่แน่ไม่นอน แต่ที่แน่นอนเลยก็คือ "ฤดูกาลท่องเที่ยวทุ่งดอกทานตะวัน" ที่หนึ่งปีมีเพียงหนึ่งครั้ง...มาถึงแล้วนะ


          ถ้าพูดถึง "ทุ่งดอกทานตะวัน" ใครหลาย ๆ คนคงนึกถึงทุ่งทานตะวันที่จังหวัดสระบุรี หรือไม่ก็ที่จังหวัดลพบุรี กันใช่ไหมล่ะคะ ? เราก็หนึ่งในนั้นที่คิดแบบนั้น ! ยังมีอีกหลาย ๆ จังหวัดที่หันมาปลูกดอกทานตะวัน ซึ่งทานตะวันเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่ใช้น้ำน้อย เกษตรกรเลยหันมาทำไร่ทานตะวันกันมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากปัญหาภัยแล้ง และในวันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปชมทุ่งทานตะวันที่ใหญ่ที่สุดในอีสานแห่งเดียวในเขาใหญ่กันค่ะ ตามมาเลย ! "ไร่ทานตะวันมณีศร"


          หลังจากที่ต้องผิดหวังจากปีที่แล้ว ที่ตั้งใจขับรถไปดูทุ่งดอกทานตะวันที่อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี แต่ดันหลงทางซะอย่างนั้น จากทุ่งดอกทานตะวันกลับกลายเป็นทุ่งดอกดาวเรืองแทนซะ เราเลยตั้งเป้าหมายใหม่ว่า "ปีหน้าจะไม่ขับรถไปเองแหละ นั่งรถไฟนำเที่ยวทุ่งดอกทานตะวันแทนดีกว่า" ได้ดูทุ่งดอกทานตะวันชัวร์ไม่มีหลงแน่นอน

          พอมาถึงปีนี้ก็ต้องมาผิดหวังซ้ำสอง เมื่อได้ข่าวจากทีม PR การรถไฟแห่งประเทศไทย ว่า "งดเดินขบวนรถนำเที่ยวทุ่งทานตะวันและเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เนื่องจากปัญหาภัยแล้ง" แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะ !?

          แล้วสวรรค์ก็เข้าข้าง เราได้ข้อมูลใหม่มาว่าตอนนี้ทุ่งทานตะวันที่หนองแขม จังหวัดลพบุรี บานแล้ว เราเลยตั้งใจว่าอาทิตย์ที่จะถึงนี้จะเดินทางไปดูก่อนที่ดอกจะโรย แล้วจะเก็บภาพได้ไม่สวย แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจแบบกะทันหัน เมื่อทราบข่าวอีกแหล่งหนึ่งบอกว่าทุ่งทานตะวันที่เขาใหญ่ก็บานแล้วนะ ห้ะ ! เขาใหญ่เนี่ยนะ มีทุ่งดอกทานตะวัน เราดูรูปที่เพื่อนในกลุ่มแบกเป้เที่ยวโพสต์ลงไว้ ~ มันสวย เหลืองอร่ามมากเลย ฉากหลังเป็นทิวเขาด้วย ~ สวยไม่แพ้เขาจีนแลที่จังหวัดลพบุรีเลยค่ะ ตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้ายในทันทีว่าวันอาทิตย์นี้เราจะบุก "ไร่ทานตะวันมณีศร" ทุ่งทานตะวันที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน แห่งเดียวในเขาใหญ่ค่ะ


          ทุ่งทานตะวันไร่มณีศร อยู่ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา แต่เดิมนั้นเคยทำเป็นไร่ข้าวโพด แต่เนื่องด้วยเรื่องปัญหาภัยแล้ง เจ้าของฟาร์มจึงเปลี่ยนมาทำไร่ดอกทานตะวันแทน ซึ่งก็ได้รับกระแสตอบรับดีนะคะ เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส ^_____^

          การเดินทางนี้เป็นการเดินทางแบบ One Day Trip ไปเช้า-เย็นกลับ เราเลยเริ่มออกเดินทางกันเช้าหน่อยค่ะ เราเลือกเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวค่ะ เพราะเส้นทางที่เราจะไปนั้นไม่ค่อยมีรถโดยสารประจำทางผ่านสักเท่าไร ... เราเริ่มออกเดินทางกันตอน 06.30 น. เสบียงพร้อม ออกรถ ลุย ! ...

          ทุ่งทานตะวันไร่มณีศร ไม่มีอยู่ใน Google Map ค่ะ ต้องหาตำแหน่งเอา (14.575975 N, 101.443353 E) หรือจะปักหมุดไว้ที่โรงเรียนบ้านคลองเสือ/วัดคลองเสือ หรือจะปักหมุดแบบเจ้าของกระทู้ก็ได้นะคะ ที่ แพนเธอร์ครีค รีสอร์ท รับรองเจ้า Google Map พาไปไม่หลงทางแน่นอนค่ะ


          เราวิ่งรถจากกรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทางด่วนฉลองรัช ผ่านด่านเก็บเงินธัญบุรี วิ่งมาทางเส้นบางปะอิน > สระบุรี > นครราชสีมา > เขาใหญ่ (ถนนมิตรภาพ เลี้ยวเข้าถนนธนะรัชต์)


          ถ้าหากใครเคยมาเที่ยวที่เขาใหญ่แล้วก็ไม่หลงทางแน่นอนค่ะ เพราะวิ่งเส้นที่มุ่งหน้าขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เลย

          จุดสังเกตที่ 1 ร้าน MID WINTER
          จุดสังเกตที่ 2 ปั๊ม ปตท.
          จุดสังเกตที่ 3 ร้าน Steak in Khaoyai เลยไปอีกประมาณ 50 เมตร จะเจอทางเข้าไปทุ่งทานตะวัน อยู่เยื้อง ๆ กับฟาร์มโชคชัย 3 ป้ายที่บอกทางไปทุ่งทานตะวัน จะเป็นป้ายฟิวเจอร์บอร์ดเขียวด้วยปากกาเมจิกว่า "ทุ่งทานตะวัน ไร่มณีศร 500 ไร่" ต้องสังเกตดี ๆ เลยค่ะ เพราะป้ายบอกทางเล็กมาก ... เราว่าพอเจอจุดสังเกต 3 จุดที่เราบอกไป ดูป้าย "วัดศรีชัยมงคล/พิชญ์ เขาวงกต/BONANZA" เอาดีกว่าค่ะ เห็นชัดกว่า เพราะใช้ทางเข้าเดียวกัน


          เมื่อเลี้ยวเข้ามาในซอยก็วิ่งไปตามทางเลยค่ะ เพราะทุกแยกจะมีป้ายฟิวเจอร์บอร์ดบอกทางไว้ทุกจุดสังเกตเอานะคะ ทางค่อนข้างเป็นหลุมเป็นบ่อเยอะพอสมควร แต่ไม่หนักหนาอะไรค่ะ ... เรามาถึงทุ่งทานตะวัน ตอน 09.00 น. พอดิบพอดีเลยค่ะ


          ข้อแนะนำก่อนการชมทุ่งทานตะวัน

          1. เตรียมร่ม เสื้อแขนยาว หมวก แว่นตาเอาไว้บังแดดด้วยนะคะ เพราะแดดค่อนข้างร้อนในเวลากลางวัน

          2. หากใครแพ้ฝุ่นเตรียมหน้ากากอนามัยไปด้วยก็ดีนะคะ เพราะทางก่อนเข้าไปในทุ่งรถแล่นสัญจรผ่านไปผ่านมาทำให้ฝุ่นคลุ้งตลบอบอวลเลยค่ะ ...

          3. สิ่งที่ขาดไม่ได้คือกล้องถ่ายรูปค่ะ หรือใครจะถ่ายจากกล้องโทรศัพท์มือถือก็ได้ สวยเหมือนกัน เห็นกับตายิ่งสวยกว่าในภาพนะ ^^

          4. อย่าเด็ดดอกทานตะวันกลับไปด้วยนะคะ ถึงจะมีเยอะแยะก็เถอะ เราเห็นมากับตัวเองเลย ทำลายธรรมชาติที่สวยงามหมด เก็บไปเพียงแค่ภาพถ่ายเถอะค่ะ

          5. ดอกทานตะวันสวยอยู่แล้วค่ะ ไม่ต้องนำสิ่งของไปแต่งเติมหรอก บางทีดอกไม้ดอกหนึ่งอาจหมดความสวยเพราะฝีมือเรานะ กลีบหัก คอหักเพราะฝีมือของมนุษย์ (ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม อิอิ)

          เราเดินทางถึงทุ่งดอกทานตะวันเช้ากว่าที่ตั้งเป้าไว้ค่ะ คนเลยยังไม่เยอะมาก (พอคนเริ่มรู้ข่าว เริ่มทยอยมากันแล้วค่ะ ทำให้รถค่อนข้างที่จะติดในตอนช่วงใกล้ ๆ จะเที่ยง เราเดินทางกลับสวนทางกับหลาย ๆ คนที่เพิ่งมา กว่าจะออกมาได้เบี่ยงรถหลบกันมันส์เลยค่ะ เพราะถนนค่อนข้างเล็ก)


          ช่วงเช้าตอนที่พระอาทิตย์ยังไม่ส่องแสง ดอกทานตะวันจะก้มหน้าลงเล็กน้อย แต่เมื่อมีแสงจากพระอาทิตย์ดอกทานตะวันก็จะเงยหน้าขึ้นมารับแสง และหันเหตามดวงอาทิตย์ พูดแล้วก็นึกถึงตำนานดอกทานตะวันขึ้นมาเลยค่ะ เพื่อน ๆ เคยอ่านกันหรือเปล่า ? .. ตำนานเรื่องนี้เป็นที่มาของความหมายของดอกทานตะวันที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์และความจงรักภักดี .. ลองอ่านกันดูนะคะ



          ... ในตำนานกรีก กล่าวไว้ว่า มีหญิงงามผู้หนึ่งนามว่า Clytie เธอตกหลุมรักในความสง่างามของเทพอพอลโล ซึ่งเป็นเทพแห่งแสงอาทิตย์ หลังจากนั้นเธอก็ออกมาเฝ้ามองเทพอพอลโลทุก ๆ วัน ได้แต่หวังให้เทพอพอลโล หันมามองเธอสักครั้ง ด้วยความรู้สึกที่มั่นคงต่อเทพอพอลโลนั้นไซร้ จึงตั้งจิตอธิษฐานต่อทวยเทพ หากเธอลับลาไปขอให้เธอตั้งมั่นอยู่ตราบแสงสิ้นตลอดกาล หลังจากที่เธอสิ้นลม เรียวขาของเธอได้หยั่งรากลึกลงไปในพื้นพสุธา แขนและลำตัวก็กลับกลายเป็นลำต้นใบไม้เขียว ใบหน้าอันอ่อนหวานกลับกลายเป็นสีน้ำผึ้ง เส้นผมไหมสีทองของเธอกลับกลายเป็นกลีบดอกไม้สีเหลืองสดใส คอยแหงนมองเทพแห่งดวงอาทิตย์ไปทุกแห่งหนโดยไม่มีทางเหน็ดเหนื่อยและจะคอยหันมองตลอดจนกว่าดวงอาทิตย์ของเธอจะลาลับจากคุ้งขอบฟ้า ด้วยความรักและความภักดีตลอดกาล ...


          ฤดูกาลเที่ยวทุ่งดอกทานตะวัน หนึ่งปีจะมีเพียง 1 ครั้ง จะอยู่ในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน-มกราคม


          ช่วงเวลาที่เหมาะสม 10 โมงเช้า เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมทุ่งดอกทานตะวัน



          ไร่ทุ่งดอกทานตะวันมณีศร ด้านนอกสามารถถ่ายรูปได้ฟรี ถ้าเข้าด้านในสามารถขับรถเข้าไปเที่ยวชมได้ค่ะ ค่าผ่านทางคนละ 20 บาทเท่านั้น ความสวยนี่เกินราคาเลยค่ะ เราเดินทั่วไร่เค้าเลย เพลินดี อากาศก็ดี ^___^



          ไร่ที่นี่เค้าปราศจากการฉีดสารเคมีนะคะ สังเกตจากสิ่งมีชีวิตที่อยู่ตามดอกทานตะวัน แทรกเข้าไปถ่ายรูปยังไงก็เล็ง ๆ ด้วยนะ เดี๋ยวจะคันเอาได้


          บางแปลงปลูกไว้อย่างหนาแน่น หากไม่มีที่ให้แทรกเข้าไปอย่าพยายามแทรกเลยนะคะ ดอกไม้อาจช้ำได้



          ม้าตัวนี้ชื่อ "น็อตตี้" จะยืนคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวให้แวะเวียนมาถ่ายรูปได้ค่ะ ม้าแคระก็มีนะ ราคาบริการ 20 บาทค่ะ ถ่ายได้จนกว่าจะพอใจเลย


          สำหรับใครที่สนใจอยากไปชื่นชมความสวยงามของดอกทานตะวัน ฉบับออริจินัล ที่จังหวัดลพบุรี เราก็มีข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์ที่เราได้หาไว้ก่อนที่เราจะเปลี่ยนใจมาที่เขาใหญ่นี้ด้วย ใครอยากไปที่ไหนเลือกได้ตามสะดวกเลยค่ะ ถึงยังไงทุ่งดอกทานตะวันแต่ละที่ถึงจะสวยงามต่างกัน แต่ยังไงก็เป็นทุ่งทานตะวันเหมือนกัน ...

          เพิ่มเติมทริปทุ่งดอกทานตะวัน จังหวัดลพบุรี ทุ่งทานตะวันภาคกลาง


          การมาท่องเที่ยวทุ่งดอกทานตะวัน จังหวัดลพบุรี หลาย ๆ คนคงนึกถึงเขาจีนแลกันเป็นอันดับแรก แต่ตอนนี้ที่เขาจีนแลเพิ่งเริ่มปลูกเองค่ะ น่าจะได้ชื่นชมความงามในเร็ว ๆ นี้

          จังหวัดลพบุรี มีการปลูกดอกทานตะวันมากที่สุดในประเทศไทย ทุ่งทานตะวันที่จังหวัดลพบุรีตอนนี้ที่บานแล้วมีด้วยกันอยู่ 2 ที่ค่ะ คือ

          1. ทุ่งทานตะวันที่ตำบลหนองแขม อำเภอโคกสำโรง เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2558 เริ่มบานอวดโฉมเป็นทุ่งแรกในลพบุรี

          การเดินทาง : จากตัวเมืองลพบุรี ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน (ลพบุรี-โคกสำโรง) 35 กม. ถึงสี่แยกอำเภอโคกสำโรง เลี้ยวซ้าย ขับมาอีกประมาณ 700 เมตร พบสี่แยก แล้วตรงไปอีก 7 กิโลเมตร

          จุดสังเกต : หลักกิโลเมตรขนาดใหญ่และป้ายประชาสัมพันธ์

          พิกัด : 15.15370 N, 100.69520 E

          2. ทุ่งทานตะวันที่บ้านหัวดง อำเภอโคกสำโรง เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2558 ที่นี่ไม่ค่อยสะดวกต้องจอดรถที่วัด แล้วนั่งรถอีแต๊กเข้าไป

          การเดินทาง : จากตัวเมืองลพบุรี ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน (ลพบุรี-โคกสำโรง) 35 กม. ถึงสี่แยกอำเภอโคกสำโรง ขับตรงไปทางอำเภอชัยบาดาล ทางหลวงหมายเลข 205 ประมาณ 3 กิโลเมตร

          จุดสังเกต : ซุ้มวัดคลองเกตุจะอยู่ทางขวามือ เลี้ยวเข้าไปในซุ้มวัด (ทางหลวงชนบท ลบ.1013) ขับผ่านบ้านมะนาว บ้านโคกสะอาด

          พิกัด : 15.0630495 N, 100.7437011 E

          เพิ่มเติมเรื่องการเดินทาง

          - การเดินทางด้วยรถตู้ มีรถตู้ให้บริการตรงวินรถตู้ร่วม บขส. ข้าง ๆ ซูซูกิ ราคา 120 บาท

          - การเดินทางด้วยรถโดยสารปรับอากาศกรุงเทพฯ-ลพบุรี (ป.2) ค่าโดยสาร 80 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมงครึ่ง หรือโทรเช็กตรวจสอบรอบการเดินทางได้ที่เบอร์ 1490 หรือจะเช็กรอบผ่านเว็บไซต์นี้ได้เลยค่ะ busticket.in.th

          - การเดินทางด้วยรถไฟ มีด้วยกัน 2 ขบวนค่ะ ที่จะไปถึงลพบุรี สายไปคือขบวน 303 รถธรรมดา รอบ 04.20 น., 07.05 น. (ฟรี) และขบวน 111 รถเร็ว รอบ 07.00 น., 09.42 น. (50 บาท) เมื่อถึงสถานีปลายทางแล้วนั่งรถเมล์ 8 บาท มาลงที่ บขส. แล้วหารถไปที่ ลพบุรี-ตาคลี บอกคนขับว่าลงที่ทุ่งดอกทานตะวัน ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ค่ารถ 50 บาท แต่ถ้าขึ้นรถของนครชัยแอร์จะจอดทุกป้าย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ค่ารถ 70 บาท

          สรุปคือหาวิธีมาต่อรถไปทุ่งทานตะวันได้ที่ บขส. ลพบุรี


          ป.ล. เทศกาลทุ่งทานตะวันบาน อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี เปิดให้เข้าอย่างเป็นทางการวันที่ 1 ธันวาคม 2558 ถึง 31 ธันวาคม 2558 ค่ะ

          ป.ล. ขอบคุณ SONY A6000 ที่ทำให้เราได้ภาพสวย ๆ ตลอดทริปนี้ (รูปทั้งหมดไม่ผ่านการแต่งใด ๆ ทั้งสิ้น อยากให้รูปออกมาสดจริง ตามคุณภาพของกล้อง)

          ขอบคุณทุก ๆ คนที่ติดตาม หากผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ยินดีน้อมรับทุกคำติชม

          ขอฝากรีวิวเก่า ๆ ของเราด้วยนะคะ

          เกาะช้าง ~ 4 วัน 3 คืน การเดินทางที่แสนพิเศษ - pantip.com/topic/33659682

          เกาะล้าน ~ 2 วัน 1 คืน หาดสวย น้ำใส ทะเลใกล้กรุงที่คุณไม่ควรพลาด - pantip.com/topic/34177708

          สังขละบุรี ~ 3 วัน 2 คืน ใช้ชีวิตช้า ๆ อย่างที่ใจต้องการ - pantip.com/topic/34342679

          เขาแหลมหญ้า ~ ONE DAY TRIP ~ ลุยเดี่ยว แบกเป้เที่ยว \'เขาแหลมหญ้า\' - pantip.com/topic/34425980

          สวนผึ้ง ~ ONE DAY TRIP ~ พาเที่ยวที่เที่ยวแห่งใหม่ของสวนผึ้ง - pantip.com/topic/34456966

          .. เจอกันเดินทางครั้งต่อไป ..


          มีสิ่งหนึ่งที่ไม่อาจเรียกคืนกลับมาได้ คือ "เวลา" แม้ว่าเวลาแต่ละวันมีเท่าเดิม แต่ทุกวินาทีที่เดินย่อมมีสิ่งใหม่ ๆ เกิดขึ้นเสมอ ...

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ Vanda_PE สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก popeye-yaibaa