ใครที่ยังลังเลกับการออกเดินทางไปเที่ยวคนเดียวอยู่ละก็...อย่ารอช้าตามเรามาเลยค่ะ เพราะวันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปชมอีกหนึ่งบันทึกการเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวของ คุณสมาชิกหมายเลข 1693424 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ตัดสินใจแบกกล้องตะลุยเดี่ยวเที่ยวภูลังกา พร้อมกับหนีไปนอนน่านหน้าฝนชิล ๆ ซึ่งก็ทำให้ได้พบว่าระหว่างการเดินทางเที่ยวคนเดียวนั้น...มักมีความงดงามซุกซ่อนอยู่ ^^
- เกาหลี
- หนีร้อนไปเกาะล้านตะลอน 4 หาดด้วยงบไม่ถึงพัน
- How to แต่งภาพโทนดาร์ก
- How to แต่งภาพโทนสว่าง
คราวนี้จะพาทุกคนหนีความวุ่นวายไปเดินสูดอากาศเย็นสบาย ๆ บนดอยกันฮะ
ภูลังกา-น่าน
ระหว่างทยอยลงรูปแวะไปดูรูปที่นี่ได้ค่ะ
Instagram : IPZPEAR
FB : facebook.com/ipzpear
17 JUNE 2015
06.00 AM. ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง
เหนือน่านฟ้าเมืองเขลางค์นคร
07.20 AM. เขลางค์นคร
ไฟลท์นี้ถึงลำปางเร็วกว่าที่คิด เรานั่งสองแถวเขียวเหลืองออกมาจากสนามบินมาปะกับรถไปพะเยาระหว่างติดไฟแดงพอดี แทบจะกระโดดลงจากรถเลยกลัวไฟเขียวก่อน 555
ตั๋วเครื่องบิน...กรุงเทพฯ-ลำปาง 2,490 บาท รวมค่าประกันภัยกับค่านู่นนี่นั่นของสนามบินแล้ว รถสองแถวจากสนามบินลำปางไปขนส่ง 50 บาท (เราลงกลางทางไม่แน่ใจว่าราคานี้ตลอดสายหรือเปล่า) และค่ารถเมล์เขียวจากลำปางไปพะเยา 95 บาท (แอร์)
ตั๋วย๊าวยาววววววว
10.00 AM. สวัสดีพะเยา
พอถึง บขส. พะเยา ยืนงง ๆ อยู่พักหนึ่ง หันไปเจอรถเมล์ส้ม พะเยา-เชียงคำ กำลังจะออก วิ่งขึ้นรถอีกแล้ว ระหว่างทางลุงคนขับแกชิลมากค่ะ แวะซื้อของกินตลอดทาง (ตูจะทันไหมมมมมม)
ค่ารถ 50 บาท ระยะทางราว 80 กม. ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 40 นาที (พัดลม)
11.40 AM. เชียงคำ
และแล้วเราก็มาไม่ทันรถเมล์สายเชียงราย-น่าน ที่มีแค่วันละหนึ่งรอบ ตอน 11โมง เลยแวะกินก๋วยเตี๋ยวร้านเด็ดที่อ่านมาจากพันทิปตรงหัวมุมด้านซ้าย (ถ้าหันหน้าเข้า บขส.)
12.10 AM. หารถขึ้นภู
จากที่เราพลาดรถเมล์ไปแล้วก็เลยต้องเดินหารถค่ะ เห็นรถสองแถวสีฟ้าจอดเรียงรายนับร้อยคัน (เว่อร์) เลยเดินเข้าไปถามว่าขึ้นภูลังกาเท่าไร (ที่จริงแอบศึกษาราคามาแล้วแต่ถามอีกรอบเผื่อแกลด แต่ก็ไม่ลดฮะ555) แล้วก็เดินทางขึ้นภูกัน
ค่ารถสองแถวเหมาขึ้นภูลังการีสอร์ท 600 บาท/คัน มากันเยอะ ๆ จะคุ้มกว่าค่ะ เรามาคนเดียวจ่ายไปเต็ม ๆ T^T
12.30 AM. ขึ้นภู
ข้อดีของการเหมาสองแถวคือทั้งคันเราครอง จะนั่งหรือจะนอนตีลังกาก็ไม่มีใครมอง และที่สำคัญเราจองพื้นที่ท้ายรถลงหลักปักฐานคอยลั่นชัตเตอร์เรื่อย ๆ
ชิลมาก
01.30 PM. ภูลังการีสอร์ท...
เมื่อมาถึงภูลังการีสอร์ท สิ่งที่ทักทายเราคือเจ้าตูบสีดำที่เฝ้ารีสอร์ทและความเงียบบบบบบบ ตอนแรกก็คิดไว้ว่ามันคงเงียบเพราะเป็น Low Season แต่คือไม่คิดว่าจะเงียบขนาดนี้ แล้วเราก็ไปติดต่อบ้านพักภู 1 ที่อยู่ไกลจากเคาน์เตอร์มากกก พี่เขาเห็นเรามาคนเดียวเลยให้เราย้ายไปนอนภู 2/1 พี่ที่รีสอร์ทเป็นกันเองและใจดีสุด ๆ ค่ะ
วิวจากระเบียงห้องพัก
ราคาที่พัก : ภู 2/1 ราคา 600 บาท/คืน/2คน ห้องน้ำในตัว พัดลม มีผ้าเช็ดตัว แชมพู สบู่ มุ้งให้ ส่วนภู 1 ที่จองไว้เป็นบ้านไม้ ระเบียงวิวสวยมากก 1200 บาท/คืน/4 คน
ผังห้องพักที่เราเซฟมาจากพันทิปประกอบการตัดสินใจค่ะ
02.30 PM. เข้าป่า
จากที่นอนเบื่อไม่มีอะไรทำ มาถึงเร็วไปหน่อย รอหมอกมาช่วงเช้า เลยถามพี่ที่รีสอร์ทไปว่าอยากขึ้นไปบนยอดภูมีรถขึ้นไปไหม ปรากฏว่าช่วงนี้เป็นหน้าฝนทางอุทยานฯ ห้ามเอารถขึ้นโดยเด็ดขาด ถ้าจะขึ้นภูต้องเดินเอาประมาณ 30 กม. (เราตัดสินใจนอนต่อละกัน เพราะเราไม่ใช่ พี่ติ๊ก เนวิเกเตอร์ 555) กลิ้งไปกลิ้งมาสักพักเลยหยิบกล้องแล้วเดินไปหน้ารีสอร์ท
มาคนเดียวแนะนำว่าขาตั้งกล้องจำเป็นมาก หนักหน่อยแต่ได้รูปนะ
ถามทางรีสอร์ทพี่เขาบอกว่าค่ารถขึ้นยอดภูประมาณ 1,200 บาท หรือถ้าขับรถมาเองต้องเป็นรถโฟร์วีลเท่านั้น ช่วงหน้าฝนเขาจะ ๆ มาถางหญ้าทำทางเดินให้ แต่ถ้ามาช่วงหน้าหนาวทางอุทยานฯ จะทำทางไว้ให้ค่ะ
18 JUNE 2018
06.00 AM. นาฬิกาไม่ปลุก…
คุณพระ !! เราสะดุ้งตื่นมา 6 โมง คิดว่าตายละพระอาทิตย์กับหมอกจะไปยังวะ นาฬิกาเฮงซวย รีบวิ่งไปเปลี่ยนชุดหยิบกล้องกับขาตั้งวิ่งไปหน้ารีสอร์ท หมอกลงบางมาก แอบเซ็งเบา ๆ ถ่ายอยู่พักหนึ่งก็ย้ายไปหน้ารีสอร์ท
หมอกเริ่มเคลื่อนตัวมาปกคลุมผาช้างน้อย
06.40 AM. โค้งทะเลหมอก & มุมช่างภาพ
อากาศเย็นสบายสุด ๆ โค้งนี้มีแค่เรา จองพื้นที่เลยฮะ ถ่ายมันทุกมุม 5555
มื้อเช้าทางรีสอร์ทมีข้าวต้มหมู โอวัลติน กาแฟ ให้เราตักบริการตัวเองได้เลย ข้าวต้มอร่อยมาก เราตื่นมากินคนแรกรู้สึกฟินสุด ๆ 5555 แล้วก็เจอลุงเคะเว่นเจ้าของรีสอร์ท ลุงแกดูใจดีมากเลยค่ะ เรามารู้ทีหลังว่าแกสืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์จีนด้วย ถ้ามีแขกพักเยอะ ๆ แกจะมีการแสดงพิเศษมาให้ชม แต่เราอด 5555
10.30 AM. ชาวเหนือใจดี..
ระหว่างที่เรากำลังจะไปรอรถเมล์ พี่ที่รีสอร์ทเขาบอกเราว่ามีแขกที่มาพักรีสอร์ทประจำเขาจะไปน่าน ติดรถไปไหม จะได้ไม่ตองรอรถเมล์ เราก็กล้า ๆ กลัว ๆ แล้วก็ตัดสินใจ เอาวะ ! ไหน ๆ ก็มาแล้วจะกลัวอะไร ขาตั้งกล้องก็มี ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็ฟาดเลย 555
11.40 PM. เมืองท่ามกลางหุบเขา
ปรากฏว่าพี่เขาใจดีมากกกกกกก ชวนเราคุยตลอดทาง และจอดให้ถ่ายรูปตลอดทาง เรานี่เกรงใจมาก แต่ด้วยความที่อยากได้รูปเลยไม่ปฏิเสธ ระหว่างทางปง-น่าน วิวสวยมาก ๆ เราเคยไปเที่ยวทางเหนือก็บ่อยแต่ไม่เคยเห็นวิวแบบนี้...
12.30 AM. ปัว vs น่าน
พอมาถึงแยกท่าวังผา พี่เขาถามว่าเราจะลงเลยไหม แยกนี้จะมีรถต่อไปเมืองน่าน เพราะพี่เขาจะไปส่งผ้าที่ใกล้ ๆ ปัวแล้วค่อยเข้าตัวเมืองน่าน หรือจะไปด้วยกันก็ได้น่าจะใช้เวลาไม่นาน เราก็เลยไปต่อ เพราะอยากไปถ่ายรูปที่ปัวอยู่แล้ว
01.00 PM. ผิดแผน !!
แล้วก็มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เมื่อโรงพยาบาลที่พี่เขาจะไปส่งของอยู่ที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งอยู่ติดชายแดนไทย-ลาว เดินทางราง ๆ 1.30 ชั่วโมง จากปัว เราก็อึ้ง คิดในใจเอาไงดีวะ ยังไงก็ไม่มีแพลน จะลงตรงนี้ก็เกรงใจพี่เขา ก็เลยตัดสินใจไปต่อ วิวระหว่างทำให้เรารู้ว่าคิดไม่ผิดจริง ๆ ที่มา
ธนาคารไม้ อำเภอปัว จังหวัดน่าน
วิวจากร้านอาหารบนดอยระหว่างทางไปอำเภอเฉลิมพระเกียรติ
03.00 PM. ชายแดน
อำเภอเฉลิมพระเกียรติ เป็นอำเภอเล็ก ๆ ที่อยู่ติดกับชายแดนไทย-ลาว ห่างจากลาว 1 กิโลเมตร เท่านั้น ไม่มีรถโดยสารผ่านมาทางนี้ ถือว่าเราโชคดีที่ได้มา
ดอกไม้จิ๋วในโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ
05.30 PM. มิตรภาพต่างวัย
พอมาถึงน่านพี่เขาก็พาเราไปกินก๋วยเตี๋ยวซุปกระดูกต้มยำที่ร้าน "เตี๋ยวไร้เทียมทาน"
อร่อยค่ะ เนื้อติดกระดูกได้เยอะมากกกกกก น้ำซุปเข้มข้น แต่เผ็ด เรากินไม่หมด 555 พอกินเสร็จก็ตะเวนหาที่พักค่ะ ไปที่เฮือนม่วนใจ๋ก็ดูวังเวงน่าจะปิด ไปเวียงภูมินทร์ก็เต็ม ไปคุ้มเมืองมินทร์ก็เหลือแต่ห้องใหญ่ (แพงไป) ไปบ้านในเวียงก็เต็ม เลยมาลงเอยที่ “น่านสุวารินทร์” ค่ะ ห้องสวยและคุ้มมาก วันนี้ห้องว่าง 2 ห้องพอดี เลยจัดไปคนละ 1 ห้องค่ะ
ราคาห้องละ 400 บาท/คืน แอร์ Free Wi-Fi น้ำอุ่น ห้องน้ำในตัว ที่จอดรถกว้าง แต่อยู่ไกลจากย่านหลัก ๆ ในตัวเมืองนิดหนึ่งนะคะ
08.00 PM. วัดปิด
พอได้ที่พักพี่เขาก็บอกเดี๋ยวพาไปถ่ายรูปบนพระธาตุเขาน้อย เก็บวิวเมืองน่าน พอไปถึงปรากฏว่าวัดปิดค่ะ มาดึกเกิน อดค่ะ TT เลยลงมาถ่ายวัดภูมินทร์แทน แล้วก็ไปหาอะไรกินก่อนกลับ แนะนำว่าถ้ามาให้มาถ่ายช่วงพระอาทิตย์ตกจะสวยมากกกกกกก
08.30 PM. น. น่าน
ร้านนี้มีจักรยานให้เช่าด้วยนะคะ จักรยานสวยด้วย เราสั่งนมปั่นคาราเมล
ท่าทางเจ้านี่จะเป็นเจ้าของร้าน 5555
แก้วละ 60 บาท อร่อยนะ เราว่ามันหวานไปนิดหนึ่ง คราวหน้าคงต้องสั่งหวานน้อย แล้วก็กลับเข้าที่พัก แยกย้ายหลับยาว
19 JUNE 2018
07.30 AM. วัดไม่ปิดแล้ว
กลับมาที่พระธาตุเขาน้อย องค์พระจะอยู่บนยอดเขา อากาศเย็นสบาย 29 องศา ถ่ายรูปตัวเมืองน่านกับอากาศสบาย ๆ
วัดพระธาตุเขาน้อย
ระหว่างทางแวะที่วัดศรีพันต้น
08.30 AM. ข้าวซอยต้นน้ำ
เช้านี้พี่เขาพามากินข้าวซอยที่ "ร้านข้าวซอยต้นน้ำ" อร่อยกว่าที่คิดค่ะ เราไม่ใส่พริกนะ 555 มื้อนี้เราบอกพี่เขาว่าขอเลี้ยงบ้าง เขาบอกไม่เป็นไร มากับเราก็เหมือนมากับลูก เรานี่โคตรเกรงใจเลย แล้วพี่เขาก็บอกจะไปรอที่ร้านกาแฟให้เราเดินถ่ายรูปตามสบาย
ข้าวซอยไก่
ร้านนี้ข้าวซอยอร่อยมากกกกกกกก ถ้าไปอีกเราไม่พลาดแน่นอน
09.00 AM. วัดมิ่งเมือง ศาลหลักเมืองน่าน
เมืองน่านเป็นเมืองที่วัดเยอะมากก เราเจอทุกหัวมุมเลยเริ่มกันที่
วัดมิ่งเมือง ศาลหลักเมืองน่าน
09.30 AM. ศูนย์ OTOP เมืองน่าน
แวะศูนย์ OTOP เมืองน่าน หาของฝากให้ ตา ยาย พ่อ แม่ และหาเสื้อผ้าฝ้ายมาใส่ถ่ายรูป สิงอยู่ที่นี่ชั่วโมงครึ่ง 555
11.00 AM. วัดภูมินทร์
ตั้งกล้องกลางลานหน้าวัดภูมินทร์ ร้อนมากกกกกกกกก
วัดภูมินทร์
11.15 AM. อุโมงค์ลีลาวดี
หอศิลป์ปิดปรับปรุงเลยได้ถ่ายแค่อุโมงค์ลีลาวดี T_T
ตั้งกล้องอีกแล้ว ลองเปลี่ยนเป็นโทนเย็นดูบ้าง
11.25 AM. SO SEED สุดสาก
พี่เขาพาแวะกินข้าวก่อนขึ้นเครื่อง ร้านนี้ส้มตำอร่อยมาก ออกเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ เพราะเราไม่กินเผ็ดเลยถูกใจเมนูนี้มาก
ตำถาด
11.50 AM. บ๊ายบายเมืองน่าน
ได้เวลาขึ้นเครื่องกลับแล้ว อยากอยู่ต่ออีกสักนิด เพราะเวลาน้อยมากเที่ยวแค่ไม่กี่ที่ เลยวางแผนไว้ว่าคราวหน้าจะกลับมาอีกและแพลนการเดินทางให้ดีกว่านี้
สุดท้ายนี้อยากฝากถึงเพื่อน ๆ ที่ยังลังเลว่าจะไปเที่ยวนู่นนี่นั่นดีไหม มันจะสวยไหม ดีไหม แพงไหม จะไปถูกหรือเปล่า ? เราว่านั่งดูรูปต่อให้สวยแค่ไหน ฟังจากคนที่ไปก็ไม่เท่าไปเห็นด้วยตาตัวเอง อย่ามัวแต่ลังเล หาเวลาว่าง เก็บกระเป๋า คว้ากล้อง ออกไปท่องโลกกันดีกว่า หาความสุขให้ตัวเองไว้มาก ๆ ก่อนที่เราจะไม่มีโอกาส ถ้าไม่มีใครไปกับเรา เราก็ไปกับตัวเองเลยค่ะ Alone Life ก็สุขไปอีกแบบ ทริปนี้เหงาบ้าง กลัวบ้าง แต่รวม ๆ แล้วสนุกมาก และได้มิตรภาพดี ๆ จากคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนกลับมาอีกด้วย
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามจนจบ ไว้ทริปหน้าเจอกันค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณสมาชิกหมายเลข 1693424 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม, เฟซบุ๊ก Pare Naraphat, เฟซบุ๊ก Michael Yip และ Instagram @ipzpear
