เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก excitris.com
จากที่เคยเห็นของแปลกปลอม ของเทียมมาทั้งชีวิต ก็ต้องยอมรับจริง ๆ ว่าทะเลเทียมแห่งนี้เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างเลียนแบบธรรมชาติได้แบบเจ๋งสุด ๆ จนน่ายกนิ้วให้คนคิดไอเดียเลยล่ะค่ะ ทะเลที่ว่า ก็คือ ทะเลเทียม Seagaia Ocean Dome ในย่านมิยาซากิ ประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง ส่วนจะเจ๋งและเหมือนจริงขนาดไหน ตามไปดูให้ชัด ๆ เลยดีกว่า
ทะเลเทียม Seagaia Ocean Dome ตั้งอยู่ในอาณาเขตของ Sheraton Seagaia Resort บริเวณภายในถูกออกแบบให้มีท้องทะเลเทียมขนาดความยาวกว่า 300 เมตร และลึกกว่า 100 เมตรไว้บริการ และไม่ว่าจะเป็นหาดทรายสีขาวละเอียด ภูเขาไฟที่ตั้งตระหง่าน ต้นปาล์มที่พลิ้วไหว หรือแม้แต่ท้องฟ้าแจ่มใสด้านบน ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นทั้งสิ้น....เจ๋งสุด ๆ ไปเลยใช่ไหมล่ะ
โดยทะเลเทียมแห่งนี้จุนักท่องเที่ยวได้ถึง 10,000 ชีวิต จัดว่าเป็นทะเลเทียมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งคุณยังสามารถทำกิจกรรมทางทะเลได้เกือบทั้งหมด แถมยังมีโชว์ภูเขาไฟปะทุให้ชมทุก ๆ 1 ชั่วโมง และยังสามารถสนุกสุดเหวี่ยงกับน้ำทะเลใส ๆ ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสภาพอากาศ หรือฝนฟ้าใด ๆ ทั้งสิ้นค่ะ เพราะที่นี่เขาจัดหลังคาโดมขนาดใหญ่ที่สามารถเปิด-ปิดได้ตามแต่สภาพอากาศ ดังนั้น มาเที่ยวที่นี่คุณจะเห็นแต่ท้องฟ้าสดใส และแสงแดดจ้าเหมือนพระอาทิตย์ไม่มีวันตกดินเชียวล่ะ
ทะเลเทียม Seagaia Ocean Dome เป็นส่วนหนึ่งของ Sheraton Seagaia Resort ตั้งอยู่บนพื้นที่ของเกาะคิวชู เกาะทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น มีขนาดความกว้างกว่า 1,730 เอเคอร์ มีความพิเศษตรงข้อได้เปรียบเรื่องสภาพภูมิอากาศในแบบอบอุ่นตลอดทั้งปี โดยปกติอุณหภูมิบนเกาะคิวชูจะอยู่ที่ประมาณ 30 องศาเซลเซียส ส่วนน้ำทะเลจะมีอุณหภูมิประมาณ 28 องศาเซลเซียส เป็นอย่างนี้ตลอดทั้งปี ซึ่งก็หมายความว่านักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเยือนเกาะคิวชูได้ตลอดทั้งปีเลยจ้า
และแม้ว่าทะเลเทียม Seagaia Ocean Dome จะเปิดตัวเมื่อปี 1993 แต่กลับมีชื่อเสียงโด่งดังในปี 1995 และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตประจำเกาะไปเรียบร้อยโรงเรียนแดนอาทิตย์อุทัย จนปัจจุบันนี้ก็มีนักท่องเที่ยวตบเท้าไปเที่ยวทะเลเทียมกว่า 1.25 ล้านคนต่อปีเลยเชียว ใครอยากเปิดประสบการณ์เที่ยวทะเลแบบใหม่ ๆ ก็ลองบินไปเที่ยวกันได้นะคะ แต่ตอนนี้เรามาชมภาพความสวยงามของทะเลเทียม Seagaia Ocean Dome ไปพลาง ๆ ก่อนดีกว่าเนอะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Japan Atlas และ Amazing Planet
