เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
พังงา คือจังหวัดที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ทั้งบนบกและใต้น้ำ โดยเฉพาะกลุ่มเกาะสวยงามที่วางตัวเรียงรายอยู่ในทะเลอันดามัน จนได้สมญานามว่าเป็น ดินแดนแห่งป่าเกาะ แถมที่นี่ยังมีผืนป่าชายเลนหนาแน่นและอุดมสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย เต็มไปด้วยวิถีชีวิตที่น่าสนใจ นอกจากนี้ พังงายังมีธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เช่น โลกใต้น้ำของหมู่เกาะสิมิลัน, ดงปะการังหลากหลายและฝูงปลาน้อยใหญ่ใต้ทะเลหมู่เกาะสุรินทร์, เขาตาปู และเขาพิงกัน เป็นต้น
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นทรัพยากรล้ำค่า ที่ทำให้พังงาเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวเสมอมา วันนี้กระปุกท่องเที่ยวจึงได้ไปรวบรวมเกาะสำคัญในพังงามาฝากกัน ส่วนจะมีเกาะไหนน่าสนใจบ้างนั้น เราไปชมกันเลยจ้า
อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา
1. เกาะห้อง 
มาเริ่มกันกับที่แรกคือ เกาะห้อง เป็นเกาะที่มีลักษณะเป็นเขาหินปูนเล็กใหญ่สลับซับซ้อน มีหินงอกหินย้อยที่มีความสวยงาม คล้ายห้องหลาย ๆ ห้อง เมื่อแล่นเรือเข้าไประหว่างเกาะแล้วมองโดยรอบของเกาะ จะให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีประตู 2 บาน เรียงต่อกันเป็นแถว นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งปะการังที่สวยงามรวมทั้งมีพันธุ์พืชและสัตว์ป่าชนิดต่าง ๆ จำนวนมาก สามารถเข้าไปชมทัศนียภาพได้โดยสามารถจอดเรือบริเวณหน้าเกาะ และใช้เรือแคนูเข้าไปชมบริเวณภายในถ้ำและรอบ ๆ เกาะ ซึ่งมีความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะได้
2. เกาะพนักเป็นเกาะที่สวยงาม มีหินงอก หินย้อย และมีแอ่งน้ำตกขนาดเล็กเป็นชั้น ๆ ลดหลั่นกันอยู่ในถ้ำ ตัวเกาะมีขนาดใหญ่กว่าเกาะห้อง โดยเส้นทางของเกาะจะอยู่ระหว่างเส้นทางเดินเรือจากภูเก็ต-พังงา นอกจากนี้ ภายในเกาะยังประกอบด้วยถ้ำต่าง ๆ ที่มีความสวยงาม เช่น ถ้ำค้างคาว, ถ้ำโกงกาง, ถ้ำไอศกรีม และถ้ำปีนที่มีลักษณะเป็นทะเลใน โดยในการเข้าสู่ทะเลในต้องใช้เรือแคนูเพียงอย่างเดียวจึงจะเข้าไปได้ มีความลึกตั้งแต่ประมาณ 50–150 เมตร
3. เกาะปันหยี
ที่นี่ถือเป็นเกาะที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดพังงา เพราะเกาะปันหยีเป็นเกาะที่มีชุมชนชาวประมงโบราณอาศัยอยู่กว่า 200 ปีมาแล้ว ด้วยการตั้งหมู่บ้านบริเวณพื้นที่ราบริมชายฝั่งของเกาะเป็นที่หลบฝน มีการสร้างบ้านโดยการยกพื้นสูงเหนือน้ำ ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นมุสลิม ภายในบริเวณเกาะจึงได้มีการสร้างมัสยิดให้เป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คน รวมทั้งมีการสร้างแพสำหรับใช้เล่นฟุตบอลบนน้ำอีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งเกาะที่เต็มไปด้วยผู้คนที่เป็นมิตร ความเงียบสงบของเกาะจึงเป็นแรงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวที่เกาะอีกด้วย
4. เขาพิงกัน
ภาพจาก park.dnp.go.th
มีลักษณะเป็นเกาะเล็ก ๆ ตั้งอยู่บริเวณปากอ่าวพังงา มีขนาดเล็กกว่าเกาะปันหยี ซึ่งที่มาของชื่อ เขาพิงกัน มาจากลักษณะพิเศษแปลกและแตกต่างจากที่อื่น คือ เป็นภูเขาสองลูกที่แนบยึดติดกัน เป็นเส้นตรงจาก ยอดเขาสู่ตีนเขา ซึ่งเกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ทำให้ภูเขาเกิดรอยร้าวหรือปริแยกเป็นสองส่วน ที่มีลักษณะคล้าย ถูกของมีคมตัดเป็นเส้นตรงแต่ยังไม่ได้ถูกแยกออกจากกัน กลับถูกปล่อยให้ยังติดกันจนถูกเรียกว่า เขาพิงกัน โดยในส่วนของด้านหลังของเขาพิงกันมีทิวทัศน์ที่สวยงาม ซึ่งทางอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา
5. เกาะตะปูหรือเกาะเจมส์บอนด์
เป็นอีกหนึ่งเกาะที่ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "เกาะเจมส์บอนด์" เพราะเคยเป็นฉากหนึ่งในภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง เจมส์ บอนด์ ตอนเพชฌฆาตปืนทอง (The Man with the Golden Gun) ในปี พ.ศ. 2517 นับจากนั้นหลาย ๆ คนจึงเรียกว่า เกาะเจมส์บอนด์ โดยมีลักษณะเหมือนตะปูอยู่กลางน้ำ มีลักษณะเป็นแท่งหินขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บริเวณกลางทะเล เมื่อมองอยู่ไกล จะเห็นรูปร่างคล้ายตะปู โดยเกาะตั้งอยู่ในบริเวณทะเลด้านนอกในเวิ้งอ่าวของเกาะเขาพิงกัน มีลักษณะเป็นเกาะเดี่ยว มีศัพท์เฉพาะทางธรณีวิทยาว่า เกาะหินโด่ง (Stack) สำหรับการชมเกาะตะปูต้องชมในระยะไกลจากเรือ หรือจากสันดอนบริเวณเกาะเขาพิงกัน ไม่สามารถขึ้นไปบนเกาะได้
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน
6. เกาะสิมิลัน (เกาะแปด)เกาะสิมิลัน หรือเรียกอีกชื่อคือ เกาะแปด เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะสิมิลัน ลักษณะอ่าวเป็นรูปโค้งเหมือนเกือกม้า มีหาดทรายขาวละเอียดเนียนนุ่มน้ำทะเลใสน่าเล่น ซึ่งบริเวณท้องทะเลบริเวณเกาะมีปะการังสวยงามหลายชนิด และปลาประเภทต่าง ๆ ที่มีสีสันสวยงามมากมาย รวมทั้งยังเป็นเกาะที่สามารถดำน้ำทั้งน้ำลึกและน้ำตื้น และทางด้านเหนือของเกาะมีก้อนหินขนาดใหญ่รูปร่างแปลกตา เช่น หินรูปรองเท้าบูท หรือรูปหัวเป็ดโดนัลด์ ดั๊ก ส่วนตอนบนที่ตรงกับแนวหาดมีหินรูปเรือใบ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม มองเห็นความสวยงามของท้องทะเลได้กว้างไกล
7. เกาะบางู (เกาะเก้า)เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่มีโขดหินรูปลักษณะต่าง ๆ โดยเฉพาะที่จุดดำน้ำ กองหินคริสต์มาสพอยต์ เป็นกองหินใต้น้ำขนาดใหญ่ ที่มีความสวยงามสลับซับซ้อนกันเป็นบริเวณกว้าง จะมีแนวปะการังและกัลปังหาที่สมบูรณ์ และยังเป็นที่อยู่ของปลาหลากชนิด เช่น ปลาไหลริบบิ้น ฉลามครีบเงิน ปลาเก๋า ปลาบู่ กั้งตั๊กแตน
8. เกาะหัวกะโหลก-หินปูซา (เกาะเจ็ด) เป็นเกาะที่มีลักษณะเหมือนรูปหัวกะโหลก สภาพใต้น้ำสวยงามเหมือนหุบเขาใต้ทะเลที่เต็มไปด้วยปะการังอ่อน กัลปังหารูปพัดหลากสีสัน ฝูงปลานานาพันธุ์ และยังสามารถพบปลากระเบนราหู หรือฉลามวาฬได้มากที่สุดแห่งหนึ่งในหมู่เกาะสิมิลัน
9. เกาะหูยง (เกาะหนึ่ง)เกาะหูยง หรือ เกาะหนึ่ง เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่มีหาดทรายขาวสะอาด และยาวมากที่สุดในเก้าเกาะ มักจะมีเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่ ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้เห็นร่องรอยของเต่าที่ขึ้นมาวางไข่บนชายหาดคล้ายกับรอยตีนตะขาบเล็ก ๆ
10. เกาะเมี่ยง (เกาะสี่)เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่รองจากสิมิลัน ตั้งอยู่ตรงกลางของหมู่เกาะสิมิลัน มีพื้นที่ประมาณ 1 ตารางกิโลเมตร มีที่ราบอยู่ตรงกลางระหว่างเขาด้านตะวันออกและตะวันตก เป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานฯ แนวป่าด้านหลังของเกาะใช้เป็นที่อนุรักษ์และเป็นที่อยู่ของนกชาปีไหน เป็นนกประจำถิ่นขนาดใหญ่ตระกูลเดียวกับนกพิราบป่า มีสีสันและลวดลายบนตัวที่งดงาม จะพบได้ตามริมชายหาด หรือร้านอาหารหน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยว, ปูไก่ มีลำตัวเป็นสีแดงสด มีก้ามสีดำเหลือบน้ำเงิน เวลาร้องจะมีเสียงคล้ายไก่ จะเห็นได้ในช่วงหัวค่ำที่มันออกหากิน และปูเสฉวนที่มีมากมายหลายขนาดทั้งเล็กและใหญ่ ขนาดใหญ่ และบริเวณต้นไม่ยังเป็นที่อยู่ของนกนานาชนิดที่หายากอีกด้วย นอกจากนี้ บริเวณด้านทิศเหนือและตะวันตก ยังมีชายหาดขนาดแหล่งน้ำจืด ซึ่งชายหาดที่เกาะสี่จะมีสีขาวละเอียดเนียนสวยงามน่าสัมผัส น้ำทะเลใส
11. เกาะตาชัย
เกาะตาชัย ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน และอยู่ไม่ไกลจากหมู่เกาะสุรินทร์มากนัก และถูกพบครั้งแรกโดยชายที่ชื่อ ตาชัย ทำให้ตั้งชื่อเกาะตามคนค้นพบว่า เกาะตาชัย ทั้งนี้ เกาะตาชัยถูกสำรวจพบมานานแล้ว แต่เพิ่งจะขึ้นตรงกับอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน และเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ไปยลโฉมความงามได้ไม่นาน ทำให้ตอนนี้บนเกาะตาชัยยังไม่มีบ้านพักไว้คอยบริการ แต่ทางอุทยานฯ อนุญาตให้กางเต็นท์พักค้างคืนได้ มีห้องน้ำแยกชายหญิงเป็นสัดส่วน โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ซึ่งช่วงเวลาที่เกาะตาชัยงดงามที่สุดคือเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน จากนั้นเกาะตาชัยจะปิด 6 เดือน เพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟู
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์
12. เกาะสุรินทร์เหนือและเกาะสุรินทร์ใต้เกาะสุรินทร์เหนือ และ เกาะสุรินทร์ใต้ เป็นเกาะที่อยู่ติดกันโดยมีร่องน้ำคั่นกลาง หรือที่เรียกว่า ช่องเขาขาด กั้นระหว่างเกาะทั้งสอง มีอ่าวทั้งเล็กและใหญ่กระจายอยู่รอบเกาะ ทุกอ่าวมีความสวยงามของหาดทราย และน้ำทะเลแตกต่างกันไป รวมทั้งตัวเกาะสุรินทร์เหนือยังเป็นที่ตั้งหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว, บ้านพัก, ที่กางเต็นท์ และมีเรือหางยาวให้เช่าเที่ยวตามเกาะต่าง ๆ นอกจากน้ำทะเลที่ใสสะอาด สามารถชมปะการังและฝูงปลาน้อยใหญ่ได้แล้ว ที่นี่ยังมีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ รวมทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัยของชาวมอแกนอีกด้วย
13. เกาะตอรินลา (เกาะไข่)เกาะตอริลลา หรือ เกาะไข่ อยู่ทางใต้ของเกาะสุรินทร์ใต้ เป็นเกาะขนาดเล็ก ๆ แต่เป็นจุดดำน้ำที่ใหญ่และสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของหมู่เกาะสุรินทร์ เพราะบริเวณนี้มีทั้งแนวปะการังและกองหินใต้น้ำสลับกัน มีปลาสวยงามมากมายกว่า 20 ชนิด เช่น ปลาไหลริบบิ้น, ฉลาม, เสือดาว, ปลาการ์ตูน เป็นต้น ด้านทิศตะวันออกของเกาะมีแนวปะการังยาวเหยียด ที่ยังคงความสวยงามสมบูรณ์เหมาะแก่การดำน้ำลึก และอีกไฮไลท์ที่โดดเด่น คือ มีประกระโทงแทงกระโดดให้เห็นอยู่บ่อย ๆ และข้อควรระวังสำหรับนักดำน้ำ คือ บริเวณร่องน้ำบริเวณเกาะแห่งนี้มีกระแสน้ำอุ่นที่บางครั้งไหววน จึงควรใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมากในการดำน้ำที่นี่
14. เกาะปาจุมบา (เกาะกลาง, เกาะมังกร)เกาะปาจุมบา หรือ เกาะกลาง หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เกาะมังกร ตั้งอยู่ทางเหนือของเกาะสุรินทร์ใต้ เป็นเกาะที่มีหาดทรายขาวละเอียดสะอาด แนวปะการังสมบูรณ์รวมทั้งบริเวณนี้ยังพบปลากระเบนราหู ปลาหลากพันธุ์สีสวยงาม และกุ้งมังกรจำนวนมากซึ่งหาดูได้ยาก จนได้ชื่อว่า อ่าวมังกร และยังเป็นแหล่งวางไข่ของเต่าทะเล อีกทั้งยังถูกประกาศพื้นที่ให้เป็นพื้นที่สงวนสำหรับอนุรักษ์เต่าทะเล บริเวณน้ำทะเลบนเกาะไม่ลึก ยกเว้นด้านเหนือของเกาะ มีแต่กองหินใต้น้ำ ไม่มีปะการังอ่อนหรือกัลปังหา บางครั้งมีกระแสน้ำรุนแรง ไม่เหมาะกับการดำน้ำ
15. เกาะรี (เกาะสต็อก, เกาะไฟแวบ)เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่มีกระโจมไฟของกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ตั้งอยู่เกาะ ซึ่งชาวบ้านเรียกเกาะนี้ว่า เกาะไฟแวบ ที่นี่มีแนวปะการังแข็งสมบูรณ์แห่งหนึ่ง โดยเฉพาะด้านทิศตะวันตกของเกาะ ทางด้านเหนือเป็นหลืบหินขนาดใหญ่เป็นที่อาศัยของสัตว์ทะเลนานาชนิด มักพบเต่าทะเลเสมอ นอกจากนี้ ยังมีปลาสิงโต, ปลาหมึกกระดอง และทากอีกด้วย
16. เกาะยาวเกาะยาว มีพื้นทีประมาณ 137.6 ตารางกิโลเมตร ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ประกอบด้วยเกาะ 2 เกาะ คือ เกาะยาวน้อย และ เกาะยาวใหญ่ ล้อมรอบด้วยเกาะเล็ก ๆ และอ่าวที่น่าสนใจ ได้แก่ หาดป่าทราย อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเกาะยาว บนเกาะยาวน้อย ประมาณ 7 กิโลเมตร หาดทรายขาวสะอาด ทิวไม้ร่มรื่น สามารถลงเล่นน้ำได้, หาดท่าเขา อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเกาะยาวน้อย 5 กิโลเมตร บนหาดทรายมีหินเล็ก ๆ หลากลวดลาย ห่างจากฝั่งออกไปเล็กน้อยมีเกาะเล็ก ๆ ยามน้ำแห้งสามารถเดินไปเที่ยวเกาะเหล่านี้ได้สะดวก บนเกาะมีไม้ป่าและกล้วยไม้ขึ้นอยู่ทั่วไป
อ่าวตีกูด อยู่ที่เกาะยาวใหญ่ เป็นอ่าวที่มีหาดทรายขาวสะอาด ทางทิศเหนือของอ่าวเป็นแหลมที่มีทิวทัศน์สวยงาม ชายฝั่งร่มรื่นด้วยทิวสน, อ่าวคลองสน อยู่ที่เกาะยาวใหญ่ หาดทรายขาวสะอาดร่มรื่นด้วยทิวสน ทางด้านซ้ายมือมีโขดหิน และหินก้อนเล็ก ๆ หลากสีสวยงาม สามารถลงเล่นน้ำและดำน้ำชมปะการังได้, อ่าวหินกอง อยู่ที่เกาะยาวใหญ่ มีหาดร่มรื่น แต่ไม่เหมาะกับการลงเล่นน้ำ ที่อ่าวนี้ยังมีชาวบ้านมุสลิมทำอาชีพหาปลาอาศัยอยู่, อ่าวล้าน อยู่ที่เกาะยาวใหญ่ มีหาดทรายสวยงาม สามารถลงเล่นน้ำได้ ทางทิศเหนือของแหลมเป็นหน้าผาชัน
อ่าวทราย อยู่ที่เกาะยาวใหญ่ มีหาดทรายขาวละเอียด สามารถลงเล่นน้ำได้, เกาะโละปาแรด อยู่ที่เกาะยาวใหญ่ มีหาดทรายที่ร่มรื่นด้วยสวนมะพร้าว หาดทรายขาวละเอียด เป็นแนวยาวเหยียด ทางเหนือของอ่าวมีแหลมที่มีโขดหินสวยงาม ลงเล่นน้ำทะเลได้, แหลมนกออก ตั้งอยู่ที่เกาะยาวใหญ่ มีหาดทรายที่มีโขดหิน และก้อนหินหลากสีสวยงาม สามารถลงเล่นน้ำได้
นอกจากนั้นบนเกาะยาวใหญ่และเกาะยาวน้อย ยังมีบ้านพักแบบโฮมสเตย์สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสวิถีชีวิตแบบพื้นบ้าน ดูข้อมูลได้ที่ kohyaohomestay.org และ kohyaohomestay.com อีกทั้งยังมีที่พักของเอกชนบนเกาะยาวใหญ่ เกาะยาวบริการด้วย
17. เกาะพระทอง
เกาะพระทอง อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะระ-เกาะพระทอง มีเกาะบริวารที่อยู่ติดทะเลอันดามัน ทั้งเกาะระ เกาะคอเขา เกาะปลิง-เกาะพ่อตา เกาะลูกตุ้ม เกาะทุ่งนางดำ และมีเกาะขนาดเล็กต่าง ๆ ที่อยู่ในพื้นที่ป่าชายเลนอีกถึง 37 เกาะ เกาะพระทองนั้นเหมาะสำหรับคนรักการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติสวยอย่างเป็นส่วนตัว ความงามทางธรรมชาติบนบกนั้นว่าน่าตื่นตาแล้ว ในขณะที่ใต้น้ำก็งดงามไม่แพ้กัน ชายหาดสวยน้ำทะเลใส ปะการังก็มีให้ชม แถมยังนั่งเรือข้ามไปเที่ยวเกาะระ ที่อยู่ทางด้านทิศเหนือของเกาะพระทองได้อีกหนึ่งต่อด้วย
เกาะพระทอง ได้รับการตั้งสมญานามว่า เป็นซาฟารีกลางอันดามัน ด้วยลักษณะของเกาะที่มีพื้นที่ราบเป็นส่วนใหญ่ มีชายหาดด้านทิศตะวันตก ป่าชายเลนด้านทิศเหนือและทิศตะวันออก บนเกาะเป็นทุ่งหญ้า ป่าเสม็ด และป่าพรุ ชวนให้นึกถึงบรรยากาศของซาฟารีที่ประเทศแอฟริกา มีสัตว์นานาชนิดอาศัยอยู่บนเกาะทำให้ที่นี่มีเสน่ห์เหนือใคร อีกทั้งพื้นที่บริเวณดังกล่าวยังสามารถตั้งแคมป์ได้ด้วย และหลังจากเพลิดเพลินกับกิจกรรมเดินป่าศึกษาธรรมชาติ และชมสัตว์หลากชนิดอย่างน่าตื่นตาตื่นใจแล้ว ใครที่ชอบกิจกรรมริมชายหาด หรือกิจกรรมทางน้ำ ก็แนะนำให้ไปที่ชายหาดที่วางตัวทิศเหนือไปจนถึงทิศใต้ของตัวเกาะ หาดทรายสวยน้ำทะเลใส ในช่วงที่น้ำทะเลลดลง จะเผยชายหาดขาวทอดยาวเป็นพื้นที่กว้าง เหมาะกับการทำกิจกรรมริมหาดทรายมากมาย ในช่วงที่แนวชายหาดใกล้กับป่าชายเลน น้ำทะเลอาจจะไม่ใสมากนัก แต่ก็ทดแทนด้วยความสมบูรณ์ทางธรรมชาติแทน
เป็นอย่างไรบ้างกับ 17 เกาะในจังหวัดพังงาที่เราได้คัดเลือกมาให้ชมกัน สำหรับใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวทางทะเลไม่ควรพลาดเลย ยังไงทริปท่องเที่ยวครั้งต่อไปลองเลือกไปเที่ยวเกาะสวย ๆ สักแห่งแถวจังหวัดพังงาดูบ้างนะคะ
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะขอขอบคุณข้อมูลจาก
, 
, และ เฟซบุ๊ก Unseen Tour Thailand 
