8 ที่เที่ยวเชียงคาน สัมผัสชีวิตเรียบง่าย กับวัฒนธรรมริมฝั่งโขง

            "เชียงคาน" อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในจังหวัดเลย ที่ได้รับความนิยมในการเดินทางไปสัมผัสบรรยากาศหนาว ๆ ริมแม่น้ำโขง ซึ่งที่นี่ถือเป็นแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเชียงคานได้เป็นอย่างดี อีกทั้งนักท่องเทียวที่เดินทางมาจะได้รอยยิ้มจากชาวเชียงคานเป็นการต้อนรับ และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมที่ดีงามเช่นนี้ ทำให้นักท่องเที่ยวที่ได้เดินทางมาได้รับความประทับใจทุกครั้งที่มาเยือน แต่สำหรับใครที่ยังไม่เคยไปสัมผัส ก็คงยังไม่รู้ว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวเชียงคานที่ไหนน่าเที่ยวพักผ่อนบ้าง กระปุกท่องเที่ยวเลยขออาสามาเป็นไกด์พาทัวร์เมืองเชียงคานกัน ส่วนจะมีที่เที่ยวที่ไหนบ้างนั้น ตามเราไปชมกันเลยจ้า
            1. วัดศรีคุณเมือง

            มาเริ่มกันที่ วัดศรีคุณเมือง ตั้งอยู่บนถนนชายโขง ซอย 7 ทางด้านเหนือของตลาดเชียงคาน สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2485 ซึ่งวัดนี้ถือเป็นแหล่งรวมงานศิลปะทั้งแบบล้านนาและล้านช้าง เห็นได้จาก โบสถ์ที่มีการออกแบบในสไตล์หลังคาลดหลั่นตามแบบศิลปะล้านนา รวมทั้งยังมีศิลปวัตถุที่สำคัญมีหลายชิ้น เช่น พระพุทธรูปไม้จำหลัก ลงรักปิดทองปางประทานอภัยแบบล้านช้าง, พระพุทธรูปดังกล่าวมีพระเกศาเป็นปุ่มแหลมเล็ก และพระกรรณค่อนข้างแหลมและยาว สันนิษฐานว่ามีอายุในราวพุทธศตวรรษที่ 24-25

            นอกจากนี้ ยังมีธรรมาสน์ไม้แกะสลักลงรักปิดทองทุกด้านที่พนักหลังมียอดคล้ายปราสาท ด้านหน้าโบสถ์มีภาพจิตรกรรมฝาผนังอยู่เต็มหน้าบัน ภาพทั้งหมดเป็นภาพนิทานชาดกชุดพระเจ้าสิบชาติซึ่งวาดขึ้นใหม่แทนของเดิม ส่วนพระพุทธรูปในพระอุโบสถเป็นพระพุทธรูปนาคปรกก่อด้วยอิฐถือปูน เป็นศิลปะล้านช้าง ผสมอยุธยา ขนาดหน้าตักกว้าง 60 นิ้ว กว้าง 120 นิ้ว เหนือพระเศียรเป็นหัวพระยานาค 9 เศียร เป็นพระพุทธรูปที่มีความศักดิ์สิทธิ บรรดาชาวบ้านไม่ว่าจะเป็นคนไทยและประชาชนลาวจะมากราบไหว้อธิษฐานขอพรในการ เดินทางไปทำมาค้าขายให้ปลอดภัยจากภยันตรายทั้งหลายทั้งปวงเสมอ
 
            2. แก่งคุดคู้

ภาพจาก ททท.

             สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่สวยงามเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพวิวสวย ๆ โดยที่นี่ตั้งอยู่ ถนนเชียงคาน-ปากชม ห่างจากอำเภอเชียงคานประมาณ 5 กิโลเมตร โดยเปรียบเสมือนเป็นสถานที่พักตากอากาศของชาวเชียงคานก็ว่าได้ เพราะด้วยความงดงามแบบธรรมชาติ อากาศเย็นสบาย ทำให้ที่นี่ยังเป็นเสน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัสกัน
 
            แก่ง คุดคู้ มีลักษณะเป็นแก่งหินใหญ่ขวางอยู่กลางลำน้ำโขงช่วงโค้งของลำน้ำพอดี ทำให้เกิดกระแสน้ำเชี่ยวไหลผ่านแก่ง ในหน้าน้ำน้ำจะท่วมจนไม่เห็นแก่ง เวลาที่เหมาะจะชมแก่งคุดคู้ คือ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม น้ำแห้งจนสามารถมองเห็นเกาะแก่งชัดเจน มีโค้งสันทรายริมแม่น้ำ บริเวณแก่งคุดคู้มีบริการเช่าเรือยนต์ล่องแม่น้ำโขง ใช้เวลาไป-กลับประมาณ 1 ชั่วโมง ราคาแล้วแต่จะตกลง เดินทางจากตัวอำเภอเชียงคานนักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถสายรอบเมืองไปแก่งคุด คู้ได้

            3. พระพุทธบาทภูควายเงิน

 

ภาพจาก ททท.

          พระพุทธบาทภูควายเงิน ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านผาแบ่น ตำบลบุฮม อำเภอเชียงคาน มีลักษณะเป็นรอยพระพุทธบาทยาวประมาณ 120 เซนติเมตร กว้าง 65 เซนติเมตร ประดิษฐานบนหินลับมีด ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อ พ.ศ. 2478 โดยเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านในแถบนี้มาก เมื่อครั้งที่การเดินทางมาลำบากจะเชื่อกันว่าคนที่มีบุญวาสนาเท่านั้นจึงจะ มากราบไหว้ได้ คนวาสนาไม่ถึงจะมีเหตุให้มาไม่ได้ทั้งที่ตั้งใจ และทุกปีในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ทางวัดจะมีการจัดงานสมโภชประจำปี ซึ่งถือเป็นงานสำคัญมาก นอกจากนี้ ภายในวัดมีการเลี้ยงกระต่ายแบบปล่อยไว้จำนวนมาก นักท่องเที่ยวสามารถให้อาหารกระต่ายได้

          สำหรับการเดินทางใช้เส้นทางสายเชียงคาน-ปากชม ระยะทาง 6 กิโลเมตร ถึงหมู่บ้านผาแบ่น มีทางแยกเข้าบ้านอุมุง 3 กิโลเมตร จะถึงทางขึ้นเขาเป็นทางลาดยางระยะทาง 1 กิโลเมตร
 
          5. พระใหญ่ภูคกงิ้ว

          พระใหญ่ภูคกงิ้ว หรืออีกชื่อหนึ่งว่า พระพุทธนวมินทรมงคลลีลาทวินคราภิรักษ์ ตั้งอยู่ที่ภูคกงิ้ว บ้านท่าดีหมี ตำบลปากตม ประดิษฐานอยู่บนเนินเขาบริเวณปากลำน้ำเหืองจรดกับแม่น้ำโขง ปาง ลีลาประทานพร หล่อด้วยไฟเบอร์ผสมเรซิ่นสีทองทั้งองค์ สูง 19 เมตร ตัวฐานกว้าง 7.2 เมตร สร้างขึ้นโดยกองทัพภาคที่ 2 และประชาชน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 6 รอบ เมื่อ พ.ศ.2542 และในมหามงคลแห่งราชพิธีราชาภิเษก ครบ 50 ปี พ.ศ. 2543 โดยสร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 ซึ่งบริเวณรอบสามารถชมทัศนียภาพที่สวยงามของแม่น้ำโขงและประเทศลาวได้

          สำหรับการเดินทางจากตัวเมืองเลย ใช้ทางหลวงหมายเลข 201 (เลย-เชียงคาน) ไป 47 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายบริเวณสามแยกตรงไปจนถึงบ้านท่าดีหมี (ระยะทาง 20 กิโลเมตร) และเลี้ยวขวาที่โรงเรียนบ้านท่าดีหมี ไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร

          6. จุดชมวิวภูทอก

          จุดชมวิวภูทอก ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำเหืองชายแดนไทยลาว ตำบลปากตม อำเภอเชียงคาน นับเป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกหนึ่งสถานที่ มีลักษณะเป็นภูเขาสูงอยู่ริมแม่น้ำโขง ซึ่งสามารถชมความงามของแม่น้ำโขง เมืองสานะคาม ประเทศลาว และแก่งคุดคู้ได้อย่างชัดเจน อีกทั้งในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาวที่นี่จะถูกปกคลุมด้วยหมอก ซึ่งเมื่อมองจากที่จุดชมวิวแห่งนี้จะสามารถชมวิวทะเลหมอกได้อย่างชัดเจนแบบ รอบทิศทาง นอกจากนี้ ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเอาใจช่างภาพ สำหรับการถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทะเลหมอกได้อย่างสวยงามอีกด้วย
 
          7. หมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำ

          หมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำ คือ หมู่บ้านที่ชาวไทดำ หมู่บ้านตั้งอยู่ที่บ้านนาป่าหนาด ตำบลเขาแก้ว อำเภอเชียงคาน ซึ่งอพยพมาจากเมืองเชียงขวาง ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มาลงหลักปักฐานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2448 ปัจจุบันยังมีการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทดำ บ้านเรือนที่สร้างขึ้นตามแบบเอกลักษณ์ดั้งเดิมของชาวไทดำ รวมทั้งเครื่องใช้ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ในอดีต และยังมีการรวมกลุ่มทอผ้าพื้นเมือง ใครอยากสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ชาวไทดำแบบโฮมสเตย์ สามารถติดต่อได้ที่สมาคมอนุรักษ์วัฒนธรรมไทดำก่อนล่วงหน้าประมาณ 1 สัปดาห์ โทรศัพท์ 08 1048 2000, 08 4925 0771

          การเดินทางใช้เส้นทางเลย-เชียงคาน ไปประมาณ 38 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางไปบ้านนาสีจนถึงบ้านนาป่าหนาดอีกประมาณ 10 กิโลเมตร หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก หมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำ บ้านนาป่าหนาด

          8. เฮือนเก่าเมืองเชียงคาน
          และสถานที่ท่องเที่ยวสุดท้ายที่พลาดไม่ได้ คือ เฮือนเก่าเมืองเชียงคาน  หรือบ้านเก่าเมืองเชียงคาน เป็นเรือนไม้อยู่บนถนนเลียบชายโขง ตั้งอยู่ในบริเวณเขตเทศบาลตำบลเชียงคาน โดย มีวัดโบราณแทรกอยู่เป็นระยะ ๆ ซึ่งบริเวณนี้ถูกเรียกว่า ถนนคนเดินเชียงคาน ภายในมีทั้งโรงแรม ที่พัก ร้านอาหารตั้งอยู่ริมถนนเลียบแม่น้ำโขงมากมาย รวมทั้งมีสินค้าของทีระลึกที่ขึ้นชื่อ เช่น ผ้านวม มะพร้าวแก้ว ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนไม่ควรพลาดที่จะซื้อเป็นของฝาก เหมาะสำหรับเดินชมทิวทัศน์แม่น้ำโขงช่วงเช้าและช่วงกลางคืน
 
          เป็นอย่างไรบ้างคะกับสถานที่ท่องเที่ยวในเชียงคาน สำหรับหนาวนี้ใครที่วางแผนจะเดินทางไปสัมผัสอากาศหนาว พักผ่อนในบรรยากาศเงียบสงบ อย่าลืมไปเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ ที่เราได้นำมาฝากกันด้วย เพราะถ้าไม่ไปเที่ยวทั้ง 8 ที่นี้ถือว่ายังไปไม่ถึงเมืองเชียงคานนะ
 
ขอขอบคุณข้อมูลจาก

, i-san.tourismthailand.org, m-culture.in.th และloei.go.th