แจกโปรแกรมเส้นทางท่องเที่ยวหน้าหนาว นั่งรถไฟไปไหนดี

          ชวนตะลอนเที่ยวหน้าหนาว ด้วยการนั่งรถไฟชิล ๆ ดื่มด่ำกับบรรยากาศสองข้างทาง ไปเยือนแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ ของเมืองไทย

          ยามเมื่อสายลมเย็น ๆ มากระทบผิวกาย เสมือนส่งสัญญาณเป็นนัยว่าฤดูหนาวกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว ภาพของการได้ใส่เสื้อกันหนาวตัวโปรด ยืนชื่นชมธรรมชาติอยู่ที่ไหนสักแห่ง คงเป็นสิ่งที่หลายคนฝันถึง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวหน้าหนาวที่ไหนดี ? วันนี้เราเลยนำเส้นทางท่องเที่ยวหน้าหนาวมาแนะนำกัน พร้อมกับยกระดับความสนุกยิ่งขึ้น ด้วยการนั่งรถไฟฉึกฉัก ๆ ออกไปท่องเที่ยว ชมวิวทิวทัศน์ระหว่างทาง เป็นการเพิ่มสีสันให้กับชีวิต แถมยังเดินทางง่ายและปลอดภัยอีกด้วย จะมีที่ไหนบ้างนั้น ตามไปชมกันเลย

          สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาว สำหรับ "เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน" เพราะตลอดเส้นทางจะได้ดื่มด่ำกับความอุดมสมบูรณ์ของต้นไม้น้อยใหญ่ ที่ถูกปกคลุมด้วยหมอกขาวและอากาศเย็นจัด ถือเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะสั้นที่สามารถไปเดินเพลิน ๆ ได้ไม่ยาก เพราะมีวงรอบระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น ทั้งนี้ เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน เปิดให้เข้าชมระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน - 31 พฤษภาคม ของทุกปี

          ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ บริเวณกิโลเมตรที่ 42 ของถนนสายจอมทอง-ยอดดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่

          การเดินทาง : โดยสารรถไฟสายกรุงเทพ-เชียงใหม่ ลงที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ เช่ารถขับไปเองหรือโดยสารรถสองแถวไปลงที่ประตูเมือง จะมีท่ารถสองแถวอยู่ตรงข้ามตลาด (เขียนว่าไปจอมทอง) นั่งไปลงปลายทางที่วัดพระธาตุศรีจอมทอง หรือทางแยกเข้าดอยอินทนนท์ ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร แล้วต่อรถสองแถวขึ้นดอยอินทนนท์ไปกิ่วแม่ปานอีก 42 กิโลเมตร

          หมู่บ้านกลางหุบเขาขนาดกะทัดรัด แต่กลับมีเสน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วไทยอยากไปสักครั้ง เพื่อจะได้สัมผัสกับบ้านเรือนผู้คนที่แทรกซึมไปตามถนนสายเล็ก ๆ ใช้วิถีชีวิตเรียบง่าย บางหลังเปิดเป็นโฮมสเตย์ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร หรือร้านขายของที่ระลึกน่ารัก ๆ รองรับแขกผู้เยือน และไม่ควรพลาดการลิ้มลองอาหารพื้นเมืองอร่อย ๆ อย่าง “ไข่ป่าม” เมนูไข่ย่างใส่ในใบตองอยู่บนเตาถ่าน รสชาติคล้ายไข่เจียวแบบที่ไม่มีน้ำมัน ชิมแล้วจะติดใจ นอกจากนี้ใกล้ ๆ กันยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น น้ำตกแม่กำปอง ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก หรือจุดชมวิวกิ่วฝิ่น เป็นต้น

          ที่ตั้ง : บ้านแม่กำปอง หมู่ที่ 3 ต.ห้วยแก้ว อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่

          การเดินทาง : โดยสารรถไฟสายกรุงเทพ-เชียงใหม่ ลงที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ หลังจากนั้นจะเหมารถสองแถวแดงหรือเช่ารถขับไปยังแม่กำปองก็ได้แล้วแต่ความสะดวก โดยระยะทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปบ้านแม่กำปองประมาณ 50 กิโลเมตร

          ดอยฟ้างาม หนึ่งในจุดชมวิวทะเลหมอกในยามเช้าที่สวยงามของลำปาง ที่นี่สามารถมองเห็นทะเลหมอกได้แบบ 360 องศา แถมยังถูกโอบล้อมด้วยวิวทิวทัศน์ที่งดงาม สมกับการเดินทางที่จะต้องเดินลัดเลาะเขาชันสลับที่ราบ ผ่านป่าเขาน้อยใหญ่ ในระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร กับเวลา 2 ชั่วโมง เพื่อขึ้นไปยลโฉมทะเลหมอกแห่งนี้ ทั้งนี้ บนยอดดอยสามารถพักค้างแรมได้ แต่ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ล่วงหน้า สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Doiphangam at Lampang - ดอยฟ้างาม บ้านสาแพะ จังหวัดลำปาง

          ที่ตั้ง : บ้านสาแพะ ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง

          การเดินทาง : โดยสารรถไฟสายกรุงเทพ-เชียงใหม่ ลงที่สถานีรถไฟนครลำปาง โดยสารรถรับจ้าง (ที่มีให้บริการบริเวณสถานีรถไฟ) ไปลงที่คิวรถแจ้ห่ม จากนั้นนั่งรถสองแถวสีฟ้าสายลำปาง-แจ้ห่ม ลงที่ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ บ้านสาแพะ ระยะทางประมาณ 55 กิโลเมตร แล้วติดต่อรถกระบะจากชาวบ้านให้ออกมารับเพื่อเดินทางไปวัดสาแพะพนาราม ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร ที่นี่สามารถอาบน้ำ ล้างหน้าล้างตาได้ ก่อนที่รถจะไปส่งยังพระพุทธบาทสี่รอยห้วยลูด ซึ่งเป็นจุดเดินขึ้นดอย

           อำเภอเนินมะปราง ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาหินปูนและท้องทุ่งนากว้างใหญ่ บรรยากาศเงียบสงบ อากาศเย็นสบาย ที่นี่จึงเป็นจุดหมายปลายทางยามฤดูหนาวมาเยือน โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ทั้งจุดชมวิวบ้านรักไทย ไฮไลต์ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของเนินมะปราง เพราะมีสลิงชิงช้าอยู่บนต้นไม้สูง ทำให้มองเห็นวิวได้อีกรูปแบบหนึ่ง หรือชมค้างคาวนับล้านตัวบินออกหากินยามเย็น บริเวณปากถ้ำของภูเขาหินปูนในพื้นที่ ต.บ้านมุง เป็นต้น

          ที่ตั้ง : อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก

          การเดินทาง : โดยสารรถไฟสายกรุงเทพ-พิษณุโลก ลงที่สถานีรถไฟพิษณุโลก จากนั้นโดยสารรถตุ๊ก ๆ ไปที่ บขส. เก่า เพื่อต่อรถบัสสายพิษณุโลก-เนินมะปราง ระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร ใช้เวลา 1.30-2 ชั่วโมง ก็ถึง อ.เนินมะปราง ลงที่บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเนินมะปราง เพื่อสอบถามรายละเอียดได้เลย

           สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของไทย เพราะไปได้ทุกฤดูกาลและเดินทางสะดวก อีกทั้งระหว่างทางยังมีทั้งที่เที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และร้านกาแฟ ให้เลือกแวะตลอดทาง ภายในอุทยานยังเต็มไปด้วยพืชพรรณและสัตว์ป่านานาชนิด โดยมีแหล่งท่องเที่ยว เช่น น้ำตกเหวนรก น้ำตกเหวสุวัต หอดูสัตว์หนองผักชี ผากล้วยไม้ จุดชมวิว กม.30 หรืออ่างเก็บน้ำสายศร เป็นต้น หน้าหนาวนี้การนั่งรถไฟไปดื่มด่ำกับธรรมชาติก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย

           ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

           การเดินทาง : โดยสารรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ ลงที่สถานีรถไฟปากช่อง จ.นครราชสีมา แล้วต่อรถสองแถวที่ตลาด อ.ปากช่องไปยังอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร

           ผาแต้ม แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของไทย เพราะบริเวณด้านล่างของหน้าผามีภาพเขียนอายุมากกว่าสามพันปีปรากฏเรียงรายอยู่ ทั้งยังเป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งด้วย นอกจากนี้ใกล้ ๆ กันยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่างเสาเฉลียง เสาหินธรรมชาติที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำและลมนับล้านปี หรือช่วงปลายฝนจนถึงปลายฤดูหนาว หลายพื้นที่ในอุทยานจะถูกแต่งแต้มไปด้วยดอกไม้ป่านานาชนิด

           ที่ตั้ง : ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี

           การเดินทาง : โดยสารรถไฟสายกรุงเทพ-อุบลราชธานี ลงที่สถานีรถไฟอุบลราชธานี เช่ารถขับไปเองหรือโดยสารรถสองแถวไปสถานีขนส่งผู้โดยสาร ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร แล้วต่อรถตู้สายนาโพธิ์กลางไปลงที่ทางเข้าอุทยานผาแต้ม ระยะทางประมาณ 95 กิโลเมตร จากนั้นเดินเข้าไปอีก 5 กิโลเมตร หรืออีกหนึ่งวิธีคือจาก บขส. อุบลฯ ต่อรถตู้สายนาโพธิ์กลางไปลงที่อำเภอโขงเจียม ระยะทางประมาณ 110 กิโลเมตร จากนั้นเหมารถรับจ้างหรือขี่มอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ในระยะทาง 20 กิโลเมตร ได้เลย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติผาแต้ม Phataem National Park หรือโทรศัพท์ 045-252581

          หน้าหนาวนี้ชวนไปเที่ยวหนองคาย นั่งรถอีแต๊กชมวิวธรรมชาติสองข้างทาง เพื่อขึ้นไปยังยอดภูห้วยอีสัน ชมความอลังการของทะเลหมอกเหนือริมน้ำแม่โขงสองฝั่งไทย-ลาว กว้างสุดลูกหูลูกตา ในบรรยากาศเงียบสงบ ค่อย ๆ เสพความงามที่ธรรมชาติรังสรรค์ให้เราได้ยล ทั้งนี้ ไม่อนุญาตให้นำรถขึ้นไปเอง การขึ้นไปยังภูห้วยอีสันจะต้องนั่งรถอีแต๊กของชาวบ้านขึ้นไป โดยผ่านการอำนวยความสะดวกจาก อบต.บ้านม่วง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยวจังหวัดหนองคาย

           ที่ตั้ง : ภูห้วยอีสัน ต.บ้านม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย

           การเดินทาง : โดยสารรถไฟสายกรุงเทพ-หนองคาย ลงที่สถานีรถไฟหนองคาย จากนั้นโดยสารรถสกายแล็บไป บขส. เพื่อต่อรถประจำทางสายหนองคาย-เลย ระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร (มีรอบ 07.00 และ 11.00 น.) ลงระหว่างทางที่บ้านม่วง แล้วหาที่พักใกล้จุดขึ้นรถอีแต๊กที่สุด เพื่อเช้าวันรุ่งขึ้นประมาณ 05.00-05.30 น. จะได้ขึ้นรถอีแต๊กไปยังภูห้วยอีสัน ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร

          อำเภอเล็ก ๆ กลางหุบเขา สายน้ำ และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งยังมีเรื่องราววัฒนธรรมของชาวไทย-มอญอันน่าหลงใหล ที่นี่จึงเป็นที่เที่ยวหน้าหนาวในดวงใจของใครหลายคน โดยเฉพาะการได้ไปเดินดื่มด่ำกับความงามของ “สะพานมอญ” สะพานไม้ยาวที่ทอดข้ามแม่น้ำซองกาเลีย ก่อนจะไปสัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวมอญ ทั้งประเพณี อาหาร การแต่งกาย หรือบ้านเรือนที่ยังคงเอกลักษณ์เอาไว้ได้อย่างดี นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น วัดวังก์วิเวการาม (ใหม่), เจดีย์พุทธคยา, เมืองบาดาล, ถนนคนเดินสังขละบุรี และด่านเจดีย์สามองค์ เป็นต้น

          ที่ตั้ง : อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

          การเดินทาง : โดยสารรถไฟสายธนบุรี-น้ำตก (ขึ้นที่สถานีธนบุรี) ลงที่สถานีรถไฟกาญจนบุรี แล้วไปต่อรถตู้ที่สถานีขนส่งกาญจนบุรี เพื่อไปยัง อ.สังขละบุรี ระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร

           และนี่เป็นเส้นทางท่องเที่ยวหน้าหนาวที่เราหยิบมาแนะนำกัน การได้นั่งรถไฟออกไปโลดแล่นสัมผัสกับธรรมชาติ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนต่างถิ่น กินอาหารอร่อย ๆ นอนพักเพลิน ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งความสุขที่หาได้ไม่ยากเลย เอาเป็นว่าหากหน้าหนาวนี้ยังไม่มีโปรแกรมไปเที่ยวที่ไหน ลิสต์ไว้สักเส้นทางแล้วนั่งรถไฟออกเดินทางไปเที่ยวกัน

           ทั้งนี้ หากประสงค์จะเดินทาง โปรดสอบถามราคาและชนิดรถในวันเดินทางจากเจ้าหน้าที่จำหน่ายตั๋วอีกครั้ง

           หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

ขอบคุณข้อมูลจาก
www.railway.co.th, thai.tourismthailand.org