โบสถ์คริสต์สวยทั่วไทย งดงามทั้งสถาปัตยกรรมและการออกแบบภายใน

ชี้พิกัดโบสถ์คริสต์สวย ๆ น่าเที่ยวจากทุกภาคของเมืองไทย งดงามทั้งสถาปัตยกรรมและการออกแบบภายใน บางสถานที่เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว สามารถไปถ่ายรูปสวย ๆ กันได้

เราเคยนำเสนอวัดสวย ๆ ของชาวไทยพุทธกันไปบ้างแล้ว คราวนี้ขอนำเสนอวัดสวย ๆ ของชาวไทยคริสเตียนและคริสตังกันบ้าง เราได้รวบรวมโบสถ์คริสต์สวย ๆ ทั่วไทยมาไว้ที่นี่ เพื่อเป็นไอเดียในการวางแผนเที่ยวทริปหน้า เผื่อใครกำลังหาโลเคชั่นถ่ายรูปสวย ๆ รับรองไม่ผิดหวัง :) เริ่มด้วย...

1. โบสถ์กาลหว่าร์ กรุงเทพฯ

มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า วัดแม่พระลูกประคำ (Holy Rosary Church) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในย่านตลาดน้อย เป็นโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่อยู่คู่กับกรุงรัตนโกสินทร์มายาวนาน โดยหลังปัจจุบันนี้เป็นโบสถ์หลังที่ 3 สร้างในปี พ.ศ. 2407 โดยมีสถาปัตยกรรมแบบสมัยฟื้นฟูโกธิก สีเหลืองเปลือกไข่งดงาม ยอดสูง โดยที่ด้านบนยอดนั้นเป็นไม้กางเขน ด้านในตกแต่งอย่างสวยงาม หลังคาสูงโปร่ง ทรงโค้ง ประดับหน้าต่างด้วยกระจกสี มีพระแท่นหินอ่อนตั้งอยู่ด้านในสุด

สิ่งสำคัญภายในวัดมีอยู่ 2 อย่างที่โดดเด่น คือ รูปแม่พระลูกประคำ (รูปที่ใช้แห่ในการฉลองวัดทุก ๆ ปี) และรูปพระศพของพระเยซูเจ้า (นำออกมาให้ชมกันเฉพาะวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น)

ภาพจาก Warrasade27 / Shutterstock.com

          ที่ตั้ง : ซอยวานิช 2 แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. (ทุกวันอาทิตย์จะมีพิธีมิสซา)
          เฟซบุ๊ก : วัดแม่พระลูกประคำ(กาลหว่าร์) Holy Rosary Church

2. วัดซางตาครู้ส กรุงเทพฯ

ภาพจาก i viewfinder / Shutterstock.com

ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในย่านชุมชนชาวจีนที่ชื่อว่ากุฎีจีน ตรงข้ามกับฝั่งท่าเตียน เป็นโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก หลังปัจจุบันสร้างมาตั้งแต่ พ.ศ. 2459 อายุมากกว่า 100 ปี โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาและสถาปัตยกรรมฟื้นฟูคลาสสิก มีโดมอยู่ด้านบน ด้านในโปร่ง หลังคายกสูงทรงโค้ง เพดานตกแต่งด้วยลวดลายสวยงามหรูหรา มีเสาลอยรับน้ำหนักฝ้า หน้าต่างตกแต่งด้วยกระจกสีซึ่งแสดงเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับคริสต์ศาสนา สิ่งสำคัญของวัดนี้อย่างหนึ่ง ก็คือ ระฆังโบราณ โดยจะมีการตีระฆังบรรเลงเป็นเพลงต่าง ๆ ในวันสำคัญเท่านั้น

ภาพจาก rukawajung / Shutterstock.com

          ที่ตั้ง : 112 ซอยกุฎีจีน แยกซอยอรุณอมรินทร์ 4 ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ
          เวลาเปิด-ปิด : สามารถชมบรรยากาศภายนอกได้ทุกวัน ส่วนการชมด้านในนั้นจะเปิดเฉพาะเวลามิสซาเท่านั้น วันจันทร์-เสาร์ เวลา 17.00-19.30 น., วันอาทิตย์ เวลา 06.00 น., 08.30 น. และ 19.00 น.
          เว็บไซต์ : watsantacruz.org

3. อาสนวิหารอัสสัมชัญ กรุงเทพฯ

ตั้งอยู่ในย่านบางรัก ภายในพื้นที่โรงเรียนอัสสัมชัญ โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ และโรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา เป็นอาสนวิหารประจำมิสซังโรมันคาทอลิกกรุงเทพฯ สร้างขึ้นครั้งแรกเพื่อถวายแด่การที่พระแม่มารีย์ถูกรับขึ้นสวรรค์ อาคารหลังปัจจุบันมีรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาในอิตาลี มีหอคอยขนาบข้างซุ้มประตูทางเข้าทั้ง 2 ด้าน ด้านในตกแต่งอย่างสวยงามด้วยจิตรกรรมแบบเฟรสโก เพดานทรงโค้งยกสูง บรรยากาศโปร่ง บริเวณพระแท่นก็ตกแต่งอย่างสวยหรูโอ่อ่า ส่งให้ที่นี่กลายเป็นอาสนวิหารที่สวยที่สุดอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย

ภาพจาก Bangprikphoto / Shutterstock.com

          ที่ตั้ง : 23 ซอยเจริญกรุง 40 ถนนเจริญกรุง แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพฯ
          เวลาเปิด-ปิด : สามารถเที่ยวชมภายนอกได้ทุกวัน ส่วนด้านในจะเปิดเฉพาะช่วงวันและเวลาที่มีพิธีมิสซาเท่านั้น วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00 น. และ 17.15 น. วันศุกร์ต้นเดือน เวลา 19.00 น. วันเสาร์ เวลา 06.00 น. และ 17.00 น. วันอาทิตย์ เวลา 07.00 น., 08.30 น., 10.00 น. และ 17.00 น. ทั้งนี้ต้องแต่งกายสุภาพ กิริยาสำรวม งดการเดินเที่ยวชมช่วงที่มีพิธีมิสซา
          เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : assumption-cathedral.com, Assumption Cathedral,Bangkok

4. คริสตจักรที่ 1 สำเหร่ กรุงเทพฯ

ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในซอยเจริญนคร 59 เป็นโบสถ์คริสต์ของนิกายโปรเตสแตนต์ในประเทศไทย เป็นอาคารสวยที่ได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่นประจำปี 2547 จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ หลังปัจจุบันมีอายุมากกว่า 100 ปี สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2453 มีลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียวขนาดไม่ใหญ่มากนัก หันหน้าออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา มีหอระฆังสูงด้านข้าง ตัวอาคารมีสีเหลืองมัสตาร์ด ประดับด้วยปูนปั้นลวดลายต่าง ๆ สวยงาม เหนือบานประตูมีหน้าต่างกระจกสี ด้านในตกแต่งเรียบง่าย บรรยากาศโปร่งโล่งเงียบสงบ

ที่ตั้ง : 37 ซอยเจริญนคร 59 ถนนเจริญนคร แขวงสำเหร่ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : ภายนอกอาคารสามารถเที่ยวชมได้ทุกวัน ด้านในจะเปิดเฉพาะวันที่มีพิธีมิสซา วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-15.00 น.

5. อาสนวิหารนักบุญนิโคลัส กรุงเทพฯ

โบสถ์คริสเตียนออร์โธด็อกซ์แห่งนักบุญนิโคลัสผู้ศักดิ์สิทธิ์ (พระสังฆราชแห่งไมร่า) ตั้งอยู่ในโซนพระโขนง-บางนา เป็นศาสนจักรคริสเตียนออร์โธด็อกซ์ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2005 มีสถาปัตยกรรมแบบรัสเซีย สีแดงอิฐ ยอดโดมสีเขียวทอง ด้านในตกแต่งสวยหรู ผสมผสานสไตล์โรมัน เน้นสีขาว-ทอง มีจิตรกรรมฝาผนังแบบโมเดิร์นไบเซนไทน์ ภาพด้วยมือ มีคุณค่าแก่การอนุรักษ์

          ที่ตั้ง : ซอยวชิรธรรมสาธิต 36 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-19.00 น. วันอาทิตย์ พิธีบูชาศีลมหาสนิท เวลา 09.30 น. พิธีสวดภาวนาเย็น เวลา 19.00 น.
          เว็บไซต์ : orthodox.or.th

6. โบสถ์นักบุญหลุยส์ มารี เดอ มงฟอร์ต มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ บางนา จังหวัดสมุทรปราการ

ตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตบางนา มีรูปแบบสถาปัตยกรรมร่วมสมัย คือ ผสมผสานระหว่างอารยธรรมตะวันตกกับอารยธรรมตะวันออกของคริสต์ศตวรรษที่ 18-19 มีรูปแบบกางเขนดังเช่นโบสถ์และวิหารใหญ่ในคริสต์ศตวรรษที่ 13-15 มีหน้ามุขทางเข้าโบสถ์เป็นเชิงชั้นซ้อนกันแบบไทย มีประตูลงรักปิดทองแบบไทยซ้อนกัน ซุ้มประตูเป็นแบบสถาปัตยกรรมเรเนซองส์ ด้านในตกแต่งอย่างสวยหรู เน้นพื้นหินอ่อน ตกแต่งในสไตล์เรเนซองส์ มีหน้าต่างทรงสูงแบบโกธิก ประดับด้วยกระจกสี เหนือพระแท่นเป็นโดมทอง นอกจากนี้ก็มีผสมผสานศิลปะแบบไทยเข้าไปในบางจุดด้วย

ภาพจาก eakkaluktemwanich / Shutterstock.com

ที่ตั้ง : มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ บางนา ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ
เวลาเปิด-ปิด : ภายนอกสามารถเข้าเที่ยวชมได้ทุกวัน ภายในจะต้องติดต่อขออนุญาตล่วงหน้า

7. อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล จังหวัดจันทบุรี

โบสถ์คาทอลิกที่สวยที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ในชุมชนเก่าแก่ของจันทบุรีอย่างชุมชนริมน้ำจันทบูร โบสถ์หลังปัจจุบันสร้างขึ้นในช่วงราวปี พ.ศ. 2452 มีสถาปัตยกรรมแบบศิลปะโกธิก มีหอระฆังยอดแหลมสูงขนาบทั้ง 2 ข้างซุ้มประตู ด้านในตกแต่งเพดานเป็นท้องเรือไม้โนอาห์ พร้อมด้วยการตกแต่งของกระจกสีในช่องหน้าต่าง และช่องแสงเหนือหน้าต่าง ซึ่งมีอายุมากกว่า 100 ปี แต่สียังคงสวยงาม บริเวณพระแท่นปูพื้นหินอ่อน มีรูปกางเขนและพระรูปพระนางมารีอาปฎิสนธินิรมลอยู่เหนือพระแท่น บรรยากาศเงียบสงบ

          ที่ตั้ง : หมู่ 10 ตำบลจันทนิมิต อำเภอเมืองจันทบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น. และเวลา13.00-15.00 น. วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 และเวลา 13.00-16.00 น. วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 11.00-16.00 น.
          เฟซบุ๊ก : อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล จันทบุรี

8. วัดนักบุญเซนต์โยเซฟ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา เป็นโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกแห่งแรกในประเทศไทย สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา แต่โบสถ์หลังปัจจุบันนั้นสร้างเมื่อ พ.ศ. 2426 มีสถาปัตยกรรมแบบฟื้นฟูโรมาเนสก์ มีหอระฆังสูงโดดเด่นอยู่ตรงกลาง อาคารเป็นสีเหลืองมัสตาร์ด ตัดด้วยลายปูนปั้นสีขาวบริเวณซุ้มหน้าต่าง ด้านในตกแต่งเรียบง่าย หน้าต่างตกแต่งด้วยกระจกสี บริเวณพระแท่นเป็นหลังคาทรงโดมสวยโดดเด่น ในช่วงเทศกาลสำคัญจะเปิดไฟประดับสวยงาม

ที่ตั้ง : 30 หมู่ 11 ตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น.

9. วัดพระคริสตประจักษ์ (วัดเกาะใหญ่) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ตั้งอยู่ติดกับริมแม่น้ำเจ้าพระยาตรงข้ามศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ในเขตหมู่ 1 ตำบลไม้ตรา อำเภอบางไทร เริ่มสร้างวัดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 1888 มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบยุโรป มีหอระฆังสูงยอดแหลมอยู่ด้านบน ตัวอาคารเป็นสีเหลืองเปลือกไข่สวยงาม ด้านในตกแต่งเรียบง่าย มีภาพวาดฝาผนังที่เก่าแก่และสวยงาม

          ที่ตั้ง : หมู่ 1 ตำบลไม้ตรา อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
          เวลาเปิด-ปิด : ภายนอกเปิดให้เข้าเที่ยวชมตลอด แต่ด้านในจะเปิดเฉพาะช่วงวันมิสซาเท่านั้น
          เฟซบุ๊ก : วัดพระคริสตประจักษ์ เกาะใหญ่

10. วัดพระคริสตหฤทัย วัดเพลง จังหวัดราชบุรี

ตั้งอยู่ริมคลองแควอ้อม ในเขตตำบลวัดเพลง อำเภอวัดเพลง จังหวัดราชบุรี เป็นโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก หลังปัจจุบันสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2446 รวมอายุมากกว่า 100 ปี โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิก ด้านหน้าเป็นหอคอยทรงสูงยอดแหลมขนาบทั้งสองด้านของอาคาร ตกแต่งด้วยปูนปั้นลวดลายวิจิตรบรรจงสีขาวรอบโบสถ์ ด้านในตกแต่งอย่างสวยงาม เพดานสูงโปร่ง ตกแต่งซุ้มหน้าต่างและช่องแสงด้วยกระจกสี พร้อมด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังสวยตระการตาบริเวณด้านหลังของพระแท่น

          ที่ตั้ง : ตำบลวัดเพลง อำเภอวัดเพลง จังหวัดราชบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : ภายนอกอาคารสามารถเข้าเที่ยวชมได้ทุกวัน ส่วนภายในอาคารเปิดเฉพาะวันที่มีพิธีมิสซา วันอาทิตย์ เวลา 06.30 น. และเวลา 09.00 น.
          เว็บไซต์ : ratchaburidio.or.th

11. อาสนวิหารแม่พระบังเกิด จังหวัดสมุทรสงคราม

ภาพจาก llmiimll / Shutterstock.com

ตั้งอยู่ในเขตตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของอำเภอบางคนที ด้วยเป็นโบสถ์คริสต์ที่มีความสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง ที่นี่เป็นเป็นอาสนวิหารประจำเขตมิสซังราชบุรี ของพี่น้องคริสตชนนิกายโรมันคาทอลิก สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่การบังเกิดของพระแม่มารีย์ มีสถาปัตยกรรมแบบศิลปะโกธิกสไตล์ฝรั่งเศส มีหอระฆังสูงยอดแหลมอยู่ตรงกลาง ภายในตกแต่งอย่างสวยหรูโอ่อ่า เพดานสูงโปร่ง ลวดลายวิจิตรงามตา ประดับซุ้มหน้าต่างและช่องแสงด้วยกระจกสี กลางวันจะมีแสงลอดผ่านเข้าสู่ด้านใน เป็นสีต่าง ๆ งดงามมาก

ภาพจาก Akarat Phasura / Shutterstock.com

          ที่ตั้ง : หมู่ 7 ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม
          เวลาเปิด-ปิด : ภายนอกสามารถเข้าเที่ยวชมได้ทุกวัน ส่วนด้านในจะเปิดเฉพาะวันพุธ-อาทิตย์ วันพุธ-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น. การเข้าชมด้านในควรขออนุญาตบาทหลวงที่ดูแลสถานที่ก่อน
          เฟซบุ๊ก : อาสนวิหารแม่พระบังเกิด บางนกแขวก Cathedral of the Nativity of Our Lady

12. อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล จังหวัดสกลนคร

ตั้งอยู่ในหมู่บ้านท่าแร่ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีจำนวนคาทอลิกมากที่สุดในประเทศไทย โดดเด่นด้วยโบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมร่วมสมัย ออกแบบโครงสร้างด้านหน้าเป็นรูปเรือสูงใหญ่โอ่อ่า เพื่อเป็นการระลึกถึงการอพยพมาตั้งถิ่นฐานของคริสตชนในหมู่บ้านนี้ มีไม้กางเขนอยู่ด้านบนสุด อาคารเป็นสีขาวล้วน ด้านในตกแต่งอย่างสวยงามเรียบง่าย เพดานสูงโปร่ง พื้นที่กว้างขวาง พระแท่นตั้งอย่างโดดเด่นอยู่ด้านหน้า บรรยากาศเงียบสงบ นอกจากการเยี่ยมชมโบสถ์วัดท่าแร่แล้ว นักท่องเที่ยวสามารถที่จะเที่ยวชมรอบ ๆ หมู่บ้านได้ด้วย มีอาคารเก่าแก่สไตล์ยุโรป พร้อมด้วยชุมชนเล็ก ๆ บรรยากาศน่ารักให้ได้เที่ยวเพลิน ๆ ทั้งนี้ในช่วงวันคริสต์มาสจะมีการประเพณีแห่ดาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยด้วย

ที่ตั้ง : บ้านท่าแร่ หมู่ 1 ถนนสกลนคร-นครพนม ตำบลท่าแร่ อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. ทั้งนี้ขอความร่วมมือไม่รบกวนขณะที่มีพิธีทางศาสนา

13. วัดอัครเทวดามีคาแอล ซ่งแย้ จังหวัดยโสธร

ตั้งอยู่ที่บ้านหนองซ่งแย้ หมู่ 2 ตำบลคำเตย อำเภอไทยเจริญ จังหวัดยโสธร เป็นโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก สร้างจากไม้ ถือว่าเป็นโบสถ์คริสต์ไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หลังปัจจุบันสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2490 มีสถาปัตยกรรมแบบไทย กว้าง 16 เมตร ยาว 57 เมตร ใช้แผ่นไม้มุงหลังคา และโครงสร้างทั้งหมดเป็นไม้ ส่วนหอระฆังจะอยู่ทางด้านข้างแยกออกจากตัวโบสถ์ สร้างแบบวัดไทยพุทธ ด้านในตกแต่งอย่างเรียบง่าย ช่องแสงตกแต่งด้วยกระจกสีเช่นเดียวกัน

ภาพจาก frank60 / Shutterstock.com

ที่ตั้ง : บ้านหนองซ่งแย้ หมู่ 2 ตำบลคำเตย อำเภอไทยเจริญ จังหวัดยโสธร
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.

14. คริสตจักรตรัง จังหวัดตรัง

โบสถ์คริสต์เก่าแก่ อายุเกือบร้อยปี สร้างมาตั้งแต่ปี 2458 ตั้งอยู่ริมถนนห้วยยอด ในเขตเมืองตรัง มีลักษณะเป็นโบสถ์ขนาดเล็ก รูปแบบสถาปัตยกรรมเรียบง่าย มีหอระฆังสูง 3 ชั้นอยู่ด้านข้าง อาคารเป็นสีเหลืองอ่อน หน้าต่างเป็นบานไม้เปิดคู่ ด้านในออกแบบและตกแต่งอย่างเรียบง่าย ผนังเป็นสีเหลืองมัสตาร์ด บรรยากาศเงียบสงบ ได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่นประจำปี 2552 จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์

ภาพจาก Rachata Chintawong / Shutterstock.com

ที่ตั้ง : 24 ถนนห้วยยอด ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง
เวลาเปิด-ปิด : ด้านนอกเปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ด้านในต้องติดต่อขอเข้าชมเป็นกรณีพิเศษ

ใครกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวหรือสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในวันหยุด ลองไปเที่ยวชมโบสถ์คริสต์สวย ๆ เหล่านี้กันได้ บางแห่งก็ยังสามารถเป็นโลเคชั่นถ่ายภาพสวย ๆ ได้ด้วยนะ :)

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

ขอบคุณข้อมูลจาก : rosary.catholic.or.th, watsantacruz.org, catholic.or.th, assumption-cathedral.com, asaconservationaward.com, orthodox.or.th, library.au.edu, อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล จันทบุรี, ททท., finearts.go.th, วัดพระคริสตประจักษ์ เกาะใหญ่, thailandtourismdirectory.go.th, อาสนวิหารแม่พระบังเกิด บางนกแขวก Cathedral of the Nativity of Our Lady, m-culture.go.th