เที่ยวปทุมธานี 1 วัน ทำกิจกรรมสุดชิคใกล้กรุงเทพฯ

          ด้วยจังหวัดปทุมธานีอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ขับรถเพียงแค่ไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว ซึ่งก็เป็นเรื่องดีมาก ๆ สำหรับใครที่จะพาเด็ก ๆ ไปสนุกสนานกัน เพราะไม่ต้องรีบปลุกให้เดินทางตั้งแต่เช้า และคุณพ่อคุณแม่ยังได้นอนเต็มที่ มีเวลาเตรียมข้าวของสำหรับการไปเที่ยวด้วย ทริปแบบนี้จึงสามารถออกจากบ้านได้ราว ๆ แปดโมงเช้าถึงเก้าโมงเช้าเลยค่ะ แล้วแต่ว่าใครจะสะดวก

          จุดหมายแรกของเราอยู่ที่ "พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ตั้งอยู่ที่ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมความรู้เกี่ยวกับโครงการพระราชดำริ พระราชกรณียกิจ และโครงการพระราชพิธีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องด้านการเกษตร อยากจะบอกว่าที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สามารถทำให้เราเดินเที่ยวชมได้อย่างสนุกสนาน ไม่เบื่อเลยค่ะ เพราะว่ามีการจัดแสดงอย่างน่าสนใจ และยังแบ่งออกเป็น 2 โซนใหญ่ ๆ ใครอยากเรียนรู้ข้อมูลทางวิชาการก็ชมนิทรรศการได้ด้านในอาคาร ส่วนถ้าอยากลองเรียนรู้ในทางปฏิบัติก็มีพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ซึ่งมีฐานการทำการเกษตรในแบบต่าง ๆ ให้ได้เห็นและลองทำจริง


          ในส่วนของพิพิธภัณฑ์ในอาคารก็จะแบ่งออกเป็นโซนต่าง ๆ อีกค่ะ ซึ่งก็น่าสนใจไม่น้อยเลยล่ะ ด้วยรูปแบบการจัดแสดงที่หลากหลาย มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ ทั้งห้องฉายภาพยนตร์ 3 มิติ และสื่อมัลติมีเดียต่าง ๆ อีกทั้งยังมีการจัดฉากจำลอง หุ่นจำลอง เพื่อให้ผู้เข้าชมได้สามารถจินตนาการตามได้อีกด้วย
          โซนด้านนอกก็จะมีการจัดนิทรรศการและกิจกรรมที่น่าสนใจหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันไปค่ะ สามารถอัปเดตกิจกรรมต่าง ๆ ได้ทางเฟซบุ๊กแฟนคลับพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ส่วนถ้าอยากได้รายละเอียดเพิ่มเติมอื่น ๆ เกี่ยวกับที่นี่ก็ดูได้ที่ wisdomking.or.th

          เราอยู่กันที่พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ประมาณชั่วโมงกว่า ๆ จากนั้นก็ไปยังจุดหมายต่อไปค่ะ มาเที่ยวก็อยากทำบุญด้วย ได้ยินมาว่าปทุมธานีมีวัดที่น่าสนใจหลายแห่ง หนึ่งในนั้นก็คือ "วัดโบสถ์" ตั้งอยู่ที่ตำบลบางกระบือ อำเภอสามโคก เป็นวัดเก่าแก่ สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ถือได้ว่าเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดปทุมธานีเลยก็ว่าได้


          วัดโบสถ์ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บรรยากาศดีทีเดียวค่ะ สิ่งที่โดดเด่นมาก ๆ ของวัดนี้ก็คือ รูปปั้นเหมือนของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ซึ่งมีขนาดสูงมากถึง 28 เมตร เปิดให้ประชาชนสามารถมาเคารพกราบไหว้ขอพรได้ทุกวันค่ะ


          ไหว้พระเรียบร้อยก็ได้เวลาทานข้าวเที่ยงพอดี เราตั้งใจว่าจะไปกินกันที่ตลาด 100 ปีระแหง จากวัดโบสถ์ขับไปตลาดก็ใช้เวลาราว ๆ 20-30 นาทีค่ะ ที่นี่จะมีลักษณะเป็นบ้านไม้เก่าแก่ เป็นชุมชนเล็ก ๆ ที่ยังคงใช้ชีวิตแบบดั้งเดิม มีการเปิดร้านขายของมายาวนานกว่า 100 ปี เดินเล่นได้ชิล ๆ เลยค่ะ



          และร้านอาหารที่มีชื่อเสียงของตลาด 100 ปีระแหงก็คือร้านแปโภชนา ตั้งอยู่ริมคลองระแหง บรรยากาศสบาย ๆ มีเมนูอาหารให้เลือกหลายเมนูเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นยำสามกรอบ ปลาช่อนทอดแดดเดียว ผัดขี้เมาปลากราย ผัดคะน้าปลาเค็ม ปลาหมึกผัดพริกแกง กุ้งทอดกระเทียม เป็นต้น และด้วยความหิวของเราก็เลยไม่ได้ถ่ายภาพใด ๆ ไว้เลยค่ะ แต่รับรองความอร่อย อิ่มแปล้ในราคาเบา ๆ ^^

          เอาล่ะได้เวลาไปใช้แรงกันแล้ว ที่เที่ยวในตอนบ่ายของวันนี้เราจะพาไปดำนากัน ! เรามุ่งหน้าไปกันที่ "บ้านครูธานี หอมชื่น" ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับการทำนา นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตชาวนาจริง ๆ ได้ลองดำนาในท้องทุ่งนากว้างใหญ่กันด้วย ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สนุกสนานกันได้

          บ้านครูธานี หอมชื่น ตั้งอยู่ที่ตำบลระแหง อำเภอลาดหลุมแก้ว การเข้าเที่ยวชมที่นี่จะต้องมาเป็นหมู่คณะค่ะ เพราะว่าจะมีการจัดกิจกรรมให้ผู้มาเยือนได้ทำกัน เหมาะมาก ๆ สำหรับการมาเที่ยวกันเป็นครอบครัว



          แรกเริ่มนั้นก็เดินชมบ้านเรือนไทยให้อาหารย่อยกันก่อนค่ะ เป็นบ้านเรือนไทยโบราณสวยงามมากทีเดียว มีข้าวของเครื่องใช้เก่า ๆ มากมาย เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปอดีตเลยล่ะ เดินชมบ้านเรียบร้อย ก็มาฟังเรื่องราวดี ๆ และสนุก ๆ จากครูธานี หอมชื่น กัน ได้รู้จักพี่ควายตัวใหญ่และลองขี่ เด็ก ๆ ชอบมากเลย

          ด่านต่อมาเราจะไปเก็บไข่ในเล้ากันค่ะ มันก็จะตื่นเต้นหน่อย ๆ เพราะเคยแต่ซื้อไข่ตามตลาด ไม่เคยมาเก็บถึงที่แบบนี้เลย สนุกไปอีกแบบ


          และแล้วก็ได้เวลาไปลุยท้องนากัน ให้เด็ก ๆ เปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมพร้อมลุย แล้วก็ฟังครูธานีและวิทยากรอธิบายเล็กน้อยถึงวิธีการดำนา แล้วก็ค่อย ๆ ลุยโคลนลงไปได้เลย ลุย ! ใครว่าดำนาง่าย มันไม่ง่ายเลยค่ะ ลองคิดดูสิว่าชาวนาต้องก้ม ๆ เงย ๆ อยู่แบบนี้เกือบทั้งวัน กว่าจะดำนาได้ 1 แปลง แดดก็ร้อน เท้าต้องอยู่แต่ในโคลน โอ๊ย...สัญญาเลยค่ะว่าหนูจะเป็นเด็กดี จะกินข้าวให้หมดจาน ^_^ สำหรับใครที่สนใจการทำกิจกรรมที่บ้านครูธานี สามารถดูรายละเอียดได้ที่ เฟซบุ๊กครูธานี หอมชื่น

          เป็นอีก 1 วัน ที่ผ่านไปแบบมีความสุขมาก ๆ ได้ลองทำอะไรใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทำ ได้เห็นรอยยิ้มของเด็ก ๆ และพ่อแม่ ถือได้ว่าเป็นการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่ช่วยทั้งเพิ่มพูนความรู้ให้กับเด็ก ๆ และยังสร้างความสัมพันธ์ดี ๆ ให้เกิดขึ้นในครอบครัวอีกด้วย มันดีขนาดนี้ก็ลองมาตามรอยกันได้นะคะ :)


ขอขอบคุณ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกรุงเทพฯ