9 ที่เที่ยวเดือนพฤษภาคม ต้นฤดูฝนไปเที่ยวไหนดี

1. งานประเพณีบุญบั้งไฟยโสธร

          งานประเพณีบุญบั้งไฟยโสธร เป็นประเพณีเก่าแก่ของคนยโสธร ที่มีการสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน โดยมีความเชื่อกันว่าการจุดบั้งไฟนั้นจะเป็นการขอฝนจากพญาแถนตามนิทานปรัมปราที่เล่าต่อกันมา ซึ่งประเพณีนี้จะจัดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี และในปี 2560 ก็จะมีการจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟยโสธร ในวันที่ 11-14 พฤษภาคม 2560 ณ วิมานพญาแถน และหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองยโสธร

          นักท่องเที่ยวจะได้ชมการแสดงแสง สี เสียง สุดตระการตา และละครบุญบั้งไฟ "ตำนานพญาคันคาก", การประกวดธิดาบั้งไฟโก้, การประกวดขบวนแห่สวยงาม, การประกวดบั้งไฟแฟนซี, การแข่งขันบั้งไฟขึ้นสูง และการประกวดบั้งไฟโบราณ ฯลฯ พร้อมทั้งยังจะได้เลือกซื้อสินค้า OTOP ในราคาย่อมเยาอีกด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ thainews.prd.go.th

2. งานผลไม้ภาคตะวันออก



          ได้เวลาเตรียมตัวไปอิ่มอร่อยกับผลไม้ไทยกันแล้วค่ะ ใครที่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยจะไปกินบุฟเฟ่ต์ผลไม้ของภาคตะวันออก เตรียมพุงให้พร้อมได้เลย เพราะเดือนนี้จะมีหลายสวนที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมสวนและชิมผลไม้แบบบุฟเฟ่ต์ในราคาเบา ๆ ซึ่งมีทั้งทุเรียน เงาะ มังคุด สละ และลองกอง ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ททท.สำนักงานระยอง หรือโทรศัพท์ 0 3865 5420

3. ชมผีเสื้อหลากสีสัน ณ แคมป์บ้านกร่าง แก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี


          ช่วงหน้าร้อนเข้าสู่หน้าฝน จะเป็นช่วงเวลาที่เหล่าผีเสื้อจะออกมาหากินตามโป่งในป่ากันเยอะมาก ซึ่งภายในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ก็มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีหลายจุดที่เป็นโป่งเค็ม ทำให้ในช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี มีผีเสื้อหลากหลายสายพันธุ์และสีสันพากันออกมาอวดโฉมความสวยงามกันอย่างตระการตา เมื่อรวมกับสภาพป่าเขาสีเขียวขจี และอากาศที่เย็นสบายบริสุทธิ์ บอกได้เลยว่าห้ามพลาดที่จะไปเที่ยวชม

4. ชมโลมาสีชมพู อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช

 
          โลมาสีชมพู หรือโลมาหลังโหนก สามารถพบได้ในบริเวณน่านน้ำทะเลของเมืองขนอม ซึ่งสามารถไปเที่ยวชมกันได้ตลอดทั้งปี แต่ในช่วงเดือนพฤษภาคม คลื่นลมทะเลจะเงียบสงบ จะมีโอกาสได้พบเจอปลาโลมาสีชมพูมากเป็นพิเศษ เป็นกิจกรรมที่สามารถเที่ยวกันได้ทั้งครอบครัว นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเหมาเรือได้ที่บริเวณแหลมประทับ อำเภอขนอม ราคา 1,000 บาท/7 ท่าน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ชมรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านแหลมประทับ โทรศัพท์ 08 7282 7761


5. จุดชมวิวเขาแดง อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

          อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวประจวบคีรีขันธ์ที่มีความน่าสนใจและสวยงามมาก ๆ โดยจะมีจุดท่องเที่ยวหลากหลายแบบ ทั้งภูเขา ถ้ำ ทะเล ฯลฯ หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวเขาสามร้อยยอดที่น่าไปเที่ยวมากในช่วงเดือนพฤษภาคม ก็คือ "จุดชมวิวเขาแดง" ทางขึ้นยอดเขาอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 400 เมตร และต้องเดินขึ้นเขาไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติอีกประมาณ 400 เมตร ใช้เวลาไป-กลับ 1 ชั่วโมง

          ที่จุดชมวิวเขาแดง นักท่องเที่ยวจะได้เห็นวิวทิวทัศน์โดยรอบของอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด โดยเฉพาะในช่วงเช้าและช่วงเย็น สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินได้อย่างสวยงามมาก ๆ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด โทรศัพท์ 0 3282 1568

6. อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์


          ช่วงเดือนพฤษภาคมเป็นช่วงต้นฤดูฝน ซึ่งธรรมชาติของป่าเขาจะเริ่มเขียวขจี อากาศเย็นสบาย ไม่เฉอะแฉะมากนัก เหมาะที่จะไปเที่ยวชมภูเขาสวย ๆ ซึ่งประจวบเหมาะพอดีที่กล้วยไม้เอื้องบุษราคัมภายในอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ จะออกดอกสีเหลืองบานสะพรั่งให้เราได้ชมกัน นักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าไปชมกล้วยไม้เอื้องบุษราคัม สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ให้พาเที่ยวชมได้ที่บริเวณที่ทำการอุทยาน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว โทรศัพท์ 08 1962 6236

7. ดำน้ำชมปะการัง กองหินโลซิน จังหวัดปัตตานี



 
          ไม่ใช่เพียงแค่ท้องทะเลทางฝั่งอันดามันเท่านั้นที่สวยงาม ทางฝั่งอ่าวไทยในส่วนของจังหวัดปัตตานีก็มีท้องทะเลที่สวยงามเช่นกัน โดยเฉพาะบริเวณกองหินโลซิน ซึ่งเป็นเพียงเกาะหินเล็ก ๆ กลางทะเลอ่าวไทย เป็นแหล่งดำน้ำลึกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของไทยเลยก็ว่าได้ เพราะใต้ท้องทะเลที่นี่น้ำจะใสแจ๋ว เต็มไปด้วยแนวปะการังที่สมบูรณ์ หลากสีสันและสายพันธุ์อีกทั้งยังมีสัตว์ทะเลมากมาย ถ้าโชคดียังจะได้พบกับฉลามวาฬอีกด้วย

8. เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี


          เกาะเต่า ตั้งอยู่ในท้องทะเลอ่าวไทย เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่มีธรรมชาติท้องทะเลอุดมสมบูรณ์และสวยงามมาก ๆ ในช่วงเดือนพฤษภาคม ท้องทะเลทางฝั่งนี้จะยังมีคลื่นลมสงบ และบรรยากาศเงียบสงบมาก สามารถมาเที่ยวกันได้แบบชิล ๆ น้ำทะเลใส มองเห็นแนวปะการังและปลาต่าง ๆ ใต้ทะเลได้อย่างชัดเจน ที่พักก็มีให้เลือกหลากหลายแบบ ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่แน่นอน

9. ไร่ชาฉุยฟง จังหวัดเชียงราย


          ไร่ชาฉุยฟง ตั้งอยู่ที่อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม บริเวณร้านกาแฟจะตั้งอยู่บนเนินเขา ซึ่งสามารถชมวิวไร่ชาสีเขียวได้ไกลสุดลูกหูลูกตา นักท่องเที่ยวสามารถที่จะไปเดินเที่ยวชมในไร่ชาได้ หรือจะนั่งจิบชาเขียวคุณภาพดี ชิมเค้กและขนมอร่อย ๆ อยู่บริเวณร้านกาแฟที่ออกแบบมาอย่างสวยเก๋ก็ได้ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ชาคุณภาพระดับพรีเมียมให้เลือกซื้อไปเป็นของฝากอีกด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก ไร่ชาฉุยฟง

          อื้อหือ...เห็นสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งแล้ว ต้องบอกว่าน่าสนใจไม่ใช่เล่นเลยทีเดียว ใครที่อยากหาทริปเที่ยวช่วงต้นฤดูฝน ก็ลองดูแหล่งท่องเที่ยวเหล่านี้ไปพิจารณากันนะคะ :)

          หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง ข้อมูล ณ วันที่ 21 เมษายน 2560

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
thainews.prd.go.th, ชมรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านแหลมประทับ, เฟซบุ๊ก ททท.สำนักงานระยอง, park.dnp.go.th, park.dnp.go.th, เฟซบุ๊ก ไร่ชาฉุยฟง