สแตนลีย์ มินิเวนเจอร์ เมืองจำลองมีชีวิต ที่เที่ยวกรุงเทพฯ แห่งใหม่

          นายเอกภาสน์ เตพละกุล ผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร บริษัท สแตนลีย์ มินิเวนเจอร์ จำกัด ระบุว่า ตั้งเป้าที่จะพัฒนาและผลักดันให้ สแตนลีย์ มินิเวนเจอร์ เป็น 1 ใน 10 สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ ที่มีความโดดเด่นทั้งแนวคิด พื้นที่ ตลอดจนก่อตั้งโดยคนไทยและใช้ช่างฝีมือชาวไทยในการสร้างสรรค์งานทุกขั้นตอน ภายใต้คอนเซ็ปต์ Perspective of Happiness and TO be Little Again เพื่อสร้างความสุขและแรงบันดาลใจให้ทุกคนที่ได้มาเยี่ยมชมเหมือนกลับไปสัมผัสความสุขในวัยเด็กอีกครั้ง ที่นี่ได้รวบรวมความแตกต่างจากสถานที่สำคัญทั่วโลกไว้ใน 11 โซน โดยใช้งบประมาณการลงทุนกว่า 100 ล้านบาท

          ทั้งนี้ภายในสแตนลีย์ มินิเวนเจอร์ ประกอบด้วย 11 โซนแห่งความสุขและความมหัศจรรย์ ที่รวบรวมพัฒนาการของมนุษย์ที่ผ่านกาลเวลา ได้เห็นภาพในหลากหลายมุมมอง ตั้งแต่โลก สิ่งแวดล้อม อารมณ์ และความรู้สึกของคนในแต่ละห้วงเวลาและในพื้นที่ที่แตกต่างกัน ได้แก่

          1. เมืองแห่งทรัพยากรที่เป็นต้นกำเนิดชีวิต (Resource Town)

          เมืองนี้คือการรวบรวมทรัพยากรต่าง ๆ ที่จำเป็นมาอยู่ในที่แห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นเขื่อน Hoover Dam ที่ได้รับการรับรองว่าเป็นที่สุดในวิศวกรรมโลก ถือเป็นไฮไลท์เด็ดของโซนนี้, เหมืองแร่ดีบุกที่แปรรูปเป็นของใช้จำพวก พลาสติก จาน ชาม ฯลฯ, โซนก่อสร้างที่จำลองให้เห็นถึงขั้นตอนการทำงานของช่างก่อสร้าง และเหมืองแร่ทองคำให้ได้ตื่นตาตื่นใจ

          2. เมืองเกษตรกรรมและการทำปศุสัตว์ (Organic Farm)

          หลังจากที่เราค้นพบทรัพยากรธรรมชาติ และเริ่มเข้าถึงการใช้ประโยชน์ต่าง ๆ จากทรัพยากรมาแล้ว สแตนลีย์ มินิเวนเจอร์ จะพาคุณก้าวเข้าสู่ความอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ ด้วยการเติมพื้นที่ด้วยสีเขียวแสนชอุ่มให้มากที่สุด อุดมไปด้วยต้นไม้และทุ่งหญ้าเขียวขจี การใช้ชีวิตของคนในเมืองนี้จะเป็นไปอย่างเรียบง่ายและพึ่งพาธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการปลูกสวนผัก-ผลไม้ การทำฟาร์มสัตว์ และการผลิตไฟฟ้าจากแรงลม ถือว่าเป็นไฮไลท์เด็ดของโซนนี้เพราะเรามีกังหันลมที่ทำเองด้วยฝีมือช่างไทย

          3. เมืองแห่งประวัติศาสตร์และอารยธรรม (Residential and Historical Town)

          เริ่มมาเข้าถึงตัวเมืองมากยิ่งขึ้น กับโต๊ะที่แบ่งได้เป็นสองรูปแบบคือเมืองอเมริกาและยุโรป ฝั่งแรกที่เป็นอเมริกานั้นจะได้เห็นถึงภาพของเมืองที่มีความแข็งแรงในเรื่องของคอนเซ็ปต์การใช้งาน ดีไซน์จะออกมาง่ายและไม่หวือหวามากนัก ต่างกับของยุโรปที่เน้นไปในเรื่องของดีไซน์และความวิจิตรงดงาม สังเกตได้จากการออกแบบหน้าต่าง ประตู และผังเมือง ที่ให้ความโรแมนติกในแบบสไตล์ยุโรป ถือเป็นไฮไลท์ที่สำคัญของโต๊ะนี้เลยก็ว่าได้

          4. เมืองแห่งจุดเริ่มต้นของการคมนาคมและความบันเทิง (Transportation and Entertainment)

          เมืองที่รถไฟเป็นพระเอก เพราะจะได้เห็นไฮไลท์ที่ทุกคนจะต้องประทับใจกับ Round House เป็นโกดังเก็บรถไฟที่หาชมยากมากแม้กระทั่งของจริงก็ตาม อย่างที่ประเทศไทยก็มีแค่ที่เดียวที่ได้ชมคือลำปางเท่านั้น ถัดมาจาก Round House ก็มาถึงฝั่งของความบันเทิงที่จะได้เห็นสวนสนุก คอนเสิร์ต และไฮไลท์อีกอย่างหนึ่งคือสนามบอลขนาดใหญ่ที่เราย่อส่วนมาให้คุณได้ชมกันแล้ว

          5. เมืองแห่งทะเลทราย (Desert)


          จะได้เห็นการเดินทางของคาราวานพ่อค้ากลางทะเลทราย และแน่นอนไฮไลท์ที่สำคัญของทะเลทรายจะขาดไม่ได้ถ้าไม่มีโอเอซิส ที่นี่ทำโอเอซิสจำลองมาอยู่บนโต๊ะนี้เรียบร้อย นอกจากนั้นยังได้ตื่นตาตื่นใจไปกับสวนสัตว์ โดยใส่สัตว์ที่น่ารักมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ม้าลาย ฮิโปโปเตมัส ยีราฟ หมีโคอาลา ฯลฯ และสุดท้ายกับมิวเซียมไดโนเสาร์ ที่คุณจะได้เห็นไดโนเสาร์หลากหลายสายพันธุ์


          6. เมืองแห่งท้องทะเล (Beach)

          ภาพของการพักผ่อนหย่อนใจมีแน่นอนที่โต๊ะแห่งนี้ เพราะคุณจะได้เห็นหาดทรายและทะเลสีมรกต เรียกได้ว่าแค่เห็นก็อยากพักร้อนแล้ว และไฮไลท์เด็ดของโต๊ะนี้คือเรือเก่าแก่ที่จมอยู่ใต้ทะเลลึก ที่ให้คุณมาลองดูข้างในสิว่ามีสมบัติซ่อนอยู่หรือเปล่า อาจจะได้เห็นโจรสลัดในโต๊ะนี้ก็เป็นได้

          7. ถ้ำแห่งกาลเวลา (Cave)

          ในถ้ำนี้เราจะได้เห็นสิ่งที่แปลกพิสดาร อะไรที่คุณไม่คาดคิดว่าจะเจอก็สามารถเจอได้ที่ถ้ำแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นต้นถั่วและพืชพรรณยักษ์ที่ประหนึ่งหลุดมาจากแฟรี่เทล ไดโนเสาร์สัตว์ยุคกำเนิดโลก ค้างคาวที่นอนห้อยหัว มังกรพ่นไฟ ภาพของการทำรังของนกนางแอ่น สุดท้ายกับมนุษย์ถ้ำยุคหิน เรียกได้ว่าทุกอย่างคือไฮไลท์ของโต๊ะนี้

          8. เมืองท่าสีขาว (Port)

          เมืองท่าที่มีหิมะปกคลุมทั่วทั้งโต๊ะ ที่มีความกว้างถึง 12 เมตร คุณจะได้เห็นความน่ารักของสัตว์ขั้วโลก เช่น เพนกวิน หมีโพลาร์ นอกจากนั้นยังมีกระเช้าลอยฟ้าขยับได้จริงอีกด้วย ยังไม่หมดแค่นี้คุณยังได้เห็นการทำงานของเครนยกคอนเทนเนอร์ที่ทำงานเสมือนจริงร่วมกับเรือขนสินค้าขนาดใหญ่

          9. สนามบินไร้ขอบฟ้า (Airport)

          โต๊ะที่เป็นไฮไลท์มากที่สุดของสแตนลีย์ มินิเวนเจอร์ เป็นเมืองแห่งการพบพานและจากไป คุณจะได้เห็นถึงฉากโรแมนติกต่าง ๆ ในหนังเกาหลี ที่นางเอกรอคอยการกลับมาของพระเอกที่สนามบิน ภาพการจากไปของคู่รัก หรือจะเป็นการจากลาของพ่อแม่ลูกที่ลูกไปเรียนต่อยังต่างประเทศ ภาพความซึ้งทั้งหมดเรารวบรวมมาไว้ให้คุณได้ชมกันแล้ว นอกจากจะได้เห็นฉากซึ้ง ๆ กันไปแล้ว ยังได้เห็นถึงความอลังการของการ Take Off และ Landing ของเครื่องบินของสายการบินต่าง ๆ มากกว่า 30 ลำ รวมไปถึงเครื่องบินเจ็ทของทหารด้วย สมจริงและตระการตาอย่างแน่นอน และยังโชว์ระบบการจัดการของสนามบินอย่างละเอียดยิบ

          10. ย่านธุรกิจพันล้าน (CBD)

          หลังจากบินไปกับสนามบิน..ไร้ขอบฟ้า สแตนลีย์ มินิเวนเจอร์ ได้พาคุณก้าวเข้าสู่ความรุ่งเรืองของย่านธุรกิจ ในโซนนี้จะเต็มไปด้วยตึกระฟ้าที่โด่งดัง ไม่ว่าจะเป็น Chrysler Building, Oakland Tower, Empire State, World Financial Center, Metlife Building ฯลฯ และตึกอื่น ๆ อีกมากมาย และไม่ลืมที่จะสะท้อนให้เห็นถึงย่านชุมชนแออัดที่เปรียบเทียบถึงความเป็นอยู่ระหว่างตัวเมืองอย่างเห็นได้ชัด เด็ก ๆ สามารถศึกษาภาพรวมของวิถีชีวิตคนเมืองได้ครบถ้วน เกิดการเปรียบเทียบของสังคมที่อยู่ที่เดียวกันแต่คุณภาพชีวิตแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

          11. เมืองไท๊ยไทย (Very Thai)
          ยกแลนด์มาร์กที่สำคัญของประเทศไทยมาไว้ที่โต๊ะนี้ ไม่ว่าจะเป็นอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จตุจักร ตลาดน้ำ ฯลฯ หลากหลายสารพัดกลิ่นอายความเป็นไทย หลากหลายสารพัดความเป็นไทย รวมไปถึงบ้านเมืองของไทยสมัยโบราณ และไฮไลท์ที่เด็ดที่สุดคือรถรางสมัยก่อน ที่เราเอามาให้ยลโฉมกันอีกครั้ง รับรองได้ว่ามาถึงโต๊ะนี้แล้วจะยิ้มไม่หุบ และต้องเอ่ยปากมาเลยว่า "อ้าวเฮ้ย นี่มันไทยจริง ๆ นี่นา" หากใครที่กำลังตามหาโมเมนต์ความสุขที่อยู่ประเทศไทย ลองมาตามหาดูได้ที่โต๊ะนี้

          สแตนลีย์ มินิเวนเจอร์ พร้อมเปิดอาณาจักรแห่งความสุขให้ผู้ที่สนใจเข้าเยี่ยมชมความมหัศจรรย์ของเมืองจำลอง 1:87 ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ระหว่างเวลา 10.00-20.00 น. ณ สแตนลีย์ มินิเวนเจอร์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าเกตเวย์ เอกมัย

          ค่าเข้าชมสแตนลีย์ มินิเวนเจอร์

          บัตรราคา 650  บาท (สำหรับผู้ใหญ่) และราคา 450 บาท (สำหรับเด็ก) สามารถติดตามโปรโมชั่นพิเศษสำหรับคนไทยได้ตลอดปี พิเศษ !!! สำหรับเดือนธันวาคม 2559 เรามีแคมเปญพิเศษความสุข...ใกล้พ่อ เพียงพาพ่อมาเที่ยว สิทธิพิเศษสำหรับคุณพ่อ ราคา 450 บาท เด็ก (ความสูง ตั้งแต่ 80-130 เซนติเมตร) ราคา 350 บาท

          การเดินทางไปสแตนลีย์ มินิเวนเจอร์

          - เดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีเอกมัย ใช้ทางออกประตู 4

          - เดินทางโดยรถยนต์ จากถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เลี้ยวซ้ายซอยสุขุมวิท 63 (เอกมัย) ตรงมาตามทางถึงถนนสุขุมวิท กลับรถหน้าโรงเรียนศรีวิกรม์ ศูนย์การค้าเกตเวย์ เอกมัย อยู่ทางด้านซ้าย

          ทั้งนี้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทรศัพท์ 0 2048 9924 หรือติดต่อ www.stanleyminiventure.com Facebook: StanleyMiniVenture