เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 สุดยอดงานศิลป์แห่งแดนสยาม

         เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี กรุงเทพฯ เรือพระที่นั่งอันงดงามคู่พระบารมีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

         เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 หนึ่งในเรือพระราชพิธีในกระบวนพยุหยาตราชลมารค ที่จัดสร้างขึ้นในโอกาสพระราชพิธีกาญจนาภิเษก ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2539 ความสวยงามทางด้านสถาปัตยกรรมของเรือพระที่นั่งลำนี้ เป็นสิ่งที่สะท้อนเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและประเพณีของสถาบันพระมหากษัตริย์ได้เป็นอย่างดี วันนี้เราจะพาไปชมความงดงามรวมถึงเรื่องราวประวัติความเป็นมา กว่าจะเป็นเรือพระที่นั่งอันยิ่งใหญ่ลำนี้กัน

          เป็นที่ทราบกันดีว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีความสนพระราชหฤทัยในงานด้านนาวาสถาปัตยกรรมตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ทรงได้ประดิษฐ์เรือรบจำลอง เรือใบพระที่นั่ง เรือใบมดด้วยพระองค์เอง ตลอดจนการพระราชทานนามเรือพระที่นั่งลำใหม่อย่าง "เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9" ซึ่งกองทัพเรือและกรมศิลปากรได้นำนามพระราชทานนี้มาเป็นแนวทางในการจัดสร้างเรือพระที่นั่งลำดังกล่าว และน้อมเกล้าฯ ถวายพระองค์ท่านในเวลาต่อมา ปัจจุบันเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ ถูกจัดแสดงไว้ที่ "พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี" ตั้งอยู่ปากคลองบางกอกน้อย ถนนอรุณอมรินทร์ หรือตรงข้ามสถานีรถไฟบางกอกน้อยนั่นเอง

          ลักษณะของเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9

          - ลักษณะโขนเรือ โขนเรือทำจากไม้สักทองลงรักปิดทองประดับกระจก จำหลักรูปพระนารายณ์ 4 กร ทรงเทพศาสตรา ตรี คฑา จักร สังข์ ทรงเครื่องภูษิตาภรณ์ และมงกุฎยอดชัย ประทับยืนบนหลังพญาครุฑ

          - ท้ายเรือ มีลักษณะคล้ายท้ายเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช แต่ส่วนเหนือมาลัยท้ายเป็นสร้อยหางครุฑ ปลายหางสุดของท้ายเรือเป็นกนกหางครุฑ ท้องลายของท่อนหางเป็นขนครุฑ

          - ลำเรือ ทำจากไม้ตะเคียนทอง แกะสลักลงรักปิดทองประดับกระจกตลอดทั้งลำเรือ มีลวดลายเป็นลายพุดตาน สีพื้นเรือหรือสีท้องเรือเป็นสีแดงชาด เช่นเดียวกับเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์

          - แผงพนักพิง แกะสลักลวดลายเป็นรูปครุฑยุดนาค ลงรักปิดทองประดับกระจก ภายในเหมือนเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ ลูกแก้วรับขื่อ เป็นไม้แกะสลัก ลงรักปิดทอง ประดับกระจก เสาสองต้นทาสีดำ

          - พายกับฉาก ลงรักปิดทอง ผ้าดาดหลังคากัญญาเรือ เป็นทองแผ่ลวดลายโคมแย่ง ลงรักปิดทอง ประดับกระจก พื้นแดงลายจั่ว และลายผ้าม่านโดยรอบ ประดับด้วยทองแผ่ลวด

          - ขนาดเรือ มีความยาว 44.3 เมตร ความยาวแนวน้ำหนักบรรทุกเต็มที่ 34.6 เมตร ความกว้าง 3.2 เมตร ความลึก 1.1 เมตร กินน้ำลึก 0.4 เมตร ระวางน้ำบรรทุกขับเต็มที่ 20 ตัน ใช้ฝีพาย 50 นาย

          นอกจากนี้ภายใน "พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี" ยังมีเรือพระที่นั่งลำอื่นที่ทั้งสวยงามและน่าสนใจไม่แพ้กัน ได้แก่

          - เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ โขนเรือเป็นรูปหงส์ ลงรักปิดทองประดับกระจก โปรดเกล้าฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์ชั้นอื่น ๆ ประทับเป็นแต่บางครั้ง

          - เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช โขนเรือเป็นรูปพญาอนันตนาคราช หรือนาค 7 เศียร ปกติใช้เป็นเรือพระที่นั่งรอง หรือเรือเชิญผ้าพระกฐิน หรือประดิษฐานบุษบกสำหรับพระพุทธรูปสำคัญ

          - เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ เป็นเรือพระที่นั่งรอง สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 โขนเรือจำหลักลายปิดทองรูปพญานาคเล็ก ๆ จำนวนมาก


          - เรือครุฑเหินเห็จ ไม่พบหลักฐานที่สร้าง เรือลำนี้ถูกระเบิดได้รับความเสียหายจากสงครามโลกครั้งที่ 2 พ.ศ. 2487 กรมศิลปากรจึงนำโขนเรือเดิมมาซ่อมแซมขึ้นใหม่จนถึงปัจจุบัน

          - เรือกระบี่ปราบเมืองมาร โขนเรือสลักรูปขุนกระบี่ ปิดทองประดับกระจก ไม่พบหลักฐานที่สร้าง เรือลำนี้ถูกระเบิดได้รับความเสียหายจากสงครามโลกครั้งที่ 2 พ.ศ. 2487 กรมศิลปากรได้สร้างขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2510

          - เรืออสุรวายุภักษ์ จัดว่าเป็นเรือรูปสัตว์ โขนเรือสลักเป็นรูปยักษ์ กายเป็นนกสีครามปิดทองประดับกระจก

          - เรือเอกไชยเหินหาว โขนเรือเขียนลวดลายเป็นรูปจระเข้ เรือลำนี้ได้ถูกระเบิดเสียหายในสงครามโลกครั้งที่ 2 พ.ศ. 2487 และทำการตกแต่งซ่อมแซมตัวเรือใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2508

          เรือพระราชพิธีเหล่านี้ จึงนับเป็นงานศิลปะชั้นสูงอันทรงคุณค่าที่สะท้อนให้เห็นถึงวิชาศิลปะการช่าง ที่ได้สั่งสมจนเกิดเป็นธรรมเนียมประเพณีที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน อันนำมาซึ่งความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ สำหรับใครที่สนใจสามารถเดินทางมาชมภูมิปัญญาฝีมืองานช่างชั้นเลิศได้ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี แล้วคุณจะภาคภูมิใจในความเป็นไทยแน่นอน

          ค่าเช้าชม : คนไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท สำหรับนักเรียน นักศึกษาในเครื่องแบบ พระภิกษุ สามเณร และนักบวชในศาสนาต่าง ๆ ไม่เสียค่าเข้าชม
          (*** ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2560 นักท่องเที่ยวสามาถเข้าชมฟรีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ "งดเก็บค่าเข้าชม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ-อุทยานประวัติศาสตร์ ทั่วประเทศ")
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น.
          ที่อยู่ : 80/1 ริมคลองบางกอกน้อย แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ
          เบอร์โทรศัพท์ : 0 2424 0004
          เว็บไซต์ : finearts.go.th

ขอขอบคุณข้อมูล
finearts.go.th, www3.navy.mi.th, kanchanapisek.or.th