แนะนำ 10 ที่เที่ยววันแม่ วันหยุดนี้จูงมือแม่เที่ยวไหนดี

          "วันแม่" เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่เราจะได้กลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา และยังมีเวลาให้ได้พาคุณแม่ คุณพ่อ และคนอื่น ๆ ในครอบครัวออกไปเที่ยวกัน วันนี้เราเลยหยิบเอาที่เที่ยววันแม่ มีทั้งที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ และไปแบบ 2 วัน 1 คืน มาแนะนำกัน ใครชอบแบบไหนก็เตรียมจูงมือคุณแม่ออกไปเที่ยวได้เลย

1. ถ่ายรูปเก๋ ๆ พร้อมหน้าทั้งครอบครัวที่ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค พัทยา จังหวัดชลบุรี

           ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก สามารถขับรถไปเที่ยวชมได้ ใช้เวลาแค่ประมาณ 2-3 ชั่วโมง ภายในไร่องุ่นซิลเวอร์เลคเต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้สวย ๆ มากมาย มีการจัดสวนอย่างน่ารักหลากหลายแบบ อีกทั้งยังมีกลุ่มอาคารที่ออกแบบสถาปัตยกรรมในสไตล์ยุโรปให้ได้ถ่ายภาพกันอย่างสนุกสนาน บรรยากาศโดยรอบจะเขียวขจี สดชื่น มองเห็นภูเขาลูกใหญ่รายล้อมรอบ ๆ มีรถม้าให้บริการนำเที่ยว และยังมีร้านอาหาร ร้านกาแฟบรรยากาศชิล ๆ ให้ได้นั่งกินกาแฟ กินเค้ก หรือใครจะสั่งไวน์มากินคู่กับสเต๊กคุณภาพพรีเมียมร่วมกับครอบครัว ก็เติมเต็มความสุขให้กับทุกคนได้เช่นกัน



2. นอนพักผ่อนบนแพเย็น ๆ จังหวัดกาญจนบุรี

           ใครที่มาสายนอนสายชิล ก็ต้องไม่พลาดพาคุณแม่ไปพักผ่อนนอนเล่นชิล ๆ ที่รีสอร์ตริมแม่น้ำแคว จังหวัดกาญจนบุรี คุณแม่และทุก ๆ คนในครอบครัวจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม มีป่าเขาและแม่น้ำให้ความสดชื่น เสียงนกร้องจะดังขึ้นในทุก ๆ เช้า เพื่อปลุกคุณให้ตื่นนอนมาชมสายหมอกบางเบาที่ลอยละล่องอยู่เหนือแม่น้ำ หรือถ้าอยากได้ความตื่นเต้นมากขึ้นอีกนิด ก็สามารถไปล่องแพ ลอยตามสายน้ำเย็น ๆ เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน เย็นย่ำค่ำหน่อย จุดเทียนกินข้าวอย่างอบอุ่นกับทุกคนในครอบครัว ...โอ้ว ความสุขแบบนี้อยู่ไม่ไกลตัวเลย


3. กินอาหารทะเลสุดแซ่บที่ดอนหอยหลอด จังหวัดสมุทรสงคราม

           จากอดีตที่ดอนหอยหลอดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่สวยงามและใกล้กรุงเทพฯ มาก ๆ ปัจจุบันดอนหอยหลอดก็ยังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไม่เปลี่ยนแปลง เพราะที่นี่เป็นแหล่งรวมร้านอาหารทะเลอร่อย ๆ มากมาย มีเมนูอาหารทะเลหลากหลายให้กินกันอย่างจุใจ และยังสดใหม่ รสชาติอร่อยกลมกล่อม อีกทั้งบรรยากาศริมชายฝั่งทะเลและป่าชายเลนยังทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกผ่อนคลาย นั่งกินไปคุยไปได้แบบชิล ๆ ราคาไม่แพง การเดินทางไปเที่ยวก็ง่าย ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ เท่านั้น

4. กินของอร่อยที่ตลาดน้ำท่าคา ตลาดน้ำอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม

           พาคุณแม่ไปย้อนรอยอดีตกับตลาดน้ำโบราณอย่างตลาดน้ำท่าคาและตลาดน้ำอัมพวา ทั้งสองตลาดน้ำอยู่ห่างกันไม่ไกลมากนัก จุดเด่นของตลาดน้ำทั้งสองแห่งคือชาวบ้านจะพายเรือมาขายของกันเหมือนสมัยก่อน บ้านเรือนสองฟากฝั่งยังคงเป็นเรือนแถวไม้ คงสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน ของกินมีให้เลือกหลากหลาย ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารพื้นเมือง ขนมโบราณ และผัก-ผลไม้ในท้องถิ่น ช่วงกลางวันอาจจะพากันไปอิ่มท้องที่ตลาดน้ำท่าคา แล้วบ่ายแก่ ๆ ค่อยมาเดินเล่นชิล ๆ ที่อัมพวา พาคุณแม่ล่องเรือไหว้พระ และกินอาหารเย็นสุดอร่อย ถ้าไม่กลัวดึกจนเกินไปช่วงหัวค่ำจะพาคุณแม่ไปชมหิ่งห้อยริมคลองก็ได้เช่นกัน


5. รับลมเย็น ๆ ริมทะเลปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

           ถ้าอยากไปนอนรับลมทะเลเย็น ๆ และเงียบสงบ เราขอแนะนำให้พาคุณแม่ไปเที่ยวทะเลปราณบุรี เพราะที่นี่จะมีชายหาดทอดยาว บรรยากาศเงียบสงบและสะอาดมาก ๆ ช่วงกลางวันคุณสามารถที่จะพาคุณแม่ไปเที่ยวแถว ๆ หัวหินแล้วค่อยขับรถมาเรื่อย ๆ จนมาถึงชายหาดปราณบุรี พากันไปเที่ยวชมเขากะโหลก ก่อนเข้าพักผ่อนในรีสอร์ทริมชายหาด กินอาหารทะเลสุดอร่อยริมทะเลสุดชิล เช้าตื่นขึ้นมาพร้อมกับภาพของพระอาทิตย์ขึ้นจากท้องทะเลสุดกว้างใหญ่ อากาศเย็นสบายและสดชื่น ทั้งคุณลูกและคุณแม่ก็ได้ชาร์จพลังอย่างเต็มที่


6. เดินเล่นชิล ๆ ตลาดบางหลวง ร.ศ. 122 จังหวัดนครปฐม

           หากคุณไม่ชอบความแออัดของผู้คน ตลาดบางหลวง ร.ศ. 122 อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่ใช่เล่น ที่นี่เป็นตลาดเก่าที่มีอายุมากกว่า 100 ปี บ้านเรือนต่าง ๆ ยังคงเป็นแบบดั้งเดิม ชาวบ้านใช้วิถีชีวิตกันอย่างเรียบง่าย มีการค้าขายเหมือนในอดีต ร้านค้าเก่า ๆ บางร้านยังคงเปิดให้บริการเหมือนเดิม อาทิ ร้านขายยาจีนสมุนไพร ร้านทำฟันปลอม ร้านทำทอง ร้านบัดกรีโลหะ ร้านทำเส้นก๋วยเตี๋ยว เป็นต้น มีทางเดินเล็ก ๆ ให้ได้เดินเล่นชิล ๆ เรียบริมแม่น้ำท่าจีน พร้อมทั้งมีอาหารอร่อย ๆ ให้ได้ลิ้มลองอีกเพียบ ที่สำคัญอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ไปแบบเช้าไป-เย็นกลับได้อย่างสบาย


7. ไหว้พระและกินกุ้งแม่น้ำที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

          กิจกรรมไหว้พระเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่จะพาคุณแม่ไปเที่ยวในช่วงวันหยุด เพราะนอกจากจะได้เที่ยวพักผ่อนกับครอบครัวแล้ว ยังจะได้ทำบุญเสริมบารมีและความเป็นสิริมงคลให้กับตัวเองอีกด้วย ซึ่งอยุธยาก็มีวัดให้ได้ไปเที่ยวมากมาย อาทิ วัดพนัญเชิงวรวิหาร, วัดใหญ่ชัยมงคล, วัดพระศรีสรรเพชญ์, วัดกษัตราธิราชวรวิหาร, วัดท่าการ้อง และวัดธรรมิกราช เป็นต้น


          จากนั้นช่วงเย็น ๆ ค่อยไปหาร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อให้คุณแม่และทุก ๆ คนในครอบครัวได้กินกุ้งแม่น้ำตัวโต ๆ สดใหม่ รสชาติหวานมัน เสพบรรยากาศที่เงียบสงบและผ่อนคลาย เป็นการจบทริปที่น่าประทับใจสุด ๆ


8. สัมผัสวิถีชีวิตชุมชนบ้านนาต้นจั่น จังหวัดสุโขทัย

           ชุมชนบ้านนาต้นจั่น ตั้งอยู่ที่อำเภอศรีสัชนาลัย เป็นชุมชนเล็ก ๆ สุดเงียบสงบ โอบล้อมไปด้วยภูเขาสูงใหญ่ นาข้าวสีเขียวขจี และต้นไม้นานาชนิด ชาวบ้านที่นี่ใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่าย เรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติอย่างยั่งยืน และไม่หลงลืมที่จะรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมควบคู่ไปด้วย การมาพักผ่อนที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับอากาศที่เย็นสบาย บรรยากาศเงียบสงบ ได้กินอาหารพื้นเมืองสุดอร่อย เดินเล่นในชุมชนได้อย่างเชื่องช้า ไม่ต้องรีบร้อน อีกทั้งยังจะได้เยี่ยมชมกระบวนการทำผ้าหมักโคลน, การทำตุ๊กตาบาร์โหน, เข่งไม้ไผ่ และจุดชมวิวทะเลหมอกสุดอลังการอีกด้วย ลองจินตนาการกันดูเล่น ๆ ว่าถ้าคุณแม่ได้มาสัมผัสกับบรรยากาศเหล่านี้ ท่านจะมีความสุขมากแค่ไหน

9. สูดอากาศบริสุทธิ์ที่เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา

           ใช้ชีวิตอยู่แต่ในเมืองหลวงอันวุ่นวาย คุณแม่ก็คงมีเบื่อบ้าง ลองพาคุณแม่ออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ของป่าเขากันบ้างดีกว่า ซึ่งเขาใหญ่ก็เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจมาก ๆ เพราะนอกจากภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จะเต็มไปด้วยภูเขา ต้นไม้ และสัตว์ป่ามากมายแล้ว


          นอกจากนี้บริเวณโดยรอบอุทยานยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ให้ได้ไปเที่ยวชมอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นไร่องุ่นกรานมอนเต้, ไร่องุ่นพีบีวัลเล่ย์ เขาใหญ่, เขาใหญ่ พาโนรามา ฟาร์ม, เดอะ ช็อกโกแลต แฟคทอรี่ เขาใหญ่, เขาใหญ่อาร์ต มิวเซียม, พรีโม เพียซซ่า เป็นต้น ยามค่ำคืนยังจะได้ปิ้งบาร์บีคิว กินสเต๊กสุดอร่อย นอนมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวสุดระยิบระยับ แฮปปี้กันถ้วนหน้าเลยล่ะ


10. เที่ยวน้ำตกพลิ้ว จังหวัดจันทบุรี ให้เย็นฉ่ำใจ

           ช่วงเดือนสิงหาคมเป็นช่วงเวลาที่น่าเที่ยวน้ำตกมาก ๆ เพราะยังมีฝนไม่มากนัก น้ำตกมีน้ำเยอะพอสมควร ที่สำคัญอากาศยังเย็นสบาย น่าไปนั่งเล่นพักผ่อน น้ำตกพลิ้ว จังหวัดจันทบุรี อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เท่าไร ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ประมาณ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น บริเวณน้ำตกพลิ้วจะเต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวขจี มีน้ำไหลลงผ่านหน้าผาลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่างอย่างงดงาม และไฮไลต์เด็ดของที่นี่ที่จะทำให้คุณแม่ต้องชอบก็คือสปาปลา นักท่องเที่ยวสามารถที่จะหย่อนเท้าลงไปในน้ำตกให้ปลาพลวงค่อย ๆ ตอด เป็นการคลายเครียดที่ดีมาก ๆ อีกวิธีเลยทีเดียว


           ทั้งหมดนี้เป็นไอเดียเล็ก ๆ ที่จะให้คุณได้พาคุณแม่ออกไปเที่ยวในช่วงวันหยุด สามารถที่จะนำไปปรับเปลี่ยน ปรับปรุง ต่อยอด เพื่อให้การเดินทางกับคนที่คุณรักประทับใจแบบสุด ๆ อ้อ...และวันแม่ปีนี้ก็อย่าลืมกลับบ้านไปหอมแก้มและกอดคุณแม่กันนะ

ขอบคุณข้อมูลจาก
เฟซบุ๊ก Silverlake - Pattaya, Thailand, เฟซบุ๊ก ตลาดบางหลวง ร.ศ.122, homestaynatonchan.blogspot.com