10 ที่เที่ยวอิหร่าน แลนด์มาร์กเด่น ๆ แห่งอาณาจักรเปอร์เซีย

          ที่เที่ยวอิหร่าน (Iran) ตื่นตาตื่นใจไปกับสถาปัตยกรรมสุดอลังการตามแบบศิลปะตะวันออกกลาง ตะลุยเที่ยวพระราชวัง ปราสาท สุเหร่า ภูเขาหิมะ ทะเลทราย เรียนรู้วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวอิหร่าน

          ประเทศอิหร่าน เป็นอีกหนึ่งประเทศในแถบตะวันออกกลางที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะสถาปัตยกรรมสุดอลังการ ที่ส่วนใหญ่จะเป็นศิลปะแบบเปอร์เซีย ซึ่งมีความสวยงามและหาชมได้ยาก พร้อมทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันน่าทึ่งอีกมากมาย ใครกำลังมองหาที่เที่ยวใหม่ ๆ อิหร่านถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีไม่ใช่เล่นเลยค่ะ

          ก่อนจะไปทำความรู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศอิหร่าน เรามาทำความรู้จักกับประเทศนี้กันก่อนสักนิด ประเทศอิหร่านเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ที่เรียกว่าอาณาจักรเปอร์เซีย มีพรมแดนติดกับอ่าวโอมาน อ่าวเปอร์เซีย และทะเลแคสเปียน พรมแดนด้านทิศตะวันออกติดกับประเทศอัฟกานิสถานและประเทศปากีสถาน พรมแดนด้านทิศเหนือจรดประเทศอาร์มีเนีย ประเทศอาเซอร์ไบจานและประเทศเติร์กเมนิสถาน พรมแดนด้านทิศตะวันตกติดกับประเทศอิรักและประเทศตุรกี มีกรุงเตหะราน (Tehran) เป็นเมืองหลวง ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์ มีภาษาฟาร์ซี (Farsi) หรือภาษาเปอร์เซีย เป็นภาษาราชการ

          สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำของประเทศอิหร่าน

1. Sa’ad Abad Palace เมืองเตหะราน

          Sa’ad Abad Palace เป็นพระราชวังฤดูร้อนเก่าแก่ของพระราชวงศ์กาจาร์ (Qajar Dynasty) ตั้งอยู่บริเวณเชิงเทือกเขา Sa’ad Abad Palace ทางด้านเหนือของเมืองเตหะราน ทั้งภายในและภายนอก ออกแบบและตกแต่งอย่างสวยงามตามแบบฉบับศิลปะเปอร์เซีย ภายในตกแต่งอย่างหรูหรา ภายนอกแวดล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาพรรณ และหลังจากที่มีการปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน พระราชวังแห่งนี้ก็ได้กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม

2. Golestan Palace เมืองเตหะราน


          พระราชวังโกเลสตาน หรือพระราชวังแห่งดอกไม้ (Palace of Flowers) เป็นผลงานสถาปัตยกรรมที่งดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในช่วงยุคราชวงศ์กาจาร์ สวยงามด้วยรูปทรงของอาคารที่เป็นแบบศิลปะตะวันออกกลาง และการตกแต่งอย่างหรูหราด้วยเฟอร์นิเจอร์และงานฝีมือที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ภายในห้องโถงกลางมีโคมไฟห้อยระย้าสวยงามสะดุดตา ในบางจุดตกแต่งด้วยกระจกหลากสีสัน ด้านนอกอาคารยังตกแต่งผนังอย่างงดงามด้วยกระเบื้องสีสันต่าง ๆ สร้างความน่าหลงใหลได้ในทุกมุมมองจริง ๆ พระราชวังโกเลสตานได้ถูกจดทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ปี 2013

3. The Grand Bazaar เมืองเตหะราน


          ถ้าพูดถึงตลาดท้องถิ่นที่ใหญ่และมีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ ของประเทศอิหร่าน ก็ต้องที่นี่เลยค่ะ The Grand Bazaar อยู่ใกล้กับ Arg Square ทางตอนใต้ของเมืองเตหะราน ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เป็นของพื้นเมืองของอิหร่าน คุณสามารถมาหาทุกอย่างได้เลยที่นี่ โดยเฉพาะพรมสวย ๆ เครื่องเทศ เสื้อผ้าพื้นเมือง และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมทั้งอาหารท้องถิ่นก็สามารถหาซื้อและลองชิมกันได้ที่นี่ด้วยเช่นกัน บาซาร์จะปิดทุกวันศุกร์ เปิดให้บริการวันเสาร์-พุธ ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น. และวันพฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 07.00-12.00 น.

4. Azadi Tower เมืองเตหะราน

          Azadi Tower ตั้งตระหง่านอย่างสง่างามกลางเมืองเตหะราน มีจุดประสงค์ในการสร้างเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 2,500 ปี ของการก่อตั้งอาณาจักรเปอร์เซีย สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1971 โดยใช้หินอ่อนสีขาวมากกว่า 8,000 ก้อนจากเมือง Esfahan ในการก่อสร้าง ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมของชาวอิสลามและชาวซาสซานิยะห์ (Sassanid) มีลักษณะเป็นรูปตัววายคว่ำ สูงประมาณ 50 เมตร สามารถที่จะขึ้นไปชมเมืองได้จากจุดชมวิวด้านบน ซึ่งจะมองเห็นสวนที่อยู่รอบ ๆ และเมืองเตหะรานอันกว้างใหญ่

5. ชมทัศนียภาพอันสวยงามของยอดเขาดามาวานด์


          ยอดเขาดามาวานด์ เป็นส่วนหนึ่งของแนวเทือกเขา Alborz ทางตอนเหนือของประเทศอิหร่าน ห่างจากเมืองเตหะรานประมาณ 70 กิโลเมตร เป็นภูเขาไฟที่มีรูปทรงสวยงามมากที่สุดในเอเชีย และยังเป็นภูเขาไฟที่สูงที่สุดในเอเชียอีกด้วย ซึ่งมีความสูงประมาณ 5,671 เมตร ในหน้าหนาวยอดเขาแห่งนี้จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน มีรีสอร์ทที่ให้บริการด้านการเล่นกีฬาฤดูหนาวอยู่หลายแห่ง ส่วนในฤดูใบไม้ผลิก็จะมีต้นไม้สีเขียวล้อมรอบ พร้อมทั้งดอกไม้หลากสีสัน อากาศเย็นสบาย เป็นที่เที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามมาก ๆ อีกแห่งหนึ่งของอิหร่านเลยทีเดียว

6. The Nasir al-Mulk Mosque เมือง Shiraz


          The Nasir al-Mulk Mosque เป็นมัสยิดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศอิหร่าน ตั้งอยู่ที่เมือง Shiraz สร้างขึ้นมาในช่วงยุคของราชวงศ์กาจาร์ ความโดดเด่นของมัสยิดแห่งนี้ไม่ใช่เพียงแค่สถาปัตยกรรมอันสวยงามเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการตกแต่งอย่างสวยงามหรูหราทั้งภายในและภายนอกอีกด้วย ซึ่งผู้ออกแบบอย่าง Muhammad Hasan-e-Memar และ Muhammad Reza Kashi Paz-e-Shirazi ก็ได้เลือกใช้กระจกสีสันสดใสมาตกแต่งบานหน้าต่าง ซึ่งแตกต่างจากมัสยิดของชาวอิสลามทั่ว ๆ ไป ยามที่แสงอาทิตย์สาดส่องมายังบานกระจก กระจกเหล่านี้ก็จะส่องสะท้อนสีต่าง ๆ ออกมาอย่างงดงามดั่งต้องมนตร์ กลายเป็นความน่าประทับใจที่ไม่ว่าใครได้มาอิหร่านจะต้องมาสัมผัสกันสักครั้ง

7. Persepolis เมือง Shiraz


          Persepolis เป็นเมืองโบราณของชาวเปอร์เซีย ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา Kuh-e Rahmat ที่เมือง Shiraz สร้างขึ้นโดย King Darius the Great (ช่วงก่อนคริสต์ศักราช 522-486 ปี) ซึ่งสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ สร้างขึ้นมาจากหินและดิน ตามโมเดลของเมโสโปเตเมีย ปัจจุบันยังคงเหลือซากปรักหักพังแนวที่ตั้งของเมืองเก่า มีเสาอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ตั้งตระหง่านท้าลมท้าฝนมาหลายพันปีแล้ว พร้อมทั้งยังมีภาพแกะสลักหินอันงดงามอยู่รอบ ๆ อีกหลายจุดอีกด้วย ที่นี่ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ. 1979

8. จัตุรัสอิหม่าม (Imam Square) เมืองอิสฟาฮาน


          เมืองอิสฟาฮาน (Isfahan) เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีความสำคัญของประเทศอิหร่าน เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวและสถาปัตยกรรมที่สวยงามชื่อดังก้องโลกมากมายตั้งอยู่ที่นี่ หนึ่งในนั้นก็คือบริเวณจัตุรัสอิหม่าม (Imam Square) ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองอิสฟาฮาน กว้างประมาณ 158 เมตร และยาว 507 เมตร รายล้อมด้วยอาคารตามแบบสถาปัตยกรรมในสมัยราชวงศ์ซาฟาวิยะห์ (Safavid) และสวนสวยสุดร่มรื่น โดยไฮไลท์ของที่นี่ก็คือมัสยิด Sheikh Lotfallah ซึ่งเป็นมัสยิดที่มีการออกแบบทั้งภายในและภายนอกอย่างสวยงามวิจิตรตระการตา ประดับประดาไปด้วยกระเบื้องเคลือบสีสันสวยงามตามแบบศิลปะเปอร์เซีย นอกจากนี้กลุ่มอาคารต่าง ๆ ยังมีการตกแต่งที่สวยหรูไม่แพ้กันอีกด้วย ที่นี่ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1979

9. สะพานคาจู (The Khajou Bridge) เมืองอิสฟาฮาน


          สะพานคาจู (The Khajou Bridge) เป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมที่สวยงามและมีความสำคัญของเมืองอิสฟาฮาน สร้างขึ้นตั้งแต่ในช่วงศตวรรษที่ 17 โดยชาห์อับบาสที่ 2 แห่งเปอร์เซีย (Shah Abbas II) สะพานแห่งนี้สร้างพาดผ่านแม่น้ำ Zayandeh เพื่อเชื่อมต่อระหว่างเมืองอิสฟาฮานทางตอนเหนือและทางตอนใต้ที่จะไปยังเมือง Shiraz มีความยาวประมาณ 132 เมตร กว้าง 12 เมตร สร้างขึ้นเป็น 2 ชั้น ออกแบบอย่างสวยงามตามแบบศิลปะเปอร์เซีย มีซุ้มโค้งประตู เป็นสถานที่ชมวิวแม่น้ำและนั่งพักผ่อนยามเย็นที่สวยงามมาก ๆ ซึ่งนอกจากจะสร้างขึ้นเพื่อเป็นเส้นทางสัญจรไปมาของเมืองแล้ว ก็ยังเป็นเขื่อนขนาดย่อมบนแม่น้ำ Zayandeh อีกด้วย

10. Chogha Zanbil เมือง Khuzestan

          Chogha Zanbil หรือ Tchogha Zanbil ตั้งอยู่ภายในเมือง Khuzestan ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอิหร่าน มีลักษณะเป็นซิกกูแรต (ziggurat) ขนาดใหญ่มหึมา สร้างขึ้นโดย Untash-Napirisha (1275-1240 ปีก่อนคริสตกาล) อดีตกษัตริย์แห่งจักรวรรดิ Elamite ใช้อิฐในการก่อสร้างเป็นส่วนใหญ่ แต่เดิมนั้นซิกกูแรตแห่งนี้มีความกว้างของแต่ละด้านประมาณ 105.2 เมตร สูง 53 เมตร แต่ปัจจุบันสูงเพียงแค่ 24.5 เมตรเท่านั้น รอบด้านของซิกกูแรตเป็นทุ่งกว้างใหญ่ มีทัศนียภาพที่สวยงามแปลกตา ที่นี่ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ. 1979

          Tips : ซิกกูแรต (Ziggurat) คือสถานที่ประกอบพิธีกรรมที่สำคัญทางศาสนาของชาวซูเมอร์ (Sumerians) ในยุคของอารยธรรมเมโสโปเตเมีย

          อิหร่านถือได้ว่าเป็นประเทศที่เคร่งครัดทางด้านศาสนาและยังคงมีข้อจำกัดในหลาย ๆ ด้าน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ไปเที่ยวอิหร่านอย่างประทับใจ เราจึงได้นำคำแนะนำข้อควรกระทำและไม่กระทำในอิหร่านจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน มาฝากกันค่ะ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย

          ●  1.  การเข้า/ออกเมือง

          ข้อควรกระทำ

          * ควรได้รับการตรวจลงตราก่อนเข้ามาในอิหร่าน ผู้ที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวสามารถขอ visa on arrival ได้ แต่ไม่แนะนำเนื่องจากใช้เวลานาน ความเสี่ยงสูงและอยู่ได้ไม่เกิน 15 วัน

          * ควรนำเงินสดเงินสกุลแข็งเข้ามาใช้จ่ายในอิหร่าน โดยการแลกเปลี่ยนเงินสกุลแข็งเป็นเงินท้องถิ่นทำได้ แต่ควรแลกกับร้านแลกเงินนอกโรงแรม (ในโรงแรม 1 USD = 12,000 Rials แต่ในร้านรับแลกเงิน 1 USD = 33,000 Rials) ทั้งนี้ในอิหร่านไม่มีระบบการใช้เครดิตการ์ด

          * ควรถ่ายสำเนาหนังสือเดินทางไว้ด้วย เนื่องจากเมื่อเข้าพักโรงแรม โรงแรมจะเก็บหนังสือเดินทางนักท่องเที่ยวไว้จนกว่าจะเช็กเอาท์ออกจากที่พัก

          ข้อที่ไม่ควรกระทำ

          * อย่าพำนักในอิหร่านเกินระยะเวลาที่กำหนดไว้ในการตรวจลงตรา เพราะมีโทษปรับสูง หรือแม้แต่การมาต่ออายุการตรวจลงตราในอิหร่านมีขั้นตอนที่ยุ่งยากมาก

          * ห้ามนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปยังจังหวัดทางตะวันออกเฉียงใต้ของอิหร่าน ซึ่งมีพรมแดนติดกับปากีสถานและอัฟกานิสถาน

          * ห้ามถ่ายรูปทั้งภายในและถ่ายนอกสถานที่ราชการ ป้อมค่ายทหาร หรือเรือนจำ

          * สุรา เป็นสิ่งต้องห้ามโดยเด็ดขาดในประเทศนี้ ห้ามนำเข้าสุราและดื่มสุราในอิหร่าน ผู้ฝ่าฝืนจะถูกลงโทษอย่างรุนแรง

          * การนำเข้าและบริโภคเนื้อสุกร ถือเป็นสิ่งต้องห้ามในอิหร่านเช่นกัน

          * การนำไข่ปลาคาเวียร์ซึ่งเป็นสินค้ามีชื่อเสียงมากของอิหร่านออกนอกประเทศ จะต้องซื้อไข่ปลาของทางการที่ได้รับอนุญาตจำหน่ายโดยถูกกฎหมายและมีใบรับรองจากร้านรัฐบาลเท่านั้น และนำออกได้ไม่เกิน 250 กรัม

          * พรม ซื้อได้แต่นำออกได้ไม่เกิน 24 ตารางเมตรต่อคน เว้นแต่เป็นพรมเก่า/สะสมห้ามนำออกโดยเด็ดขาด เว้นแต่จะได้รับอนุญาต

          * การนำเงินดอลลาร์ออกนอกอิหร่าน จะต้องไม่เกิน 5,000 USD ต่อคน/ต่อครอบครัว

          ●  2. การทักทาย

          ข้อควรกระทำ

          * แขกผู้มาเยือนควรทักทายคนอิหร่านด้วยภาษาง่าย ๆ ว่า ซาลาม (สวัสดีครับ) และเมสซี่ (ขอบคุณ)

          ข้อที่ไม่ควรกระทำ

          * การจับมือถือแขนสำหรับเพศตรงข้ามที่ไม่ใช่คู่สมรสเป็นสิ่งต้องห้าม

          * สัญญาณมือสากล เช่น การยกนิ้วโป้งให้กัน ในวัฒนธรรมของคนอิหร่านถือเป็นการให้ของลับ (เท่ากับการยกนิ้วกลางของสากล)

          * ผู้ชายจะไม่พึงสัมผัสมือทักทายกับผู้หญิงอิหร่าน หรือผู้หญิงต่างชาติก็ไม่ควรยื่นมือไปขอสัมผัสมือชายชาวอิหร่าน (โดยเฉพาะข้าราชการ) เพราะจะได้รับการปฏิเสธ การทักทายระหว่างผู้หญิงกับผู้ชายควรกล่าวคำว่า ซาลาม ก็เพียงพอ

         ●  3.  การแต่งกาย

          ข้อควรกระทำ

          * สุภาพสตรีในอิหร่านและสตรีต่างชาติ จะต้องผูกผ้าคลุมผมขณะที่อยู่ในที่สาธารณะตลอดเวลา แต่ไม่จำต้องสวมชุดชาดอว์ หรือชุดสีดำคลุมกายตั้งแต่ศีรษะจดเท้าอย่างชาวอิหร่าน

          * สตรีจะต้องแต่งกายมิดชิด ไม่รัดรูป เสื้อแขนยาวไม่เปิดอก/ไหล่ กางเกงขายาว  หากสวมเสื้อและกางเกงรัดรูปควรมีเสื้อคลุมทับถึงหัวเข่า (spring/winter coat)

          ข้อที่ไม่ควรกระทำ

          * ห้ามสตรีเปิดผมในที่สาธารณะ

          * สตรีห้ามแต่งกายด้วยชุดที่มองเห็นผิวพรรณของร่างกายนอกจากใบหน้าและมือ

          * สุภาพบุรุษห้ามสวมกางเกงขาสั้น/เสื้อกล้าม แต่สามารถสวมเสื้อแขนสั้นได้ในโอกาสลำลอง แต่ถ้าเป็นการเข้าสังคมอย่างเป็นทางการควรสวมเสื้อแขนยาวเท่านั้น

          ●  4. ศาสนา

          ข้อควรกระทำ

          * เคารพและปฏิบัติตามกฎของศาสนาอิสลามอย่างเคร่งครัด

          ข้อที่ไม่ควรกระทำ

          * ห้ามนำพระพุทธรูปหรือรูปบูชาเข้ามาในอิหร่าน

          * ห้ามคนที่มิใช่ชาวมุสลิมเข้าไปในมัสยิดก่อนได้รับอนุญาต เว้นแต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว

          ●  5.  อาหาร

          ข้อที่ไม่ควรกระทำ
         
          * ในเทศกาลถือศีลอดของชาวมุสลิม ไม่ควรทานอาหารในที่สาธารณะต่อหน้าชาวมุสลิม

          ●  6.  รถประจำทาง รถแท็กซี่ การข้ามถนน การสื่อสาร

          ข้อควรกระทำ

          * ในรถประจำทาง นักท่องเที่ยวหญิงและชายควรแยกตามที่นั่งที่จัดให้หญิงชายนั่ง คือชายนั่งที่นั่งแถวตอนด้านหน้า หญิงนั่งที่นั่งแถวตอนด้านหลัง

          * รถแท็กซี่ในอิหร่านจะให้บริการลูกค้าครั้งละหลายคน  นักท่องเที่ยวควรเช่าเหมาทั้งคัน แม้ราคาค่าโดยสารจะแพงขึ้น การเดินทางไปต่างจังหวัดควรเดินทางโดยเครื่องบินเพราะค่าโดยสารไม่แพงนัก

          ข้อที่ไม่ควรกระทำ

          * การข้ามถนนควรระมัดระวังให้มาก เพราะชาวอิหร่านขับรถโดยประมาท ควรเดินข้ามทางม้าลายและข้ามเป็นกลุ่ม

          * โทรศัพท์มือถือที่มีผู้ให้บริการจากประเทศไทยสามารถ Roaming และใช้การได้ในประเทศอิหร่าน แต่ Social media และ mobile contents จะใช้ไม่ได้/หรือใช้ได้ไม่ดีนัก

          * อินเทอร์เน็ตอิหร่านมีความเร็วต่ำ และมี Censorship/filtering แม้บาง web ข่าวของไทย ก็ไม่สามารถเข้าได้ เช่น Bangkok post/Nations/Manager

          ●  7.  วันทำการในอิหร่าน

          วันทำการในอิหร่านคือวันเสาร์ถึงวันพุธ วันพฤหัสบดีและวันศุกร์เป็นวันหยุดของทางการ ส่วนสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเตหะราน เปิดทำการในวันอาทิตย์ถึงวันพฤหัสบดี และหยุดในวันศุกร์และเสาร์

          ได้ความรู้ทั้งข้อปฏิบัติในการเข้าไปเที่ยวยังประเทศอิหร่านและสถานที่ท่องเที่ยวดัง ๆ ของที่นี่กันไปแล้ว ใครที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวอิหร่านก็เตรียมตัวกันให้ดีนะคะ การเดินทางจะได้ไม่สะดุด และสำหรับใครที่กำลังด้อม ๆ มอง ๆ จะไปดี ไม่ไปดีหนอ ขอบอกว่าไปเถอะค่ะ แล้วคุณจะหลงรักอิหร่านจนไม่อยากกลับบ้านเลยเชียว :)

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง ข้อมูล ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2559

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
thaiembassy-tehran.org, sameaf.mfa.go.th, destinationiran.com, iranreview.org, unesco.org, thecrowdedplanet.com, archdaily.com, muslimheritage.com, unesco.org, unesco.org, iranreview.org, isfahan.ir, unesco.org, damawand.de