สนุกสุดเหวี่ยงกับ 20 สถานที่เคาท์ดาวน์ปีใหม่ 2016

          เทศกาลปีใหม่ เป็นเทศกาลที่เราต่างรอคอย เพราะนอกจากจะมีวันหยุดยาวแล้วยังเป็นช่วงเวลาที่มีแต่บรรยากาศแห่งความสุข ตึกรามบ้านช่อง อาคารต่าง ๆ ห้างร้านค้า รวมทั้งสถานที่ราชการก็ล้วนตกแต่งสถานที่อย่างสวยงาม เมืองทั้งเมืองเต็มเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่น และสำหรับใครที่ตั้งใจอยากจะไปเคาท์ดาวน์ต่างประเทศ แต่ยังไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางจะเป็นที่ไหนดี มาชมทางนี้เลย หลังจากที่เราเคยนำเสนอ ไปเคาท์ดาวน์ 10 สถานที่สุดเลิศ เพื่อเฉลิมฉลองปีใหม่ 2016 วันนี้เราขอเพิ่มเติมเป็น 20 สถานที่เฉลิมฉลองปีใหม่สุดอลังการจากทั่วโลกมาฝากกันค่ะ ซึ่งรวบรวมโดยเว็บไซต์ fodors จะมีที่ไหนบ้าง ตามมาชมกันเลย

1. นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

          นอกจากมหานครนิวยอร์กจะเป็นเจ้าแม่แห่งการจัดงานอีเว้นท์ต่าง ๆ แล้ว ที่นี่ยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่จัดงานเฉลิมฉลองปีใหม่ในแต่ละปีอย่างยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะบริเวณ Times Square ในคืนวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี ประชาชนทั้งชาวนิวยอร์กเองและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกหลายหมื่นคนจะมารวมตัวกันที่นี่ เพื่อร่วมนับถอยหลังทิ้งทวนปีเก่าเข้าสู่ปีใหม่ไปด้วยกัน และชมการแสดงคอนเสิร์ต พร้อมการแสดงพลุสุดอลังการ เป็นความประทับใจที่ไม่ว่าใครได้เห็นก็ต้องจดจำไปตลอดชีวิต

 2. เมืองริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล


          เมืองริโอ เดอ จาเนโร เป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศบราซิล ที่มีธรรมชาติ พร้อมทั้งวัฒนธรรมที่โดดเด่น ทำให้ไม่ว่าใครได้มาเยือนก็ต้องหลงรัก โดยเฉพาะชายหาดยาว ที่สร้างความสุขให้กับชาวเมืองและนักท่องเที่ยวมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่ ที่นี่มีการจัดงานเคาท์ดาวน์ที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร ด้วยเป็นการเฉลิมฉลองริมชายหาดโคปาคาบานา (Copacabana Beach) ผู้คนมากมายจะแต่งกายมาอย่างสบาย ๆ ไม่มีชุดสูทหรือชุดราตรี มีเพียงกางเกงขาสั้น ชุดบิกินี่ สีขาว และเครื่องประดับสีแดง ซึ่งหมายถึงความโชคดีและความโรแมนติก และร่วมเคาท์ดาวน์ไปพร้อม ๆ กันบนหาดทราย โดยการแสดงพลุจะถูกจุดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่กลางทะเลนั่นเอง

 3. กรุงซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย


          แม้ว่ากรุงซิดนีย์จะเป็นเมืองที่เงียบสงบ แต่ในช่วงเฉลิมฉลองปีใหม่บริเวณอ่าวซิดนีย์จะคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวและชาวเมืองที่ออกมาร่วมดื่มด่ำเพื่อส่งท้ายค่ำคืนในปีเก่า แล้วเข้าสู่ปีใหม่อย่างสนุกสนาน ร้านค้าต่าง ๆ ริมอ่าวซิดนีย์จะจัดตกแต่งอย่างสวยงาม เพื่อรอรับปีใหม่ที่จะก้าวเข้ามา และเมื่อเข้าสู่เวลาเที่ยงคืน ทุกคนจะตั้งตารอคอยและหันหน้าไปทางเดียวกัน นั่นก็คือสะพานซิดนีย์ ฮาร์เบอร์ เพื่อรอชมการแสดงพลุสุดอลังการ ที่จะทำให้คุณจดจำซิดนีย์ได้ดีเลยทีเดียว

 4. เมืองเอดินเบิร์ก ประเทศสกอตแลนด์

          ไปลองสัมผัสการเฉลิมฉลองปีใหม่แบบคนสกอตแลนด์ หรือที่เรียกว่า ฮ็อกมาเน (Hogmanay) ในช่วงค่ำคืนที่ 31 ธันวาคม บริเวณที่สำคัญต่าง ๆ ในเมืองจะเต็มไปด้วยชาวเมืองมากมาย ที่มารอนับถอยหลังไปพร้อม ๆ กัน พร้อมกับเริ่มวัฒนธรรมเก่าแก่ หลังจากการแสดงพลุที่ยิ่งใหญ่ถูกสุดขึ้นสู่ฟากฟ้า เสียงระฆังแรกของปีใหม่จะเริ่มต้นขึ้น ทุกคนจะร่วมกันร้องเพลง Auld Lang Syne ซึ่งมีความหมายว่า อดีตที่เนิ่นนานมาแล้ว และหลังจากนั้นทุกคนก็จะสนุกสนานด้วยกัน แม้แต่คนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนก็จะพร้อมใจที่จะร่วมสนุกกับคุณในค่ำคืนนี้

 5. กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ


          แค่การไปเดินเที่ยวชมกรุงลอนดอนคงไม่ทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับลอนดอนอย่างเต็มที่แน่นอน เพราะการที่ได้ร่วมเฉลิมฉลองเหตุการณ์สำคัญอย่างปีใหม่ น่าจะทำให้คุณได้รู้จักกับลอนดอนมากขึ้นมากกว่าเดิม ลองจินตนาการดูสิ ว่ามันจะมีความสุขมากแค่ไหน ที่ได้เห็นชาวเมืองพร้อมใจกันออกมาร่วมเคาท์ดาวน์กลางใจเมือง บริเวณหอนาฬิกา Big Ben ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น มีการแสดงดนตรีคอนเสิร์ตอย่างสนุกสนาน และเมื่อช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยมาถึง พลุจำนวนมหาศาลจะพุ่งจากพื้นดินขึ้นไปสว่างไสวส่งแสงระยิบระยับบนฟากฟ้าเหนือหอนาฬิกาอย่างงดงาม ปีใหม่เมื่อใดก็อย่าปล่อยลอนดอนหลุดมือไปนะคะ

 6. ฮ่องกง


          ฮ่องกง ไม่ใช่เพียงแค่เมืองแห่งการช้อปปิ้งเท่านั้น แต่ที่นี่คือศูนย์รวมความบันเทิงอย่างแท้จริง ยิ่งในช่วงเทศกาลแห่งความสุขอย่างช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ทั่วทั้งเมืองจะประดับประดาไปด้วยของตกแต่งน่ารัก ๆ พร้อมทั้งห้างร้านต่าง ๆ จะพากันลดราคาสินค้ากันอย่างบ้าคลั่ง ขาช้อปทั้งหลายอาจจะเสียสติกันไปพักหนึ่งเลยทีเดียว และนอกเหนือจากนั้นในค่ำคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ บริเวณ Causeway Bay และย่าน Tsim Sha Tsui จะเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดที่ทำให้คุณได้แสงสีของการแสดงพลุบริเวณฮ่องกงฮาเบอร์ได้อย่างงดงามที่สุด พลุนับร้อยจะพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า เป็นประกายแสงไฟที่งดงาม ราวกับกำลังเต้นระบำไปพร้อม ๆ กับเสียงเพลงที่เปิดคลอทั่วฮ่องกง

 7. กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี


          ช่วงเทศกาลปีใหม่ชาวเมืองเบอร์ลินและนักท่องเที่ยวนับหมื่นนับแสนคนจะออกมาสนุกสนานกับปาร์ตี้กลางแจ้ง ที่มีศิลปินชื่อดังระดับโลกมากมายมาร่วมเฉลิมฉลอง โดยชาวเมืองและนักท่องเที่ยวจะมารวมตัวกันที่บริเวณประตูบรันเดนบูร์ก (Brandenburg Gate) และเสาแห่งชัยชนะ (Victory Column) ร่วมร้องเพลงและสนุกสนานไปด้วยกัน เพื่อรอคอยเวลาที่พลุจำนวนมหาศาลจะทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้าในช่วงเที่ยวคืนของวันที่ 31 ธันวาคม ซึ่งเป็นภาพที่งดงาม ต้องไปเห็นให้ได้ด้วยตาสักครั้ง !

 8. เมืองลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา


          ไม่ว่าจะเป็นวันไหน ๆ ลาสเลวัสก็ไม่เคยหลับใหล ยิ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ พวกเขานิยามการเฉลิมฉลองในลาสเวกัสไว้เพียงคำเดียว นั่นคือ บ้า! (Crazy) ทุกคนจะมาสนุกสุดเหวี่ยงไปด้วยกัน ร้องเพลงและเต้นอย่างบ้าคลั่งจนลืมชีวิต โดยมีบริเวณ Fremont Street Experience เป็นศูนย์รวมของงานเคาท์ดาวน์ ศิลปินชื่อดังระดับโลกมากมายจะมาเปิดการแสดงที่นี่ในค่ำคืนส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ทุกคนจะช่วยกันนับถอยหลังและพลุมากมายจะถูกจุดขึ้นในช่วงเที่ยงคืนอย่างยิ่งใหญ่ ใครอยากเห็นลาสเวกัสบ้าคลั่ง ต้องไม่พลาดไปเยือนที่นี่ในช่วงปีใหม่ !

 9. ประเทศบาฮามาส


          คุณอาจจะเบื่อหน่ายกับการเฉลิมฉลองปีใหม่แบบเดิม ๆ ที่ผู้คนเยอะ ๆ มีดนตรีเสียงดังกระหึ่ม งั้นต้องลองเปลี่ยนไปที่ประเทศแห่งนี้กันบ้าง ประเทศบาฮามาสซึ่งเป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติก ทางตะวันออกของรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ที่นี่เป็นสวรรค์แห่งท้องทะเลที่สวยงาม และมันคงจะดีไม่น้อยหากคุณได้ชมการแสดงพื้นเมือง พร้อมกับคนในครอบครัว หรือคนรักแบบเงียบ ๆ กับผู้คนบนเกาะเพียงไม่กี่คน แต่ถ้ากลัวจะเหงามากเกินไป ก็ลองไปเดินเที่ยวในดาวน์ทาวน์บนเกาะ Nassau ซึ่งจะมีการแสดงดนตรี คลับ บาร์ต่าง ๆ จะเปิดเพลงอย่างสนุกสนานแต่ไม่วุ่นวายเท่าเมืองใหญ่ ๆ แน่นอน

 10. เมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา

          อีกหนึ่งความสนุกสนานที่ห้ามพลาด กับการเฉลิมฉลองปีใหม่ที่เมืองนิวออร์ลีนส์ บนท้องถนนในดาวน์ทาวน์จะเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ทั้งชาวเมืองและนักท่องเที่ยว ร้านค้าต่าง ๆ พากันเปิดเพลงอย่างสนุกสนาน เพื่อนสนิทมิตรสหายที่ไม่เจอกันมานานจะได้กลับมาพบกันอีกครั้งในโอกาสนี้ บริเวณ Jackson Square จะถูกเติมเต็มไปด้วยผู้คนที่มาชมคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบายและโรแมนติกสุด ๆ และเมื่อเสียงสัญญาณเวลาแห่งปีเก่าได้หมดลง พลุมากมายจะถูกจุดขึ้นเหนือแม่น้ำมิสซิสซิปปี (Mississippi) อย่างอลังการ หลังจากนั้นยังได้สนุกสนานกันต่อที่บริเวณ Bourbon Street จนถึงเช้าเลยทีเดียว

 11. เกาะ Jost Van Dyke หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน (British Virgin Islands)


          เกาะ Jost Van Dyke จะเป็นดินแดนสวรรค์สำหรับคนที่ต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่อย่างแท้จริง ด้วยเกาะแห่งนี้เป็นเกาะที่อยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่ ตั้งอยู่ในทะเลแคริบเบียน มีลักษณะสำคัญคือเป็นเกาะที่เกิดจากภูเขาไฟ บริเวณโดยรอบมีหาดทรายขาวงดงาม พร้อมกับท้องทะเลสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ คุณจะได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติและพักผ่อนอย่างเต็มที่

 12. วอลท์ ดิสนีย์ เวิลด์ รีสอร์ท รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา

          หากคุณเป็นหนึ่งคนที่หลงใหลในเหล่าการ์ตูนดิสนีย์ นี่จะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะได้สัมผัสกับพวกเขาอย่างใกล้ชิด นอกจากในช่วงเทศกาลปีใหม่คุณจะได้พบกับกิจกรรมสุดพิเศษมากมายจากวอลท์ ดิสนีย์ เวิลด์ รีสอร์ท แล้ว เหล่าตัวการ์ตูนในดวงใจยังออกมาสร้างรอยยิ้มและสีสันให้กับดินแดนแห่งนี้ ให้คุณได้สนุกกับพวกเขาอย่างเต็มที่ ถ่ายรูปเซลฟี่ให้จุใจไปเลย

 13. กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส


          กรุงปารีส ดินแดนที่ใคร ๆ ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าโรแมนติกสุด ๆ คุณลองนึกภาพของปารีสที่เต็มไปด้วยแสงไฟระยิบระยับ ผู้คนบนท้องถนนมีแต่รอยยิ้ม ต่างออกมาดื่มด่ำกับอากาศที่หนาวเย็น โดยเฉพาะในค่ำคืนที่ 31 ธันวาคม ทั้งชาวเมืองและนักท่องเที่ยวนับล้านจะสนุกสนานไปกับการชื่นชมแสงไฟทั่วทั่วเมือง แล้วไปยังจุดสำคัญของเมืองอย่างหอไอเฟลและประตูชัยฝรั่งเศส เพื่อร่วมกันนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ และรอชมความอลังการของการแสดงพลุบนหอไอเฟล เป็นประสบการณ์ที่งดงามที่คุณไม่ควรพลาด

 14. กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย


          ถ้าพูดถึงเมืองที่โรแมนติกหนึ่งในนั้นต้องมีกรุงเวียนนาอยู่ด้วยอย่างแน่นอน ซึ่งนอกจากที่นี่จะเป็นเมืองท่องเที่ยวและพักผ่อนยอดนิยมของคนทั่วโลกแล้ว ในช่วงไฮซีซั่นอย่างปีใหม่ ที่นี่ยังเต็มไปด้วยผู้คนที่ต้องการมาดื่มด่ำกับสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ชมแสงไฟระยิบระยับทั่วทั้งเมือง ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น ใครต้องการเห็นเวียนนาในมุมกว้างก็สามารถขึ้น Giant Ferris Wheel at the Prater เพื่อชมเวียนนาแบบ 360 องศา หรือถ้าอยากเพิ่มความโรแมนติกขึ้นไปอีกนิดก็ไปล่องเรือในแม่น้ำดานูบ (Danube River) แต่ถ้าอยากชมการแสดงพลุสุดยิ่งใหญ่ก็ต้องไปที่ภูเขา Kahlenberg, ภูเขา Leopoldsberg และ ภูเขา Cobenzl ซึ่งเป็นจุดที่สามารถชมพลุได้งดงามมากที่สุด

 15. เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์


          การเฉลิมฉลองปีใหม่ที่เมืองอัมสเตอร์ดัมเป็นสิ่งที่นักเดินทางทั่วโลกใฝ่ฝัน เพราะนอกจากคุณจะได้สนุกสนานและสัมผัสกับบรรยากาศที่แสนผ่อนคลายแล้ว ยังจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมชาวดัตช์อีกด้วย บนท้องถนน อาคารบ้านเรือนรอบ ๆ จะตกแต่งประดับประดาไปด้วยหลอดไฟหลากสีสัน สร้างบรรยากาศสุดอบอุ่น อากาศที่หนาวเย็นเพิ่มความโรแมนติกให้กับเมืองแห่งนี้ขึ้นไปอีก การแสดงดนตรีของเหล่าศิลปินชื่อดังจะขับกล่อมตลอดทั้งคืน ทั้งนักท่องเที่ยวและชาวอัมสเตอร์ดัมจะได้สนุกสนานอย่างเต็มที่ อ้อ...แล้วอย่าลืมลิ้มลองขนมหวานพื้นเมืองอย่าง Oliebollen และ Appelflappen กันด้วยนะคะ

 16. เมืองเรคยาวิก (Reykjavik) ประเทศไอซ์แลนด์


          ไปสัมผัสความหนาวแบบสุดขั้วกับเมืองในฝันของใครหลายคน ณ เมืองเรคยาวิก ซึ่งจัดเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้เมืองไหนในโลก โดยเฉพาะการแสดงพลุ ที่จะถูกจุดขึ้นจากทั่วทุกมุมของเมือง ทำให้ทั้งนักท่องเที่ยวและชาวเมืองได้ชมพลุสุดตระการตาไปด้วยกันและทั่วถึง ในค่ำคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ทั่วทั้งเมืองจะอบอวลไปด้วยความสุขและความอบอุ่น หลังจากเข้าสู่วันใหม่ในปีใหม่ ผับและบาร์ต่าง ๆ จะพร้อมใจกันเปิดจนถึงเช้า เพื่อให้ทุกคนได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่หลังจากที่ต้องผจญกับงานหนักมาทั้งปี

 17. เมืองไมอามี่ รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา


          ไม่เพียงแค่ไมอามี่จะเป็นเมืองที่ใหญ่อันดับต้น ๆ ของสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ที่นี่ยังเป็นศูนย์กลางแห่งความบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งอีกด้วย ดังนั้นในช่วงปีใหม่ที่นี่จึงมีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ งานปาร์ตี้สำหรับปีใหม่จะจัดขึ้นทั่วทั้งเมือง เวทีการแสดงคอนเสิร์ตจะกระจายอยู่รอบ ๆ เมือง บาร์ต่าง ๆ มีกิจกรรมให้ร่วมสนุกมากมาย โรงแรมทั่วทั้งไมอามี่จะเสนอแพ็กเกจท่องเที่ยวและงานปาร์ตี้สุดพิเศษ และการแสดงพลุสุดยิ่งใหญ่จะถูกจุดขึ้นบริเวณ South Beach เพื่อให้คุณสนุกสนานอย่างเต็มที่บนดินแดนแห่งชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก

 18. เมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้

          เคปทาวน์เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีสีสันมาก ๆ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ชาวเมืองจะใช้เวลาในวันหยุดไปกับครอบครัว และการเฉลิมฉลองปีใหม่สุดสนุกสนาน การแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินดังมากมายจะทำให้เคปทาวน์กลายเป็นเมืองที่มีแต่ความสุข ผับ บาร์ ร้านอาหารต่าง ๆ จัดโปรโมชั่นอย่างหลากหลาย ปาร์ตี้ปีใหม่จะมีทั่วทั้งเมือง บริเวณ Camps Bay จะคลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมายที่มารอเคาท์ดาวน์และรอชมการแสดงพลุ หลังจากเที่ยงคืนผ่านพ้นไป ทั้งนักท่องเที่ยวและชาวเมืองก็จะมาสนุกสนานด้วยกันต่อที่คลับบาร์ริมชายหาด เป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำสุด ๆ

 19. กรุงเทพมหานคร

          เป็นที่ทราบกันดีว่าในกรุงเทพมหานครก็มีการจัดงานเฉลิมฉลองปีใหม่อย่างยิ่งใหญ่ ห้างสรรพสินค้า สถานที่สำคัญ สวนสาธารณะจะประดับประดาไปด้วยไฟมากมาย ศูนย์การค้าต่าง ๆ ก็ตกแต่งสถานที่ต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่อย่างสวยงาม โดยเฉพาะบริเวณ Central World ที่มีต้นคริสต์มาสที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พร้อมทั้งยังเป็นสถานที่เคาท์ดาวน์ที่สำคัญของกรุงเทพฯ อีกด้วย ศิลปินและดาราชื่อดังจะมารวมตัวกันอยู่ที่นี่เพื่อร่วมนับถอยหลังและชมการแสดงพลุสุดตระการตาไปพร้อม ๆ กัน

 20. เกาะโอวาฮู รัฐฮาวาย

          เกาะโอวาฮู เป็นเกาะที่สำคัญของรัฐฮาวาย มีประชากรหนาแน่นเป็นอันดับต้น ๆ ของรัฐ ภายในตัวเมือง Honolulu ปาร์ตี้ปีใหม่จะเริ่มขึ้นตั้งแต่ 17.00 น. ซึ่งเพียบพร้อมไปด้วยการแสดงดนตรี การแสดงโชว์มากมาย พร้อมทั้งการแสดงพลุที่สวยงาม บรรยากาศการเคาท์ดาวน์ที่นี่เป็นไปอย่างสบาย ๆ ไม่ต้องใส่สูทผูกไท เพียงใส่เสื้อผ้าบางเบาสบาย เดินเล่นบนถนนในตัวเมือง หรือนั่งรับลมเย็น ๆ ริมชายหาด แล้วรอเวลาที่วันใหม่จะก้าวเข้ามา หลังจากนั้นก็สนุกสนานกับปาร์ตี้ให้สุด ๆ ไปเลย

          ปีใหม่ใกล้เข้ามาแล้ว เหลือเวลาเพียงไม่กี่วัน ใครยังไม่มีจุดหมายปลายทางที่ไหนก็ต้องรีบวางแผนกันสักนิด เดี๋ยวจะไม่ทันไปเก็บประสบการณ์สุดพิเศษแบบนี้นะคะ :)

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
timessquarenyc.org, aboutbrasil.com, sydneynewyearseve.com, sydney-nye.com, edinburghshogmanay.com, visitlondon.com, hongkongnewyearseve.com, berlin.de/en, vegas.com, neworleansonline.com, jostvandyke.com, disneyworld.disney.go.com, newyearseveparis2015.com, austria.info/au, iamsterdam.com, visitreykjavik.is, mianewyearseve.com, newyearsevecapetown.com, hawaiiactivities.com