ปัจจุบันคงมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น หรือว่าวางแผนไปเที่ยวญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก อาจเพราะไม่ต้องขอวีซ่า มีอากาศดี บ้านเมืองสะอาดน่าอยู่ ผู้คนมีวินัย (มาก) เพียบพร้อมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งช้อปปิ้งมากมายนับไม่ถ้วน วันนี้เราเลยจะพาเพื่อน ๆ แวะไปดูร้านสะดวกซื้อที่ขึ้นชื่อว่ามีสาขามากที่สุดในโลกอย่าง 7-Elevenในประเทศญี่ปุ่นกันบ้างค่ะ ก็แหม...เชื่อว่าทุกคนต้องสงสัยและอยากรู้ว่าทำไมต้องเข้า 7-eleven และใน 7-Eleven ญี่ปุ่นแตกต่างจาก 7-Eleven ในประเทศไทยอย่างไรบ้าง ? เอาเป็นว่าไปติดตามชมกันได้เลยค่ะ
กำเนิด "7-Eleven"
แท้จริงแล้ว 7-Eleven ถือกำเนิดขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 2470 โดย บริษัท เซาท์แลนด์ ไอซ์ จำกัด (เซาท์แลนด์ คอร์ปอเรชั่น) เริ่มต้นกิจการผลิต และจัดจำหน่ายน้ำแข็ง ที่เมืองดัลลัส รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา และได้นำสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ มาจำหน่าย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า จึงเปลี่ยนชื่อเป็น Tote\'m Store ต่อมาในปี พ.ศ. 2489 ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น 7-Eleven ในเวลาต่อมาซึ่งในระยะแรก เปิดให้บริการตั้งแต่ เวลา 07.00-23.00 น. ของทุกวัน (อ่านเพิ่มเติมที่นี่ wikipedia.org/เซเว่น_อีเลฟเว่น) และ7-Eleven ก็ขยายการตลาดมากขึ้นจนเข้ามาทำการค้าในประเทศญี่ปุ่น จนได้ขายดิบขายดี และมีการพัฒนา 7-Eleven สไตล์ญี่ปุ่น มาจนถึงปัจจุบัน 7-Eleven ในประเทศญี่ปุ่นมีสาขามากที่สุดคือ 17,886 จาก 56,677 จากสาขาทั่วโลก และอันดับที่ 2 ของโลกนั่นก็คือประเทศไทยที่ปัจจุบันมีสาขา 8,510 สาขา (ข้อมูลในเดือน กรกฏาคม 2558)
ในปัจจุบัน 7-Eleven ไทย เพื่อนที่รู้ใจ…ใกล้ ๆ คุณ ตลอด 24 ชั่วโมง ถือเป็นร้านสะดวกซื้อครบวงจรที่มีสินค้าสดใหม่ที่หลากหลาย อาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน เบเกอรีอบสดใหม่ กาแฟสดและเครื่องดื่มมากมาย นอกจากนั้นยังมีอาหารตามเทศกาลจำหน่ายตลอดทั้งปี พร้อมกับการให้บริการด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัยเหมาะ สำหรับชีวิตคนยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็น บัตรเติมเงิน (7-Card), การจ่ายบิลชำระเงินและการบริการจองสินค้าใน 7 Catalogและ Shop@7.com
ผลิตภัณฑ์ใหม่น่าซื้อใน "7-Eleven" ?
สำหรับเมนูอาหารของ "7-Eleven" มีให้เลือกหลากหลายแบบ ซึ่งหน้าตาของอาหารที่ผลิตออกมาส่วนใหญ่จะเน้นอาหารท้องถิ่น แถมในประเทศญี่ปุ่นนั้น "7-Eleven" ที่ญี่ปุ่นนั้นมีการตั้งแคมเปญซื้อสินค้าตั้งแต่ 1,500 เยนขึ้นไปมีบริการรับส่งของฟรี หรือสามารถรับสินค้าได้ที่ร้าน "7-Eleven" รวมทั้งสามารถเลือกจ่ายก่อนหรือหลังรับสินค้าได้อีกด้วย อาทิ
ข้าวแกงกะหรี่ห่อไข่
เบอริโต้ห่อแกงกะหรี่ไส้กรอกเวียนนา
เกี๊ยวซ่า
ข้าวปั้นย่างหน้าเบคอนชีส, ข้าวปั้นหน้าแซลมอล, ข้าวห่อสาหร่าย
ซึ่งเมนูอาหารคาวนั้นมีการจัดเป็นโซนให้เราสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ง่าย ๆ วางเคียงข้างเครื่องดื่มประเภทนม, ชา, กาแฟ, น้ำผลไม้ ส่วนเมนูของหวานทาง "7-Eleven" ญี่ปุ่นนำเสนอไม่น้อยหน้าอาหารคาวเช่นกัน
ชูส์ครีมเต็มอิ่มด้วยไส้แบบล้นทะลัก
ชีสเค้กเนื้อสีเหลืองเนียนนุ่ม
โรลเค้กรสนมคาราเมล
พุดดิ้งเนื้อนิ่ม ๆ ละลายในปาก
นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และอาหารเพื่อสุขภาพ (กิน ดื่ม แล้วไม่อ้วน) มาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้เราได้อิ่มอร่อยแบบไม่แคร์ไขมัน
- Tax-free โดยปรกติแล้ว การซื้อของในประเทศญี่ปุ่นจะมีการบวก ภาษีเพิ่ม 8 % อยู่แล้ว แต่สิทธิ์พิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวในการซื้อสินค้า ก็คือ การยกเว้นภาษีของ "7-Eleven" นั่นเอง
- ATM เพิ่มอีกหนึ่งบริการสำหรับผู้บริโภค คือ Seven Bank ATMs เป็นอีกหนึ่งจุดบริการตลอด 24 ชั่วโมง ที่ให้ความสะดวกสบายแก่ผู้บริโภคที่เลือกช้อปปิ้งภายในร้านสะดวกซื้อ "7-Eleven" ในญี่ปุ่นที่เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งบริการที่ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังสามารถใช้บัตร ATM และบัตรเครดิต กดเงินเยนญี่ปุ่นได้ โดยตู้ ATM รองรับภาษาอังกฤษ ภาษาจีน(ตัวย่อ) ภาษาเกาหลี และภาษาโปรตุเกส ได้ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย
โดยบัตรเครดิตที่ใช้บริการได้มีดังนี้...
ภาพจาก sej.co.jp
- "7-Eleven" ญี่ปุ่นเปิดบริการให้ใช้ Wi-Fi ฟรีภายในร้านได้แบบสะดวกสบายทันเทคโนโลยีสุด ๆ
- และเครื่อง Multi-Copy ที่บริการความสะดวกสบายด้วยการบริการ Copy, Scanner, Express Bus Ticketing, Admission, Digital Camera Printing, Fax, Entertainment Ticketing, Lottery, Insurance, Document Printing, Internet Printing, Leisure Ticket, Prepaid Service และ Government Adminstrative Service หรือจะใช้เป็นพริ้นเตอร์ เมื่อออกไปทำงานนอกสถานที่ และแทนพริ้นเตอร์ที่บ้าน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ ๆ ในร้าน "7-Eleven" ที่เพิ่มความสะดวกสบายตอบรับกับยุคดิจิตอลได้เป็นอย่างดีเลย
เรียกได้ว่าน่าเดินทางไปลิ้มลองทุกเมนูน่ากินทั้งของหวานและของคาวเลยค่ะ แถมยังเพิ่มบริการความสะดวกสบายด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ากับยุคดิจิตอลไม่น้อยเลยค่ะ ^^
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
sej.co.jp, sevenbank.co.jp, cpall.co.th, 7eleven.co.th, th.wikipedia.org
