พักร้อนเกาะสมุยแบบสบาย ๆ ในทริป 3 วัน 2 คืน

          "เกาะสมุย" จังหวัดสุราษฎร์ธานี แหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตของประเทศไทย ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีของนักท่องเที่ยวไทยและชาวต่างชาติ วันนี้เราถือโอกาสดีเข้าไปสำรวจแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจบนเกาะนี้มาฝากเพื่อน ๆ กัน หลังจากที่เราได้มีโอกาสแวะไปร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เผื่อว่าเพื่อน ๆ จะวางแผนไปเที่ยวเกาะสมุยด้วยทริปง่าย ๆ 3 วัน 2 คืน กันบ้าง^^
 
วันที่ 1

          เริ่มต้นทริปนี้ด้วยจุดมุ่งหมายแรกด้วยการเดินทางไปสักการะพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดของภาคใต้ "วัดพระใหญ่" หรือ "พระพุทธโคดม" ตั้งอยู่บนเกาะฟาน ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะสมุย

          ลักษณะของพระพุทธรูปโดดเด่นด้วยสีเหลืองทอง ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาสูง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย มีความสูง 12 เมตร สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางขึ้นไปกราบสักการะสามารถชมความสวยงามได้ตั้งแต่ทางขึ้นที่เป็นบันไดประดับด้วยรูปปั้นพญานาค และเมื่อเดินทางขึ้นไปถึงบริเวณองค์พระแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวหาดบางรัก และหาดบ่อผุด รวมทั้งสามารถมองเห็นเกาะพะงันได้ในมุมสูง อีกทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตบนเกาะสมุยที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจและเดินทางขึ้นมากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลอยู่เสมอ




          จากนั้นเดินทางไปอีกไม่ไกลนัก เราก็ไปถึงที่บริเวณจุดชมวิวลาดเกาะ จุดชมวิวความสวยงามของเกาะสมุยที่สวยที่สุด มีการออกแบบพื้นที่จุดชมวิวให้เป็นสวนสาธารณะปูทางเดินด้วยระเบียงไม้ และจัดที่นั่งใต้ต้นไม้ไว้รับลมชิล ๆ






          และอีกส่วนจัดเป็นทางเดินที่สามารถเดินบนทางลาดลงไปถึงบริเวณโขดหิดที่ตั้งอยู่ติดน้ำทะเลได้ แถมบริเวณนี้ยังเป็นสถานที่ยอดฮิตของคู่บ่าวสาวที่มาถ่ายภาพพรีเวดดิ้งอีกด้วย


          จากนั้นในช่วงเที่ยงเราแวะไปฝากท้องกันที่ "ร้านข้าวหอม" ร้านอาหารชื่อดังลำดับต้น ๆ ของเกาะสมุย ซึ่งเปิดบริการทั้งเมนูอาหารพื้นบ้านของเกาะสมุยและอาหารทะเล โดยมีเมนูอาหารหลากหลายที่เราไม่ควรพลาด ดังนี้











          สำหรับผู้ที่สนใจแวะไปอิ่มอร่อยกับเมนูพื้นบ้านของ "เกาะสมุย" ร้านตั้งอยู่เลขที่ 34/35 หมู่ 4 ใกล้กับสนามบินสมุย ถนนเลียบชายหาด ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00-22.00 น. โทรศัพท์ 08 7413 4084, 08 9728 0376  หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ร้านอาหารข้าวหอม เกาะสมุย

          อิ่มท้องแล้วเราก็แวะไปเยือนแลนด์มาร์กสำคัญของเกาะสมุย ที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องไปเยือนให้ได้ นั่นก็คือ หินตา หินยาย ที่ตั้งอยู่บริเวณหาดละไม เป็นโขดหินรูปร่างประหลาดที่เกิดจากปรากฎการณ์ทางธรรมชาติของหินแกรนิตที่ถูกน้ำทะเลกัเซาะจนกลายเป็นหินรูปร่างต่าง ๆ ซึ่งหินมีลักษณะรูปร่างของหินที่โดดเด่นของที่นี่คือ




          ซึ่งมีตำนานที่เป็นนิทานเล่าขานต่อกันมาว่า "นานมาแล้วมีตายายคู่หนึ่งเป็นชาวปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เดินทางโดยเรือใบเพื่อไปสู่ขอลูกสาวตาม่องล่าย ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ให้กับลูกชาย แต่เมือเดินทางมาถึงบริเวณแหลมละไมได้เกิดพายุขนาดใหญ่จนทำให้เรือล่ม สองตายยายเสียชีวิตในที่สุด และถูกคลื่นซัดมาเกยที่หาดละไมแห่งนี้ และกลายเป็นหินที่ปรากฎอยู่ในปัจจุบัน"





          นอกจากเราจะได้เช็กอินและถ่ายภาพกับจุดชมวิวนี้แล้วเรายังสามารถนั่งชิล ๆ บนโขดหินขนาดใหญ่รับลมชมวิว แถมยังสามารถช้อปปิ้งของฝากจากร้านค้าริมทางที่จำหน่ายทั้งอาหาร, ของหวาน, เสื้อผ้า และสินค้าที่ระลึกได้อีกด้วย

          พอตกเย็นเราก็แวะไปร่วมงานเลี้ยงต้อนรับคู่ฮันนีมูนจากชาวจีนในงาน White Romance Beach Party 2015 ที่เดินทางเข้ามาพักผ่อนในเกาะสมุย พร้อมกับเข้าร่วมกิจกรรมต่างภายในงานอย่างสนุกสนาน ซึ่งงานในครั้งนี้เน้นการสวมชุดเป็นธีมขาว และจัดงานที่ริมทะเลได้บรรยากาศพักผ่อนชิล ๆ ริมทะเลแสนงาม และยังได้ถ่ายภาพสวย ๆ กับวิวริมทะเล




วันที่ 2 บนเกาะสมุย

          เข้าสู่ช่วงเช้าของวันที่ 2 ของทริปเที่ยวชิล ๆ บนเกาะสมุย ในช่วงเช้าเราออกเดินทางไปชมความสวยงามของ "น้ำตกหน้าเมือง" ซึ่งเป็นน้ำตกสำคัญและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกหนึ่งที่บนเกาะสมุย เพราะในอดีตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เคยเสด็จประภาสพร้อมด้วยพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ อีกทั้งในสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเหล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ก็ทรงเคยเสด็จประภาส 1 ครั้ง



          และในวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2505 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ก็ทรงเคยเสด็จประภาสน้ำตกหน้าเมืองแห่งนี้เช่นกัน



          สำหรับน้ำตกหน้าเมือง เป็นน้ำตกขนาดเล็ก ๆ ไหลจากหน้าผาสูงแผ่เป็นสายน้ำกว้างตามหน้าผา ไหลลงสู่แอ่งขนาดใหญ่เบื้องล่าง ซึ่งกลายจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย แถมบริเวณโดยรอบของน้ำตกยังใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และนั่งปิกนิกทานข้าวกับครอบครัวได้อีกด้วย



          ส่วนบริเวณใกล้ ๆ น้ำตกยังมีบริการนั่งช้างเดินเที่ยว ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก

          เข้าสู่ช่วงเที่ยงเราก็แวะไปอิ่มอร่อยกับเมนูพิซซ่ากับร้านอาหารชื่อดังบนเกาะสมุย ได้แก่ "ร้าน Dr. Forge" ร้านอาหารอิตาเลียนแบบดั้งเดิมและอาหารไทยอิตาเลียน ที่เปิดบริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 ซึ่งเมนูอาหารของร้านการันตีความอร่อยด้วยเชฟชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นเจ้าของร้านเอง ส่วนเมนูอาหารก็มีให้เลือกหลากหลายอย่าง และนี่ก็เป็นตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เรานำมาฝากกันค่ะ









          นอกจากจะได้อิ่มนำสำราญกับเมนูอาหารแสนอร่อยแล้ว วิวทิวทัศน์ของที่ตัวร้านที่ตั้งอยู่บนหน้าผาก็ถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของร้านด้วยเช่นกันค่ะ ส่วนใครที่อยากแวะไปอิ่มอร่อยกับเมนูพิซซ่าเตาถ่านบรรยากาศดี ๆ แบบนี้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก Dr Frogs Restaurant, Koh Samui

          และสำหรับเพื่อน ๆ ที่เดินทางไปเยือนเกาะสมุย หลายคนก็คงไม่ลืมที่จะไปสักการะ "พระอนุสาวรีย์พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์" บริเวณสถานีเรือสมุย แหลมโจรคร่ำ ตำบลลิปะน้อย อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี




          เมื่อเราเดินทางเข้าไปก็จะพบสถานที่ตั้งของ "อนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรฯ" ที่สร้างหันหน้าเข้าทะเล ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่สวยงาม อีกทั้งยังสามารถแวะเดินทางเข้ามาถ่ายรูปสวย ๆ ได้อีกด้วย
 


          ส่วนบริเวณใกล้ ๆ กันเป็นที่ตั้งของศาลพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปสักการะได้

          จากนั้นตกเย็นเราก็แวะไปนั่งร้านกาแฟชิล ๆ กันที่ "ร้านบาคุบุง" ร้านกาแฟริมทะเลบรรยากาศดี๊ดี ตกแต่งในบรรยากาศน่ารัก ๆ เป็นกันเอง มีเมนูให้เลือกหลากหลาย มีเค้กอร่อย ๆ ให้ลิ้มลองด้วย



          ส่วนที่นั่งของร้านก็มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งภายในร้าน ศาลาริมทะเล และมีพื้นที่สนามหญ้าให้เด็ก ๆ รวมไปถึงสัตว์เลี้ยงได้วิ่งเล่นแบบสบาย ๆ พอถึงช่วงดึกเราแวะไปเดินชิล ๆ กันที่ "ถนนคนเดินบ่อผุด" อีกหนึ่งสถานที่ช้อปปิ้งของชาวเกาะสมุย ที่สามารถอิ่มอร่อยกับเมนูอาหารในราคาเบา ๆ ได้






          ส่วนบริเวณใกล้ ๆ ถนนคนเดินเป็นที่ตั้งของคอมมูนิตี้มอลล์เก๋ ๆ "The Wharf Samui" แหล่งช้อปปิ้งแนวใหม่ติดริมชายหาด เน้นการตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบย้อนยุค ที่ผสมผสานระหว่างบ้านอิฐสไตล์ยุโรป ซึ่งภายในโครงการเต็มไปด้วยร้านอาหาร, ร้านขายเสื้อผ้า สินค้าของที่ระลึกและการบริการหลากสไตล์เพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี






          ส่วนร้านอาหารในช่วงเย็นของวันที่ 2 เราไปฝากท้องกันที่ "ร้านจันทร์หอมซีฟู้ด" ร้านอาหารเก่าแก่ที่เปิดบริการมายาวนานกว่า 10 ปี ตั้งอยู่ที่เลขที่ 7/3 หมู่ 6 หาดบางปอ อำเภอเกาะสมุย ตัวร้านเป็นตกแต่งให้เป็นเพิงหลังคามุงด้วยหญ้า แถมยังมีที่นั่งริมทะเลสำหรับซึมซับบรรยากาศสวย ๆ รับลมเย็น ๆ ได้ด้วย ส่วนเมนูอาหารของร้านมีให้เลือกทั้งอาหารยุโรป, อาหารทะเล, อาหารไทย และอาหารพื้นบ้าน ซึ่งทางร้านเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทรศัพท์ 0 7760 2008, 0 7723 6458 และ 08 6593 6323

วันที่ 3
 
          และเพื่อให้ได้บรรยากาศที่ครบรสของการมาเที่ยวเกาะสมุย...การนั่งเรือก็ถือเป็นอีกหนึ่งเส้นทางทางท่องเที่ยวที่หลายคนเลือก โดยที่เกาะสมุยจะมีท่าเรือ Seatran Ferry เปิดบริการเดินทางไป-กลับ จากอำเภอดอนสัก-เกาะสมุย ซึ่งที่มีบริการเรือขนาดใหญ่ที่สามารถขนส่งได้ทั้งรถยนต์, สินค้าจากบนบก และนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไป-กลับได้อย่างสะดวก ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถสั่งจองตั๋วโดยสาร และดูรายละเอียดของรอบเดินเรือได้จากเว็บไซต์ www.seatranferry.com






          ซึ่งบนเรือมีที่นั่งภายในเรือ ที่นั่งบริเวณด้านข้างตัวเรือ และบริเวณดาดฟ้าที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางขึ้นไปถ่ายภาพสวย ๆ ได้





          นั่งเรือประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า ๆ เราก็เดินทางขึ้นฝั่ง และเราแวะไปฝากท้องที่ร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดังของอำเภอดอนสัก ที่ทั้งอร่อยและชามใหญ่ แถมยังเน้นบริการ เมนูอาหารทะเลตัวใหญ่ ๆ คัดสด ๆ มาให้ทานแบบอิ่มจุนพุงกางอีกด้วย
 

          ส่วนก่อนเดินทางกลับเราแวะไปชมความร่มรื่นของ "สวนโมกขพลาราม" หรือชื่อเรียกทางการว่า "วัดธารน้ำไหล" จัดตั้งโดย พระพุทธทาสภิกขุ ตั้งอยู่เลขที่ 68/1 ตำบลเลม็ด อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี
 




          สถานที่ศักดิ์สิ่งที่ทุกพื้นที่เต็มได้วยความร่มรื่นและคำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุ อีกทั้งยังเปิดให้เข้ามาปฎิบัติธรรมได้อีกด้วย ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ www.suanmokkh.org
 
          ส่วนที่พักของเราในทริปนี้เราพักกันที่ "Peace Resort" รีสอร์ทบรรยากาศสวย ๆ มีพื้นที่ชายหาดสวย ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวได้นอนผ่อนคลาย และสระว่ายน้ำรวมสำหรับเล่นน้ำผ่อนคลายอย่างสนุกสนาน





          ห้องพักก็ตกแต่งในบรรยากาศสุดเก๋แยกเป็นหลัง ๆ ท่ามกลางความร่มรื่นของสวนที่เต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้น้อยใหญ่
 


          ส่วนตัวห้องให้บรรยากาศแบบส่วนตัว เหมาะสำหรับการเดินทางพักผ่อนแบบคู่รักและแบบครอบครัว สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดและสำรองที่พักได้ที่ โทรศัพท์ 0 7742 5357 เว็บไซต์ www.peaceresort.com และ เฟซบุ๊ก Peace Resort Samui

          นี่ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างเส้นทางท่องเที่ยวบนเกาะสมุย สำหรับนักท่องเที่ยวที่ยังไม่รู้ว่าไปเกาะสมุยจะไปเที่ยวที่ไหนดี ? ได้เลือกเที่ยวกัน แถมการเดินทางมาที่เกาะยังสะดวกสบาย มีทั้งเครื่องบินและเรือโดยสาร อย่างไรก็ตามทริปนี้เราต้องขอขอบคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่จัดทริปท่องเที่ยวเก๋ ๆ ให้เราได้ออกไปเที่ยวกันค่ะ
 
ขอขอบคุณข้อมูลจาก