ความสวยงามของบ้านเรือนไม้ริมฝั่งโขง วิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวบ้าน อาหารอีสาน เสียงสวดมนต์จากฝั่งลาวที่ลอยข้ามฝั่งมาในทุกเช้า แม่เฒ่าพ่อเฒ่ารอใส่บาตรข้าวเหนียวในยามเช้าตรู่ อากาศบริสุทธิ์ ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ทั้งเมือง พร้อมทั้งศิลปวัฒนธรรมประเพณีอันเป็นเอกลักษณ์ สิ่งเหล่านี้คือเสน่ห์ที่คุณสามารถเก็บเกี่ยวได้ทั้งหมดเมื่อมาเยือนเชียงคาน วันนี้กระปุกดอทคอมขอแนะนำสถานที่เที่ยว ที่กิน ที่นอน ในเชียงคานมาฝากกันค่ะ ซึ่งสามารถจัดเป็นทริปสั้น ๆ 2 วัน 1 คืนได้ง่าย ๆ ตามไปเก็บข้อมูลกันเลย
1. แก่งคุดคู้
ภาพจาก ททท.
สิ่งที่พลาดไม่ได้เมื่อไปเยือนเชียงคานก็คือการไปยลโฉม "แก่งคุดคู้" ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงคานประมาณ 3 กิโลเมตร ลักษณะของแก่งแห่งนี้จะเป็นแก่งขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดจากการที่มีแนวหินก้อนเล็กใหญ่จำนวนมากมายทอดตัวลงไปยังแม่น้ำยาวเกือบจะขวางกั้นแม่น้ำ มีเพียงช่องแคบเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้ฝั่งไทยให้น้ำไหลไปได้เท่านั้น ในช่วงน้ำลดจะเป็นช่วงที่ชมแก่งคุดคู้ได้สวยงามที่สุด คือระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม จะมองเห็นหินเหล่านี้โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ มีสีสันแตกต่างกันไป ไล่โทนไปตั้งแต่น้ำตาลอ่อนจนถึงน้ำตาลเข้ม ซึ่งเกิดจากการที่อยู่ใต้น้ำมานานหลายปี บริเวณแก่งคุดคู้มีบริการเรือนำเที่ยว สามารถตกลงราคากับชาวบ้านได้ที่นั่น (ขอขอบคุณข้อมูลจาก ททท.)
2. ภูทอก
ตั้งอยู่ที่ตำบลปากตม อำเภอเชียงคาน มีลักษณะเป็นภูเขาสูง เป็นจุดชมวิวที่สวยอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเลย เมื่อขึ้นไปถึงยังจุดชมวิวจะพบกับทัศนียภาพของภูเขาน้อยใหญ่ สูงต่ำไล่กันไป มองเห็นป่าที่อุดมสมบูรณ์โดยรอบ ทางด้านหนึ่งจะมองเห็นลำน้ำโขง และเมืองสานะคาม ประเทศลาว ได้อย่างสวยงาม ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดที่จะขึ้นมาชมวิวบนภูทอกคือช่วงก่อนพระอาทิตย์ขึ้น เพราะจะสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ค่อย ๆ โผล่ออกมาจากหลังเขาแล้วส่องแสงเป็นลำสวยงามลงสู่ช่องเขาและผืนป่า หากโชคดีก็จะได้พบกับทะเลหมอกอีกด้วย
3. หมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำตั้งอยู่ที่บ้านนาป่าหนาด ตำบลเขาแก้ว เป็นหมู่บ้านของชาวไทดำหรือลาวโซ่ง ซึ่งเป็นกลุ่มชาวไทยกลุ่มหนึ่งที่มีวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่เป็นเอกลักษณ์ สิ่งที่โดดเด่นเห็นได้ชัดก็คือการแต่งกายของชาวบ้าน โดยส่วนใหญ่จะนุ่งผ้าทอที่ทำกันเอง มีสีดำ ทั้งชายและหญิง นักท่องเที่ยวจะได้ชมการแสดงรำวงพื้นเมือง สนุกสนานไปกับโล้ชิงช้ายักษ์ เลือกซื้อผ้าทอมือที่มีลวดลายที่สวยงาม มีการทออย่างประณีต ชมบ้านเรือนที่สร้างขึ้นตามแบบดั้งเดิม มีอายุหลายสิบปี ภายในหมู่บ้านมีโฮมสเตย์ไว้รองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สมาคมอนุรักษ์วัฒนธรรมไทดำ โทร. 08 1048 2000 หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเลย โทร. 0 4281 2812, 0 4281 1405 (ขอขอบคุณข้อมูลจาก ททท.)
4. วัดพระพุทธบาทภูควายเงินวัดพระพุทธบาทภูควายเงินเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวเชียงคานและจังหวัดเลย ตั้งอยู่ที่บ้านผาแบ่น ตำบลบุฮม ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า ยาวประมาณ 120 เซนติเมตร และกว้าง 65 เซนติเมตร ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อ พ.ศ. 2478 ในทุก ๆ ปีจะมีการจัดงานสมโภชอย่างยิ่งใหญ่ มีผู้คนจากทั่วสารทิศมาร่วมงานอย่างคับคั่ง (ขอขอบคุณข้อมูลจาก ททท.)
5. ถนนคนเดิน
ภาพจาก gubgib / Shutterstock.com
สองฝั่งถนนเป็นบ้านเรือนไม้เก่าลักษณะดั้งเดิม หันหน้าเข้าหากัน ตั้งอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำโขง ซึ่งช่วงวันเสาร์-อาทิตย์จะมีพ่อค้าแม่ค้ามาตั้งร้านค้าขายอาหาร เครื่องดื่ม เสื้อผ้าแฟชั่น สินค้าทำมือ ของพื้นเมือง ของที่ระลึก ฯลฯ บางช่วงมีการแสดงจากเด็ก ๆ สร้างสีสันให้กับถนนคนเดินแห่งนี้ให้มีชีวิตชีวา บ้านเรือนบางหลังถูกดัดแปลงให้เป็นที่พักริมฝั่งโขงสุดชิค ร้านอาหารพื้นเมืองบรรยากาศดี ร้านกาแฟ ร้านขายโปสการ์ด และที่พลาดไม่ได้ก็คือบริการนวดเท้าของชาวบ้าน ทำให้ร่างกายผ่อนคลายและราคายังไม่แพงอีกด้วยตะลอนกินในเชียงคาน
ภาพจาก Ford Contributor / Shutterstock.com
1. ข้าวเปียกซอย 10ใครที่รักการกินเส้นต้องถูกใจร้านนี้แน่นอน ด้วยลักษณะของเส้นเปียกนั้นนุ่มนอกกรุบข้างใน ยิ่งทานกับน้ำซุปรสชาติกลมกล่อมยิ่งอร่อย มาคู่กับลูกชิ้นหมูลูกโตและหมูยอ พร้อมโรยหน้าด้วยหอมเจียวกลิ่นหอมฉุย นอกจากนี้ก็ยังมีไข่กระทะและโจ๊กด้วย ร้านจะเปิดตั้งแต่เช้าไปจนกว่าของจะหมด อยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามกับวัดป่ากลาง ถนนศรีเชียงคาน ซอย 10 (ขอขอบคุณข้อมูล ททท. ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)
2. บะหมี่เฟื่องฟ้าถ้าจะพูดถึงร้านบะหมี่ในตำนานแห่งเชียงคาน ไม่มีใครไม่รู้จักบะหมี่เฟื่องฟ้า ซึ่งเปิดมามากกว่า 40 ปีแล้ว ด้วยเส้นบะหมี่เหลืองที่เหนียวนุ่มกำลังดี พร้อมกับหมูแดงชั้นดี อีกทั้งน้ำซุปรสชาติกลมกล่อม ซึ่งทั้งหมดเข้ากันอย่างดี ถ้าใครได้ลิ้มลอง บอกเลยว่าแค่ชามเดียวคงไม่พอ ราคาเริ่มต้นที่ชามละ 30 บาท ตั้งอยู่ข้างเซเว่น อีเลฟเว่น ถนนศรีเชียงคาน ระหว่างซอย 9 และซอย 10 เปิดตั้งแต่เวลา 07.00-20.00 น. และ 18.00-23.00 น. (ขอขอบคุณข้อมูลจาก i-san.tourismthailand)
3. ร้านจิตส้มตำมาถึงอีสานทั้งทีจะไม่กินอาหารอีสานได้อย่างไร เพราะฉะนั้นต้องลิ้มลองอาหารแบบต้นตำรับ ร้านส้มตำแห่งนี้ไม่ใช่ร้านส้มตำทั่วไป มีเมนูที่ใครมาก็ต้องสั่ง นั่นก็คือ "ตำด๊องแด๊ง" ซึ่งตัวด๊องแด๊งทำมาจากแป้ง มีลักษณะเป็นเส้นคล้ายลอดช่อง นำมาตำคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงส้มตำ รสชาติสั่งได้ตามชอบใจ จะเปรี้ยว จะเค็ม จะเผ็ด จะหวานแค่ไหนก็สั่งได้เลย นอกจากนี้ยังมีส้มตำแบบอื่น ๆ รวมทั้งข้าวเหนียวไก่ย่าง ต้มแซ่บ และอีกหลากหลายเมนู เปิดตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. ร้านอยู่บนถนนศรีเชียงคาน ตรงข้ามโรงเรียนบ้านเชียงคาน (ขอขอบคุณข้อมูลจาก i-san.tourismthailand)
ตะลอนพักในเชียงคาน
ภาพจาก wattana / Shutterstock.com
1. สองผัวเมียเกสต์เฮ้าส์ตั้งอยู่บนถนนชายโขง มีลักษณะเป็นเรือนไม้ 2 ชั้น ที่ยังคงรักษาโครงสร้างดั้งเดิมของบ้านเก่าอายุเกือบ 100 ปี ไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ภายในตกแต่งในสไตล์ Modern Contemporary ผสมผสานความเป็นพื้นบ้านเข้าไปกับการดีไซน์สมัยใหม่ ทำให้เกสต์เฮ้าส์แห่งนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ภายในห้องพักตกแต่งอย่างเรียบง่าย ให้บรรยากาศที่โปร่งโล่ง ไม่อึดอัด มีทั้งห้องพักที่ใช้ห้องน้ำรวม และห้องพักที่มีห้องน้ำในตัว มีครัวเล็ก ๆ ไว้บริการสำหรับการทำอาหารง่าย ๆ บริเวณด้านหน้ายังเป็นร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหารและเครื่องดื่ม โดยรวมแล้วที่แห่งนี้ให้บรรยากาศที่โรแมนติกมาก
เช็กอิน : 241 ถนนชายโขง ตำบลเชียงคาน ราคา : เริ่มต้น 600* บาท (*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง) โทรศัพท์ : 08 5464 8008 เฟซบุ๊ก : Husband & Wife GuestHouse 2. บ้านอุ่นรัก ถนนคนเดินบนถนนคนเดินมีที่พักมากมาย แต่อีกหนึ่งที่ที่โดดเด่นก็คือ "บ้านอุ่นรัก" เป็นเรือนไม้แบบใหม่ 2 ชั้น บริเวณด้านหน้าติดกับถนนคนเดิน ด้านหลังติดกับแม่น้ำโขง ด้วยการออกแบบให้ประตูเปิดกว้างบริเวณด้านหน้าจึงทำให้ดูปลอดโปร่ง อากาศถ่ายเทสะดวก เย็นสบาย มีทั้งหมดเพียง 5 ห้องพัก แต่ละห้องตกแต่งอย่างเรียบง่าย จัดเป็นสัดส่วน สะอาดสะอ้าน มีบริการชา กาแฟ ฟรีอินเทอร์เน็ตไร้สาย พนักงานบริการอย่างเป็นกันเอง อบอุ่น ราวกับพักอยู่ที่บ้านของตัวเอง
เช็กอิน : 328 ปากซอย 10 ถนนชายโขง ตำบลเชียงคาน ราคา : 1,200-1,500* บาท (*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง) โทรศัพท์ : 08 6859 8550, 08 1739 0648 เฟซบุ๊ก : บ้านอุ่นรัก เชียงคาน 3. ริเวอร์ไซด์ เชียงคาน รีสอร์ทหากคุณหลงใหลในบ้านไม้ริมน้ำ ต้องไม่พลาดการพักผ่อนที่ ริเวอร์ไซด์ เชียงคาน รีสอร์ท อาคารไม้สวยเด่นสง่าอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ตกแต่งห้องพักด้วยการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบใหม่กับความเป็นพื้นเมืองได้อย่างลงตัว ทั้งห้องพักและบริเวณโดยรอบให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย มีบริการจักรยานและอินเทอร์เน็ตไร้สายฟรี สามารถใส่บาตรข้าวเหนียวได้จากหน้ารีสอร์ท ที่ตั้งยังอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองเชียงคานอีกด้วย
เช็กอิน : 1/8 ม.4 ตำบลเชียงคาน ราคา : 1,100-2,800* บาท (*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง) โทรศัพท์ : 08 4336 7525, 0 4282 1477 เว็บไซต์ : riverside-chiangkhan 
4. เฮือนยายบับภาอีกหนึ่งเรือนไม้ริมโขงบนถนนคนเดินเชียงคาน จากบ้านไม้อายุมากกว่า 80 ปี สู่การพลิกโฉมให้กลายมาเป็นโรงแรมในสไตล์บูทีค เรียบง่าย เงียบสงบ เดินทางสะดวก ห้องพักตกแต่งให้ดูโล่ง โปร่ง เย็นสบาย รับลมเย็นจากภายนอกได้ดี สะอาดสะอ้าน ยามเช้าสามารถใส่บาตรได้จากหน้ารีสอร์ท เดินชมบ้านเรือนไม้เก่าโดยรอบได้อย่างง่ายดาย บริการอย่างเป็นมิตร อบอุ่น จนต้องหลงรัก
เช็กอิน : 350 หมู่ 1 ถนนชายโขง ซอย 11 ตำบลเชียงคาน ราคา : 1,300-1,800* บาท (*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง) โทรศัพท์ : 0 4282 1705, 08 3177 8114 เฟซบุ๊ก : เฮือนยายบับภา เชียงคาน 5. ใดเฮงบูติคโฮเตลสัมผัสรูปแบบของที่พักที่แตกต่างออกไป ด้วยสไตล์การตกแต่งร่วมสมัยระหว่างความเป็นพื้นเมืองของไทยและจีน ด้วยบริเวณที่ตั้งของโรงแรมเป็นชุมชนที่มีชาวไทยเชื้อสายจีนอาศัยอยู่บ้าง จึงเป็นจุดกำเนิดโรงแรมแห่งนี้ ซึ่งตัวโรงแรมได้จำลองบ้านไม้โบราณ มีประตูหน้าต่างเป็นสไตล์ห้องแถว ตกแต่งเรียบง่ายแต่หรูหรา มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งด้านหน้าและด้านหลังเปิดโล่งเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ชั้นดาดฟ้าสามารถชมทัศนียภาพของลำน้ำโขงได้อย่างสวยงาม มีมุมอ่านหนังสือ บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายฟรี
เช็กอิน : 179 หมู่ 2 ถนนชายโขง ตำบลเชียงคาน ราคา : 1,300-1,800* บาท (*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง) โทรศัพท์ : 0 4282 2228, 08 1261 4672 เว็บไซต์ : daihengboutiquehotel ทริปเชียงคาน...เป็นอีกหนึ่งทริปที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่จะเติมพลังให้กับคนทำงานได้อย่างดีเลยทีเดียว
