เที่ยวแก่งกระจาน แวะดูผีเสื้อ พร้อมชมทะเลหมอกในหน้าร้อน

          วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวรับหน้าร้อนกันที่ "อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน" หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า "แก่งกระจาน" จากบันทึกการเดินทางของ คุณชานมชงเอง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ได้ไปเยือนพร้อม ๆ กับอัพเดทภาพของผีเสื้อแคมป์บ้านกร่าง VS ทะเลหมอกพะเนินทุ่งมาฝากกันด้วย ทั้งนี้บริเวณแคมป์บ้านกร่างถือเป็นจุดชมฝูงผีเสื้อหลากหลายสายพันธุ์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งผีเสื้อที่นี่จะมีให้ชมตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายนของทุกปี แต่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเดือนเมษายน อ๊ะ ๆ ยังไม่หมดเท่านั้นเพราะที่แก่งกระจานยังมีทะเลหมอกสวย ๆ ให้ได้ชมกันตลอดทั้งปีด้วย นั่นแน่ ! เริ่มอยากไปเที่ยวตามรอยกันแล้วใช่ไหมล่ะ เอาเป็นว่าลองไปชมภาพบรรยากาศเรียกน้ำย่อยกันก่อนที่จะตัดสินใจเก็บกระเป๋า สะพายกล้อง แล้วตรงดิ่งไปแก่งกระจานกันดีกว่าค่ะ


          อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ความคิดถึงมักเข้ามาทำงานอยู่เสมอ สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ผมโฟกัสมาที่การตามหาทะเลหมอกในช่วงอากาศร้อน ๆ แบบนี้ กับความพิเศษของผีเสื้อตัวน้อยในแบบที่ผมฝันถึง <11 มีนาคม 2558>

          >> อีกหนึ่งพื้นที่ของภูเขาและสายหมอก เฟซบุ๊ก chanomworld


          จำได้ว่าครั้งแรกที่มาแก่งกระจานก็เมื่อปลายปี 2554 กับทริปส่งท้ายของปีนั้น เป็นแก่งกระจานที่อยู่ในความทรงจำของผม ไม่ว่าจะเป็นการล่องเรือชมวิวเขื่อน ตอนเย็นก็ไปดูตะวันที่ค่อย ๆ ลับขอบฟ้าไป และเช้าอีกวันก็ไปลุ้นทะเลหมอกที่เขาพะเนินทุ่ง และหลังจากนั้นผมก็มาที่นี่ทุก ๆ ปี แต่เลือกที่จะมาช่วงในฤดูร้อนแทน


          เหตุผลที่ชอบมาที่นี่หน้าร้อนเพราะที่นี่ยังมีความอุดมสมบูรณ์ของป่าค่อนข้างเยอะ เลยทำให้มีความลับบางอย่างในฤดูร้อนแบบนี้ นั่นคือ ทะเลหมอกมีให้ดูตลอดปีกับผีเสื้อนับล้านตัวที่จะได้เห็นในที่นี่


          รถกระบะพาผมมาถึงจุดชมวิวแรกในตอน 06.30 น. จำได้เลยระหว่างทางผมได้แต่มองไปทางด้านซ้าย  และทำบางอย่างเหมือนกับที่เคยทำ นั่นคือนั่งลุ้นว่าด้านบนจะมีทะเลหมอกในแบบที่ผมอยากเห็นไหม  เพราะดูแล้วฝนไม่ได้ตกลงมา ไม่รู้ว่าความชื้นต้องแค่ไหนถึงทำให้เกิดทะเลหมอก


          แล้วการลุ้นทะเลหมอกของผมก็เริ่มต้นทันที ผมเดินขึ้นมาถึงจุดชมวิวแรกของที่นี่ นั้นคือ จุดชมวิวเขาพะเนินทุ่ง เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นวิวเขาซ้อนไปซ้อนมา ในวันที่ทะเลหมอกแน่น ๆ จะสามารถเห็นทะเลหมอกมาถึงด้านหน้าแบบใกล้ ๆ แต่วันนี้โชคไม่ค่อยดีเท่าไรหมอกมาไม่เยอะมาก


          ลุ้นไปลุ้นมาชักเหนื่อย รู้สึกทะเลหมอกคงมาได้แค่นี้ ผมเลยบอกคนขับรถให้พาไปดูทะเลหมอกที่ กม.36 ทันที ซึ่ง กม.36 จะเป็นจุดชมวิวริมถนนติดเชิงเขา สามารถมองเห็นทะเลหมอกได้ในระดับใกล้กว่าและมองเห็นได้เยอะกว่า





          ตอนแรกทะเลหมอกดูเหมือนมาน้อย แต่สักพักละอองน้ำค่อย ๆ ก่อตัวและพองตัวอย่างน่าเหลือเชื่อ และนี่เองที่บอกถึงความลับของที่นี่ในช่วงฤดูร้อนแบบนี้ กับทะเลหมอกที่สามารถมีให้ชมได้ตลอดปี แม้แต่ในช่วงหน้าร้อนที่ไม่ได้มีฝนตกก็ตาม สำหรับประสบการณ์การตามหาทะเลหมอกของที่นี่บอกผมว่าวันที่มีโอกาสเห็นทะเลหมอกเยอะ ๆ แน่น ๆ คือก่อนหน้านั้นฝนตกลงมา แล้วเช้าอีกวันจะมีโอกาสเจอทะเลหมอกสูงมาก แต่ถ้าไปช่วงที่ฝนไม่ตก ช่วงก่อนหน้านั้นอย่างน้อย 1 วัน ฟ้าจะต้องใส แดดจะต้องแรง เช้าอีกวันถึงลุ้นทะเลหมอกได้สูงมาก ๆ และจากประสบการณ์ไปที่นี่ 5 ครั้ง ในรอบ 5 ปี ก็เจอทะเลหมอกสวย ๆ ในช่วงหน้าร้อน ถึง 4 ครั้ง






          พอชมทะเลหมอกจนจุดใจแล้วก็ได้เวลารีบลงเขาพะเนินทุ่ง เพื่อมายังแคมป์บ้านกร่างมาดูผีเสื้อกัน ซึ่งผีเสื้อที่นี่จะมีให้ชมตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายนของทุกปี แต่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเดือนเมษายน





          จุดที่ผมชอบแวะมาชมผีเสื้อมากที่สุด คือ ตรงลำธารที่ 2 จะมีผีเสื้อเยอะสุด เวลาถ่ายรูปก็ได้บรรยากาศมาก ๆ มีป่าสีเขียว  มีลำธารสายน้ำ และผีเสื้อบินว่อนอยู่รอบตัวเต็มไปหมด ผมมาในช่วงกลางเดือนมีนาคม 2558 ตอนแรกคิดว่าคงไม่มีผีเสื้อแน่ ๆ แต่สุดท้ายมันก็ออกมาให้ผมดีใจจนได้












          หลังจากดูผีเสื้อจนจุใจก็ได้เวลาลงจากบ้านกร่างแคมป์เพื่อกลับลงมาด้านล่าง แล้วตกเย็นก็ใช้เวลาไปกับการได้ชมตะวันที่ค่อย ๆ ลับฟ้าไปทีละนิด บนจุดชมวิวสันเขื่อนที่สามารถขึ้นไปชมได้ฟรี ตะวันในเวลานี้ค่อย ๆ ลับฟ้าไป พร้อม ๆ กับความทรงจำมากมายที่บอกถึงความงดงามของที่นี่ พร้อม ๆ กับจบทริปเที่ยว







          ป.ล. เอาของฝากทริปปี 2556 มาฝากส่งท้ายนะครับ ไปช่วงกลางเดือนมีนาคมเหมือนกัน

          ตะวันลับขอบฟ้าสวยมาก ทะเลหมอกก็สวยสุด ๆ ผีเสื้อก็มาเยอะแยะไปหมด

          >> อีกหนึ่งพื้นที่ของภูเขาและสายหมอก เฟซบุ๊ก chanomworld










ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณชานมชงเอง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก chanomworld