เยือนเมืองโบราณเฟิ่งหวง สัมผัสแสงสีริมน้ำสุดอลังการ

          วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ บินลัดฟ้าไปสัมผัสความงามของ "เมืองโบราณเฟิ่งหวง" ในมณฑลหูหนาน ที่มีอายุกว่า 300 ปี โดยเมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำท่ามกลางภูเขาที่มีทัศนียภาพสวยงาม ซึ่งอาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่จะเป็นสถาปัตยกรรมตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง

          จากบันทึกการเดินทางท่องเที่ยวของ คุณสมาชิกหมายเลข 1092438 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ได้มีโอกาสไปเห็นแสงสีริมน้ำสุดอลังการที่เมืองโบราณเฟิ่งหวง พร้อมเก็บเอาความประทับใจร้อยเรียงผ่านตัวหนังสือและภาพถ่ายสุดงดงามมาให้เราได้ชมกันค่ะ เผื่อใครอยากจะตามรอยเท้าไปเที่ยวเมืองโบราณเฟิ่งหวงกันบ้าง ^__^

          The world is too itchy, why don’t we scratch "เมื่อโลกมันคัน ก็เกาซะให้มันส์แบบมีสาระ" !! ^^ by สองเท้า-เกาโลก/Scratch da world 

          ***หากคุณมีหัวใจที่รักการเดินทาง หลงใหลในการหาประสบการณ์ดี ๆ สนุก ๆ มันส์ ๆ ให้ชีวิตในทุกรูปแบบ ขอฝาก Page https://www.facebook.com/scratchdaworld ไว้ด้วยครับ ทำด้วยใจจริง ๆ อย่าลืมกด like และ get notification (ติดตาม) เพื่ออรรถรสในการรับชม

          "ผมชอบแสงสี ชอบสังคมเมือง ชอบสังสรรค์ และชอบที่จะใช้ชีวิตเมืองกรุง และทำงานอยู่ในบริษัทที่ดีตำแหน่งที่ดี .... แต่ผมตัดสินใจลาออกจากงานประจำ ... มาทำงานที่บ้านต่างจังหวัดที่ไม่มีแสงสี ไม่ค่อยมีเพื่อน ... ที่ตัดสินใจแบบนี้เพราะความฝันมันใหญ่ขึ้น .... งานประจำไม่สามารถตอบโจทย์ความฝันในเรื่องของเวลา ซึ่งเป็นทรัพยากรหลักของความฝันของผม นั่นคือการเดินทางท่องโลก"

          ฝากรีวิวกับรูปสวย ๆ ด้วยครับ

          35 ใบ 35 ความรู้สึก รำลึกถึงลมหามใจของ Mount.Bromo, Indonesia

          แม่แจ่ม-บ้านป่าบงเปียง-เขื่อนแม่งัด ขึ้นเขาลงห้วย ชมธรรมชาติ สูดกลิ่นวัฒนธรรม

          Innsbruck, Austria : เมืองเล็ก ๆ ในอ้อมกอดแห่งภูเขาหิมะ ที่หัวใจไม่เล็ก

          Malaysia trip จาก กัวลาลัมเปอร์-มะละกา-ปุตราจายา....ครั้งหนึ่งนึกถึงตลอดไป

          Salzburg เมืองคลาสสิกในความทรงจำ

          ดินแดนแห่งเทพนิยายยุคกลาง .... Cesky Krumlov, ประเทศเช็ก

          Hallstatt เมืองในฝัน ในวันที่ใช่ กับ 35 ใบ บรรยายความความทรงจำ

          ความเดิมตอนที่แล้วรายละเอียดการเดินทางและค่าใช้จ่าย...ดูที่ >>> http://pantip.com/topic/32914069

          "Life is too short and the world is wide" ชีวิตมันสั้น ...แต่โลกมันกว้าง !

          จากตอนที่แล้วเราได้ไป เทียนเหมินซาน และ อู่หลิงหยวน เจอความโกลาหลต่าง ๆ มาแล้ว คราวนี้เกาโลกทัวร์จะนำทุกท่านเดินทางไปต่อที่ “เมืองโบราณเฟิ่งหวง” โดยไฮไลท์หลักของที่นี่คืออภิมหาแสงสีริมน้ำ กับบ้านเมืองโบราณที่มันกลมกลืนกันอย่างลงตัว

          เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

          เมืองโบราณฟ่งหวง (เมืองหงส์) เขตปกครองตนเองของชนเผ่าน้อยถู่เจียง ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของมณฑลหูหนาน เมืองโบราณหงส์ตั้งอยู่กลางหุบเขาและมีแม่น้ำถั่วเจียง แม่น้ำที่ใสสะอาดไหลผ่าน สองฝั่งแม่น้ำมีบ้านแบบโบราณที่ยกพื้นสูงเรียงรายกันบนริมแม่น้ำ ถ้ามองจากริมแม่น้ำจะเห็นบ้านเรือนยกสูงสร้างติดริมแม่น้ำเป็นแนวยาว กลางเมืองฟ่งหวงจะมีสะพานเก่าที่คาดว่าสร้างในสมัยราชวงศ์ชิง เชื่อมโยงชีวิตสองฟากแม่น้ำเป็นหนึ่งเดียว สะพานนี้มีสองชั้น ชั้นแรกเป็นทางเดินข้ามและมีร้านขายของเล็ก ๆ ริมทางเดิน ส่วนชั้นสองเป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดจุดหนึ่งในเมือง หากต้องการนั่งกินลมพร้อมชมเมืองไปด้วย นักท่องเที่ยวก็สามารถเช่าเรือแจวชมเมืองตลอดลำน้ำได้ โดยจะมีนักร้องระดับน้อง ๆ The voice มาร้องเพลงกล่อมให้ท่านตลอดการเดินทาง ><

          เฟิ่งหวงเป็นเมืองเล็ก ๆ เดินด้วยเท้าเปล่าได้ทั่วเมืองครับ สบายมาก ... ^^

          โดยหลังจากที่มาถึงที่พักแล้ว จากนั้นก็หาร้านทานข้าวกินกันแบบเป็นจาน ๆ โดยในพื้นที่แถบนี้ขอแนะนำเมนูเด็ดหมูผัดพริกหยวก อร่อยเหาะทุกร้าน !

          (เราพักที่ไหน มาจากจางเจียเจี้ยยังไง เท่าไร ดูได้ที่ตอนที่แล้ว)  >>> http://pantip.com/topic/32914069

          จากนั้นเราก็ออกไปเก็บบรรยากาศแสงสีคืนแรกแถว ๆ บริเวณโรงแรมกันก่อนครับ มาถึงโรงแรมเพิ่งรู้ตัวว่าแบกขาตั้งหลายกิโลกรัมมาจากไทย แต่ไม่ได้เอาที่ติดกับกล้องมา ต้องผลัดกับเพื่อนถ่าย เบียดเบียนสุด ๆ 555 รูปนี้ติด ๆ กับโรงแรมเลย บรรยากาศดีมากครับ คืนแรกฝนเจ้ากรรมดันสาดเลยอยู่กันแค่แถว ๆ โรงแรม ^^ 


          หันไปอีกด้านก็จะเจอความงามแบบนี้ สวยทุกอณูในยามค่ำคืน คืนนี้เรานอนใกล้กันกันนะคนสวย....นางสาวเฟิ่งหวง ณ อวตาร


          แสงสีสะท้อนน้ำ เมืองแห่ง reflection จริง ๆ


          "หากเปรียบเมืองนี้เป็นผู้หญิง ก็เปรียบได้กับผีเสื้อราตรีที่เฉิดฉายในยามค่ำคืน"


          บรรยากาศจากบนสะพานหงเฉียวครับ จะมีร้านรวงต่าง ๆ ขายของ OTOP ของที่นี่ เท่าที่เห็นจะมีหลัก ๆ คือ ถั่วอะไรสักอย่างที่เขาจะใช้ค้อนอันมหึมาทุบโชว์ กับขนมลักษณะคล้ายตังเมที่มีทำโชว์เช่นกัน


          อันนี้เป็นบริเวณ Food Court ของที่นี่ จากสะพานตรงมาทางเข้าเมืองจะอยู่ทางขวาครับ แถว ๆ KFC แนะนำเพราะอร่อย ถูก สะอาดไหม...แล้วแต่ดวงนะ ><


          และก็ไม่พลาดที่จะสั่ง "ซาวเข่า" มากินเช่นเคย หากผมเรียกผิดบอกได้นะครับ จำ ๆ เพื่อนมามันก็พูดซะเร็ว


          หลังจากเข้าโรงแรมนอนผมก็ตั้งใจจะไปถ่ายแสงเช้า กะว่าถ้าดวงดีฝนคงโหวตตัวเองออกให้เราได้เจอแสงกันบ้าง ตะตะตะแต่...ตกเช่นเคย เราไม่ท้อครับ แบกร่มมือหนึ่ง ขาตั้งมือหนึ่งออกตะลุยล่ารูป !


          ความเงียบสงบในยามเช้าตรู่ของเฟิ่งหวง มันช่างตัดกับแสงสีและผับบาร์ที่เปิดแข่งกันริมน้ำในตอนกลางคืนจริง ๆ ในอีกมุมมองมันก็ครบรสดีนะ


          บรรยากาศยามเช้าที่แสนจะเหงา อากาศน่านอนมาก ฝนตกปรอย ๆ แต่เราไม่นอน  ><
         

          ขอลุยฝนเพื่อชมความคลาสสิกยามเช้า ก่อนจะโบกมือทักทายแสงสียามกลางคืนอีกสักที


          ฟินไปเรื่อย


          สวยคนละอารมณ์จริง ๆ เหมือนเมืองนี้เขาพยายามผันตัวเองให้เป็นหญิงสาวที่สวยงามทุกองศา เช่นเดียวกับความงามของเมืองที่หลากหลายอารมณ์เช่นนี้


          ความงามที่ชวนเหงา


          ข้ามตอ...ชมเมืองที่รอเวลาเรืองแสง


          ถ่ายรูปอยู่เจอเธอคนนี้ ที่เหมือนถูกบรรดาช่างกล้องจ้างมาเป็นแบบ ถ่ายตั้งกะเช้ายันบ่ายก็ยังถ่ายอยู่ เอ๊ะหรือเธอท้องเสีย


          ทุกวิถีชีวิตนั้นนาฬิกาข้อมือเดินไปเท่า ๆ กัน แต่นาฬิกาชีวิตนั้นเดินแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ที่นี่เดินกันอย่างราบเรียบ ในเมืองบางคนอาจจะกำลังปั่นงาน เครียด หรือรีบไปโรงหนัง แต่ที่นี่ไปเรื่อย ๆ ตามจังหวะชีวิต ไม่รีบ ไม่ร้อน สะท้อนให้เห็นความสุขในสิ่งที่คนอื่นอาจจะทุกข์ถ้าต้องมาทำ


          ตัดเข้าโฆษณาตราร่มวิเศษ ... ใช้บังฝนแล้วตัวร่มยังสามารถกักเก็บน้ำไว้ได้ เพื่อรอราดคนอื่นต่อไป ... >< ถามว่าอายไหม ตอบเลยว่าไม่ ><


          พายไป คิดไป ไม่รู้ลุงเขาคิดอะไร แต่ทำไมเขามีแต่รอยยิ้มนะ หรือแค่นี้เขาก็สุขแล้ว ทำไมดูง่ายจัง ^^




          ร้านฝากท้องมื้อเที่ยง สั่งอาหารจีนมี 2 เมนูหลัก สั่งได้ก้าวไกล กินได้ทั่วไป ใช้ไปทั่วโลก กับร้านอาหารจีน

          1. เฉ่าฟ่าน = ข้าวผัด      
          2. เฉ่าเมี่ยน = ก๋วยเตี๋ยวผัด

          หากสะกดผิดขอกูรูภาษาจีนชี้แนะครับ


          "ขอแอ็คท่าหน่อย นาน ๆ ผมมาที ละพี่จะขำไปไหนครับ" 555 ไม่หรอกครับจริง ๆ แกรอให้ผมถ่ายให้เสร็จ แหะ ๆ


          ถ่ายกับเขาหน่อยยยย ><


          มาเห็นตาคนนี้ล้างผักแล้ว เอ๊ะ ! น้ำในคลองมันสะอาดขนาดนั้นเชียวหรือ !? หรือนี่คือระบบกังหันกรองน้ำ รุ่น FS 4874 ในตำนานกันนะ สรุปผมไม่รู้คำตอบครับว่าเจ้ากังหันนี่มันกรองน้ำได้หรือเปล่า ><


          จากนั้นเราก็เดินขึ้นมาบนสะพานที่สูงที่สุดใน 3 สะพานหลักของเมืองครับ อย่าพลาดที่จะมาถ่ายรูปมุมนี้...สวยมาก ที่สำคัญเดี๋ยวกลางคืนเจอกันอีกรอบ !!


          มุมกว้าง ๆ จากจุดเดิมครับ


          เด็ก ๆ ที่นี่น่ารักมากครับ ><


          "เป้าหมายในชีวิตของคนบางคน...อาจจะแค่อยากให้อีกหนึ่งชีวิตมีความสุข" สั้น ๆ แต่ยิ่งใหญ่


          เดินมาสักพักเจอตรอกร่มแดง เห็นแล้วนึกถึงหนังจีนโบราณสมัยเด็ก ที่ใช้วิชาตัวเบาเหยียบร่มแล้วเดินบนร่ม....ไปกันใหญ่ละตรู ><


          "หากปารีสมีหอไอเฟล เฟิ่งหวงก็มีสิ่งนี้ครับ อนุสรณ์สถานนกเอี้ยง เอ๊ย นกฟีนิกส์"


          Travelling is my life, fun is my style ! ชีวิตมันสั้น...ก็มันส์กันไป ! ><


          หากเปรียบกับเพลงแล้ว ช่วงกลางวันก็เหมือนดนตรี Classical ช่วงกลางคืนก็คือเพลงตื๊ดดี ๆ นี่เอง


          ได้เวลาออกล่าแสงดึก แนะนำครับ...ควรเดินเริ่มจากสะพานที่สูงสุด แล้วไล่มาเรื่อย ๆ กลับมาทางสะพานอื่น ๆ


          จากสะพานสูงที่สุดมองไปจะเห็นสะพานนี้อยู่ถัดไปครับ


          ผมละชอบไอ้แสงฟรุ้งฟริ้งที่หลังสุดของภาพมากครับ สวยแหวกมาก ><


          ลอดช่องเฟิ่งหวง


          ใครมาทอดสะพานให้เนี่ย


          สังเกตด้านบนภูเขามียิงเลเซอร์ด้วย นี่มันงาน Music Festival หรือเปล่า


          เหลือบไปมุมบนขวาเราเห็นมุมสูงครับ ถึงกับปีนขึ้นไปยืนเสียวบนที่แคบ ๆ แล้วตั้งกล้องถ่ายเลยทีเดียว


          เดินเก็บภาพไปเรื่อย ฝนก็ตก ถ่ายทีเช็ดหน้าเลนส์ที แต่ก็มันส์ดีนะ ^^


          ใกล้ถึงที่พักเมื่อเห็นสะพานนั้น ^^


          มุมมันได้ แสงมันโดน ความงามก็เกิดขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ ... หลงรักเมืองนี้ยามค่ำคืนจริง ๆ


          ถ่ายรูปนี้เสร็จผมก็เข้านอนครับ เพราะพรุ่งนี้เดินทางต่อไปฉางซา รถจะออกตอนเที่ยงตรง ><


          ระหว่างทางไปฉางซาเราก็พูดคุยกันแลกเปลี่ยนเรื่องราวกับแก๊งวัยรุ่นจีนที่พักที่เดียวกัน และเดินมาขึ้นรถด้วยกันกลุ่มนี้ครับ พวกเธอเป็นนักศึกษามาเที่ยวจากกวางโจว พูดอังกฤษพอได้ เรียกว่าได้รู้อะไรหลาย ๆ อย่าง และหนึ่งในนั้นเป็นติ่งมาริโอ้ซะด้วย ผมเลยบอกผมเนี่ย มาริโอ้ เมาเว่อออ เหนือกว่าเมาเร่อเยอะ และตอนนี้ยังเพ้อเจ้ออีกด้วย 5555


          ออกเดินทางกันมาถึงฉางซาราว ๆ หนึ่งทุ่ม และเช็กอินเข้าที่พัก jin jiang inn ติดถนนคนเดินไท่ผิงเลยครับ ทำเลเทพมาก ใกล้เกาะส้มอีกตะหาก เดินขาลากหน่อยแต่ไม่หวั่น ห้องสบายมีผ้าเช็ดตัวให้พร้อม แอร์มีฮีตเตอร์ แต่พนักงานไม่เก่งภาษาอังกฤษครับ >< การเดินทางง่ายมาก บอกพี่แท็กซี่ว่าไปถนนไท่ผิง คืนละ 199 หยวน ต่อห้อง 2 คนครับ


          เดินออกมาเลี้ยวขวานิดเดียวถึงเลยครับ ปากทางถนนคนเดินไท่ผิง เดินหาอะไรกินไปเรื่อย ๆ


          สักพักมาโผล่ย่าน Night Life รู้สึกดีที่มันใกล้โรงแรมมาก เพราะฉางซาไม่มีอะไรทำเลย เราเลยต้องหาอะไรทำครับ

          ป.ล. อายุต่ำกว่า 20 ปี โปรดใช้วิจารณญาณในการชม


          ร้านนี้เลยครับ สนนราคาที่ 680 หยวน ต่อ เหล้า 1 ขวด+ มิกซ์ 6 ขวด มีผลไม้กับถั่วปากอ้ามาให้ เพลงก็มันส์ดีครับ


          มาหาอะไรกินที่ถนนคนเดินยามเช้าต่อครับ


          จากโรงแรมเดินไปข้ามสะพานนี้เพื่อไปสวนส้ม ไปชมหัวขนาดมหึมาของท่านประธานเหมากันครับ


          ลงมาจะเจอสวนสาธารณะก็เดินตรงไปเรื่อย ๆ ไกลพอสมควรครับกว่าจะถึงพี่เหมา แต่ถ้าใครชอบถ่ายรูปเล่นก็เดินสักรอบครับ มีมุมสวนให้ถ่ายเยอะ สวนน่ารักดี อีกขาค่อยนั่งรถกลับ


          เจ้าหนูนี่มาเดินเล่นกับครอบครัว แก้มแดงเชียว


          ถึงแล้ว...ก้มหาเศษเงินไปเที่ยวต่อทริปหน้าแป๊บ


          สวัสดีครับพี่เหมา ...


          ลากันด้วยภาพนี้ครับ


          ขอบคุณทุกท่านที่รับชมทั้ง 2 ตอนนะครับ หากชอบช่วยกด like หรือ comment เป็นกำลังใจให้หน่อยครับ ><  ฝาก Page อีกครั้งหนึ่ง มาเกาโลกด้วยกันที่ https://www.facebook.com/scratchdaworld

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณสมาชิกหมายเลข 1092438 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก Scratch da world / สองเท้า-เกาโลก