ที่เที่ยวเดือนพฤษภาคม 2565 ทั่วไทย เลือกที่ที่ใช่ สไตล์ที่ชอบ

ที่เที่ยวพฤษภาคม 2565 หลากหลายสไตล์ที่เที่ยว ที่จะทำให้เอนจอยไปกับชั่วโมงแห่งความสุขกันตลอดทั้งเดือน

ไม่บอกก็รู้ว่าช่วงนี้มันช่างร้อนเหลือใจ อยากที่จะหาสถานที่ท่องเที่ยวดี ๆ สักที่ เผื่อว่าความสนุกจะช่วยคลายร้อนไปด้วยในตัว ว่าแล้วเปิดปฏิทินเดือนพฤษภาคม 2565 เล็งหาวันที่เหมาะ ๆ แล้วสะกิดชวนคนข้าง ๆ ไปเที่ยวกัน แต่สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าเดือนนี้จะไปเช็กอินที่ไหนดี ลองมาหาไอเดียจากเราก็ได้นะ

1. เทศกาลผลไม้ภาคตะวันออก

ช่วงฤดูร้อนแบบนี้จะมีอะไรดีไปกว่าการได้ลิ้มลองผลไม้อร่อย ๆ ที่ทั้งสดและส่งตรงจากสวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสวนผลไม้ภาคตะวันออก ไล่เลียงมาตั้งแต่จันทบุรี ตราด และระยอง ผลิตผลต่างทยอยกันออกดอกออกผล ทั้งมังคุด เงาะ ทุเรียน ระกำ มะม่วง และอื่น ๆ อีกมากมาย ยิ่งถ้าใครมีโอกาสไปชิมถึงสวนก็จะสัมผัสได้ถึงความหวาน หอม และฉ่ำ จนทำเอาอดใจไม่ไหว อยากที่จะขอเหมาอุดหนุนกลับไปกินที่บ้านต่อ อันนี้ก็แล้วแต่อัธยาศัย แต่แนะนำว่า…ถ้าจะไปสวนไหน ยังไงก็ลองโทรศัพท์สอบถามกับทางสวนก่อน เผื่อว่าไปแล้วจะได้ไม่ไปเก้อกัน

สวนทุเรียนบุฟเฟ่ต์ 2565 เอาใจคนรักทุเรียน กินไม่อั้น สดจากสวน

ตะลุยสวนผลไม้ 2565 จ.ระยอง-จันทบุรี เที่ยวชม ชิม ชิล ช้อปผลไม้สด ๆ

เที่ยวสวนผลไม้ตราด 2565 มาถึงสวนก็ดี หรือจะสั่งออนไลน์ก็สะดวก

2. หมู่บ้านโป่งลึก-บางกลอย อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่หลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับวิถีชุมชนกะเหรี่ยงกะหร่าง (ปกาเกอะญอ) ที่ยังคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ท้องถิ่น สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะไปเที่ยวที่นี่ เห็นทีต้องมีความมุมานะพอสมควร เพราะต้องทรงตัวบนรถโฟร์วีล ลัดเลาะผ่านนับสิบโค้ง แต่ก็แลกกับการทัศนาธรรมชาติสองข้างทางเพลิน ๆ สนุกไปกับกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งการล่องแพเปียกไปตามต้นน้ำของแม่น้ำเพชรบุรี, ชมวิวบนสะพานแขวนกลางหมู่บ้าน, นอนกางเต็นท์ชมดาว, เดินสำรวจป่า ท่ามกลางอัธยาศัยไมตรีของชาวบ้าน น่าจะเป็นอีกหนึ่งทริปที่ชวนให้ประทับใจไม่น้อยเลย

สำหรับใครที่สนใจอยากไปเที่ยวสามารถติดต่อที่ศูนย์บริการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โทรศัพท์ 0-3277-2311, 0-3277-2312 หรือ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน - Kaeng Krachan National Park, เฟซบุ๊ก โป่งลึก-บางกลอย เที่ยวชมธรรมชาติ วิถีชีวิตชาวปกาเกอะญอ

เที่ยวหมู่บ้านโป่งลึก-บางกลอย จ.เพชรบุรี ชมวิถีชุมชนปกาเกอะญอ ล่องแก่งแพไม้ไผ่เพลิน ๆ

3. บ้านมอญห้วยน้ำใส จังหวัดราชบุรี

เดินทางสัมผัสธรรมชาติแบบใกล้กรุงที่บ้านมอญน้ำใส หมู่บ้านท่องเที่ยวแห่งอำเภอสวนผึ้ง ที่ยังคงความมีเสน่ห์ทั้งอัธยาศัย ธรรมชาติ และวิถีความเป็นอยู่ เอาไว้อย่างน่าสนใจ เหล่านี้กลายเป็นเสน่ห์ที่แทบไม่ต้องอาศัยการปรุงแต่ง รวมถึงกิจกรรมต่าง ๆ อย่างการใส่บาตร (จะมีทุกเช้าวันเสาร์-อาทิตย์) หรือจะเป็นการเดินเล่นที่ตลาด มากมายทั้งเสื้อผ้าและของกินต่าง ๆ ให้เลือกชิมและช้อปกันจนพุงกาง แล้วค่อยมานั่งเล่นริมน้ำตก หรือใครติดใจอยากขอนอนค้างสักคืน บริเวณใกล้ ๆ ก็ยังมีที่พักไว้บริการอีกด้วย

หมู่บ้านมอญห้วยน้ำใส จ.ราชบุรี กับความสุขที่เรียบง่าย ท่ามกลางธรรมชาติ

4. หาดปากน้ำปราณ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

สำหรับใครที่อยากหาพิกัดที่เที่ยวทะเลสงบ ๆ แถมใกล้กรุงเทพฯ แนะนำว่าให้ลองมาเที่ยวที่หาดปากน้ำปราณ บรรยากาศที่นี่บอกเลยว่าเหมาะแก่การมาพักผ่อนที่ยังคงความเป็นธรรมชาติ มองออกไปเบื้องหน้าเป็นชายหาดกว้าง มองวิวได้แบบปัง ๆ สุดสายตา ยิ่งถ้าเป็นช่วงเวลาเย็น ๆ อยากจะหากิจกรรมทำเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการเดินเล่น ก็ได้ฟีลไปอีกแบบ รับลมทะเลเย็น ๆ หรือจะนั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจ ก็เพลินไปอีกแบบ ตลอดจนความสะดวกสบายจากที่พักหลากหลายรูปแบบ ร้านค้า และร้านอาหารอร่อย ๆ ก็มีให้เลือกแบบพร้อมสรรพ

ภาพจาก AfriramPOE / Shutterstock.com

5. เกาะเตียบ จังหวัดชุมพร

อีกหนึ่งเกาะชวนฝันให้ได้เอนกายพักผ่อนสบาย ๆ ด้วยความที่เป็นหมู่บ้านชาวเล และดำรงชีวิตด้วยอาชีพประมง เราจึงยังได้เห็นและได้สัมผัสกับเสน่ห์ดังกล่าว บ้างก็ยังเห็นเรือประมงของชาวบ้านจอดเทียบริมฝั่งอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งยังเหมาะกับเดินเล่น ชมวิวทะเล หรือจะถ่ายภาพไปเรื่อย ๆ กับสีน้ำทะเลสวย ๆ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสนุกให้ทำ อย่างแคมปิ้งริมทะเล, พายคายัก, พาย Sub Board หรือจะขึ้นไปยังจุดชมวิวสวย ๆ ตกดึกก็มีปาร์ตี้หมูกระทะให้ได้กินอิ่มจนพุงกาง บอกเลยว่าที่นี่คือสวรรค์บนดินชัด ๆ

6. เกาะพระทอง จังหวัดพังงา

เกาะขนาดใหญ่ที่สุดของจังหวัดพังงา ไฮไลต์ของที่นี่คือ การได้เห็นความงดงามของทุ่งหญ้าสีทอง และมีต้นเสม็ดแคระขึ้นกระจายสวยงาม ที่นี่ถือเป็นป่าทุ่งหญ้าสะวันนากลางทะเลขนาดใหญ่หนึ่งเดียวในเมืองไทย ซึ่งใครที่อยากชมความสวยงามด้วยตาตัวเองแนะนำว่าให้มาช่วงเช้าหรือเย็นที่แสงแดดไม่ร้อนจนเกินไป ลองคิดภาพตามว่าเมื่อทุ่งหญ้าเจอเข้ากับแสงแดดอ่อน ๆ ส่องอาบไล้เรืองรอง นับเป็นหนึ่งในความอันซีนที่ไม่เคยได้เห็นที่ไหนมาก่อนแน่ ๆ ถ้าเป็นช่วงหน้าฝน ทุ่งหญ้าเหลืองทองก็จะกลายเป็นสีเขียวขจี จะว่าไปก็ดูสวยและแปลกตาไม่แพ้กัน

7. ผีเสื้อปางสีดา จังหวัดสระแก้ว

เป็นประจำทุกปีเมื่อถึงช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม ในอุทยานแห่งชาติปางสีดาจะเป็นที่นัดชุมนุมของเหล่าผีเสื้อทั้งหลายที่บินออกมาอวดโฉมความงดงามให้นักท่องเที่ยวได้เชยชมและถ่ายรูป เพลิดเพลินกับการชมสีสันความสวยงามของผีเสื้อ ซึ่งมีให้ได้ชมจำนวนนับหมื่นตัว มากกว่า 400 สายพันธุ์ เช่น ผีเสื้อหนอนคูน, ผีเสื้อหางดาบลายจุด และผีเสื้อหนอนจำปี โดยเฉพาะในวันที่ท้องฟ้าโปร่งโล่ง แสงแดดส่องลงมาถึงผืนป่า ผีเสื้อก็จะออกมาให้ได้ชมกันแบบจุใจ ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การชมผีเสื้อจะอยู่ในช่วง 09.00-12.00 น. ใครจะเที่ยวชมเห็นทีต้องวางแผนกันดี ๆ นะ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติปางสีดา - Pang sida National Park

8. เวียนเทียนกลางน้ำที่กว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานประเพณีเวียนเทียนกลางน้ำที่กว๊านพะเยา ครั้งที่ 45 หนึ่งเดียวในโลก เนื่องในวันวิสาขบูชา ณ บริเวณท่าเรือวัดติโลกอาราม ระหว่างวันที่ 13-15 พฤษภาคม 2565 และพบกับกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าทางวัฒนธรรม อาหารพื้นถิ่นของกินพื้นบ้าน และในวันที่ 15 พฤษภาคม 2565 ชมพิธีเปิดงานเวียนเทียนทางน้ำหนึ่งเดียวในโลก พร้อมชมศิลปะการแสดงทางวัฒนธรรม จากนั้นลงเรือไปประกอบพิธีเวียนเทียนทางน้ำรอบวัดติโลกอารามกลางกว๊านพะเยา ประทับใจไปกับบรรยากาศยามพระอาทิตย์อัสดงหลังทิวเขาอันสวยงามของกว๊านพะเยา

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Thailand Festival

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ททท.สำนักงานเชียงราย-พะเยา

9. อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จังหวัดลำปาง

มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอเมืองปาน อำเภอแจ้ห่ม และอำเภอเมืองลำปาง มีสภาพป่าอันอุดมสมบูรณ์และเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในอุทยาน ได้แก่ บ่อน้ำร้อนแจ้ซ้อน เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีสภาพการเกิดทางธรณีวิทยา มีกลิ่นกำมะถันอ่อน ๆ ตั้งอยู่รวมกันในบริเวณพื้นที่ที่ทำการอุทยาน ภายในพื้นที่มีโขดหินน้อยใหญ่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป และมีไอน้ำลอยกรุ่นขึ้นมาจากบ่อปกคลุมรอบบริเวณ มีน้ำพุร้อน เป็นที่ที่นิยมนำไข่ไก่และไข่นกกระทามาแช่ ไข่แดงจะแข็งมีรสชาติมันอร่อย ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าลอง ใครมาก็ไม่พลาด

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน - Chae Son National Park หรือโทรศัพท์ 08-9851-3355

10. ทุ่งดอกเวอร์บีน่า ม่อนแจ่ม

ที่เที่ยวเชียงใหม่ยอดนิยมสำหรับ “ม่อนแจ่ม” อำเภอแม่ริม เพราะความงามก็เปลี่ยนไปตามช่วงฤดูกาล อย่างในช่วงฤดูฝนก็จะได้ชมสีม่วงหวาน ๆ ของ “ดอกเวอร์บีน่า” ที่บานสะพรั่งสวยงาม โดยทุ่งดอกเวอร์บีน่าจะมีให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชมกันทุกฤดูฝน ในช่วงเดือนพฤษภาคมจนถึงปลายเดือนมิถุนายน ใครที่อยากถ่ายรูปกับดอกไม้สวย ๆ แล้วเอาไว้อัปรูปลงโซเชียล ลองแวะมากันได้

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย, โทรศัพท์ 08-1950-9767

11. น้ำตกขุนกรณ์ จังหวัดเชียงราย

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติชื่อดังของจังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ลาว รายล้อมด้วยธรรมชาติงดงาม โดยความสวยงามของสายน้ำตกอยู่ที่การรวมตัวของห้วยแม่กรณ์ ห้วยแม่มอญ ห้วยย่าดี ห้วยเลาอ้าย ไหลรวมกันเป็นลำน้ำแม่กรณ์ แล้วไหลรวมกับแม่น้ำลาวอีกที ซึ่งลำน้ำแม่กรณ์นี้ก็เป็นลำน้ำที่ทำให้เกิดน้ำตกขุนกรณ์ขึ้นมา หากว่าใครที่มาเที่ยวช่วงหน้าฝน น้ำจะไหลเยอะและแรงเป็นพิเศษ และว่ากันว่าดูสวยงามโดดเด่นท่ามกลางธรรมชาติ แต่เอาจริง ๆ แล้วสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี มาช่วงไหนน้ำตกขุนกรณ์ก็สวยและมีเสน่ห์แตกต่างกันไปเมื่อนั้น

12. ถ้ำนาคี จังหวัดนครพนม

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตไม่แพ้ถ้ำนาคา อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติภูลังกา เสน่ห์ของสถานที่แห่งนี้คือ การได้เห็นกลุ่มหินที่มีลวดลายพื้นผิวเป็นริ้วคล้ายกับเกล็ดลำตัวพญานาคขนาดใหญ่ รายล้อมไปด้วยป่าไม้สีเขียว โดยในส่วนของด้านในถ้ำจะมีพระพุทธรูปให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวเข้ามากราบไหว้ ทั้งนี้ การจะไปเที่ยวถ้ำนาคี นักท่องเที่ยวอาจจำเป็นต้องออกแรงขาและแขนอยู่เสียหน่อย แต่ด้วยความเชื่อและศรัทธาแล้ว เมื่อไปถึงข้างบนจะรู้สึกหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง โดยการจะเข้าไปเที่ยวถ้ำนาคีได้นั้นไม่ต้องจองคิวล่วงหน้า แต่ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อน เพื่อการจัดหาเจ้าหน้าที่ในการนำทางเข้าไปเที่ยวชม

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติภูลังกา จังหวัดนครพนม - Phulangka National Park Thailand หรือโทรศัพท์ 08-4792-3505

13. ล่องแก่ง

ใครไม่ถนัดกิจกรรมผจญภัย ลองจัดเบา ๆ กับการล่องแพไม้ไผ่ก็ดีไม่น้อย นั่งเอาก้นแช่น้ำ ล่องไปเรื่อย ๆ ตามคลอง หรือนั่งแช่เท้าแกว่งไป-มา ให้น้ำกระเด็นโดนตัวเปียกหน่อย ๆ ก็ชุ่มฉ่ำใจดี บางสถานที่ก็มีบริการอาหารและเครื่องดื่มไว้รองรับเสียด้วย เล่นน้ำไป กินข้าวไป...แฮปปี้สุด ๆ สถานที่ล่องแพที่น่าสนใจ เช่น ล่องแพไม้ไผ่บ้านวังหอน นครศรีธรรมราช, ล่องแพไม้ไผ่ตลาดโอ๊ะป่อย ราชบุรี, ล่องแพไม้ไผ่แม่น้ำซองกาเลียและแม่น้ำรันตี สังขละบุรี, ล่องแพเขื่อนแม่งัด เชียงใหม่, ล่องแพแม่วาง เชียงใหม่, ล่องแพเขื่อนกิ่วลม ลำปาง, ล่องแพแก่งไฮ พิษณุโลก, ล่องแพห้วยกระทิง เลย และล่องแพพะโต๊ะ ชุมพร เป็นต้น

ภาพจาก Tappasan Phurisamrit / Shutterstock.com

14. งานบุญบั้งไฟ 2565

อีกหนึ่งงานเทศกาลสำคัญของภาคอีสาน กับงานเทศกาลประเพณีบุญบั้งไฟ จังหวัดยโสธร ประจำปี 2565 ทั้งยังเป็นประเพณีที่เกี่ยวข้องและสัมพันธ์กับวิถีชีวิตของชาวอีสานอย่างแนบแน่น ซึ่งเชื่อกันว่าเมื่อเข้าสู่ฤดูกาลทำนาจะต้องจุดบั้งไฟขึ้นไปบูชาพญาแถน (เทพเจ้าแห่งฝน) ดลบันดาลให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล หล่อเลี้ยงนาข้าวและผลผลิตทางการเกษตรต่าง ๆ ให้ออกดอกออกผลตามกำหนด โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 พฤษภาคม 2565 ณ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองยโสธร ลานวิมานพญาแถน (พญาคันคาก-พญานาค) และสวนสาธารณะพญาแถน

ภาพจาก Warinezz / Shutterstock.com

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดยโสธร หรือโทรศัพท์ 0-4575-6710

เป็นยังไงบ้าง ? พอจะถูกใจที่เที่ยวเดือนพฤษภาคม 2565 ที่เรานำเสนอบ้างไหมเอ่ย หรือว่าใครมีไอเดียที่เที่ยวใหม่ ๆ หรืออยากจะแนะนำที่นี่เป็นพิเศษ ยังไงก็อย่าลืมมาแชร์บอกเรากันบ้างนะ เผื่อว่าจะมีใครแถวนี้อยากเที่ยวตามรอย ^ ^

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง