เที่ยวบึงกาฬ ลัดเลาะริมโขง เยือน 5 หมู่บ้านโอทอปบรรยากาศสุดชิล

ชวนเที่ยว 5 หมู่บ้านริมแม่น้ำโขง ในจังหวัดบึงกาฬ ช่วงหน้าหนาว ชมธรรมชาติสวย ๆ ของสองฟากฝั่งริมแม่น้ำ พร้อมกับเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชน กินอาหารท้องถิ่น นอนโฮมสเตย์ ได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม

ช่วงปลายปีแบบนี้ หลาย ๆ ท่านก็อาจจะกำลังมองหาที่เที่ยวเพื่อไปเที่ยวพักผ่อนรับลมเย็น ๆ กันใช่ไหมคะ สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ ดูบ้าง เราอยากจะเชิญชวนให้ลองไปสัมผัสกับวิถีชีวิตชุมชนชาวบ้านริมแม่น้ำโขง ในจังหวัดบึงกาฬ กันค่ะ เราได้โอกาสเดินทางไปเที่ยวที่นี่กับสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดบึงกาฬ แล้วรู้สึกประทับใจ เลยอยากจะมาแชร์เรื่องราวน่ารัก ๆ ของ 5 หมู่บ้านนี้ค่ะ จะสนุกสนานและมีความน่าสนใจอะไรบ้าง ตามเราไปเที่ยวกันเลย

1. บ้านสะง้อ ตำบลหอคำ อำเภอเมืองบึงกาฬ

บ้านสะง้อ เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง มีทัศนียภาพที่สวยงามสมคำร่ำลือจริง ๆ ค่ะ ทันทีที่เราได้ลงรถบริเวณลานวัดโพธิ์ชัยนิมิต ก็เหมือนโดนต้องมนตร์ไปเลยล่ะ เพราะภาพตรงหน้าสวยงามเกินบรรยาย มีสายน้ำโขงกว้างไกล ฝั่งตรงข้ามที่ประเทศลาว มีทิวภูเขาลูกใหญ่สีเขียว พร้อมกับสายลมเย็นพัดมาเรื่อย ๆ อากาศสดชื่นบริสุทธิ์ ที่สำคัญชาวบ้านยังน่ารัก ต้อนรับอย่างอบอุ่น นำพวงมาลัยดอกไม้ และเครื่องดื่มเย็น ๆ มาจัดเสิร์ฟให้ และยังมีการแสดงพื้นเมืองให้ชมกันด้วย

ความดีงามของหมู่บ้านแห่งนี้ไม่ได้มีแค่นี้นะคะ ไปค่ะตามเราไปเที่ยวชมหมู่บ้านกัน การชมหมู่บ้านก็เก๋ไก๋ไม่ซ้ำใครนะ เป็นรถพ่วงข้างคันเล็ก ๆ มีร่มสีสันฉูดฉาด น่ารักเชียว รอบ ๆ หมู่บ้าน ก็สะอาดและเป็นระเบียบ มองไปทางไหนก็ดีต่อใจ

สถานที่แรกก็คือ การไปชมการทำผ้าหมักโคลนดารานาคี ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ ด้วยเนื้อผ้าจะมีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ สีของผ้าก็มาจากธรรมชาติ เช่น แก่นคูน, โคลน, หมากค้อเขียว และชมพู่มะเหมี่ยว โคลนที่นำมาหมักก็ต้องเป็นโคลนจากแอ่งน้ำในชุมชนเท่านั้น ทุกกระบวนการทำจะต้องพิถีพิถันจนได้เนื้อผ้าที่นุ่ม มีน้ำหนักกำลังดี ใส่สบายสุด ๆ

ต่อจากการชมผ้าหมักโคลน เราก็จะไปชมจุดที่อยู่เหนือสุดแดนอีสาน จุดนี้ถ้าดูจากแผนที่ประเทศไทย จะเห็นเลยค่ะว่าเป็นพื้นที่ที่ยื่นออกไปในลำน้ำโขง แล้วก็ถ้าวัดจากเส้นละติจูดจุดนี้จะอยู่เหนือที่สุดของภาคอีสานจริง ๆ บรรยากาศโดยรอบก็สวยงาม เงียบสงบ มีภูเขาลูกใหญ่ให้ได้ชมอยู่เบื้องหน้า มาเดินเล่นช่วงเย็น ๆ ก็ได้ค่ะ

และพิเศษสุด ๆ สำหรับหมู่บ้านสะง้อ หากมาเที่ยวชมกันช่วงกลางวัน ก็สามารถนั่งกินข้าวริมแม่น้ำโขงได้ด้วย สามารถนำเสื่อมานั่งปิกนิกเองได้เลย หรือถ้ามาเป็นกลุ่มใหญ่ก็สามารถให้ทางชุมชนจัดอาหารแบบขันโตกมาให้ก็ได้ค่ะ อร่อยด้วย ^^ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ผู้ใหญ่บ้านพูลสุข สุขมา โทรศัพท์ 09 5168 2778

2. บ้านบุ่งคล้าเหนือ ตำบลบุ่งคล้า อำเภอบุ่งคล้า

บ้านบุ่งคล้า เป็นอีกชุมชนที่มีความน่าสนใจไม่แพ้หมู่บ้านอื่น ๆ เลยค่ะ เรามาถึงช่วงสาย ๆ แต่อากาศก็ยังเย็นสบาย ลมแรงพอสมควรเลย เพราะจุดที่เรามาชมวิวกันนี้อยู่ใกล้กับช่องเขาขาด บริเวณเมืองปากกระดิง ประเทศลาว แต่ก่อนที่เราจะไปชมรอบ ๆ หมู่บ้าน วิทยากรของหมู่บ้านก็ได้มาเล่าเรื่องราวของบ้านบุ่งคล้าเหนือให้ฟังด้วย วิทยากรเล่าว่าชาวบ้านที่นี่ดั้งเดิมก็ย้ายมาจากบ้านหนองเดิ่น มีความเชื่อเกี่ยวกับพญานาค ในช่วงปีใหม่ ก็มีบั้งไฟพญานาคให้ได้ชมด้วยนะ แปลก แต่มีจริง ๆ ค่ะ ชาวบ้านเขายืนยัน

กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดของที่นี่ ก็คือ การนั่งเรือชมวิวสองฟากฝั่งริมแม่น้ำโขง เพื่อไปชมจุดบรรจบของแม่น้ำสองสี และสะพานโฮจิมินห์ บริเวณเมืองปากกระดิง แขวงบอลิคำไซ ประเทศลาว ก่อนลงเรือก็ต้องไหว้ขอพรศาลปู่โต่งกันก่อนค่ะ ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านที่นี่ แล้วก็ลงเรือนำเที่ยวไปลุยลำน้ำโขงกันเลย

การนั่งเรือชมวิวก็ชิลใช้ได้เลยล่ะ ได้เห็นแปลงผักของชาวบ้านที่อยู่ริมลำน้ำโขง โดยเฉพาะไร่มะเขือเทศ ที่ชาวบ้านปลูกกันไม่น้อยเลยค่ะ นั่งเรือมาสักพัก ก็จะเห็นบริเวณช่องเขาขาด เป็นบริเวณที่มีภูเขาสองลูกขนาบข้างแม่น้ำกระดิง สายน้ำสีเขียวมรกตของแม่น้ำกระดิงและสีน้ำตาลของแม่น้ำโขงจะตัดกันอย่างชัดเจน ถ้ามาช่วงลมสงบ จะเห็นได้ชัดจากฝั่งไทยค่ะ ด้านบนแม่น้ำเป็นสะพานโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงหมายเลข 13 ของประเทศลาว บรรยากาศคล้ายกับเมืองชนบทในญี่ปุ่นเหมือนกันนะคะ ^^

นั่งเรือชมวิวแล้ว ก็มาเดินลัดเลาะริมแม่น้ำโขงกันบ้าง ไปชมลานพญานาค บริเวณหาดท่าสำราญ ซึ่งมีรูปปั้นพญานาคปู่ศรีสุทโธจำลองตั้งอยู่ ในช่วงหน้าร้อน ในลำน้ำโขงบริเวณนี้จะกลายเป็นหาดทรายกว้าง สามารถมาเล่นน้ำคลายร้อนได้ด้วยค่ะ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ผู้ใหญ่บ้านมนตรี รักโคตร โทรศัพท์ 08 5926 4213

3. บ้านห้วยเล็บมือ ตำบลหนองเดิ่น อำเภอบุ่งคล้า

บ้านห้วยเล็บมือ เป็นชุมชนชาวคาทอลิกแห่งเดียวที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงของจังหวัดบึงกาฬ จึงทำให้หมู่บ้านแห่งนี้มีเสน่ห์ไม่เหมือนที่ไหน เราพบปะกับชาวบ้านบริเวณลานกิจกรรมริมแม่น้ำโขง โบสถ์หลังเล็ก ๆ ดึงดูดให้เราหลงรักได้อย่างง่ายดาย บริเวณด้านหน้าโบสถ์เป็นลานกว้างมีต้นจามจุรีอายุมากกว่า 100 ปี พร้อมด้วยรูปปั้นอุ้งมือผู้หญิงตั้งตระหง่านอย่างสวยงามอยู่ริมแม่น้ำโขง

ที่บริเวณริมแม่น้ำโขงมีทางเดินริมน้ำทอดยาวขนานไปกับแม่น้ำ บรรยากาศยามเย็นเงียบสงบ มีลมเย็น ๆ พัดมาตลอด รู้สึกผ่อนคลายดีจริง ๆ ค่ะ เยี่ยมชมโบสถ์เรียบร้อยแล้ว ก็ไปชมวิวสวย ๆ บนภูเขากัน เราจะไปชมวิวแม่น้ำโขงจากบนภูทอกน้อย ซึ่งเป็นยอดเขาที่อยู่ห่างจากหมู่บ้านเพียงนิดเดียว ด้านบนมีทั้งพระแม่มารีย์ ไม้กางเขนขนาดใหญ่ และพระพุทธรูป เป็นยอดเขา 2 ศาสนาที่น่าศรัทธามาก ๆ บริเวณนี้เราจะได้เห็นวิวของแม่น้ำโขงที่ไหลลัดเลาะเป็นโค้งยาวไปจนถึงบ้านบุ่งคล้าเหนือ เห็นช่องเขาขาด และวิวทิวทัศน์ของประเทศลาว เงียบสงบเย็นใจดีจริง ๆ

ตกเย็นก็ได้เวลากินข้าว เราจะดินเนอร์ริมน้ำโขงกันที่คักแท๊ะโฮมสเตย์ ก่อนจะกินข้าว ก็สะดุดกับกลิ่นหอม ๆ ของชาสิรินธรวัลลี หรือต้นสามสิบสองประดง ยิ่งได้ชิมรสชาติชายิ่งรู้สึกชอบ รสชาติอร่อยละมุน มีกลิ่นหอม ๆ ลอยคละคลุ้งอยู่ในปาก จะดื่มกับขนมไทย หรือฝรั่งก็อร่อย นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสับปะรดในชุมชน และผ้าทอสวย ๆ ให้ได้เลือกซื้อกันด้วย

เมนูอาหารก็น่ากินมาก ๆ เลยค่ะ เป็นเมนูที่ได้วัตถุดิบจากในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นน้ำพริกผักต้ม, หน่อไม้ผัดไข่, แกงส้มผักรวม, หมูผัดดอกแค เป็นต้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 09 4258 6036

4. บ้านหนองเดิ่นท่า ตำบลหนองเดิ่น อำเภอบุ่งคล้า

บ้านหนองเดิ่นท่า ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง เป็นจุดที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม อากาศสดชื่นเย็นสบาย เหมาะสำหรับการมาเที่ยวในวันหยุด ชาวบ้านก็น่ารัก ต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นกันเอง มีขนมของหวาน น้ำดื่มเย็น ๆ จัดเสิร์ฟตลอด พร้อมด้วยการแสดงพื้นบ้านที่น่าประทับใจ

วันนี้มีโอกาสได้มานั่งกินข้าวกลางวันบริเวณริมลำน้ำโขง ซึ่งเป็นจุดที่ชาวบ้านเรียกกันว่า หาดสีดา เพราะช่วงหน้าร้อนน้ำลดจนเกิดเป็นหาดทรายกว้าง ยาวประมาณ 2.5 กิโลเมตรเลยทีเดียว อาหารที่ชาวบ้านจัดมาเป็นแบบขันโตก มีกับข้าวน่ากินหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นลาบปลา, ยำหอยเชอรี, แกงหวายไก่บ้าน, ปิ้งป่นบอนหวาน เป็นต้น

กินอิ่มแล้วก็เต้นขยับร่างกายให้ย่อยกันสักนิด พร้อมกับเดินชมผลิตภัณฑ์จักสานสวย ๆ ซึ่งทำมาจากต้นคล้า ต้นไม้ในท้องถิ่นที่มีคุณสมบัติเหนียว คงทน สามารถนำมาจักสานทำเป็นของใช้ต่าง ๆ ได้หลากหลายแบบ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านสีพอน สิงห์พิมพ์ โทรศัพท์ 08 9691 5801

5. บ้านหนองคังคา ตำบลหนองเดิ่น อำเภอบุ่งคล้า

บ้านหนองคังคา ชุมชนเล็ก ๆ ที่โดดเด่นในเรื่องของวัฒนธรรมประเพณี ซึ่งมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ชาวบ้านต้อนรับเราอย่างอบอุ่นด้วยการทำบายศรีสู่ขวัญ เพื่อให้ทุกคนได้มาเที่ยวอย่างสุขใจ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองตลอดการเดินทาง เสร็จจากพิธีบายศรีสู่ขวัญ ก็กินขนม จิบกาแฟเบา ๆ ให้หายง่วงยามบ่ายกันสักนิด ก่อนจะชมผลิตภัณฑ์เครื่องจักสานจากต้นคล้า และผ้าขาวม้าสวย ๆ

สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างของที่นี่ก็คือ การทำพิณแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่หาผู้ทำได้ยากแล้ว มีการสาธิตให้ดูวิธีการทำอย่างเป็นกันเอง พร้อมกับแสดงดนตรีสดในแบบฉบับของชาวหนองคังคา มีอาหารพื้นเมืองให้ลองชิมด้วย อาทิ หมกปลาเนื้ออ่อน, ต้มยำไก่บ้าน, อ่อมกบ, ลาบเป็ด และขนมข้าวแดกงา อิ่มอร่อยไปตาม ๆ กัน

และแน่นอนว่าความสนุกสนานก็มีมาจนถึงโค้งสุดท้าย ชาวบ้านชวนร้องเต้นเล่นรำกันจนหมดแรง ได้ยิ้มและหัวเราะออกมาพร้อมกัน เป็นความสุขใจที่เกิดขึ้นง่าย ๆ ไม่ต้องปรุงแต่งใด ๆ เลยค่ะ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ผู้ใหญ่บ้านประมวล ทองขาว โทรศัพท์ 06 5305 6414

ถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ ไม่ซ้ำใครที่ดีไม่น้อยเลยล่ะค่ะ ซึ่งนอกจากจะได้เพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์สวย ๆ ของชุมชนแล้ว ก็ยังจะได้ลองทำสิ่งที่ไม่เคยทำ ได้เจอผู้คนที่เป็นมิตร ได้กินอาหารอร่อย ๆ ที่มาจากธรรมชาติ ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ เป็นการพักใจอย่างแท้จริงเลยใช่ไหม :)

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดบึงกาฬ