วัดไทร กรุงเทพฯ วัดเก่าแก่กว่าร้อยปีตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา

มารู้จักวัดไทร บางโคล่ หรือวัดไทร บางคอแหลม วัดสำคัญที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และมีอายุเก่าแก่ไม่ต่ำกว่า 300 ปี

หลังจากที่มีประเด็นร้อนเกี่ยวกับวัดไทร บางโคล่ และคอนโดมิเนียมบริเวณใกล้เคียง เรื่องการตีระฆังเสียงดัง จนเป็นเหตุให้สำนักงานเขตบางคอแหลมออกหนังสือเตือนกับทางวัด และกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล หลายคนจึงอยากที่จะสืบค้นประวัติความเป็นมาและทำความรู้จักวัดแห่งนี้ให้มากยิ่งขึ้น เรามีมาฝากแล้วค่ะ

วัดไทร บางโคล่ หรือวัดไทร บางคอแหลม ตั้งอยู่บริเวณถนนพระราม 3 (ซอยเจริญราษฎร์ 7) แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ จากการสืบสาวประวัติและการบอกเล่าของชุมชน ว่ากันว่าวัดแห่งนี้ก่อตั้งมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้าง และสร้างขึ้นในสมัยใด มีแต่หลักฐานที่พอจะนำมาสันนิษฐานประกอบได้โดยดูจากองค์พระพุทธรูปที่มีอยู่ในวิหาร เป็นพุทธรูปประทับยืนปางห้ามญาติ จีวรเป็นดอกพิกุล หรือดูได้จากพระปรางค์หรือเจดีย์ สังเกตจากฝีมือช่างที่ทำการก่อสร้าง มาเปรียบเทียบจะใกล้เคียงกับช่างในสมัยอยุธยาตอนปลาย ซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่า 300 ปี

         จากนั้นในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ช่วงรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 ก็ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ เรื่อยมา จนกระทั่งเมื่อ พ.ศ. 2440 ก็ได้รับพระราชทานวิสุงคาม สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย

          ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณวัดเล่าว่า ในอดีตวัดมีความสวยงาม และมีเจดีย์จำนวนมากรายรอบเสมือนรั้วของวัด แต่กาลเวลาผ่านไปเจดีย์เหล่านั้นก็พังทลายไปตามกาลเวลา บ้างก็ถูกขุดเพื่อหาสมบัติ บ้างก็เสียหายไปตามกาลเวลา แต่ยังมีกลิ่นอายของความเก่าแก่หลงเหลืออยู่ไม่น้อย โดยในบริเวณข้างโบสถ์หลังเก่าจะมีต้นมะม่วงอายุมากกว่า 100 ปี ตั้งตระหง่านอยู่

          บรรยากาศในวัดมีความเงียบสงบ แม้ปัจจุบันจะถูกรายล้อมไปด้วยชุมชน โรงงาน รวมถึงคอนโดที่มาก่อสร้างข้างวัดเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนา ทำบุญและกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องของพี่น้องประชาชนเรื่อยมา

นอกจากนี้ภายในวัดไทรยังมีสถานที่ที่สำคัญอีก 5 แห่ง คือ

มณฑปหลวงปู่พุ่ม

ภายในมีรูปเหมือนของหลวงปู่พุ่ม ซึ่งเป็นพระที่ชาวบ้านเลื่อมใสศรัทธาอย่างมาก และเป็น 1 ใน 10 พระคณาจารย์ของสมเด็จกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หลวงปู่พุ่มจำพรรษาอยู่ที่วัดไทรหลายปี และได้ช่วยพัฒนาวัด ร่วมกับหลวงพ่อสุ่นเจ้าอาวาสวัดไทรในขณะนั้น จนเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2489 คณะสงฆ์และประชาชนชาววัดไทร ได้เททองหล่อรูปเหมือนของหลวงปู่พุ่มขนาดเท่าองค์จริง เพื่อให้สาธุชนได้นมัสการกราบไหว้บูชา ตามคำที่หลวงปู่พุ่มพูดกับศิษยานุศิษย์ก่อนมรณภาพว่า “เมื่อฉันสิ้น จะมาอยู่ที่นี่”เพราะวัดไทรเป็นวัดที่ร่มรื่น

พระอุโบสถเดิม

เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปสลักหินทรายสีแดง ปางสมาธิ ปางมารวิชัย พระพุทธรูปทรงเครื่อง คาดว่าสร้างสมัยอยุธยา พระอุโบสถแห่งนี้มีใบเสมาสลักหินทรายสีแดง ปัจจุบันเหลือเพียง 1 หลักทางด้านตะวันตกของพระอุโบสถ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรอขึ้นทะเบียนโบราณสถาน

พระอุโบสถหลังใหม่

อุโบสถหลังใหม่เป็นที่ประดิษฐานพระประธานของวัด ได้เริ่มก่อสร้างและวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2537 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2542

เจดีย์พระธาตุ

เป็นเจดีย์สีทองที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยพระครูโสภณธรรมรังษี เป็นเจ้าอาวาส ภายในบรรจุพระสารีริกธาตุ และอัฐิหลวงปู่สุ่นและอัฐิหลวงพ่อพูน กิตติสาโร เจ้าอาวาสองค์ก่อน

ศาลเจ้าพ่อเรือง

เป็นที่ประทับของเจ้าพ่อเรือง อันเป็นที่นับถือของชาวจีนย่านบางรัก ภายในจะมีรูปหล่อปูนปั้นของเจ้าพ่อเรือง ในชุดนักรบมือซ้ายถือดาบ โดยตามประวัติเล่าว่าเจ้าพ่อเรือง ได้ลอยมาติดที่ท่าเทียบเรือแถววัดสวนพลู ชาวจีนในแถบนั้นจึงได้สร้างศาลและอัญเชิญท่านมาอยู่ที่ตรอกไก่ (ถนนศรีเวียงในปัจจุบัน) ต่อมาพื้นที่ที่เป็นที่ตั้งศาลเจ้าพ่อเรืองเดิมจะมีการก่อสร้างโรงแรมขนาดใหญ่ ชาวจีนที่นับถือท่านจึงอัญเชิญศาลเจ้าพ่อเรืองมาอยู่ที่วัดไทร

แม้ความวุ่นวายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจะดูเหมือนได้ข้อยุติลงด้วยดีจากมาตรการทางกฎหมาย และมาตรการทางสังคมแล้ว แต่ก็ยังคงหวังว่า "เสียงระฆัง" จะดังก้องเตือนเข้าไปถึงจิตใจให้คนในยุคนี้ มิควรหลงลืมขนบธรรมเนียมประเพณีของไทยอันเป็นรากเหง้า "ของพวกเราทุกคน"

         ที่อยู่ : ถนนพระรามที่ 3 (ซอยเจริญราษฎร์ 7) แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ
         เบอร์โทรศัพท์ : 02 289 1292
         เว็บไซต์ : watsai.com
         เฟซบุ๊ก : วัดไทรบางโคล่

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เว็บไซต์ watsai.com, เฟซบุ๊ก วัดไทรบางโคล่

วัดไทร บางโคล่ กรุงเทพฯ วัดเก่าแก่กว่าร้อยปีตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา