1. คุณเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์
นับว่าเป็นโอกาสดีมาก ๆ ที่ได้มีโอกาสร่วมนั่งพูดคุยกับ คุณเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ อีกหนึ่งบุคคลที่มีความสำคัญต่อเขาดินในยุคปัจจุบัน เพราะเป็นบุคคลที่คอยสนับสนุนเขาดินให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ในวันนี้นั่นเอง
ถ้าใครมาเที่ยวเขาดินแล้วเห็นว่ามีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย และในทุก ๆ จุดยังมีป้ายให้ความรู้เกี่ยวกับสัตว์ ต้นไม้ และสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบ ๆ เขาดินเยอะแยะไปหมด เรียกได้ว่าทุกคนจะต้องได้ความรู้กลับบ้านไปแน่นอน คุณเบญจพลก็เล่าให้ฟังว่า สวนสัตว์เป็นสถานที่ที่ให้บริการสังคม ซึ่งนอกจากผู้ที่เข้าเยี่ยมชมจะได้รับความสนุกสนานและความรื่นเริงจากการชมสัตว์ในส่วนจัดแสดงสัตว์ต่าง ๆ แล้ว ก็ยังจะได้ความรู้เกี่ยวกับสัตว์นานาชนิดในสวนสัตว์ และที่สำคัญยังจะได้ความรู้สึกด้านการอนุรักษ์กลับบ้านไปด้วย เพราะสัตว์บางชนิด ไม่สามารถที่จะหาชมได้ในป่าธรรมชาติแล้ว มีหลงเหลือเพียงแค่ในสวนสัตว์เท่านั้น พอเด็ก ๆ หรือผู้เข้าชมได้มาเห็นตรงนี้ ก็จะตระหนักได้ว่าต้องช่วยกันอนุรักษ์ ก็จะช่วยให้ทรัพยากรสัตว์ป่าในประเทศไทยดีขึ้นได้ในอนาคต
นอกจากนี้ในแง่ของคนทำงานในเขาดินอย่างคุณเบญจพล ยังบอกว่ารู้สึกประทับใจกับความร่มรื่นของเขาดิน และจะรู้สึกมีพลังในการทำงานทุกครั้งที่ได้เห็นรอยยิ้มของผู้เข้าเยี่ยมชมและเด็ก ๆ
และก่อนที่จะจบการพูดคุย คุณเบญจพลยังได้แนะนำมุมสวย ๆ ของเขาดินไว้ด้วย นั่นก็คือ บริเวณชั้นล่างของศูนย์อาหาร เพราะผนังด้านหนึ่งนั้นจะเป็นกระจกและติดกับส่วนจัดแสดงนกน้ำ ผู้เข้าเยี่ยมชมสามารถที่จะนั่งกินข้าวไปพร้อม ๆ กับการชมวิวกว้าง ๆ ภาพดูสบายตา อากาศเย็นสบาย เพราะมีเครื่องปรับอากาศ และยังเป็นจุดแวะนั่งพัก เพื่อเก็บแรงไว้ไปเที่ยวในส่วนอื่น ๆ ของสวนสัตว์ดุสิตได้ด้วย ส่วนอีกมุมหนึ่งที่ไม่ควรพลาด ก็คือ มุมข้าง ๆ สระน้ำ ซึ่งสามารถมองเห็นพระที่นั่งอนันตสมาคม เป็นจุดชมวิวที่สวยงามมากและน่ามาถ่ายภาพเก็บไว้
2. น.สพ.สุเมธ กมลนรนาถ รองผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์
ซึ่งนอกจากความร่มรื่นของเขาดินที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว น.สพ.สุเมธ ยังบอกอีกว่าที่เขาดินมีการจัดการดูแลสัตว์และการให้บริการตามระดับมาตรฐานของสมาคมสวนสัตว์และอควาเรียมโลก (World Association for Zoos and Aquariums : WAZA) มานานแล้ว ซึ่งจะเป็นสวนสัตว์สมัยใหม่ที่พร้อมให้ทั้งความสนุกสนานเพลิดเพลิน ให้ความรู้แก่ผู้ที่มาเยี่ยมชม พร้อมทั้งส่งเสริมเกี่ยวกับงานด้านการอนุรักษ์ วิจัย และการศึกษาเกี่ยวกับสัตว์ป่า
"สวนสัตว์ที่มีคุณค่า ก็ต้องเป็นสวนสัตว์ที่ให้ทั้งความเพลิดเพลิน และสนับสนุนการศึกษาให้เด็กและประชาชนอย่างดี เราต้องทำให้สวนสัตว์เป็นสถานที่ที่ผู้มาเที่ยวชมควรได้สิ่งดี ๆ กลับบ้าน ได้ความรู้ ได้มีความตระหนักว่าสัตว์ต่าง ๆ ควรค่าแก่การอนุรักษ์"
"หลาย ๆ ท่านก็จะบอกเอาสัตว์มากักขังทำไม อยากให้ทำความเข้าใจใหม่ เพราะสัตว์ที่อยู่ในสวนสัตว์ เวลาเกิดใหม่ เขาเกิดตรงไหน เขาก็จะคิดว่าตรงนั้นเป็นบ้านเขา สัตว์ที่เกิดในสวนสัตว์ก็จะคุ้นเคยกับคน ทั้งเสียง กลิ่น คน เขาไม่รู้จักเลยว่าป่าเป็นอย่างไร แต่ทางสวนสัตว์ก็ยังคงปรับบริเวณจัดแสดงให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด ให้ร่มรื่นและใกล้เคียงกับป่าในธรรมชาติ
ในมุมมองของนักท่องเที่ยว ก็อาจจะมองว่าสัตว์แค่อยู่เฉย ๆ ในสวนสัตว์ แต่จริง ๆแล้ว สัตว์แต่ละตัวมีหน้าที่นะ เช่น หน้าที่ให้การศึกษาเด็กและผู้ที่เข้าเยี่ยมชม เวลาที่วิทยากรอธิบายข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์นั้น ๆ ก็สามารถอธิบายไปพร้อม ๆ กับการให้เห็นภาพจริงได้เลย ไม่ใช่แค่การชี้ไปบนภาพถ่าย บนหน้าจอทีวี ทีนี้ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ หรือไม่ว่าใครก็ตามได้เข้ามาแล้ว พอเห็นภาพก็จะจำข้อมูลต่าง ๆ ได้ดี สวนสัตว์ก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งเรียนรู้ที่ดีทีเดียว"
พอถามถึงสถานที่ที่น่าเที่ยวชมในเขาดิน น.สพ.สุเมธ ก็ตอบด้วยน้ำเสียงที่สดใสว่า เขาดินนั้นน่าเที่ยวทุกมุม เพราะในทุก ๆ มุมก็จะมีเรื่องราวดี ๆ วิวสวย ๆ ให้ได้ชมกัน อย่างบริเวณเนินเขาดิน ก็มีต้นสักทอง ซึ่งเป็นต้นสักที่ปลูกมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ให้ได้ชม หรือใครหลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าที่เขาดินมีหลุมหลบภัยสาธารณะ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อยู่ด้วย ซึ่งเป็นหลุมหลบภัยเพียงแห่งเดียวในกรุงเทพฯ ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชม
3. คุณพิทักษ์ อุ่นซ้อน ผู้อำนวยการสวนสัตว์ดุสิต
และท่าน ผอ.พิทักษ์ ยังเล่าให้ฟังเพิ่มเติมอีกว่าตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีของการทำงานที่เขาดิน ก็ได้เห็นว่าที่นี่ได้มอบสิ่งดี ๆ ให้กับทั้งตัวท่านและผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมมากมาย อย่างตัวท่านเองก็ได้ทำงานในสถานที่ที่สวยงาม ร่มรื่นเป็นธรรมชาติมากที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ส่วนผู้ที่เข้าเยี่ยมชมก็จะได้รับความสนุกสนาน เพลิดเพลิน และยังได้รับความรู้ เรียกได้ว่าทุกสิ่งอย่างในเขาดินสามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ได้หมด
โดยเฉพาะเรื่องของสัตว์ป่าสงวน ที่เขาดินก็มีจัดแสดงอยู่หลายชนิด ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมสามารถเข้ามาดูในเรื่องของความเป็นอยู่ของสัตว์แต่ละชนิดได้ และยังจะได้มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์สัตว์ด้วย เพราะที่นี่จะมีการให้ความรู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับสัตว์มากมาย อีกสิ่งที่จะได้รับแน่ ๆ ก็คือ เรื่องราวของพืชพรรณต่าง ๆ พรรณไม้บางอย่างก็มีการปลูกมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งพอรวม ๆ กันก็เป็นปอดของกรุงเทพฯ ได้ด้วย เด็ก ๆ และผู้เข้าเยี่ยมชมก็ได้เรียนรู้ในเรื่องของธรรมชาติไปในตัว
มีหลุมหลบภัยสาธารณะ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเปิดให้เข้าเที่ยวชมแห่งเดียวในกรุงเทพฯ นักท่องเที่ยวสามารถลงไปชมด้านล่างได้ ก็จะเห็นภาพจำลองว่าคนในสมัยนั้นจะต้องหลบภัยอย่างไร และยังมีอาคารเรือนกระจก สถาปัตยกรรมชิ้นเอกของเขาดิน และอาคารเรือนพยาบาลที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 7 ให้เข้าเที่ยวชมด้วย"
อีกเหตุการณ์หนึ่งที่ท่าน ผอ.พิทักษ์ บอกว่าพอนึกถึงทีไรก็ยิ้มได้และความรู้สึกปลื้มใจที่ได้ทำงานที่เขาดิน ก็คือ เหตุการณ์ตอนที่เด็ก ๆ กลุ่มหนึ่งมาเที่ยวเขาดิน เวลาที่เด็ก ๆ มาเที่ยวเป็นหมู่คณะ ถ้าใครพูดอะไรสักอย่างที่ดูน่าตื่นเต้น พวกเขาก็จะพูดตาม ๆ กัน วันนั้นเด็ก ๆ ไปที่ส่วนจัดแสดงแม่มะลิ พอคุณครูบอกว่าแม่มะลิเป็นฮิปโปโปเตมัสที่ตัวใหญ่ที่อายุยืนที่สุดในประเทศไทย เด็ก ๆ ก็จะพากันส่งเสียงแม่มะลิ ๆ ๆ แล้วก็ไปยืนเกาะกระจก ตอนนั้นแม่มะลินอนอยู่ในน้ำ เด็ก ๆ ก็พากันส่งเสียงเรียกให้ตื่น ซึ่งปกติแล้วฮิปโปโปเตมัสจะสามารถกลั้นหายใจในน้ำได้ประมาณ 5-6 นาที พอแม่มะลิถึงเวลาที่ต้องขึ้นมาหายใจ เขาก็โผล่ขึ้นมา เด็ก ๆ ก็คิดว่าพวกเขาสามารถเรียกแม่มะลิให้ตื่นได้ ก็พากันเฮเสียงดังมาก แล้วก็ยิ้มหัวเราะ สร้างความสุขให้กับหลาย ๆ คนที่เห็น
4. คุณวิศิษฎ์ วิชาศิลป์ ที่ปรึกษาผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์และอดีตรองผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์
คุณวิศิษฎ์ เล่าว่า ตั้งแต่เรียนจบจากคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ได้เข้ามาทำงานที่เขาดินเลย เพราะรู้สึกว่าการทำงานในสวนสัตว์เป็นความท้าทาย เพราะเรื่องที่เรียนส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับปศุสัตว์และสัตวบาล แต่ที่เขาดินจะเป็นเรื่องของสัตว์ป่า จึงคิดว่าถ้าหากได้ทำงานที่เขาดินก็จะได้ทั้งความรู้ใหม่ ๆ และได้ทำงานที่สนุกด้วย
ซึ่งพอคุณวิศิษฎ์ได้เข้ามาสัมผัสกับการทำงานที่เขาดิน ก็รู้สึกว่าไม่ผิดหวัง นอกจากจะได้เรียนรู้เรื่องราวใหม่ ๆ แล้ว ก็ยังจะได้ทำงานในสถานที่ทำงานที่มีบรรยากาศเป็นธรรมชาติ มีความผูกพันกับสัตว์ ได้เห็นเด็ก ๆ หรือคนที่มาเที่ยวเขาดินมีความสุข ได้เห็นว่างานที่คุณวิศิษฎ์ทำนั้น ทำให้คนมีความสุข และก็ทำให้ตัวของคุณวิศิษฎ์ทำงานอย่างมีความสุขด้วยเช่นกัน
"เรามองเห็นว่าเขาดินเป็นแหล่งที่จะกล่อมเกลาเด็ก ๆ และทำให้เด็กหรือครอบครัวได้มาสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว แล้วเด็กที่มาเที่ยวที่นี่เขาก็จะมีจิตใจที่อ่อนโยน มีความรักสัตว์ไปในตัว การได้เห็นครอบครัวเขามาเที่ยวกันมีความสุข มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันในครอบครัว มาทำกิจกรรมร่วมกัน คล้าย ๆ กับเขาดินเป็นโรงเรียนที่ปลูกฝังให้เด็ก ๆ รักสัตว์ไปในทางอ้อมโดยที่ไม่รู้ตัว จุดนี้ทำให้เรามีความสุขไปด้วย
การทำงานที่มีความสุขที่สุด ก็คือ การสร้างความสุขให้ผู้ที่มาใช้บริการ การได้เห็นเด็ก ๆ ที่เข้ามามีความสุข ได้เห็นสายตาของเด็กที่จะมีประกายเวลาที่เขาเห็นสัตว์ต่าง ๆ ในสวนสัตว์ เห็นพวกเขาตื่นเต้น และมีความสุขมาก ๆ เราเป็นคนบริการและเป็นเจ้าหน้าที่ที่ดูแลอยู่ พอเห็นแบบนั้นก็ประทับใจ"
บรรยากาศการพูดคุยเริ่มสนุกมากยิ่งขึ้น เมื่อถามคุณวิศิษฎ์ถึงความประทับใจที่ได้ทำงานในเขาดิน คุณวิศิษฎ์เล่าอย่างสนุกสนานว่า ตนเองนั้นชอบมาก ๆ เวลาที่เห็นเด็ก ๆ ที่ได้เข้ามาเที่ยวที่เขาดิน ทันทีที่รถเลี้ยวเข้ามายังสวนสัตว์สายตาของเด็ก ๆ ก็จะเปลี่ยนไป ในตาของเด็ก ๆ จะมีประกาย ตื่นเต้น แล้วก็ดีใจสุดขีด ดูพวกเขามีความสุขมาก เด็กทุกคนจะเป็นแบบนี้หมด รู้สึกประทับใจที่เห็นว่าการมีสวนสัตว์ทำให้เด็กมีความสุข ทำให้ผู้เข้าเยี่ยมชมมีความสุข แล้วครอบครัวก็มีความสัมพันธ์ที่ดีด้วย
ก่อนจากกันคุณวิศิษฎ์ยังแนะนำสถานที่ที่ห้ามพลาดของเขาดินให้ด้วยค่ะ นั่นก็คือ บริเวณท่าเรือจักรยานนาวา เพราะตรงนั้นจะสามารถมองเห็นนักท่องเที่ยวมาปั่นเรือจักรยานนาวาอยู่กลางสระน้ำ เมื่อมองออกไปทิวทัศน์ก็สวยงาม มองเห็นพระที่นั่งอนันตสมาคม อากาศเย็นสบาย และอีกที่ที่ไม่ควรพลาดก็คือ หลุมหลบภัยสาธารณะ เป็นหลุมหลบภัยสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเปิดให้เข้าเที่ยวชมเพียงแค่แห่งเดียวในกรุงเทพฯ เท่านั้น
5. คุณทนง นทีพิทักษ์ อดีตรองผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์
ถ้าถามถึงการเปลี่ยนแปลงจากอดีตจนมาถึงปัจจุบันของเขาดิน ผู้ที่สามารถตอบคำถามเราได้อย่างดีที่สุดหนึ่งในนั้นก็คงต้องมีชื่อของ คุณทนง นทีพิทักษ์ อดีตรองผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ รวมอยู่ด้วย ด้วยระยะเวลาการทำงานและการอยู่ดูแลเขาดินแห่งนี้มายาวนานมากถึง 44 ปี จึงได้เห็นความเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่างของที่นี่ และยังเป็นหนึ่งในผู้ที่พัฒนาให้เขาดินเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของกรุงเทพฯ อีกด้วย
คุณทนง เล่าว่า ในสมัยที่เป็นนักศึกษานั้น ได้เคยมีโอกาสเข้ามาเยี่ยมชมเขาดิน และใช้สถานที่แห่งนี้เป็นเสมือนอีกโรงเรียนหนึ่งในการสอนให้ตัวเองได้เขียนรูปในแบบต่าง ๆ ทั้งสัตว์ ต้นไม้ ภูมิทัศน์ ฯลฯ พอเรียนจบในปี พ.ศ. 2512 จึงได้ตัดสินใจเข้ามาทำงานที่องค์การสวนสัตว์ จนเกษียณอายุตอน 60 ปี และเป็นที่ปรึกษาให้กับองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ อีก 2 ปี รวมระยะเวลาที่ได้อยู่ใกล้ชิดเขาดินก็ประมาณ 44 ปีเลยทีเดียว
แต่ช่องทางหนึ่งที่เขาดินได้มีโอกาสประชาสัมพันธ์และทำให้เขาดินเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ก็คือ การถ่ายทอดสดรายการเฮฮาหน้าเขาดิน และรายการสนุกกับเราที่เขาดิน ในช่วงปี พ.ศ. 2523-2525 เป็นรายการที่ให้ความรู้และความบันเทิง ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากประชาชน ซึ่งคุณทนงก็มีบทบาทในการทำ 2 รายการนี้ด้วย
และถ้าใครได้เห็นภาพของเขาดินเมื่อประมาณ 50-60 ปีที่แล้ว ก็จะเห็นว่าค่อนข้างแตกต่างจากปัจจุบัน ด้วยเมื่อก่อนนั้นจะเป็นกรง คอกตาข่าย มีรั้วกั้น ดูน่าอึดอัด แต่ปัจจุบันส่วนจัดแสดงสัตว์ต่าง ๆ ได้เปลี่ยนแปลงไป มีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้สัตว์ได้อยู่อย่างผ่อนคลาย และผู้เข้าชมได้เข้าถึงสัตว์ต่าง ๆ ได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น
แต่ไม่ใช่แค่สัตว์และผู้เข้าชมเท่านั้นนะคะที่มีความสุขจากการที่ปรับเปลี่ยนวิธีการดูแลเลี้ยงสัตว์ในเขาดิน เพราะพนักงานเลี้ยงสัตว์และเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอยู่ในเขาดินต่างก็มีความสุขไปด้วยค่ะ ที่ได้เห็นรอยยิ้มของนักท่องเที่ยว ได้เห็นสัตว์มีสุขภาพที่แข็งแรง ภูมิทัศน์ที่สวยงามของที่นี่ยังทำให้เจ้าหน้าที่ในเขาดินมีสุขภาพกายและใจที่ดีอีกต่างหาก
พอถามคุณทนงถึงสิ่งที่ประทับใจในเขาดิน จากใบหน้าที่เรียบเฉยในตอนแรก ก็ค่อย ๆ ผ่อนคลาย และกลับกลายเป็นรอยยิ้ม ก่อนที่คุณทนงจะตอบด้วยน้ำเสียงอันตื้นตันว่า
"ต้องยอมรับว่าสัตว์ป่าเป็นทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่า และนับวันจะสูญสิ้น เนื่องจากธรรมชาติเขาอยู่ในป่า เมื่อป่าถูกทำลาย วงจรชีวิตเขาก็คงมีปัญหา การมีสวนสัตว์ เมื่อนำเขาเข้ามาในสวนสัตว์ แล้วใช้หลักการทางวิชาการเข้าไปดูแล เพื่อการอนุรักษ์ เพื่อการขยายพันธุ์ ก็เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่สัตว์หลายชนิดที่ใกล้จะสูญพันธุ์ ก็สามารถต่ออายุการสูญสิ้นไปได้อีก การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ก็ทำให้สัตว์อยู่ดี ผู้ปกครองพาลูก ๆ มาเที่ยว ก็ได้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลินกลับไป มีความสัมพันธ์ที่ดีเกิดขึ้นในครอบครัว และยังรู้สึกดีมาก ๆ ที่เจ้าหน้าที่ที่ทำงานที่นี่มีความรักใคร่กลมเกลียวกัน และมีความรู้สึกว่าเขาดินคือบ้านของพวกเขา จึงช่วยกันดูแลรักษาทั้งสถานที่และสัตว์
ผลจากตรงนี้ก็เป็นไปตามนโยบายขององค์การสวนสัตว์ที่จะเป็นทั้งสถานที่ให้การศึกษาและความรู้ เป็นสถานที่อนุรักษ์ และขยายพันธุ์สัตว์ป่า พร้อมทั้งเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน"
ทั้งนี้คุณทนงยังได้แนะนำมุมโปรดในเขาดินมาด้วย นั่นก็คือ จุดชมวิวพระที่นั่งอนันตสมาคม เพราะมีฉากหลังเป็นพระที่นั่งอนันตสมาคม มีสระน้ำกว้างหลายไร่ มีเกาะกลางน้ำ แล้วก็มีฝั่งที่เป็นท่าเรือ มองไปในจุดนี้ก็ยังมีแต่สิ่งเดิม ๆ ไม่เปลี่ยนแปลงมากนักจากตอนที่สร้างในสมัยก่อน มุมนี้ไม่ได้สวยมากมาย แต่มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม ดูแล้วผ่อนคลาย
และยังบอกทิ้งท้ายไว้อีกนิดว่า การเที่ยวสวนสัตว์ต่าง ๆ อย่าคิดเพียงแค่ว่าผู้เข้าเที่ยวชมจะได้เพลิดเพลินกับสัตว์เพียงเท่านั้น เพราะในสวนสัตว์ยังมีการให้ความรู้ และยังเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัวด้วย ค่าใช้จ่ายไม่ได้สูง จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้มาใช้ช่วงเวลาวันว่างกับครอบครัว การมาเที่ยวสวนสัตว์จะได้อะไรมากกว่าที่คิดแน่นอน
6. น.สพ.อลงกรณ์ มหรรณพ อดีตผู้อำนวยการสวนสัตว์ดุสิต
ได้ยินมาว่าหมอกับสัตว์ไม่ถูกกัน ก็ยังไม่ค่อยเชื่อเท่าไรค่ะ จนได้มีโอกาสพูดคุยกับ น.สพ.อลงกรณ์ มหรรณพ อดีตผู้อำนวยการสวนสัตว์ดุสิต บุคคลสำคัญที่มีบทบาทด้านการรักษาและดูแลสัตว์ป่าของเขาดิน และเป็นผู้ที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการรักษาสัตว์ป่ามาอย่างโชกโชน วันนี้ น.สพ.อลงกรณ์ เล่าให้ฟังหลากหลายเหตุการณ์ของความแสบซนและความยากของการรักษาสัตว์ป่าที่ท่านเคยเจอมา ซึ่งพอได้ฟังแล้ว ก็ต้องปรบมือให้เลยค่ะ เพราะแต่ละเหตุการณ์นั้น นอกจากจะต้องใช้ความรู้ทางด้านวิชาการแล้ว ก็ยังต้องใช้ไหวพริบการเอาตัวรอดไม่น้อยเลยล่ะ
แต่ก่อนที่ท่านจะเล่าให้ฟังถึงตรงนั้น ก็ได้เล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปในการเข้ามาทำงานที่เขาดิน โดยสมัยที่ท่านเรียนจบสัตวแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ได้มีโอกาสเข้ามาฝึกงานที่เขาดินเป็นระยะเวลา 3 เดือน ในตอนนั้นท่านได้เห็นปัญหาระบบลำไส้ที่เกิดขึ้นกับชะนี ก็เลยมีความอยากที่จะช่วยเหลือชะนี จึงตัดสินใจสมัครงานที่สวนสัตว์ดุสิต และนั่นเองก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ท่านได้มาคลุกคลีกับสัตว์ป่านานาชนิด พอถามถึงเหตุการณ์ที่ประทับใจ ท่านก็เล่าให้ฟังอย่างสนุกสนาน
"ที่จำได้มีหลายเหตุการณ์มาก อย่างแม่มะลิ เป็นฮิปโปโปเตมัสที่ได้รับความนิยมมาก นักท่องเที่ยวก็มาเที่ยวชมกันเยอะ แต่ก็มีบางคนโยนลูกเทนนิส โยนรองเท้าบูทลงไป หมอก็ต้องหาวิธีเอาออกมาโดยเร็วที่สุด ไม่งั้นเขาจะตาย หรืออย่างตอนคลอดลูก ปกติฮิปโปโปเตมัสจะคลอดลูกในน้ำ แต่มีบางตัวที่คลอดบนบก ก็ต้องหาวิธีที่จะทำให้ลูกฮิปโปโปเตมัสลงไปในน้ำ"
ส่วนชะนี ลิง ค่าง เป็นสัตว์ที่มีระบบลำไส้เปราะบางที่สุด ถ้าดูแลไม่ดี เกิดท้องเสียจนขาดน้ำก็อาจจะตายได้ เราก็ต้องหาวิธีช่วยให้เร็วที่สุด แต่อวัยวะเขาเล็กมาก เราก็ต้องหาทางฉีดยาเข้าไป ก็พบว่าต้องฉีดเข้าที่เส้นเลือดดำตรงขาหนีบ เป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้
ลิงชิมแปนซีจะฉลาดมาก ก็ต้องระวังมากเป็นพิเศษ เคยมีกรณีที่เขาหลุดออกมาจากบ่อ เพราะจดจำว่าเวลาที่พนักงานเลี้ยงปล่อยน้ำในคูกั้นออก จะสามารถกระโดดขึ้นไปเกาะกำแพงอีกด้านหนึ่งได้และออกไปด้านนอกส่วนจัดแสดงได้ วันนั้นพนักงานเลี้ยงลืมเอาเข้าส่วนจัดแสดงด้านหลัง 1 ตัว เขาก็หนีออกไปได้ หมอก็ต้องตามไปฉีดยาสลบ เพราะต้องเอาเข้าส่วนจัดแสดงก่อนสวนสัตว์เปิด แต่มันไม่ง่าย เพราะพอเขาเห็นหมอ หรือเห็นอุปกรณ์ยิงยาสลบเขาจะหนี หมอก็ต้องใช้วิธีเข้าไปให้ใกล้มากที่สุด ตอนแรกให้กินยาสลบกับผลไม้ เขาก็รู้ก็แงะออกทิ้ง ก็เลยต้องใช้วิธีฉีดยา ถ้าฉีดยาต้องโดนกัดแน่ ๆ จึงต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว พอเข้าใกล้ตัวได้ ก็หาจังหวะฉีดยาเขา พอฉีดเข้าไปก็กัดหมอเลยที่เหนือเข่า แต่ดีที่ใส่กางเกงยีนส์ ก็บอกลูกน้องให้เอาไม้แห้งโยนเข้ามา แล้วหมอก็ใช้งัดขากรรไกรบนล่างเพื่อให้อ้าปาก พอยาออกฤทธิ์เขาก็เริ่มซึม เราก็เอาเขาเข้าส่วนจัดแสดง"
7. คุณบุญนาค พงษ์ภมร อดีตรองผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์
8. คุณวัลลภ ธนะสังข์ อดีตหัวหน้าสวนสัตว์ดุสิต
สำหรับใครที่มีโอกาสไปเที่ยวเขาดิน แล้วได้เห็นบรรยากาศที่สวยงามร่มรื่น ได้เห็นต้นไม้น้อยใหญ่มากมาย ก็คงจะประทับใจกันไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ วันนี้เราโชคดีมาก ๆ ที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณวัลลภ ธนะสังข์ อดีตหัวหน้าสวนสัตว์ดุสิต ซึ่งเป็นบุคคลหนึ่งที่มีส่วนสำคัญในการปรับปรุงภูมิทัศน์ของเขาดินแห่งนี้ให้งดงามเหมือนในปัจจุบัน ต้นไม้หลาย ๆ ต้น ก็เป็นฝีมือการปลูกของคุณวัลลภนี่เอง อย่างต้นลานอันสูงใหญ่บริเวณครัววังวนา คุณวัลลภก็ได้นำมาปลูกจากสวนพฤกษศาสตร์พุแค จังหวัดสระบุรี จนตอนนี้กำลังออกดอกมากมาย
คุณวัลลภ เล่าต่อด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นว่า การทำงานในสวนสัตว์และในเขาดินตลอดระยะเวลา 28 ปีนั้น มีความสุขมาก เพราะได้อยู่กับต้นไม้และสัตว์นานาชนิด หน้าที่ของคุณวัลลภจะต้องทำให้คนที่มาเที่ยวชมเขาดินมีความสุข ด้วยการได้เห็นได้ชมต้นไม้ วิวธรรมชาติ และภูมิทัศน์ที่สวยงาม พอผู้ที่มาเที่ยวได้เห็นก็จะรู้สึกประทับใจ ตัวของคุณวัลลภเองก็ไม่เครียด เวลาเหนื่อย ๆ ก็แค่เดินออกมาชมวิวสวย ๆ การได้ทำงานในสิ่งที่คุณวัลลภชอบและรัก จึงเป็นการทำงานที่มีความสุขสุด ๆ
นอกจากนี้คุณวัลลภยังได้เล่าถึงความประทับใจในขณะที่ทำงานอยู่ที่เขาดินว่า รู้สึกประทับใจมาก ๆ ที่ราชวงศ์ให้ความสำคัญกับเขาดิน มีครั้งหนึ่งที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เสด็จเป็นการส่วนพระองค์มาที่เขาดิน ตอนนั้นทางสำนักพระราชวังแจ้งล่วงหน้าเพียงแค่ประมาณ 2-3 ชั่วโมง ทางเขาดินก็ไม่มีเครื่องรับรองที่สมพระเกียรติของพระองค์ท่าน แต่ผู้ที่นำเสด็จก็บอกว่าไม่เป็นไร มีเท่าไหนก็เตรียมไว้เท่านั้น พระองค์ก็ทรงม้ามาด้วยตนเองจากพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เมื่อเสด็จมาถึงที่เขาดิน พระองค์ก็ทรงพระดำเนินชมรอบ ๆ เขาดิน พร้อมกับได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ในการบำรุงเขาดิน และพระราชทานเมล็ดพันธุ์พืชต่าง ๆ ให้กับเจ้าหน้าที่ในเขาดิน ซึ่งพอเจ้าหน้าที่นำเมล็ดพันธุ์พระราชทานไปปลูก ปรากฏว่าก็เป็นพืชผักที่มีความสมบูรณ์มาก ประทับใจมาจนถึงวันนี้ที่ราชวงศ์มีเมตตาต่อองค์การสวนสัตว์
และแน่นอนว่าการทำงานมากว่า 20 ปีที่เขาดิน คุณวัลลภก็ต้องมีมุมโปรด สำหรับสถาปนิกแล้ว มุมที่คุณวัลลภอยากแนะนำก็ต้องเป็นมุมที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบทางด้านสถาปัตยกรรมและศิลปะอย่างอาคารเรือนกระจก อาคารเรือนพยาบาล และน้ำพุสมัน
ในส่วนของอาคารเรือนกระจกก็เป็นอาคารที่ได้รับพระราชทานเกียรติบัตร รางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่นจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในปี พ.ศ. 2545 มีลักษณะเป็นอาคารไม้ชั้นเดียวติดดิน สไตล์กึ่งยุโรป หลังคาปั้นหยา ประดับด้วยไม้ฉลุโดยรอบชายคา และยังโดดเด่นด้วยการติดกระจกรายรอบหลากสีสวยงาม สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 7 พร้อม ๆ กับอาคารเรือนพยาบาล
ส่วนน้ำพุสมันนั้นก็เป็นฝีมือของคุณสวัสดิ์ เนียมศิริ ซึ่งคุณสวัสดิ์ก็ได้ให้อาจารย์พิมาน มูลประมุข ลูกศิษย์ของอาจารย์ศิลป์ พีระศรี เป็นผู้หล่อโลหะให้ด้วย