พาไปทำความรู้จักกับรถไฟซากุระ (Sakura Train) สายกินซ่า (Ginza Line) จากโตเกียวเมโทร (Tokyo Metro) รถไฟที่จะตกแต่งไปด้วยดอกซากุระสีชมพูสะพรั่งหวานทั้งขบวน ตั้งแต่วันนี้ - 8 เมษายน 2561
เทศกาลฮานามิ หรือเทศกาลชมดอกซากุระช่วงฤดูใบไม้ผลิ เป็นเทศกาลที่สำคัญมากของชาวญี่ปุ่น มีมายาวนานกว่าพันปี และความงดงามของดอกซากุระที่พร้อมใจกันเบ่งบานไปทั่วทั้งญี่ปุ่น ก็ทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างใฝ่ฝันว่าจะได้มาชมความสวยงามนี้ด้วยตาตัวเองสักครั้ง และเมื่อซากุระสำคัญกับชาวญี่ปุ่นขนาดนี้ ในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมาก็มีกิจกรรมและผลิตภัณฑ์มากมายที่ทำออกมาโดยได้แรงบันดาลใจจากดอกซากุระ สำหรับปีนี้ทางโตเกียวเมโทรก็ไม่น้อยหน้า อยากให้ทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวได้ซึมซับความงดงามของซากุระอย่างเต็มที่ จึงเนรมิตรถไฟซากุระ (Sakura Train) ขึ้นมา
เทศกาลฮานามิ หรือเทศกาลชมดอกซากุระช่วงฤดูใบไม้ผลิ เป็นเทศกาลที่สำคัญมากของชาวญี่ปุ่น มีมายาวนานกว่าพันปี และความงดงามของดอกซากุระที่พร้อมใจกันเบ่งบานไปทั่วทั้งญี่ปุ่น ก็ทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างใฝ่ฝันว่าจะได้มาชมความสวยงามนี้ด้วยตาตัวเองสักครั้ง และเมื่อซากุระสำคัญกับชาวญี่ปุ่นขนาดนี้ ในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมาก็มีกิจกรรมและผลิตภัณฑ์มากมายที่ทำออกมาโดยได้แรงบันดาลใจจากดอกซากุระ สำหรับปีนี้ทางโตเกียวเมโทรก็ไม่น้อยหน้า อยากให้ทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวได้ซึมซับความงดงามของซากุระอย่างเต็มที่ จึงเนรมิตรถไฟซากุระ (Sakura Train) ขึ้นมา
ภาพจาก tokyometro.jp
รถไฟซากุระจะให้บริการระหว่างวันที่ 12 มีนาคม - 8 เมษายน 2561 อยู่ในเส้นทางสายกินซ่า (Ginza Line) ตั้งแต่สถานีชิบูย่า (Shibuya Station) ถึงสถานีอาซากุสะ (Asakusa Station) โดยจะผ่านสถานีอุเอะโนะ (Ueno Station) อันเป็นจุดชมซากุระที่สำคัญของโตเกียวด้วย (หมายเหตุ : การตกแต่งรถไฟด้วยธีมซากุระ ไม่ได้มีทุกขบวน นักท่องเที่ยวต้องลุ้นว่าจะโชคดีได้ขึ้นหรือไม่)
นอกจากนี้การจัดกิจกรรมครั้งนี้ ก็ยังมีการทำไกด์บุ๊กแนะนำการชมซากุระมาแจกฟรีให้กับนักท่องเที่ยวด้วย มีทั้งภาษาญี่ปุ่น ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน โดยจะวางอยู่ในจุดต่าง ๆ ของสถานีรถไฟแต่ละแห่งในเส้นทางสายกินซ่า (ยกเว้นบางสถานี) ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนกว่าหนังสือจะหมด
ใครที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวญี่ปุ่น เพื่อชมดอกซากุระที่โตเกียว ก็อย่าลืมไปลองสัมผัสกับรถไฟสายนี้กันนะคะ สวยหวานตะมุตะมิขนาดนี้ อย่าลืมถ่ายรูปมาเยอะ ๆ นะ :)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
tokyometro.jp, metro-sakura.jp, japantrends.com
