มรดกโลกประจำปี 2016 ที่ยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียนล่าสุดมีอะไรบ้าง มารู้จักสถานที่และสิ่งก่อสร้างที่แสดงถึงคุณค่าของมนุษยชาติ
องค์การยูเนสโก (UNESCO) ประกาศรายชื่อมรดกโลก (World Heritage) ใหม่ของปี 2016 จำนวน 21 แห่ง ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกของยูเนสโก ครั้งที่ 40 ที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อเดือนกรกฎาคม โดยมรดกโลกทั้ง 21 แห่ง ประกอบด้วยมรดกโลกทางวัฒนธรรม 12 แห่ง มรดกโลกทางธรรมชาติ 6 แห่ง และมรดกโลกผสม 3 แห่ง ดังนี้
1. แหล่งดอลเมนแห่งอันเตเกรา (Antequera Dolmens Site) ประเทศสเปน
ภาพจาก Conjunto Arqueológico Dólmenes de Antequera
เมืองโบราณสำคัญในยุคก่อนประวัติศาสตร์ของสเปนที่สร้างใต้ผาหิน โดยมีสุสานหิน 3 แห่ง และภูเขาอีก 2 แห่ง เป็นสัญลักษณ์
2. อู่เรือแอนติกาและแหล่งโบราณคดีที่เกี่ยวข้อง (Antigua Naval Dockyard and Related Archaeological) ประเทศแอนติกาและบาร์บูดา
ภาพจาก Nicola&Reg Murphy
อาคารและสิ่งก่อสร้างในสไตล์จอร์เจียนซึ่งรอบล้อมด้วยกำแพงหิน สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 18 เพื่อให้เรือเดินสมุทรได้เข้ามาหลบพายุเฮอริเคน และซ่อมแซมเรือที่ได้รับความเสียหาย
3. แหล่งโบราณคดีอานี (Archaeological Site of Ani) ประเทศตุรกี
ภาพจาก Fahriye Bayram
แหล่งโบราณคดีอานีสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมของชุมชนเมืองในยุคกลางของตุรกี ซึ่งมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมากในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 10-11
4. แหล่งโบราณคดีนาลันทามหาวิหาร (มหาวิทยาลัยนาลันทา) ที่นาลันทา, รัฐพิหาร (Archaeological Site of Nalanda Mahavihara (Nalanda University) at Nalanda, Bihar) ประเทศอินเดีย
ภาพจาก Rajneesh Raj
ก่อสร้างตั้งแต่ในช่วง 300 ปีก่อนคริสต์ศักราชจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 13 โดยมีมหาวิทยาลัยนาลันทา ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับสอนพุทธศาสนา เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของโลก ภายหลังล่มสลายลงเพราะถูกทหารชาวเติร์กรุกราน
5. แหล่งโบราณคดีฟิลิปไพ (Archaeological Site of Philippi) ประเทศกรีซ
ภาพจาก Hellenic Ministry of Culture and Sports
เมืองเก่าที่ยังมีสภาพสมบูรณ์ สร้างขึ้นโดยกษัตริย์ฟิลิปที่ 2 แห่งมาเซโดเนีย เมื่อ 356 ปีก่อนคริสตกาล โดยใช้ชื่อว่า Via Egnatia ภายหลังได้กลายเป็นศูนย์กลางความเชื่อของชาวคริสต์
6. กลุ่มถ้ำกอรัม (Gorham\'s Cave Complex) สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ
ภาพจาก Clive Finlayson, Gibraltar Museum
ประกอบไปด้วยถ้ำ 4 แห่งภายในหน้าผาหินปูนทางตะวันออกของยิบรอลตาร์ ที่นี่เป็นหลักฐานการอยู่อาศัยของมนุษย์นีแอนเดอร์ทัลมายาวนานกว่า 125,000 ปี
7. Nan Madol ศูนย์กลางการประกอบพิธีกรรมแห่งไมโครนีเซียตะวันออก (Nan Madol : Ceremonial Centre of Eastern Micronesia) ประเทศไมโครนีเซีย
ภาพจาก Osamu Kataoka
Nan Madol เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่สร้างขึ้นจากหินบะซอลต์และซากปะการัง ในช่วงปี ค.ศ. 1200-1500 ภายใต้ซากปรักหักพังบนเกาะนี้เดิมเป็นที่ตั้งของพระราชวัง สถานที่สำคัญทางศาสนา สุสาน และที่อยู่อาศัย ถือเป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางการประกอบพิธีกรรมของราชวงศ์ Saudeleur
8. กลุ่มสิ่งก่อสร้างสมัยใหม่ปังปุลยา (Pampulha Modern Ensemble) ประเทศบราซิล
ภาพจาก Danilo Matoso Macedo และ Marcilio Gazzinelli
เป็นกลุ่มอาคารที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1940 ภายในพื้นที่มีทั้งกาสิโน, ห้องเต้นรำ สโมสรกอล์ฟ รวมทั้งโบสถ์ ซึ่งสถาปนิกได้ออกแบบสถาปัตยกรรม ประติมากรรม จิตรกรรมให้มีความผสมผสานกับภูมิทัศน์โดยรอบ
9. สุสานศิลาจารึกหลุมศพยุคกลาง สเตชัก (Stećci Medieval Tombstones Graveyards) ประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา, โครเอเชีย, มอนเตเนโกร และเซอร์เบีย
ภาพจาก Adnan Šahbaz
สุสานฝังศพตามธรรมเนียมของชาวยุโรปในยุคกลาง โดยแกะสลักจากหินปูนและตั้งเรียงกันเป็นแถว ซึ่งมรดกโลกแห่งนี้ประกอบไปด้วยสุสาน 30 แห่ง ที่ตั้งอยู่ในประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา, โครเอเชีย, มอนเตเนโกร และเซอร์เบีย
10. งานสถาปัตยกรรมของเลอกอร์บูซีเย คุณูปการอันโดดเด่นต่อขบวนการสมัยใหม่ (The Architectural Work of Le Corbusier, an Outstanding Contribution to the Modern Movement) ประเทศอาร์เจนตินา ร่วมกับเบลเยียม ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย ญี่ปุ่น และสวิตเซอร์แลนด์
ภาพจาก AONDH, FLC/ADAGP, Ville de Pessac - Nikolas Ernult
งานสถาปัตยกรรมของเลอกอร์บูซีเย มีทั้งหมด 17 แห่ง ตั้งอยู่ใน 7 ประเทศ ผลงานของเขาสะท้อนให้เห็นถึงการคิดค้นภาษาใหม่ในเชิงสถาปัตยกรรม ซึ่งต่างไปจากรูปแบบเดิม ๆ ในอดีต นับเป็นผลงานที่แปลกตาในยุคนั้น
11. คานัตแห่งเปอร์เซีย (The Persian Qanat) ประเทศอิหร่าน
ภาพจาก S.H. Rashedi
คานัต คือระบบชลประทานในพื้นที่ทะเลทรายในสมัยโบราณ ประกอบด้วยระบบท่อส่งน้ำใต้ดินยาวหลายกิโลเมตร ถือเป็นภูมิปัญญาอันล้ำเลิศในการจัดการน้ำไปยังพื้นที่ชุมชนในดินแดนทะเลทราย
12. ภูมิทัศน์วัฒนธรรมของศิลปะบนหินจั่วเจียงฮัวซาน (Zuojiang Huashan Rock Art Cultural Landscape) ประเทศจีน
ภาพจาก Zhu Qiuping, Huang Wenwei, Yan Zaoxin, Guangxi Zhuang Autonomous Region Department of Culture
ภาพจิตรกรรมบนหน้าผาภูเขาฮัวซานริมแม่น้ำจั่วเจียง ในมณฑลกว่างซี ทางตอนใต้ของจีน เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตและพิธีกรรมของชาวลั่วเยว่ ในช่วง 5 ปีก่อนคริสตกาลจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 2
แหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ (New Inscribed Properties Natural properties)
1. กลุ่มเกาะเรบียาคีเคโด (Archipiélago de Revillagigedo) ประเทศเม็กซิโก
ภาพจาก Valeria Mas Gomez, Jose Antonio Soriano/GECI, Rodrigo Friscione Wyssmann, Octavio Aburto
หมู่เกาะเรบียาคีเคโด ประกอบด้วย 4 เกาะ เป็นที่อาศัยของสิ่งมีชีวิตมากมาย ทั้งนกทะเล และสัตว์ทะเลขนาดใหญ่หลายสายพันธุ์ เช่น กระเบนราหู วาฬ โลมา และฉลาม
2. เขตป่าไม้เสินหนงเจี้ยแห่งหูเป่ย์ (Hubei Shennongjia) ประเทศจีน
ภาพจาก Institute of Botany, The Chinese Academy of Science
เขตป่าไม้เสินหนงเจี้ย เป็นแหล่งธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์อย่างมาก ทั้งในส่วนของสัตว์ป่าที่มีสัตว์หายาก เช่น ซาลาแมนเดอร์ยักษ์ หมีดำเอเชีย และเสือลายเมฆ รวมทั้งพรรณพืชที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ
3. ทะเลทรายลุต (Lut Desert) ประเทศอิหร่าน
ภาพจาก Naser Mizban, Jafar Sabouri, Mehran Maghsoudi, Alireza Amrikazemi
พายุทะเลทรายที่พัดผ่านทะเลทรายแห่งนี้ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงตุลาคมของทุกปี ได้กัดกร่อนพื้นทรายให้กลายเป็นรูปทรงต่าง ๆ ที่ดูสวยงาม
4. หน้าผาริมทะเล Mistaken Point (Mistaken Point) ประเทศแคนาดา
ภาพจาก Mistaken Point Ambassadors Inc
เชื่อว่าสถานที่แห่งนี้เป็นต้นกำเนิดของฟอสซิลในยุคเอเดียคาเรน หรือช่วง 580-560 ล้านปีที่ผ่านมา เพราะมีการค้นพบซากฟอสซิลที่สำคัญ และถือเป็นสถานที่ที่มีฟอสซิลขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลก
5. อุทยานแห่งชาติทางทะเลซังกาเนบ และอุทยานแห่งชาติทางทะเลอ่าวดุงโกนับ-เกาะมุกกาวาร์ (Sanganeb Marine National Park and Dungonab Bay–Mukkawar Island Marine National Park) ประเทศซูดาน
ภาพจาก Ministry of Trade, Sudan Government
ประกอบด้วย 2 อุทยานแห่งชาติ ซึ่งเป็นแหล่งระบบนิเวศทางทะเลที่สำคัญ ทั้งแนวปะการังที่หลากหลาย ป่าชายเลน หญ้าทะเล นกทะเล ปลา ฉลาม เต่า และกระเบนราหู โดยเฉพาะที่อ่าวดุงโกนับเป็นแหล่งที่มีพะยูนอาศัยมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
6. เทือกเขาเทียนซานตะวันตก (Western Tien-Shan) ประเทศคาซัคสถาน, อุซเบกิสถาน และคีร์กีซสถาน
ภาพจาก Mambetaliyev U., Yesipov A.V., Usupbayev A., Ramatullayev Ye.,Ushakov V.
หนึ่งในเทือกเขาที่ใหญ่ที่สุดในโลก กินพื้นที่ 3 ประเทศคือ ประเทศคาซัคสถาน, อุซเบกิสถาน และคีร์กีซสถาน นับเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก
แหล่งมรดกโลกผสม (New Inscribed Properties Mixed property)
1. ภูมิทัศน์ทางธรรมชาติและวัฒนธรรม Ennedi Massif (Ennedi Massif : Natural and Cultural Landscape) ประเทศชาด
ภาพจาก Comité Technique/ Sven Oehm, Eric Goethals, Tilman Lenssen-Erz
พื้นที่หินทรายที่ถูกน้ำและลมกัดกร่อนไปตามกาลเวลาจนเกิดภูมิประเทศแบบหุบเขาและหินผาที่ดูแปลกตา และยังมีภาพเขียนโบราณหลายพันภาพสลักอยู่บนผนังถ้ำ หินผา และเพิงหิน ถือเป็นแหล่งภาพเขียนบนหินที่ใหญ่ที่สุดในเขตซาฮารา
2. อุทยานแห่งชาติคังเซนซุงกา (Khangchendzonga National Park) ประเทศอินเดีย
ภาพจาก FEWMD
อีกหนึ่งพื้นที่ที่มีภูมิประเทศอันหลากหลาย ทั้งที่ราบ หุบเขา ทะเลสาบ ธารน้ำแข็ง อีกทั้งยังมีส่วนของยอดเขาที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี ซึ่งยอดเขานี้สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก
3. อะห์วาร์แห่งอิรักตอนใต้ : แหล่งความหลากหลายทางชีวภาพและอนุสรณ์ของเมืองในยุคเมโสโปเตเมีย (The Ahwar of Southern Iraq : Refuge of Biodiversity and the Relict Landscape of the Mesopotamian Cities) ประเทศอิรัก
ภาพจาก Qahtan Al-Abeed, Jasim Al-Asady
ประกอบด้วยพื้นที่ 7 แห่ง โดยเป็นแหล่งโบราณคดี 3 แห่ง และพื้นที่ชุ่มน้ำ 4 แห่ง เป็นส่วนหนึ่งของเมืองโบราณที่ชาวสุเมเรียนอาศัยอยู่ในพื้นที่เมโสโปเตเมีย ระหว่างดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไทกริสและยูเฟรทีส นับเป็นหนึ่งในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำภายในทวีปที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนระอุและแห้งแล้ง
จากการประกาศขึ้นทะเบียนมรดกโลกเพิ่มเติมในปี 2016 ทำให้ปัจจุบันมีสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทั้งหมด 1,049 แห่ง จาก 165 ประเทศทั่วโลก โดยอยู่ในประเทศอิตาลีมากที่สุด 51 แห่ง รองลงมาคือประเทศจีน 50 แห่ง และสเปน 45 แห่ง ขณะที่ประเทศไทย มีมรดกโลกทั้งสิ้น 5 แห่ง ได้แก่ นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา, เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง, แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง และป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
unesco