เปิดรีวิว เทอร์มินอล 2 สนามบินดอนเมือง เช็กอินตรงไหน ร้านค้า-ร้านอาหารอยู่บริเวณใด พร้อมแนะนำวิธีการเดินทาง
เปิดใช้บริการมาเกือบจะครบ 2 สัปดาห์แล้ว สำหรับอาคารผู้โดยสาร 2 หรือเทอร์มินอล 2 ของท่าอากาศยานดอนเมือง ที่ได้เริ่มย้ายส่วนของผู้โดยสารเส้นทางบินภายในประเทศมาให้บริการ ณ เทอร์มินอลใหม่นี้ ตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2558 ซึ่งหลายคนก็คงยังไม่มีโอกาสเดินทางมาใช้บริการ ขณะที่หลายคนซึ่งเคยใช้บริการแล้วก็อาจจะยังไม่คุ้นเคยสถานที่ ไม่ทราบว่ามีจุดบริการ ร้านค้า ร้านอาหาร อยู่บริเวณใดบ้าง ทำให้เกิดความติดขัดล่าช้าอยู่บ้าง
ด้วยเหตุนี้ เมื่อ คุณ tutorton สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ได้มีโอกาสเดินทางมาใช้บริการยังสนามบินแห่งนี้อีกครั้ง จึงไม่พลาดที่จะแชะภาพ เก็บบรรยากาศของเทอร์มินอล 1 และเทอร์มินอล 2 เอามาฝาก เขียนเป็นรีวิวฉบับละเอียดยิบ เพื่อเป็นคู่มือที่จะทำให้การเดินทางของทุก ๆ คนง่ายขึ้น ในกระทู้ "Review ดอนเมือง เทอร์มินัล2 by TutorTon พร้อมทริคที่จะทำให้คุณไป T2 ได้อย่างสบายใจ Part 1" ตามมาดูกันได้เลย
สวัสดีปีใหม่ทุก ๆ คนครับ เป็นรีวิวกระทู้แรกของปีเลยครับ เห็น T2 ที่ดอนเมืองเพิ่งเปิดบริการ วันที่ 24 ธันวาคม ในปีที่แล้ว ซึ่งผมก็ได้ไปในวันแรกโดยบินจากขอนแก่น ไปลง กทม. ในวันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม ซึ่งวันนั้นก็รีบ ๆ ออกเนื่องจากมีนัด เลยไม่ได้เดินชม ได้เก็บรายละเอียดแค่นิดหน่อยเอง
พอวันที่ 2 มกราคม 2559 ปีใหม่ มีไฟล์ทบินกลับขอนแก่นในช่วงเวลา 11.10 น. เลยตั้งใจจะไปเก็บรายละเอียด T2 สักหน่อย เลยเป็นที่มาของกระทู้รีวิวนี้นะครับ
วันนี้ผมตื่นมา แปดโมงกว่า ๆ เพื่ออาบน้ำแต่งตัว แล้วเดินทางไปสนามบินครับ ผมเดินทางไปจากแถว ๆ สุทธิสาร ซึ่งไม่ไกลมากจากสนามบินดอนเมืองโดยใช้บริการรถตู้ครับ จากอนุสาวรีย์ไป ฟิวเจอร์รังสิต ซึ่งผ่านดอนเมือง ค่าบริการ 30 บาท ไปลงที่สถานีรถไฟดอนเมือง ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามสนามบินพอดีครับ จากจุดที่ลงมองไปจะเห็นว่า T1 กับ T2 นี่จะอยู่ติดกันเลยนะครับ
จากฝั่งนี้ก็จะมีสะพานลอยเดินข้ามไปสนามบินได้ และยังเดินไปโรงแรมอมารี ดอนเมือง ได้ ใครมีกระเป๋าเดินทางมาก็สะดวกเพราะเป็นทางลาดเอียง สามารถลากของขึ้นโดยง่าย พอเดินไปสุดทาง จะมีลิฟต์ซ้าย-ขวา ตรงที่เราอยู่คือชั้น 2 ซึ่งถ้าขึ้นไปชั้น 3 ก็จะเป็นขาออก ถ้าลงไปชั้น 1 ก็จะเป็นขาเข้า ซึ่งตอนนี้ T1 จะใช้กับการเดินทางไปต่างประเทศเท่านั้น
ลองแวะมาดูที่ บริเวณ T1 กันดูก่อนว่า T2 เปิดใช้แล้ว ปริมาณคนเป็นอย่างไรกันบ้าง ถ้าขึ้นลิฟต์จากสะพานลอยมาจะโผล่บริเวณกลาง ๆ อาคาร T1 เลยครับ
มีแผนที่ T1 อยู่แถว ๆ ประตู 8
ลองแวะไปดูเคาน์เตอร์เช็กอินของแต่ละสายการบินดู เริ่มจากแอร์เอเชีย ซึ่งมีทั้งแอร์เอเชีย และแอร์เอเชียเอ็กซ์ อยู่ใกล้ ๆ กัน
จากรูปจะเห็นว่าไฟล์ทแอร์เอเชียธรรมดา คนก็ยังหนาแน่นพอควรเลย ใครจะบินแล้วมีกระเป๋าโหลดก็ควรเผื่อเวลาไว้เยอะหน่อย ส่วนแอร์เอเชียเอ็กซ์จะดูโล่งกว่าเยอะ น่าจะเป็นที่ไฟล์ทน้อยกว่าเช่นกัน
เดินต่อมาอีกหน่อยเจอ น้องส้ม สายการบินไทยยิ้ม Thai Smile
ต่อกันด้วย น้องนก Nok Air ที่แถว 6 กับ 7
สุดท้ายด้วยน้องใหม่ น้องสิงโต Lion Air
ลองเดินวน ๆ ดู ถือว่าคนน้อยลงพอควรเลยทีเดียว
แวะเดินมาดูที่ทางเข้าเกตเดิม ปิดไปเรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกับเคาน์เตอร์ Travel Information ส่วนที่หน้าทางเข้ามีป้ายบอกไฟล์ทขนาดใหญ่ โดยมีทั้งฝั่งเดินทางในและนอกประเทศ
เดินโผล่ออกมาดูด้านนอกอาคารสักหน่อยทางประตู 8 จะเห็นอาคาร 2 อยู่ติดกันเลย ตรงจุดนี้จะเป็นที่จอดรถ A1 ซึ่งรถจะจอดที่เดิม เราแค่เดินต่อไปอาคาร T2 ถ้าเดินทางภายในประเทศ ถ้าต่างประเทศก็กลับมาที่เดิม T1
เริ่มเห็นแสงขาว ๆ ของใหม่ ๆ กันแหละ ที่หัวมุมชั้น 3 นี่มี Airport Information อยู่ด้วย
จะเห็นว่าทางเดินบริเวณนี้ ถือว่ามีเก้าอี้เยอะพอควรเลย
บริเวณนี้มีป้ายจอบอกไฟล์ทชัดเจนดี สีเขียวคือไฟล์ทขาเข้า สีน้ำเงินคือไฟล์ทขาออก
เดินมาอีกนิดก็จะเจอร้านค้าต่าง ๆ แล้ว ทั้งร้านขนม ร้านกาแฟ สารพัดจะเลือกกัน แต่คาดว่าราคาน่าจะแพงกว่านอกสนามบินแน่ ๆ ใครชอบร้านไหนก็แวะกันไป
จากจุดทางเดินเชื่อมมาถ้าเดินเลี้ยวขวามาหน่อยจะเจอนี่เลย Tours and Hotel Reservation
ถึงสักที T2 ภาพแรกที่เห็นดูโปร่งดี แถมมีแถบแสงบนเพดาน ที่เปลี่ยนสีไปเรื่อย ๆ ดูเพลิน ๆ ดี
ก่อนเดินต่อไปมีบันไดเลื่อนที่จะขึ้นไปสู่ร้านอาหารบริเวณชั้น 4 ไปสำรวจกันก่อนดีกว่า กองทัพต้องเดินด้วยท้อง
ขึ้นมาปุ๊บก็จะเจอโซนร้านอาหาร ซึ่งมีร้านชื่อดังให้เลือกกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเบอร์เกอร์คิง บอนชอน พิซซ่า อาหารไทย ร้านกาแฟ และถ้าเดินเลยแดรี่ควีนไปหน่อย ก็จะเป็นทางเดินที่เชื่อมไป T1 บริเวณแถวโซนร้านอาหารเช่นกัน
ที่นั่งนี่ไม่ต้องกลัว ค่อนข้างเยอะพอรองรับ ดูเหมือนฟู้ดคอร์ทที่ไหนสักแห่ง
ขณะที่ในโซน Magic Food District ก็มีร้านดัง ๆ ให้เลือกมากมายในราคาสนามบิน โดยในจุดนี้จะต้องซื้อคูปอง ส่วนราคาอาหารนั้นถือว่าถูกกว่าโซนก่อนพอสมควร ส่วนใหญ่เป็นอาหารจานเดียว เริ่มต้นที่ 80 บาทเป็นส่วนมาก หากมีสัก 100 บาท ก็พออิ่มอยู่
อีกสักรูปจากด้านบน จะเห็นว่าสามารถเดินเชื่อมต่อไปอีกฝั่งนึงได้ แต่ไม่มีร้านค้าอะไรเลย
มาดูบริเวณเคาน์เตอร์เช็กอินกันบ้าง เริ่มต้นที่ Row 9 ซึ่งก็ตรงกับประตูทางเข้าหมายเลข 9 เช่นกัน
Row 9, 10 ก็ไม่ใช่ใครอื่น หางแดงจับจองเจ้าแรกเลย
ใครเช็กอินผ่านเว็บหรือแอพฯ มา แล้วยังไม่ได้พรินท์บอร์ดดิ้งพาส ตรงเคาน์เตอร์มีตู้คีออสให้ใช้ 6 ตู้ เห็นมีพนักงานยืนคอยช่วยเหลืออยู่คนเดียว เท่าที่เห็นจะเป็นฝรั่งซะเป็นส่วนใหญ่
ใกล้ ๆ ทางเข้าประตู 9 มีร้านกระเป๋า BKK Original
หันมาดูหน้าเคาน์เตอร์สิ โห คนอย่างเยอะ ใครเช็กอินมาแล้วต้องการโหลดกระเป๋าเชิญแถว 9 นะค้าบ
แถว 10 ติดกันก็ดูหนาแน่น ใครยังไม่ได้เช็กอินมาก็เชิญแถวนี้ มีแถวพิเศษ สำหรับ Premium Flex ด้วยนะ
ใกล้ ๆ กันมีจอแสดงไฟล์ทการบิน เหมือนเดิมเลยคือบอกแต่แถวเช็กอินไม่บอกเกต
ไฟด้านบนดู ๆ ก็สวยดี
แถว 11 แถวนี้เป็นของ อาร์แอร์ไลน์, โอเรียนท์ ไทย และไทย ไลอ้อน แอร์
เลยมาแถว 12 ละ เป็นของน้องส้ม สยามยิ้ม Thai Smile คนน้อยเหมือน T1 เลย
ข้ามมาที่ แถว 14 15 เลย เป็นของน้องนกเหลือง Nok Air
อีกฝั่งสุดท้ายของแถว 15 เป็นของสมาชิกนกแฟนคลับ และบรรดาสิทธิสมาชิกพิเศษทั้งหลาย
ลองเดินออกไปด้านนอกดูสิ ก็มีแท็กซี่มาส่งผู้โดยสารเรื่อย ๆ
ปลายทางเลยแถว 15 ไปก็จะมีเก้าอี้ไว้พักผ่อนเยอะพอควรเลย
มีห้องน้ำดูไฮโซด้วย เข้าไปลองใช้ดูอยู่ก็ไม่ใหญ่โตมาก แต่นึกไปนึกมา เอ...ตั้งแต่เดินมาก็มีห้องน้ำตรงทางเชื่อม T1 กับ T2 แล้วก็ตรงนี้เอง
เลยไปหน่อยก็เป็นทางเดินเชื่อมต่อไปยังอาคารจอดรถ ค่าบริการวันละ 250 บาท
สำหรับขั้นตอนการโหลดกระเป๋าที่อาคาร T2 นี่ เป็นแบบนี้ ซึ่งต้องขอบคุณน้องนกสำหรับป้าย
คร่าว ๆ ของ T1 คือมันต้องสแกนกระเป๋าแล้วค่อยเช็กอิน ส่วนของ T2 นี่ต้องเช็กอินก่อนแล้วค่อยเอากระเป๋าเข้าสแกน พอเช็กอินเสร็จก็เดินไปด้านท้ายเคาน์เตอร์ จะเป็นห้องสแกนกระเป๋า แล้วก็ไปดูจากจอว่ากระเป๋าของเราลงหลุมไปหรือยัง ถ้าไม่มีปัญหาโหลดอะไรผิดกฎมาก็เรียบร้อย แต่ถ้ามีจะมีพนักงานเรียกให้ไปเช็กกันอีกที
สรุป สำหรับการเช็กอินนี่ใครนั่งแท็กซี่มาหรือใครมาส่ง ก็ลงตามประตูของสายการบินเลย จะได้ไม่ต้องเดินไกล
ไปหาของกินกันต่อดีกว่า ขึ้นไปดูชั้น 4 ของอาคารทางฝั่งใต้กันบ้าง ซึ่งก็มีร้านอาหารอยู่อีกเพียบ
แต่เดี๋ยวก่อน ๆ เดินมาเจอป้ายนี้เข้าให้ ดูผ่าน ๆ เหมือนจะเหมือนกัน แต่อันด้านบนเป็น Magic food District แต่อันนี้มันลงท้ายด้วย Park
เดินไปสำรวจกันเลยดีกว่า ตามน้องพนักงานคนหนึ่งไป
โอ้ว มีเซเว่นด้วย แต่ที่ไหนได้ ไปดูใกล้ ๆ เหมือนจะเป็นร้านเก่า
เดินเลี้ยวไปอีกนิดก็เจอแล้ว ทางเข้า Magic Food Park
ลองเดินเข้ามาด้านใน เหมือนร้านจะเยอะกว่าเมื่อกี้ แต่ที่นั่งน้อยมาก และต้องแลกคูปองเหมือนกัน ลูกค้าส่วนมากจะเป็นพนักงาน ซึ่งเมื่อเทียบกับโซนก่อน ราคาที่นี่ถือว่าถูก ประมาณจานละ 50 บาทเท่านั้น พอ ๆ กับด้านนอกสนามบินเลย
มาต่อกันชั้น 1 ขาเข้าบ้างดีกว่า คราวก่อนบินมาจากขอนแก่น ลงเกต 5 นึกว่าเปิดแล้วแต่ก็เป็นรถบัสมารับ รถมาส่งประตูเดิม คือเดินเข้ามาถึงห้องน้ำ ของเดิมจะเลี้ยวขวาไปเอากระเป๋าที่ T1 แต่ตอนนี้ในประเทศต้องเดินเลี้ยวซ้ายไปเอากระเป๋าที่ T2 กัน เอากระเป๋าเสร็จ ทางออกจะอยู่บริเวณประตู 12 ถ้าลงบัสก็เดินไกลนิด
ใครจะมารับเพื่อน แล้วจอดรถอาคารจอดรถ ก็จะเดินผ่านป้ายใหญ่ไว้ดูไฟล์ทที่จะมารับ
ถ่ายย้อนไปอีกมุมหนึ่งให้ดูกว้าง ๆ มีคนรอเยอะแยะเลย
เดินจากด้านในออกมา นี่ถ้าเลี้ยวขวาก็จะไป T1 ถ้าเลี้ยวซ้ายไปอาคารจอดรถ ทางด้านขวานี่มีเคาน์เตอร์รถเช่ามาเปิด 2 เจ้า
เดินต่อไปอีกนิด มีรถเช่าอีกสองเจ้าที่ยังไม่เปิด
ใครที่มาถึง มีคนรับก็ให้ไปจอดอาคารจอดรถแล้วเดินมารอหน้าประตูจะง่ายสุด หรือถ้าไม่อยากจอดก็นัดเวลาว่าออกประตูไหน เหมือนเดิมถ้าไม่อยากเดินไกลก็นัดประมาณประตู 12 ซึ่งใกล้ทางออกที่สุด
ส่วนใครจะใช้บริการขนส่งมวลชนเข้าเมือง มีสองอย่างคือ แท็กซี่ กับ รถเมล์ A1 โดยถ้าจะใช้บริการแท็กซี่ ให้เดินออกมาให้เลี้ยวซ้าย เดินไปจนสุดอาคารเลยบันไดเลื่อนไปหน่อย
ระหว่างทางก็จะผ่านสองร้านนี้ที่เปิดแล้ว กาแฟ กับ ขนมปัง
เดินตามแถวกันไปขอบอกว่าแถวยาวเลยบันไดเลื่อนไปอีก
เดินไปดูกันหน่อยตรงเข้าไปนิดก็ต้องเลี้ยวซ้าย
เลี้ยวขวาไปอีกนิดก็จะเจอห้องพักรอผู้โดยสารแท็กซี่
ดูอัตราค่าบริการซะก่อน
สรุป แถวยาวมากกกกกกก หางแถวนี่เลยไปเกือบถึงประตู 15 เลย แนะนำว่าถ้าอยากใช้บริการแท็กซี่ ให้ดีที่สุดคือเดินย้อนไปอาคาร 1 เดินตามป้ายไปโรงแรมอมารี ดอนเมือง ถ้าจากทางออก T2 ก็เลี้ยวขวาเดินไปจนสุดจะมีอาคารเชื่อมไป T1 แล้วเดินต่อไปจนเจอลิฟต์ด้านซ้ายมือ ซึ่งจะอยู่แถวทางออกเดิมของ T1 ที่เขียนว่าไปโรงแรมอมารี กดไปเลยชั้น 2 โผล่มาจะเป็นสะพานลอยตรงไปโรงแรม เดินไปนิดนึงจะมีประตูออก สามารถลงมานอกรั้วสนามบินดอนเมือง ซึ่งจะเป็นริมถนนวิภาวดีเลย ทางลงจะเล็กหน่อย แต่จะมีแท็กซี่จอดรอเพียบเลย หรือโบกเอาก็ได้ ไม่ต้องเสีย 50 บาทด้วย แถมมีป้ายรถเมล์อยู่ใกล้ ๆ ใครจะใช้บริการก็โบกเอา หรือจะไปรถตู้สายต่าง ๆ ก็มีนะ สะดวกกว่าเยอะ
ส่วนรถเมล์ A1 ตอนผมมาวันที่ 26 ธันวาคม เดินออกมามีป้ายบอกให้เลี้ยวขวาไปขึ้น A1 ผมก็เดินตามไปสรุป A1 และชัทเทิลบัสไปสุวรรณภูมิยังคงจอดที่เดิมที่ T1 ซึ่งสามารถเดินทะลุผ่านไปได้ทั้งด้านในและนอกแบบรูปด้านบน หรือออกมาเดินรับลมชิล ๆ ด้านนอกก็ได้ เดินข้ามทางเดินไปนิดก็ถึง ไม่เกินห้านาที ไม่ไกล ทางเดินมีพื้นเอียงลากกระเป๋าง่าย
มีแท็กซี่มาจอดรับผู้โดยสารแถวนี้ด้วย สงสัยจะเหมา
ตอนผมเดินไปขึ้นที่ T1 ยังนึกอยู่เลยว่า เอ มันน่าจะจอด T2 ด้วยนะ แล้วก็จริง ๆ ด้วย มาจอดที่ T2 ด้วย บริเวณประตู 14 เลย
ใครไม่อยากเดินไกลออกมาจากด้านในแล้วก็เลี้ยวซ้ายไปขึ้นรถเมล์ได้ที่ประตู 14 เลย
ด้านนอกนี่มีรถชัทเทิลบัสวิ่งวนในสนามบิน วิ่งไปถึงอาคารสินค้าเลย แล้วก็วนออกกลับมา T1 ใช้บริการฟรี
สำหรับผมใช้บริการ A1 ตลอด ผมจะเดินหน่อยไม่เกิน 5 นาทีไปขึ้นที่อาคาร T1 ซึ่งเป็นป้ายแรก คนจะไม่เยอะมาก แถมได้นั่งตลอด กว่ารถจะออกจากป้ายแรกคนก็เต็มรถแล้ว แต่ถ้าขี้เกียจเดิน ก็แลกกับยืน ๆ เอา แต่ก็ไม่นานเท่าไร รถเมล์ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก็ถึง BTS กับ MRT จตุจักรละครับ ค่าบริการ 30 บาท แถมวิ่งขึ้นโทลเวย์ตั้งแต่ดอนเมืองมาลงตรงหอวังเลย สะดวก รวดเร็ว ประหยัดครับ แนะนำ ๆ
มาดูเคาน์เตอร์ขายตั๋วกันบ้าง ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ด้านหลังบริเวณเช็กอินของแต่ละสายการบินเลย เริ่มต้นกันที่ แถว 9 ก็ของหางแดง
เดินเลยทางเข้าผู้โดยสารขาออกมาหน่อย
ก็จะเจอเคาน์เตอร์ขายตั๋วของนายสิงห์
ต่อกันด้วยเคาน์เตอร์เล็กของน้องไทยสไมล์และกานต์แอร์
และปิดท้ายกันด้วยเคาน์เตอร์ของน้องนก สุดทางพอดี เลยไปนิดก็เป็นห้องน้ำนั่นเอง
มาดูบริเวณผู้โดยสารขาออกกันบ้าง ด้านบนเป็นป้ายบอกไฟล์ทขนาดใหญ่มาก แต่เช่นเคยไม่บอกเกต
บริเวณทางเดินเข้าจะอยู่บริเวณแถว 12 ใครไม่มีกระเป๋าโหลด จ้างแท็กซี่มาหรือให้ใครมาส่งก็ลงประมาณประตู 12 เดินตรงเข้ามาใกล้สุด
มาได้เจ้าจอเล็กหน้าทางเข้านี่ที่บอกเกตสักที วันนี้ผมได้เกต 43 เข้างวงสบายหน่อย ไม่ไกลด้วย
ไปกันครับเข้าไปด้านในกันดีกว่า ด้านหน้ามีเจ้าหน้าที่ยังไม่ตรวจบอร์ดดิ้งพาส จะมาตรวจด้านในก่อนเข้าคิว ซึ่งมีอยู่หลายแถวทีเดียว
เดินเข้ามาก็จะเจอเครื่องสแกนกระเป๋า ก็เลือกต่อแถวสั้น ๆ กันไป เครื่องเยอะดี มีตั้ง 9 เครื่อง ทำให้ใช้เวลาไม่เยอะ
มองไปด้านขวามือ มีศาลาไทยด้วยเหมือนที่สุวรรณภูมิเลย ให้เดาว่าน่าจะเป็นของคิง พาวเวอร์ มองไกล ๆ ร้านค้าจากตำแหน่งเดิมย้ายมาอยู่ทางไปเกต 4x กันหมดเลย
ตำแหน่งของ T2 จะออกมาอยู่ระหว่างเกต 3x กับ 4x ถ้าใครเคยใช้จะจำได้ว่า ของเก่าถ้าเข้าทาง T1 ก็จะเดินผ่านบริเวณขายของ เกต 3x เซเว่น แล้วก็เดินไกลโพ้นไปเกต 4x กับบัสเกต 7x (เกต 3x กับ 4x จะเป็นงวงขึ้นเครื่องนะครับ ส่วนเกต 7x เป็น บัสเกต ต้องนั่งรถบัสไปขึ้นเครื่องอีกที) แอบเห็นมีป้ายห้ามถ่ายรูปบริเวณนี้ แต่ผมก็เนียน ๆ ถ่ายมาละ ออกมาเกต 3x เลี้ยวซ้ายนะครับ 4x กับ 7x เลี้ยวขวาเลย
ลองเลี้ยวซ้ายไปสำรวจร้านหน่อยสิ มีร้านใหม่มาแล้ว ส่วนร้านค้าตรงตำแหน่งเดิม รวมทั้งห้องน้ำนี่ปิดหมดเลย ย้ายไปฝั่งทาง 4x กันหมด
นั่งกินกาแฟชิล ๆ ดูนาฬิกาเกือบจะ 11.00 น. มีเวลาอีกหน่อยจะได้เดินถ่ายรูปร้านด้านในต่อ แต่ ๆ เวลาที่ผมดู 11.10 น. นี่มันเวลาเครื่องออกนี่นา เห็นในจอเรียกขึ้นเครื่องแล้ว มาดูบอร์ดดิ้งพาสเรียกกัน 10.30 งานนี้วิ่งสิครับท่าน จากเกต 3x ไปเกต 4x ใครเคยมาจะรู้ว่าไกลพอควรเลย โกยสิครับ เค้าขึ้นเครื่องกันหมดแล้ว แต่ไม่ใช่คนสุดท้าย เดินเข้าไปในเครื่องนี่ มีสายตาจับจ้องเป็นพิเศษ เอิ้ก ๆ
จบแล้วครับ ก็ลากันไปสำหรับกระทู้รีวิวแรกของปีนี้ ก็หวังว่าจะมีประโยชน์กับเพื่อน ๆ พี่ ๆ ทุกคนที่อ่านรีวิวนี้กันนะครับ ถ้ามีโอกาสจะมีรีวิว part 2 ร้านด้านในกันอีกทีนะครับ
สุขสันต์วันปีใหม่ทุก ๆ ท่าน โชคดีปีลิงกันทุก ๆ ท่านครับ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก คุณ tutorton สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
