เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของวัดร่องขุ่น ที่คุณอาจยังไม่รู้

          วัดร่องขุ่น จังหวัดเชียงราย วัดที่มีความสวยงามโดดเด่นจากวัดอื่น ๆ เพราะรูปแบบของสถาปัตยกรรมการออกแบบและการก่อสร้างของ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ โดยปรารถนาให้วัดแห่งนี้เป็นเหมือนสวรรค์ เป็นวิมานบนดินที่มนุษย์โลกสามารถสัมผัสได้ นอกจากความสวยงามที่เราสัมผัสได้แล้วนั้น วัดร่องขุ่นยังมีเรื่องราวเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยชวนรู้อีกหลายเรื่อง และอาจเป็นบางเรื่องที่คุณเองก็ยังไม่รู้ ดังต่อไปนี้


          1. วัดร่องขุ่น ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านร่องขุ่น ตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ดำเนินการสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2547 โดย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ในปี พ.ศ. 2554 เป็นผู้ดำเนินการออกแบบและก่อสร้าง ซึ่งได้ตัดสินใจที่จะปรับปรุงวัดในบ้านเกิดแห่งนี้ใหม่

          2. แรงบันดาลใจของอาจารย์เฉลิมชัยในการสร้างวัดร่องขุ่นมีอยู่ 3 ประการ ประกอบด้วย "ชาติ" ด้วยความปรารถนาอยากเป็นทหารรับใช้ชาติ แต่อาจารย์เรียนหนังสือไม่เก่งแต่วาดรูปเก่ง อาจารย์จึงได้แต่หวังว่าวันหนึ่งอาจารย์จะสร้างงานศิลปะที่ยิ่งใหญ่ฝากไว้เป็นสมบัติของแผ่นดินเกิด

          "ศาสนา" เมื่อยังเป็นเด็กเป็นคนใจร้อนและวู่วาม อัตตาสูง ธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นเหมือนหวายหนามอันแหลมคมฟาดให้อาจารย์มีสติกลับมาอีกครั้ง และได้ประกาศตนอุทิศชีวิตนี้ให้แก่พระพุทธศาสนา เพื่อสืบสานงานพุทธศิลป์ของแผ่นดินให้เป็นที่ประจักษ์ยอมรับของคนทั้งโลก และ "พระมหากษัตริย์" ด้วยความตั้งใจของอาจารย์ที่จะสร้างผลงานจิตรกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ประจำรัชกาลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 โดยไม่ลอกเลียนงานจิตรกรรมในสมัยรัชกาลใด ๆ ดังปรากฏให้เห็นงานจิตรกรรมฝาผนังของวัดร่องขุ่น

          3. ภายในวัดร่องขุ่นประกอบด้วยอาคารลักษณะรูปทรงที่แตกต่างกันทั้งหมด 9 หลัง แสดงถึงความเป็นเมืองสวรรค์อลังการ ให้คนทั้งโลกยอมรับและชื่นชมในผลงานการสร้างพุทธศิลป์แห่งนี้ และดื่มด่ำไปกับรายละเอียดการตกแต่งที่พิถีพิถันทั่วทุกมุม โดยแต่ละหลังมีความหมายคติธรรมแฝงอยู่ คาดว่าการก่อสร้างอาคารทั้ง 9 หลัง ใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 60-70 ปี

          4. จุดเด่นของวัดร่องขุ่นอยู่ที่ "พระอุโบสถสีขาว" ประดับด้วยกระจกแวววาววิจิตรงดงามแปลกตา หน้าบันประดับด้วยพญานาค ทั้งยังมีการประดับกระจกระยิบระยับ ตั้งอยู่บนเนินเตี้ย ๆ ที่มีทะเลสาบใสสะอาดสะท้อนเงาอาคาร ซึ่งอาจารย์เฉลิมชัยได้สรรค์สร้างขึ้นมาล้วนแล้วแต่มีความหมาย กล่าวไว้ว่า สีขาวแทนพระบริสุทธิ์ กระจกขาว หมายถึง พระปัญญาธิคุณของพระพุทธเจ้าที่เปล่งประกายทั่วโลกมนุษย์และจักรวาล


          5. ทางเดินเข้าอุโบสถมีสะพานทอดยาว อันหมายถึงการเดินข้ามวัฏสงสารมุ่งสู่พุทธภูมิ โดยก่อนขึ้นสะพานครึ่งวงกลมเล็ก หมายถึง โลกมนุษย์ วงใหญ่ที่มีเขี้ยวเป็นปากขงพญามารหรือพระราหู หมายถึง กิเลสในใจคือความทุกข์ ดังนั้นผู้ที่จะเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าต้องตั้งจิตปล่อยกิเลสตัณหาลงไปในปากพญามาร เพื่อเป็นการชำระล้างจิตใจ ในขณะที่กึ่งกลางสะพาน หมายถึง เขาพระสุเมรุ ซึ่งเป็นที่อยู่ของเหล่าเทวดา โดยบนสันสะพานจะประกอบด้วยอสูรอมกันข้างละ 8 ตัว 2 ข้าง รวมกันแทนอุปกิเลส 16 ส่วนด้านล่างเป็นสระน้ำ หมายถึง สีทันดรมหาสมุทร มีสวรรค์ตั้งอยู่ 6 ชั้นด้วยกัน

          6. เมื่อผ่านสวรรค์ 6 ชั้น เดินลงไปสู่แผ่นดินของพรหม 16 ชั้น โดยมีดอกบัวทิพย์ทั้ง 16 ดอก เป็นตัวแทน แต่ดอกบัวทิพย์ 4 ดอกใหญ่ตรงทางขึ้นด้านข้างพระอุโบสถ หมายถึง ซุ้มพระอริยเจ้า 4 พระองค์ คือ พระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์


          7. ภายในพระอุโบสถวัดร่องขุ่น ประกอบด้วยภาพพระพุทธองค์หลังพระประธาน ซึ่งเป็นภาพที่ใหญ่งดงามมาก และภาพเขียนสีทองตามผนังทั้ง 4 ด้าน เพดานและพื้นเป็นภาพเขียนที่แสดงถึงการหลุดพ้นจากกิเลสมาร มุ่งเข้าสู่โลกุตรธรรม (ภายในพระอุโบสถห้ามถ่ายรูป)

          8. จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของวัดร่องขุ่นคือ "ห้องน้ำ" ที่มีการก่อสร้างอย่างสวยงามและอลังการ โดยภายนอกเป็นรูปทรงศาลาขนาดใหญ่สีทองทั้งหลัง โดยการนำจิตรกรรมไทยมาสร้างสรรค์และทำการตกแต่ง ทั้งบริเวณประตู อ่างล้างหน้า เรียกได้ว่าเป็นห้องน้ำที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยเป็นห้องน้ำที่ให้บริการทั้งหญิงและชายแต่จะแยกกัน ห้องน้ำผู้หญิงจะอยู่ด้านหน้า ส่วนห้องน้ำของผู้ชายจะอยู่ด้านหลังของห้องน้ำผู้หญิง ทางเดินจะอยู่ด้านข้างของห้องน้ำผู้หญิง ที่สำคัญคือให้บริการฟรี

          9. เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 วัดร่องขุ่นได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะตรงด้านยอดที่ฉัตรหักงอลงอย่างชัดเจน ทำให้วัดร่องขุ่นปิดการเยี่ยมชมนาน 3 วัน และอาจใช้เวลาซ่อมแซมนานถึง 2 ปี

          10. วัดร่องขุ่นเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.30-18.00 น. และห้องแสดงภาพเปิดให้เข้าชมวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00-17.30 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.

          "วัดร่องขุ่น" ถือเป็นประจักษ์พยานแห่งพุทธศิลป์ ที่รวบรวมมรดกความงามแห่งภูมิปัญญาของมนุษย์คนหนึ่ง เพื่อหวังให้คนทั้งโลกยอมรับ และปรารถนาจะมาชื่นชมให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต นับเป็นผลงานการสร้างสรรค์จินตนาการเกี่ยวกับโลกสวรรค์เท่าที่มนุษย์คนหนึ่งพอจะทำได้ หากมีเวลาอย่าลืมหาโอกาสไปเที่ยววัดร่องขุ่นกันสักครั้งนะคะ ^__^

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
, , www.watrongkhun.org, www.dhammajak.net