เกาะกระดาน เที่ยวได้ง่าย ๆ แค่ 2 วัน 1 คืน ก็ไปได้

          ขึ้นชื่อเรื่องความงามอยู่แล้วสำหรับทะเลในจังหวัดตรัง วันนี้เราเลยจะพาเพื่อน ๆ ไปโลดแล่นสัมผัสทะเลสวย ๆ หาดทรายขาว ๆ ของทะเลตรังกันซะหน่อย นั่นก็คือ เกาะกระดาน โดยตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของเกาะมุกและเกาะลิบง มีเนื้อที่ 600 ไร่ ซึ่ง 5 ใน 6 ส่วนของเกาะนี้อยู่ในความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ที่เหลือเป็นของเอกชน โดยเกาะกระดานมีชายหาดที่มีทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลใสจนมองเห็นแนวปะการัง ซึ่งเป็นปะการังน้ำตื้น ตลอดจนฝูงปลาหลากสีหลายพันธุ์ อีกทั้งยังเป็นเกาะที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดของทะเลตรังด้วย...ว้าว ! (ดูเพิ่มเติมได้ที่  เกาะกระดาน) อ๊ะ ๆ แต่จะสวยงามตามคำร่ำลือหรือไม่นั้น ลองตามบันทึกการเดินทางของ คุณ tounka สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่มีโอกาสไปเที่ยวเกาะกระดานพร้อมกับนำเรื่องราวและภาพถ่ายสวย ๆ มาแชร์ให้เราได้ชมกันค่ะ 

          จองเครื่องแอร์เอเชียไปจังหวัดตรังไว้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีก่อนนู่นครับ ตอนแรกก็จองไว้ 3 วัน 2 คืน พอใกล้ถึงเวลาเดินทางจริง อ้าว...มีเวลาแค่เสาร์อาทิตย์แฮะ โชคดีที่แอร์เอเชียเปลี่ยนแปลงเวลาบินหรือยังไงนี่แหละ เลยได้สิทธิ์เลื่อนไฟล์ฟรี จัดการเลื่อนเป็นไปเสาร์กลับอาทิตย์ซะ มีเวลาแค่คืนเดียว ทีแรกก็คิดว่าจะมีเวลาไม่พอข้ามไปเกาะแล้ว คงไปนอนเล่นแถวหาดปากเมงก็พอ แต่พอนั่งดูข้อมูลแล้วคิดไปคิดมา เอาเว้ยข้ามไปเกาะก็พอได้อยู่นะ...ลองดู เกาะไหงสิ เกาะมุกสิ สวยดีเหมือนกัน ไปไม่ยาก นั่งเรือไปแป๊บเดียวก็ถึง แต่สุดท้ายก็มาลงเอยที่ "เกาะกระดาน"

          เมื่อมีเวลาจำกัดแค่ 2 วัน 1 คืน เลยตั้งโจทย์ว่าต้องหาเกาะที่เดินทางสะดวกหน่อย ไม่ต้องเสียเวลาต่อรถต่อเรือมาก ที่จริงเกาะมุก เกาะไหง ก็ไปได้หมดละครับ แต่พอหาข้อมูลที่พักตามเว็บและในพันทิปก็ไปเจอที่พัก กระดาน บีช รีสอร์ท ที่ราคาพอรับได้ และมีบริการรถรับส่งจากสนามบิน-ตัวเมือง-ท่าเรือ ครบหมด ไม่ต้องมาหาต่อรถต่อเรือเอง เดี๋ยวจะสรุปรายละเอียดและค่าใช้จ่ายทั้งหมดอีกทีครับ มาดูแผนทริปคร่าว ๆ ก่อน

          วันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2558

          08.00 น. ขึ้นเครื่อง AirAsia ไฟลท์ FD3241
          09.25 น. ถึงสนามบินตรัง
          09.30 น. รถตู้ของ กระดาน บีช รีสอร์ท มารับไปส่งที่ออฟฟิศในตัวเมือง อยู่หน้าสถานีรถไฟตรัง
          12.00 น. รถตู้ออกจากตัวเมือง ไปส่งที่ท่าเรือควนตุ้งกู
          12.50 น. ถึงท่าเรือควนตุ้งกู นั่งเรือหางยาวไปเกาะกระดาน ใช้เวลา 50 นาที
          13.40 น. ถึงเกาะกระดาน เข้าที่พัก กระดาน บีช รีสอร์ท
          14.00-17.30 น. ถ่ายภาพช่วงบ่ายถึงเย็น
          18.00 น. กินข้าวเย็น
          20.00 น. เข้านอน
 
          วันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2558

          06.00-08.00 น. ตื่นมาถ่ายพระอาทิตย์ขึ้น
          08.00 น. กินข้าวเช้า
          09.00-11.00 น. ถ่ายภาพเก็บตกช่วงสาย
          11.30 น. เช็กเอาท์
          12.00 น. นั่งเรือกลับเข้าฝั่ง
          12.50 น. ถึงท่าเรือควนตุ้งกู ขึ้นรถตู้กลับเข้าตัวเมือง
          13.40 น. ถึงตัวเมืองเดินหาอะไรกินช่วงบ่าย
          17.00 น. กลับมาที่ออฟฟิศขึ้นรถตู้กลับไปส่งที่สนามบิน
          19.35 น. ขึ้นเครื่อง AirAsia ไฟลท์ FD3246
          20.50 น. ถึงสนามบินดอนเมือง

          ทริปง่าย ๆ ไปเร็วมาเร็วเคลมเร็ว ถามว่าไม่เหนื่อยเหรอ ถ้าสำหรับคนที่ต้องการไปเที่ยวชิล ๆ ก็น่าจะเหนื่อยครับ เพราะไม่ค่อยมีเวลามานั่งชิล แต่สำหรับผมเน้นไปถ่ายภาพโดยเฉพาะ เวลาเท่านี้ก็ได้ครบตามต้องการแล้วครับ


          การเดินทาง (ไป)

          การเดินทางมาจังหวัดตรัง มาด้วยเครื่องบินสะดวกและถูกสุดแล้วครับ รถทัวร์ภาคใต้ถ้าไม่จำเป็นอย่าเสียเวลานั่งดีกว่า รถไฟก็สะดวกดี มาถึงตัวเมือง แต่ถ้าเทียบราคาตู้นอนแล้วก็พอ ๆ กับเครื่องบิน เวลามีราคาโปรฯ แอร์เอเชียออกมา ตรังมักจะมีคนจองน้อยกว่าจังหวัดภาคใต้อื่น ๆ อย่างกระบี่ ภูเก็ต หาดใหญ่ แถมราคาก็ยังถูกมาก ของผมโปรฯ จองข้ามปี ไป-กลับ 600 กว่าบาท ส่วนจองแล้วเดินทางเลยอย่างช่วงนี้ก็เห็นยังมีไป-กลับ 1,200 กว่าบาท

          แต่ข้อด้อยของไฟลท์แอร์เอเชีย ก็คือ จะมาถึงตรังสายหน่อย เครื่องออก 8 โมง ถึง 9 โมงครึ่ง จะไม่ทันเรือรอบเช้าที่ส่วนใหญ่จะออก 9 โมง บริษัททัวร์บางเจ้าบอกเลยว่าถ้าต้องการมาถึงแล้วลงเรือเลย (ทั้งเรือทัวร์ดำน้ำและข้ามไปเกาะ) ให้มานกแอร์ที่จะไปถึงตรังเร็วกว่าคือ 08.40 น. (ถ้าไม่ดีเลย์) ส่วนผมจองไว้นานแล้วก็เลยเลือกไม่ได้ มาถึงตรัง 9 โมงครึ่ง มีรถตู้มารับพาไปส่งที่ออฟฟิศในตัวเมืองก่อน และต้องรอรถไปส่งท่าเรือเวลา 12.00 น.

          สำหรับรอบเรือของ กระดาน บีช รีสอร์ท จะมีรอบเวลา 09.00 น. กับ 12.00 น. แต่เรือออกจริง 09.50 น. กับ 12.50 น. เพราะต้องนั่งรถจากตัวเมืองไปท่าเรือควนตุ้งกูอีกประมาณ 50 นาที เรือจะเป็นเรือหางยาวลำขนาดกลาง ๆ แบบที่เห็นในภาพ นั่งได้ 6 คน มีเสื้อชูชีพให้ เท่าที่อ่านข้อมูลตามเว็บและพันทิปถ้ามาหาเหมาเรือไปเกาะกระดานเองที่ท่าเรือ ราคาจะอยู่ที่เที่ยวละ 600 บาท จากท่าเรือใช้เวลาประมาณ 50 นาที ผ่านเกาะมุกสักพักก็ถึงเกาะกระดาน



          Kradan Beach Resort

          ตอนหาข้อมูลที่พักบนเกาะกระดาน ก็เริ่มจากดูตาม Agoda กับ Booking ที่พักบนเกาะมีอยู่ประมาณ 4-5 แห่ง ราคาก็มีตั้งแต่ 500-3,000 บาท แต่สุดท้ายมาเจอ กระดาน บีช รีสอร์ท บนเว็บ www.kradanbeachresort.com ดูรายละเอียดแล้วมีรถเรือรับ-ส่งครบ ก็เลยตัดสินใจเอาที่นี่ โทรสอบถามรายละเอียดตามเบอร์หน้าเว็บได้เลย หรือสอบถามโดยตรงกับ คุณกุ้ง ที่เบอร์ 081-968-0130 ให้รายละเอียดดีมาก ของผมจองที่พัก 1 คืน สำหรับ 2 คน ไม่ต้องโอนเงินล่วงหน้า วันเดินทางรถตู้ไปรอรับที่สนามบิน แล้วพามาจ่ายเงินที่ออฟฟิศหน้าสถานีรถไฟได้เลย

          ตอนแรกผมจองห้องบังกะโลพัดลมเอาไว้ คืนละ 1,700 บาท แต่ขอเปลี่ยนเป็นบังกะโลแอร์ คืนละ 2,100 บาท เพราะกลัวจะร้อนจนนอนไม่ได้ แต่เอาเข้าจริงแล้วไม่ร้อนเลย ห้องพักไม่อับลม อากาศถ่ายเท ถ้าอยากประหยัดก็นอนแค่ห้องพัดลมได้ (แต่เดือนมีนาคม-เมษายน อาจจะร้อนขึ้น) ห้องพักไม่ติดหาด แต่ก็อยู่ใกล้หาดมาก คืออยู่หลังห้อง Beach Front แค่นั้นเองครับ สภาพห้องค่อนข้างโอเค เห็นว่าเพิ่งปิดปรับปรุงเมื่อปีที่แล้ว มีไฟฟ้า 24 ชั่วโมง ไม่มีทีวี ไม่มีตู้เย็น ส่วนเปิดแอร์ได้เวลา 6 โมงเย็น ถึง 9 โมงเช้า ราคาห้องพักรวมอาหารเช้า ส่วนอาหารเย็นซื้อกินเองครับ

          สรุปรวมค่าห้อง 2,100 บาท ค่ารถ+เรือรับส่ง คนละ 550 บาท แบ่งเป็น ค่ารถไปรับสนามบิน 90 บาท (เท่ากับค่ารถเข้าเมืองที่สนามบิน) ค่ารถไปส่งท่าเรือ 160 บาท ค่าเรือ 300 บาท รวมราคาไป-กลับ คนละ 1,100 บาท x 2 คน = 2,200 บาท รวมค่าห้องก็เป็นทั้งหมด 4,300 บาท สำหรับ 2 คน หรือคนละ 2,150 บาท



          การเดินทาง (บนเกาะ)
         
          เดินนนนนนนน...อย่างเดียว เกาะกระดานเป็นเกาะที่ไม่ใหญ่มาก ชายหาดอยู่ฝั่งตะวันออก ทอดยาวตั้งแต่เหนือสุดยันใต้สุดเกาะ สำหรับกระดาน บีช รีสอร์ท จะตั้งอยู่ช่วงกลางของเกาะพอดี ทำให้เดินไปหาดทางเหนือหรือทางใต้ได้สะดวกมาก แต่ส่วนใหญ่ก็จะอยู่แถว ๆ ชายหาดหน้าที่พักนั่นแหละครับ เพราะเป็นมุมที่สวยที่สุดแล้ว หน้าหาดกว้าง น้ำทะเลใส เป็นสีฟ้าเข้ม เป็นบริเวณที่เหมาะแก่เล่นน้ำที่สุดแล้ว

          กว่าผมจะนั่งเรือไปถึงเกาะก็ปาเข้าไปบ่ายโมงกว่าแล้ว เป็นช่วงที่น้ำทะเลกำลังสวยที่สุด ไปถึงปุ๊บเก็บข้าวของเข้าห้องพัก แล้วก็ออกคว้ากล้องออกไปถ่ายทันที นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาพักบนเกาะก็จะมีแต่ฝรั่ง มีคนไทยอยู่ 2-3 ครอบครัว คนบนหาดน้อยมาก เมื่อเทียบกับบรรดาชายหาดหรือเกาะในจังหวัดอื่นอย่างกระบี่ ภูเก็ต ทัวร์จีน ไม่มีเลย ส่วนทัวร์คนไทยเรือนำทัวร์จะไปจอดทางด้านใต้ของเกาะ แถวที่ทำการอุทยานฯ ทำให้ชายหาดหน้าที่พักสงบและสวยงามมาก



          จากที่พักซึ่งอยู่บริเวณกลางเกาะพอดี ถ้าเดินขึ้นไปทางเหนือก็จะเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทแห่งอื่น ๆ แต่เห็นนักท่องเที่ยวจากด้านเหนือเดินมาแถวกลางเกาะกันหมด ผมก็เลยไม่ได้เดินขึ้นไป เดินถ่ายอยู่แถวหน้าที่พักเสียส่วนใหญ่ อ้อ ! ที่ กระดาน บีช รีสอร์ท นี่มี Wi-Fi ด้วยนะครับ แต่สัญญาณใช้ได้แถวร้านอาหารเท่านั้น แต่ตลอด 2 วัน ผมพยายามต่อดูแล้ว ต่อได้แต่เล่นไม่ได้สักที ส่วนสัญญาณโทรศัพท์เครื่องผม True สัญญาณหมดตั้งแต่ครึ่งทางนั่งเรือมาเกาะแล้วครับ คือพอเรือพ้นเกาะมุกมาก็ใช้โทรศัพท์ไม่ได้แล้ว ถ้าเป็นค่ายอื่นน่าจะใช้ได้อยู่

          สำหรับอาหารการกินบนเกาะก็จะมีแต่ร้านอาหารและมินิมาร์ทเล็ก ๆ ของรีสอร์ทเท่านั้น ราคาก็แพงตามมาตรฐานบนเกาะ ก็เลยไม่ค่อยได้กินจุกจิกเท่าไร พกน้ำเปล่าขวดเดียวจากห้องพักก็พอ เก็บไว้กินมื้อใหญ่ตอนเย็นทีเดียว ถ้าใครไม่อยากซื้อแพงก็เตรียมขนน้ำขนขนมมาจากบนฝั่งให้เรียบร้อย

          สำหรับทริปนี้นอกจากจะมีเวลาน้อยแล้ว จุดประสงค์หลักก็คือมาถ่ายภาพอย่างเดียว ผมก็เลยไม่ได้ซื้อทัวร์ดำน้ำ One Day Trip ทะเลตรัง ที่จะพาไปถ้ำมรกต เกาะเชือก เกาะม้า ทั้งหลายเหล่านั้น เพราะเวลาเดินทางก็ไม่เหมาะแก่การไปทัวร์ดำน้ำด้วย เนื่องจากมาถึงตรังช่วงสายแล้ว เคยอ่านเจอในพันทิปนี่ละว่าถ้าอยากประหยัดค่าเรือข้ามมาเกาะ ให้ซื้อทัวร์ดำน้ำแล้วมาขอลงที่เกาะกระดาน จะคุ้มกว่าเพราะได้ทั้งไปดำน้ำและข้ามมาเกาะ ถ้าใครสนใจวิธีนี้ก็ต้องลองไปสอบถามรายละเอียดดูครับ



          ช่วงบ่ายแก่ ๆ ก็ได้เวลาเดินไปทางชายหาดด้านใต้ของเกาะกันบ้าง ทัวร์ดำน้ำเริ่มเตรียมตัวกลับเข้าฝั่งกันแล้ว โซนนี้จะเป็นบริเวณของที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ถ้าเป็นช่วงกลางวันเรือทัวร์ดำน้ำจะมาจอดเยอะมาก แต่ถ้าเป็นช่วงเย็น ๆ จะเงียบสงบมากกกกกกก ที่พักของอุทยานฯ จะมีบริเวณกางเต็นท์ด้วย มีฝรั่ง 2-3 คน นั่งชิลอยู่หน้าเต็นท์ ส่วนบ้านพักของอุทยานฯ ดูเงียบ ๆ บางส่วนก็ดูเหมือนสร้างไม่เสร็จ ไม่แน่ใจว่ายังเปิดให้เข้าพักอยู่หรือเปล่า

          ถ้าเดินเลยบริเวณของอุทยานฯ ไปอีกก็จะมีชายหาดสงบ ๆ อยู่ทางด้านใต้ของเกาะอีก แต่เห็นว่าเริ่มแดดร่มลมตก แสงหมดแล้ว ก็เลยไม่ได้เดินไปต่อครับ สำหรับมุมถ่ายพระอาทิตย์ตก จะมีทางเดินข้ามไปฝั่งตะวันตกของเกาะอยู่แถวด้านหลังของที่พักเลย มีป้ายบอก แต่เนื่องจากผมเดินตากแดดถ่ายรูปตลอดช่วงบ่ายยันเย็นก็เลยหมดแรงซะก่อน ไม่ได้เดินข้ามฝั่งไป ตัดสินใจกลับมาห้องพัก อาบน้ำ เตรียมตัวออกไปกินข้าวเย็น



          สำหรับอาหารเย็นก็ไม่ต้องเดินไปไหนไกล กินที่ร้านอาหารของรีสอร์ทนี่เลย เคยอ่านเจอว่าอาหารของที่นี่รสชาติใช้ได้อยู่ ไล่ดูรายการอาหารในเมนูแล้วราคาอยู่ที่เมนูละ 160-180 บาท ก็ถือว่าพอรับได้ ไม่ได้แพงเว่อร์จนเกินไป ผมสั่งกินง่าย ๆ ไม่เยอะมาก (คืองบจำกัด) เป็นปลาราดพริก แบบเป็นชิ้น 160 บาท (ถ้าทั้งตัว 400 บาท) แล้วก็ไข่เจียว 80 บาท แล้วก็ข้าวเปล่า 2 จาน จานละ 30 บาท ปริมาณเยอะมาก น้ำเปล่า 1 ขวด น้ำแข็ง 2 แก้ว ตบท้ายด้วยของหวานเป็น กล้วยหอมทอดราดน้ำผึ้ง 100 บาท รวมทั้งหมด 440 บาท ก็ไม่ถือว่าแพงมาก อร่อยด้วย (ยกเว้นไข่เจียวที่รสชาติเหมือนโรตีซะมากกว่า)

          กินเสร็จก็นั่งรับลมทะเลอยู่สักพัก ข้อเสียของที่นี่คือไม่มีเก้าอี้ให้นั่งหน้าชายหาด ถ้าออกจากร้านอาหารแล้วก็ไม่รู้จะไปนั่งที่ไหน สัก 2 ทุ่ม ก็กลับเข้าห้อง เปิดแอร์นอนแล้วครับ กลางคืนหนาวมาก เพราะไม่มีรีโมทแอร์ให้ปรับ (รู้สึกว่าต้องขอที่เคาน์เตอร์ เพราะตอนกลับเห็นมีคนเอารีโมทแอร์มาคืน อ้าวแล้วก็ไม่บอก)


          ซันไรสสสสสสสสสสสส์

          แม้เราจะไม่ได้ถ่ายพระอาทิตย์ตก แต่พระอาทิตย์ขึ้นนี่ไม่ย่อมพลาดแน่นอน ตื่นขึ้นมาก็เดินออกมาถ่ายหน้าหาดได้เลย ตื่น 6 โมงเช้าก็ยังทัน ที่จริงถ้าตื่นสักตี 4-5 อาจจะได้ถ่ายทางช้างเผือกด้วย เพราะเป็นช่วงคืนเดือนแรม กลางคืนเห็นดาวเยอะมาก แต่ไม่กล้าออกมาถ่ายตอนมืด ๆ เลยขอแค่พระอาทิตย์ขึ้นก็พอ


          ช่วงกลางคืนถึงเช้าน้ำทะเลจะลดลงเยอะมาก จนพบว่าแท้จริงแล้วชายหาดน้ำทะเลใส ๆ ที่เราเห็นกันในตอนกลางวัน ข้างล่างนั้นเต็มไปด้วยโขดหินเล็ก ๆ มากมาย ต้องเดินออกห่างไปไกลฝั่งเล็กน้อยถึงจะเป็นพื้นทรายขาวละเอียด เดินก้ม ๆ เงย ๆ หามุมถ่ายรูปแข่งกับพระอาทิตย์ที่ขึ้นเร็วมาก สัก 7 โมง ก็เริ่มสว่างแดดแรงขึ้นทุกที อ้อข้อเสียอย่างหนึ่งของชายหาดเกาะกระดาน คือ แทบไม่มีต้นมะพร้าวเลย เห็นอยู่ 1-2 ต้น จากภาพข้างบน เลยต้องหามุมถ่ายกับขอนไม้แถว ๆ นั้นเอา



          เผลอแป๊บเดียวพระอาทิตย์ก็ขึ้นสูงแล้ว รีบวิ่งจ้ำจากแถวหน้าที่พัก ไปแถวบริเวณอุทยานฯ แต่กว่าจะไปถึงก็แดดแรงซะแล้ว เลยไม่ค่อยได้ถ่ายอะไรมาก



          8 โมง ก็ได้เวลาเดินกลับมาทานอาหารเช้า อาหารเช้าของที่นี่เสิร์ฟเวลา 07.00-09.30 น. อาหารก็ตามมาตรฐานรีสอร์ททั่วไป ลองกินครบทุกอย่างเพื่อความคุ้มค่า ทั้งขนมปัง ไส้กรอก แฮม ไข่ดาว ข้าวต้ม ข้าวผัด ไข่ดาว (อีกรอบ) รสชาติใช้ได้ นอกจากนี้ก็มีกาแฟสด น้ำส้ม ผลไม้ ของหวาน วาฟเฟิลราดน้ำผึ้ง...ไม่อั้น

          สำหรับเรือขากลับจะมีรอบ 09.00 น. กับ 12.00 น. แน่นอนว่าผมเลือกกลับรอบเที่ยงเหมือนเดิม จะได้มีเวลาถ่ายเก็บตกรอบหนึ่ง ช่วงสาย ๆ น้ำทะเลที่ลดลงไปเมื่อตอนกลางคืนก็ค่อย ๆ ขึ้นมาอีกครั้ง ช่วงก่อนน้ำขึ้นนี่เดินลงชายหาดไปได้ไกลนู่นนนนนนเลย




          สัก 10 โมง น้ำทะเลก็ขึ้นเต็มที่ แดดเริ่มแรง ชายหาดก็กลับมาเป็นสีฟ้าใสใสเหมือนเดิม ช่วงเช้าวันอาทิตย์แบบนี้จะมีเรือทัวร์พานักท่องเที่ยวมาลงบนเกาะเยอะมาก จอดเรียงรายกันเต็มไปหมด แต่ก็ไม่วุ่นวายมาก เพราะคนจะกระจายไปตามชายหาดที่กว้างมาก




          การเดินทาง (กลับ)

          สำหรับที่ กระดาน บีช รีสอร์ท นี้กำหนดให้เช็กเอาท์เวลา 11.00 น. แต่ผมไม่ทันได้เห็นป้ายที่เขียนไว้หลังเคาน์เตอร์ ก็เลยออกจากห้องมาตอน 11.20 น. เพื่อมารอเรือกลับเข้าฝั่งเวลา 12.00 น. ตอนเข้าพักให้แจ้งกับพนักงานให้เรียบร้อยเลยว่าขากลับต้องการกลับเรือรอบไหน นั่งรอสักพักพนักงานก็เรียกให้ขึ้นเรือตอน 12.00 น. ตรงเวลาพอดี เป็นเรือหางยาวเหมือนเดิม ใช้เวลานั่งเรือกลับ 50 นาที เท่ากับขามา พอไปถึงฝั่งท่าเรือควนตุ้งกูก็จะมีรถตู้คันเดิมมารับกลับเข้าตัวเมืองหรือให้ไปส่งสนามบินเลยก็ได้

          ขากลับผมจองไฟลท์แอร์เอเชีย เวลา 19.35 น. หัวค่ำเลย ก็เลยให้รถตู้กลับไปส่งที่ตัวเมืองก่อน สำหรับใครที่ต้องการกลับกรุงเทพฯ เร็ว ไม่อยากรอนานให้จองไฟลท์ 15.00 น. ก็ข้ามเรือกลับมาทันครับ ขากลับมีคนไทยที่นั่งเรือกลับมาด้วย กลับไฟลท์บ่าย 3 รถก็มาส่งที่สนามบินทัน เรือออก 12.00 น. ถึงท่าเรือ 12.50 น. จากท่าเรือนั่งรถตู้ไปถึงสนามบินเวลา 13.40 น. ทันแน่นอนถ้าไม่มีเหตุสุดวิสัยที่ทำให้เสียเวลา หรือถ้าไม่อยากเฉียดฉิว นกแอร์มีไฟลท์ 18.00 น. กลับถึงกรุงเทพฯ ไม่ดึกมาก

          เมื่อกลับมาฝั่งเร็วก็เลยต้องมาเดินเตร็ดเตร่อยู่ในตัวเมืองเพื่อรอเวลา แต่ก็ไม่ได้ไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ในตัวเมือง เพราะหมดแรงแล้ว เดินหาอะไรกินแถวนั้น เมืองเงียบมาก ทั้งวันเสาร์-อาทิตย์ ร้านอาหารหลายที่ไม่เปิด เพราะเป็นช่วงตรุษจีน ก็เลยนั่งกินร้านข้างทางธรรมดา จนถึง 5 โมงเย็น ก็เดินกลับมาที่ออฟฟิศหน้าสถานีรถไฟ รถตู้รับกลับไปส่งที่สนามบิน เป็นอันจบทริปแบบง่าย ๆ ครับ



สรุปข้อดี-ข้อเสีย : ทะเลตรัง เกาะกระดาน/กระดาน บีช รีสอร์ท

          ข้อดี

          - สวยและสงบมาก น้ำทะเลใส น้ำเป็นสีฟ้าเข้ม สวยกว่าที่คิดไว้ทีแรก

          - คนน้อยมาก ถือเป็นข้อดีของทะเลตรัง คนน้อยกว่ากระบี่ ภูเก็ต

          - เดินทางง่าย ถ้าจัดการติดต่อกับที่พักหรือบริษัททัวร์เอาไว้ทุกอย่างแล้ว

          - ค่าตั๋วเครื่องบินถูก

          - สภาพที่พัก ถือว่าดี สะอาด ราคาพอรับได้ ถูกสุดของที่นี่คือคืนละ 1,250 บาท เป็นห้องแถว ถ้าอยากประหยัดก็พอนอนได้ครับ

          ข้อเสีย

          - ถ้าไม่ติดต่อรถ-เรือ รับส่งล่วงหน้าไว้ก่อน อาจจะเดินทางยาก เพราะท่าเรือควนตุ้งกูหารถจากตัวเมืองยากกว่าไปแถวท่าเรือปากเมง

          - ค่าเรือแพงไปนิดสำหรับเรือหางยาว

          - ร้านอาหารบนเกาะมีให้เลือกไม่มาก ของกินราคาแพง (แต่ก็ปกติของบนเกาะ)

          - สัญญาณ Wi-Fi เล่นไม่ค่อยได้


สรุปค่าใช้จ่าย

          ค่าเดินทาง+ที่พัก

          - ค่าเครื่องบิน AirAsia ไป-กลับ คนละ 631.5 บาท x 2 คน = 1,263 บาท

          - ค่ารถรับส่ง+ค่าเรือ สนามบิน-ท่าเรือ-เกาะกระดาน ไป-กลับ คนละ 1,100 บาท x 2 คน = 2,200 บาท

          - ค่าที่พัก กระดาน บีช รีสอร์ท บังกะโล แอร์ 1 คืน = 2,100 บาท

          - รวมทั้งหมด 5,563 บาท หรือคนละ 2,781.5 บาท
         
          ค่ากิน

          - มื้อที่ 1 มื้อสายวันแรก ร้านหน้าสถานีรถไฟ = 110 บาท

          - มื้อที่ 2 มื้อเย็นวันแรก ร้านอาหาร กระดาน บีช รีสอร์ท = 440 บาท

          - มื้อที่ 3 มื้อบ่ายวันที่สอง ร้านข้าวหมูแดงในตัวเมืองตรัง = 80 บาท + โรตีกล้วย = 70 บาท

         - รวมทั้งหมด 700 บาท หรือคนละ 350 บาท

          รวมค่าทริปทั้งหมดทั้งสิ้น 6,263 บาท หรือคนละ 3,131.5 บาท


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ tounka สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม