รวม 15 แหล่งชมหิ่งห้อย สัมผัสแมลงตัวน้อยจอมเปล่งแสง

รวม 15 แหล่งชมหิ่งห้อย สัมผัสแมลงตัวน้อยจอมเปล่งแสง

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

           เมื่อพูดถึง "หิ่งห้อย" เพื่อน ๆ บางคนอาจจะลืมหน้าตาของเจ้าแมลงตัวน้อยจอมเปล่งแสงนี้ไปเสียแล้ว โดยเฉพาะในเมืองกรุงนับวันยิ่งหาดูได้ยากหรือแทบจะไม่มีให้เห็นเลยก็ว่าได้ วันนี้กระปุกดอทคอมเลยรวบรวมสถานที่ที่เป็นแหล่งชมหิ่งห้อยจากทั่วประเทศมาฝาก เผื่อว่าเพื่อน ๆ คนไหนคิดถึงก็สามารถเดินทางไปชมความงดงามกันได้ ว่าแล้วก็สตาร์ทรถเหยียบคันเร่งตามเรามาเลยค่ะ

1. แม่น้ำตาปี เกาะลำพู และคลองร้อยสาย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

           แม่น้ำตาปี เกาะลำพู และคลองร้อยสาย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นบริเวณเดียวกับแข่งเรือยาวในเทศกาลชักพระ ซึ่งในบริเวณเหล่านี้เป็นแหล่งชมหิ่งห้อยที่สวยงามมาก โดยในยามค่ำคืนจะมีหิ่งห้อยให้ชมเป็นระยะทางยาวไปตามริมน้ำที่เงียบสงัด จะมีเรือยนต์พาเข้าไปชมหิ่งห้อยแบบใกล้ชิด โดยระหว่างล่องเรือนักท่องเที่ยวจะได้เห็นต้นลำพูที่มีหิ่งห้อยเกาะอยู่เต็มต้นแข่งกันกระพริบแสงที่ก้นเป็นภาพที่สวยงามมาก หิ่งห้อยที่นี่มีจำนวนมากสามารถมองจากระยะไกล ๆ ได้ ต้นลำพูจึงดูเหมือนเป็นต้นคริสต์มาสเลยก็ว่าได้ และหากโชคดีถ้าคืนไหนเป็นคืนเดือนมืดก็จะได้เห็นดวงดาวที่สุกสกาวพราวแสงอยู่บนท้องฟ้าสวยงดงามไม่แพ้กัน และที่มากกว่านั้นอาจจะเห็นดาวตกได้อีกด้วย ทั้งนี้การเข้ามาชมหิ่งห้อยจะไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป เพราะแสงแฟลชอาจจะไปรบกวนหิ่งห้อยหรืออาจทำให้ตายได้ทั้งต้นเลยทีเดียว ดังนั้นหากมีโอกาสมาเที่ยวที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีอยากให้แวะไปชมหิ่งห้อยตัวน้อยที่แม่น้ำตาปี รับรองว่าจะได้ชมหิ่งห้อยที่มากมายเกินคาด ไม่ผิดหวังแน่นอน

           ที่อยู่ : 49 หมู่ 5 ตำบลบางชนะ อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84000

           สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุราษฎร์ธานี โทรศัพท์ 0 7728 8817-9 หรือเทศบาลสุราษฎร์ธานี โทรศัพท์ 0 772 2614 , 0 7720 6771

           เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวคลองร้อยสาย , เฟซบุ๊ก ชมหิ้งห้อยคลองร้อยสาย

2. ชมหิ่งห้อยกับลุงแกละที่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง พระประแดง

         เป็นแหล่งชมหิ่งห้อยที่ตอบโจทย์การเดินทางอันสะดวกสบาย เพราะเพียงไม่กี่อึดใจจากกรุงเทพฯ ก็สามารถมาชื่นชมความงามของเจ้าหิ่งห้อยตัวน้อยกันได้แล้ว ที่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้งแห่งนี้นับเป็นแหล่งชมหิ่งห้อยชั้นดี เพราะมีต้นลำพูขึ้นอยู่มากมายอันเป็นแหล่งอาศัยของหิ่งห้อยนับร้อย ซึ่งไฮไลท์อยู่ที่บริเวณ "ดงผักบุ้ง" เป็นดงกว้าง ๆ มีสะพานปูนเล็ก ๆ ให้ขึ้นไปเดินได้ ที่นี่คุณจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับความงามของบรรยากาศโดยรอบ พร้อมกับฝูงหิ่งห้อยที่อยู่บริเวณพุ่มต้นจากที่เปล่งแสงสว่างท่ามกลางฉากหลังอันมืดมิด สวยงามตระการตามาก เมื่อมาถึงแนะนำให้ติดต่อ "ลุงแกละ" ที่ท่าตาเลื่อน ลุงคือไกด์มือหนึ่งที่จะพาเราไปล่องเรือลัดเลาะชมหิ่งห้อยแบบใกล้ชิด พร้อมทั้งให้ความรู้เกี่ยวกับวงจรชีวิตของหิ่งห้อยแบบเต็มอิ่มกว่าใคร

         โดยเรือของลุงแกละจะให้บริการ 3 รอบ ได้แก่ รอบ 1 ทุ่ม รอบ 2 ทุ่ม และรอบ 3 ทุ่ม อัตราค่าบริการ 2 คน ราคา 150 บาท 3 คน ราคา 200 บาท 4 คนขึ้นไป ราคา คนละ 50 บาท และเด็ก ราคา 30 บาท ในหนึ่งรอบไปได้เต็มที่ 4 คน ใช้เวลาชมหิ่งห้อยประมาณ 50 นาที เรือของคุณลุงมีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก ติดเครื่องเรือหางยาว ไม่มีหลังคา มีเสื้อชูชีพให้ รับประกันความปลอดภัยหายห่วง ทั้งนี้การชมหิ่งห้อยคุณลุงไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ เพราะแสงแฟลชสามารถทำให้หิ่งห้อยตายได้ ถ้าอยากเก็บภาพประทับใจขอให้บันทึกไว้ในความทรงจำก็พอ (นอกจากนี้ต้องโทรจองคิวคุณลุงตั้งแต่เนิ่น ๆ นะคะ เพราะคิวเยอะมากค่ะขอบอก)

         ที่อยู่ : ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ

           สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ลุงแกละ 08 3123 8768 หรือองค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง โทรศัพท์ 0 2819 6762, 0 2461 3253

3. หมู่บ้านสลักคอก เกาะช้าง

         เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่หลบซ่อนอยู่ในช่องแคบ ๆ ภายในเวิ้งวงกลมขนาดใหญ่คล้ายคอกสัตว์ ถูกล้อมรอบไปด้วยป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ อันเป็นทั้งแหล่งอนุบาลพันธุ์สัตว์น้ำและแหล่งประมงพื้นบ้าน มีทางออกทางทะเลเป็นช่องแคบเกือบจะชนกัน และปากอ่าวมีเกาะสลักและเกาะลิ่มจึงถูกเรียกว่า "อ่าวสลักคอก" นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาสัมผัสวิถีชีวิตของชาวประมงที่ยังคงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ดั้งเดิมได้ด้วยการพายเรือคายัก หรือจะเลือกนั่งเรือมาดซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม "เรือกอนโดลาเกาะช้าง" ท่องป่าชายเลน พายไปตามลำคลองสายน้ำสีเขียวสด ชื่นชมกับพรรณพืชเฉพาะถิ่น และไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ช่วงเวลาพลบค่ำ นักท่องเที่ยวจะได้พบกับการปรากฏตัวของฝูงหิ่งห้อยจำนวนมาก ที่จะออกมาโบยบินอวดแสงสวยของตัวเอง นับเป็นแหล่งชมหิ่งห้อยที่โรแมนติกสุด ๆ อย่างไรก็ตามหากต้องการชมหิ่งห้อยควรโทรจองล่วงหน้าจะได้ไม่พลาดชมความสวยงามนะจ๊ะ

         ที่อยู่ : หมู่ 4 บ้านสลักคอก ตำบลเกาะช้างใต้ อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด

           สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวท่าโสม โทรศัพท์ 039 516 051-4 หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตราด โทรศัพท์ 039 597 259-60

4. ศูนย์เรียนรู้และท่องเที่ยวเชิงนิเวศป่าชายเลนลุ่มน้ำเวฬุ จังหวัดจันทบุรี

         ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปีที่นี่จะมีไฮไลท์เด็ด คือ "กิจกรรมเดินชมหิ่งห้อย" ซึ่งหากเดินไปตามเส้นทางเดินชมหิ่งห้อยบนถนนคนเดิน นักท่องเที่ยวจะได้พบดวงแสงกลม ๆ นับร้อยนับพันดวงส่องแสงระยิบระยับเป็นจังหวะทำให้สองข้างทางดูสว่างไสว โดยสามารถหยุดชมได้เป็นเวลานาน หิ่งห้อยที่นี่มีมากถึง 2,000 ชนิดเลยทีเดียว ทั้งหิ่งห้อยบกและหิ่งห้อยที่อาศัยอยู่ตามป่าชายเลนริมทะเล ซึ่งหิ่งห้อยของสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 2 (ท่าสอน จันทบุรี) แห่งนี้จะเป็นหิ่งห้อยทะเล มีจุดเด่นตรงที่มีขนาดเล็กกว่าหิ่งห้อยบก ชอบอยู่เป็นกลุ่ม ไม่ชอบบินไปมา ซึ่งระยะเวลาที่เหมาะสมในการดูหิ่งห้อย คือ ช่วงแรม 8 ค่ำ จนถึงช่วงขึ้น 8 ค่ำ หรือช่วงหลังฝนตก และโดยเฉพาะในคืนเดือนมืดจะสามารถมองเห็นหิ่งห้อยได้อย่างสว่างไสวชัดเจน โดยช่วงเวลาที่หิ่งห้อยออกมาโบยบินมากที่สุดจะอยู่ที่ประมาณ 19.00-22.00 น. นอกจากนี้ที่นี่ยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อีกมากมาย อาทิ พายเรือคายักชมป่าโกงกาง เดินชมความเขียวขจีของพันธุ์ไม้ป่าชายเลน ถ้าใครสนใจอยากออกแรงเดินเสพบรรยากาศธรรมชาติก็แวะมาได้ ประทับใจแน่นอน !

         ที่อยู่ : 9/2 หมู่ที่ 7 บ้านท่าสอน ตำบลบ่อ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี

           สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 2 (ท่าสอน) โทรศัพท์ 0 3942 4186 หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานระยอง โทรศัพท์ 0 3865 5420-1, 0 3866 4585

          เว็บไซต์ : ตะวันออกดอทคอม , สีสันตะวันออก

5. สวนยางเมืองประจวบ อบต.อ่าวน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

         เป็นสวนยางพาราขนาด 10 ไร่ ตั้งอยู่ริมถนนสายเพชรเกษม-วังไทรติ่ง ห่างจากถนนเพชรเกษมประมาณ 4 กิโลเมตร นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวล่าสุดที่นักท่องเที่ยวจะได้ชมปรากฏการณ์ธรรมชาติของฝูงหิ่งห้อยนับแสนตัวที่จะออกมาบินอวดแสงไฟกระพริบสว่างไสวไปทั่วป่าสวนยาง ซึ่งหิ่งห้อยของที่นี่เป็นหิ่งห้อยตัวโตขนาดเกือบเท่านิ้วก้อยเลยทีเดียว แต่ละตัวมีแสงที่สว่างมาก ๆ ยิ่งโดยเฉพาะตัวเมียจะให้แสงที่สว่างกว่าตัวผู้ โดยพบว่าหิ่งห้อยจะออกมาบินส่องแสงกระพริบเต็มสวนยางพาราตั้งแต่หัวค่ำประมาณ 19.00 น. ไปจนถึงเวลา 21.00 น. และหลังจากเวลานี้ไปแล้วก็จะลดจำนวนลงเรื่อย ๆ น่าสนใจไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ

         ที่อยู่ : ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

           สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : องค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โทรศัพท์ 0 3255 4056, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ โทรศัพท์ 0 3251 3885, 0 3251 3871, 0 3251 3854 หรือติดต่อผู้พาเข้าชม น้องเนย โทรศัพท์ 09 1609 5467 และน้องพลอย โทรศัพท์ 08 9546 7136

6. อัมพวา

         ถือเป็นแหล่งชมหิ่งห้อยยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด สำหรับการล่องเรือชมหิ่งห้อยที่ตลาดน้ำอัมพวา โดยนักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือได้ที่จุดให้บริการเรือนักท่องเที่ยวตลาดน้ำอัมพวาเช่นเดียวกันกับที่ล่องเรือไหว้พระ โดยมีค่าใช้จ่ายคนละประมาณ 60 บาท ต่อคนต่อเที่ยว ซึ่งเรือจะพาล่องไปตามแม่น้ำแม่กลอง จากคลองอัมพวาวนรอบเกาะแล้วนำกลับมาส่งที่เดิม ใช้ระยะเวลาประมาณ 60 นาทีต่อเที่ยว (หากมากันเป็นหมู่คณะสามารถเหมาเรือทั้งลำ เพื่อล่องเรือเป็นหมู่คณะได้ โดยมีค่าบริการอยู่ที่ประมาณลำละ 500 บาทต่อ 10 คน (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฤดูกาลและการต่อรองของแต่ละจุดให้บริการเรือ) ซึ่งในระหว่างทางที่ล่องเรือนักท่องเที่ยวจะได้พบกับต้นลำพูอันเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของหิ่งห้อยเรียงรายตลอดสองข้างทาง พร้อมกับได้ชมหิ่งห้อยตัวน้อยใหญ่ส่องแสงสวยงามไปทั่วบริเวณ ยิ่งโดยเฉพาะในช่วงปลายปีที่มีอากาศเย็นจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการล่องเรือชมหิ่งห้อยเป็นอย่างยิ่ง

         ที่อยู่ : ถนนโชติธำรงค์ ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม 75110

           สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : เทศบาลตำบลอัมพวา โทรศัพท์ 0 3475 1359, ที่ว่าการอำเภออัมพวา โทรศัพท์ 0 3475 1368 หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสมุทรสงคราม โทรศัพท์ 0 3475 2847-8

          เว็บไซต์ : www.ตลาดอัมพวา.com, www.อัมพวา.net

7. บ้านปลาโลมา จังหวัดฉะเชิงเทรา

         รีสอร์ทขนาดกะทัดรัดท่ามกลางป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ของปากน้ำบางปะกง หนึ่งในสถานที่รวมตัวของเหล่าหิ่งห้อยนับร้อยนับพันตัว โดยในยามค่ำคืน ณ รีสอร์ทแห่งนี้จะเต็มไปด้วยหิ่งห้อยที่มีแสงวิบวับเรืองรองออกมาโบยบินหยอกล้อกับต้นลำพู ช่วยสร้างสีสันให้กับท้องฟ้ายามค่ำคืนเป็นอย่างมาก นับเป็นความสวยงามที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ โดยนักท่องเที่ยวที่มาที่นี่จะได้สัมผัสกับแมลงตัวน้อยเหล่านี้ได้อย่างเต็มตาและตื่นใจ ซึ่งเป็นความสุขที่หาไม่ได้ในเมืองกรุง ทั้งนี้ถ้าหากต้องการมาชมหิ่งห้อยแนะนำว่าควรมาในช่วงฤดูหนาวจะมีให้เห็นเยอะที่สุด

          ที่อยู่ : 6 หมู่ 8 ตำบลท่าข้าม อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา 24130

           สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : บ้านปลาโลมา รีสอร์ท โทรศัพท์ 0 3857 4318

           เว็บไซต์ : www.baanplaloma.com

8. บ้านแสมชาย อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี

        เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์หรือเชิงนิเวศวิทยาที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง โดยมีพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าจาก ป่าโกงกาง และส่วนใหญ่เป็นป่าลำพู อันเป็นที่อยู่อาศัยของหิ่งห้อยนับหมื่นนับแสนตัว โดยปัจจุบันหิ่งห้อยเหล่านี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่และจังหวัดเพชรบุรีเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีความสมบูรณ์และสวยงามไม่แพ้จังหวัดอื่น ๆ เห็นได้จากในยามค่ำคืนที่ต้นลำพูและต้นพุทราตลอดสองฟากฝั่งแม่น้ำจะมีหิ่งห้อยที่พร้อมใจกันออกมาอวดแสงสว่างกันอย่างหนาแน่นมาก สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งที่นี่ก็มีบริการเรือพาชมหิ่งห้อยใต้ต้นลำพูในคืนเดือนมืดอีกด้วย โดยมีเรือกลางของหมู่บ้าน ๆ ละ 2 ลำ รวมทั้งสิ้นประมาณ 8-9 ลำ ไว้บริการนักท่องเที่ยว และปัจจุบันกรมเจ้าท่าได้สนับสนุนเรือเหล็กให้อีก 2 ลำ เรียกว่า "เรือหลวง" ไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยวที่มาเป็นหมู่คณะใหญ่ ๆ โดยมีอัตราค่าบริการคนละ 50 บาท ใช้เวลาในการล่องเรือชมหิ่งห้อยตลอดลำน้ำประมาณ 2-3 ชั่วโมง มาที่นี่รับรองว่านักท่องเที่ยวจะได้อิ่มเอมไปกับบรรยากาศและสีสันของหิ่งห้อยตลอดการเดินทางอย่างแน่นอน ทั้งนี้แนะนำให้มาชมหิ่งห้อยในช่วงเดือนสิงหาคม เดือนกันยายน และเดือนตุลาคม เพราะจะเป็นช่วงเวลาที่สวยที่สุด

          ที่อยู่ : หมู่บ้านแสมชาย หมู่ 9 ตำบลบางครก อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี

           สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเพชรบุรี โทรศัพท์ 0 3247 1005-6

         เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอบ้านแหลม จ.เพชรบุรี , กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

9. ปากน้ำประแส อำเภอแกลง จังหวัดระยอง

        หนึ่งในแหล่งชมหิ่งห้อยที่มีความสวยงามไม่แพ้จังหวัดอื่น ๆ มาที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ พร้อมชมธรรมชาติสองฝั่งแม่น้ำ และชื่นชมความยิ่งใหญ่ของผืนป่าโกงกางที่ยืนตระหง่านเป็นกำแพงตลอดแนวปากน้ำประแส ตลอดจนร่วมสัมผัสวิถีชีวิตริมน้ำ และดื่มด่ำไปกับบรรยากาศยามค่ำคืน ต่อด้วยไฮไลท์ที่สำคัญ คือ การล่องเรือชมหิ่งห้อยนับพันที่รวมตัวกันส่องแสงสว่างวูบวาบราวกับไฟประดับต้นคริสต์มาส ตลอดแนวลำน้ำท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบของแม่น้ำประแส

        ที่อยู่ : ปากน้ำประแส อำเภอแกลง จังหวัดระยอง 21170

           สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : เทศบาลตำบลปากน้ำประแส ตำบลปากน้ำกระแส อำเภอแกลง จังหวัดระยอง โทรศัพท์ 0 3866 1720-1,แพสุขสมบูรณ์ รีสอร์ท โทรศัพท์ 0 3867 7233, หรือติดต่อ คุณสรายุทธ 08 3834 6827

         เว็บไซต์ : ปากน้ำกระแส , การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานระยอง (ระยอง จันทบุรี) , แพสุขสมบูรณ์ รีสอร์ท

10. เขาค้อทะเลภู

        เดิมเขาค้อทะเลภูมีสภาพเป็นภูเขาหัวโล้น ภายหลังได้มีการฟื้นฟูจนเป็นป่าแหล่งน้ำที่มีระบบนิเวศอันสมบูรณ์เอื้อต่อการเป็นที่อยู่ของสรรพชีวิต ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ "หิ่งห้อย" ที่เขาค้อทะเลภูแห่งนี้นับว่ามีประชากรหิ่งห้อยนับแสนอัดแน่นอยู่ในพื้นที่กว่า 200 ไร่เศษ จึงเหมาะแก่การเดินทางมาท่องเที่ยวเพื่อชื่นชมความงามของเจ้าแมลงตัวน้อยจอมเปล่งแสงนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสมในการชม คือ ปลายเดือนเมษายนไปจนถึงกลางเดือนมิถุนายน (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป) หลังจากนั้นจะมีปริมาณลดลงเรื่อย ๆ จนถึงฤดูหนาว ส่วนเวลาที่เหมาะสมในการมาชม คือ ประมาณ 18.30-20.30 น. หรือตั้งแต่โพล้เพล้ก่อนแสงสุดท้ายจะลับฟ้า นักท่องเที่ยวก็จะเริ่มเห็นชีวิตเรืองแสงโผบินอวดโฉมไปทั่วบริเวณแล้ว ยิ่งช่วงไหนเป็นคืนเดือนมืดเจ้าตัวน้อยจะยิ่งส่องแสงเจิดจ้าสวยงดงามยิ่งนัก ทั้งนี้ในการชมหิ่งห้อยควรมีหมวกหรือผ้าคลุมศีรษะป้องกันน้ำค้าง เสื้อคลุมไม่หนา ไฟฉาย รองเท้าสวมใส่สบาย และกติกาที่สำคัญ คือ ห้ามส่องไฟไปที่ตัวหิ่งห้อย ไม่จับหิ่งห้อยเล่น ไม่เสียงดังรบกวนผู้อื่น และหากจำเป็นต้องส่องไฟในขณะเดิน อนุญาตให้ส่องลงที่เท้าเท่านั้น

        ที่อยู่ : 137 หมู่ 5 ตำบลทุ่งสมอ อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ 67270

           สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : บริษัท เขาค้อทะเลภู จำกัด โทรศัพท์ 0 5675 0061-2

         เว็บไซต์ : www.khaokhonaturalfarm.com, เฟซบุ๊ก เขาค้อทะเลภู

11. สวนป่าลำพู บางกระสอบ

        เป็นสวนป่าอนุรักษ์ที่มีต้นไม้ชุ่มน้ำหลากหลาย มีต้นลำพูเก่าแก่ใหญ่ ๆ หลายต้น นับเป็นแหล่งชมหิ่งห้อยใกล้กรุงเทพฯ ที่น่าไปมากอีกแห่งหนึ่ง สภาพภายในพื้นที่ยังคงเป็นสวนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งยังเป็นที่อยู่ของหิ่งห้อยน้ำกร่อยนับหมื่นตัว ซึ่งหิ่งห้อยที่นี่หลัก ๆ มีอยู่ 3 ชนิดด้วยกัน คือ "หิ่งห้อยน้ำจืด" (Luciola aquatilis) ชนิดใหม่ของโลก ซึ่งมีเอกลักษณ์เด่นอยู่ที่ระยะตัวหนอนมีรูปร่างที่แตกต่างกันถึงสามแบบ ส่วนการกระพริบแสงไว้สื่อสารกันในช่วงผสมพันธุ์มีมากถึงสี่แบบ ขณะที่หิ่งห้อยในแถบยุโรปและอเมริกามีการกระพริบแสงเพียงแบบเดียว "หิ่งห้อยน้ำกร่อย" (Pteroptyx valida-pteroptyx malaccae) หิ่งห้อยมะละกา เป็นหิ่งห้อยชนิดที่พบได้ตามพื้นที่น้ำกร่อยและป่าชายเลน ตัวเต็มวัยมีขนาดยาวประมาณ 7 มิลลิเมตร พบได้ตลอดปี แต่ปริมาณที่พบแตกต่างกันไปตามฤดูกาล และ "หิ่งห้อยบก" (Pyrocoelia praetexta Olivier) นับว่าสวนป่าแห่งนี้มีหิ่งห้อยหลากหลายชนิดที่แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติได้เป็นอย่างดี ดังนั้นหากใครที่มีใจรักธรรมชาติและหลงใหลในแสงสว่างของหิ่งห้อยก็แวะมาที่นี่ได้

        ที่อยู่ : ตำบลบางกระสอบ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ 10130

           สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : กลุ่มลำพูบางกระสอบ โทรศัพท์ 08 4709 9894, 08 4708 0938, 08 7682 6956, องค์การบริหารส่วนตำบล บางกระสอบ โทรศัพท์ 0 2461 0231, 0 2815 0669

        เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก ลำพู บางกระสอบ

12. บ้านรักไทย อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก

        นับเป็นแหล่งชมหิ่งห้อยแห่งใหม่ของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ ที่นี่ที่เดียวที่จะทำให้นักท่องเที่ยวตื่นตาตื่นใจไปกับหิ่งห้อยนับแสนตัว ส่องแสงระยิบระยับสวยงามเต็มสวนยางพาราของชาวบ้านรักไทย ทั้งหิ่งห้อยขนาดเล็กและที่เด็ดสุดคือ "หิ่งห้อยนางพญา" หรือ "หิ่งห้อยช้าง" ที่มีขนาดใหญ่ และมีความยาวประมาณ 2 นิ้ว ลำตัวเป็นปล้องคล้ายตะขาบ ไม่สามารถบินได้ แต่จะเดินเปล่งแสงอยู่บนพื้นดินและมีแสงที่ก้นเหมือนหิ่งห้อยทั่วไป ซึ่งหิ่งห้อยเหล่านี้จะออกมาให้ชมในช่วงหัวค่ำเวลาประมาณ 19.00-22.00 น. โดยจะออกมามากในช่วงต้นฤดูฝน ทั้งนี้หากนักท่องเที่ยวต้องการมาชมก็สามารถติดต่อได้ที่กลุ่มมัคคุเทศก์ท้องถิ่นชุมชนรักไทยได้โดยตรงทุกวัน โดยที่ทางกลุ่มมัคคุเทศก์จะมีโปรแกรมพาเที่ยวชมสวนผลไม้ในช่วงเย็น และไปเที่ยวชมหิ่งห้อยในช่วงหัวค่ำ หรือหากต้องการพักชมความงามก็มีโฮมสเตย์ใน 4 หมู่บ้านให้บริการ พร้อมมีรถบริการนำเที่ยว จัดมัคคุเทศก์พาเข้าไปชม เก็บค่าบริการนำเที่ยวเข้ากลุ่ม โดยมีข้อปฏิบัติในการเข้าชมหิ่งห้อย คือ ควรเข้าชมในคืนเดือนแรม ไม่ฉายไฟ ไม่ถ่ายภาพโดยใช้แฟลช ไม่ก่อกวนหิ่งห้อย ไม่สูบบุหรี่ และไม่ส่งเสียงดัง

          ที่อยู่ : บ้านรักไทย หมู่ 7 ตำบลชมพู อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก

           สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : นายพิทักษ์ สุดจันทร์ ส.อบต. หมู่ 7 บ้านรักไทย โทรศัพท์ 08 6210 3317 08 7203 1680, นายสมประสงค์ อารมณ์ชื่น ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 บ้านรักไทย โทรศัพท์ 08 7202 4154, นางสาวณัฐชลิดา นรัตน์กุล ประธานกลุ่มโฮมสเตย์บ้านรักไทย โทรศัพท์ 087-2075736 หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพิษณุโลก โทรศัพท์ 0 5525 2742-3

13. คุ้งบางกระเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ

        หลายคนอาจจะคุ้นหูกันในนาม "กระเพาะหมู" ถือเป็นแหล่งโอโซนชั้นดี เสมือนเป็นปอดแห่งมหานครกรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้ และด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติจึงถูกยกย่องให้เป็นสุดยอดโอเอซิสแห่งเอเชีย จากบทความเรื่อง "Best Urban Oasis" ในนิตยสาร Time ในปี 2549 อีกด้วย นอกจากนี้พื้นที่สีเขียวแห่งนี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสรรพสัตว์ รวมไปถึง "หิ่งห้อย" นับพันตัว โดยการมาชมหิ่งห้อยที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติอันบริสุทธิ์ พร้อมชื่นชมพรรณไม้ป่าชายเลน และสัตว์น้อยใหญ่หลากหลายชนิด ตลอดจนได้เห็นต้นลำพูที่ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นตลอดสองข้างทางที่เป็นแหล่งอาศัยของหิ่งห้อยได้อย่างเต็มอิ่ม นับเป็นแหล่งชมหิ่งห้อยยามค่ำคืนที่ไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงต่างจังหวัดก็สวยงดงามไม่แพ้กัน

          ที่อยู่ : ตำบลบางกระเจ้า อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ

           สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : องค์การบริหารส่วนตำบล บางกะเจ้า โทรศัพท์ 0 2819 6575

14. ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 1 จังหวัดตราด

        เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อว่า "มีหิ่งห้อยมากที่สุดในประเทศ" จนได้รับความนิยมจากเยาวชน ประชาชน และนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางเข้ามาเที่ยวชมหิ่งห้อยที่ส่องแสงในยามค่ำคืนเกือบทุกคืน โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าหิ่งห้อยที่นี่มีความสวยงามไม่แพ้หิ่งห้อยที่อัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม อีกทั้งยังคาดเดาว่ามีจำนวนมากกว่าอีกด้วย ส่วนสาเหตุที่ทำให้มีหิ่งห้อยจำนวนมากก็เพราะที่นี่เป็นป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีเจ้าหน้าที่เอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างดี จึงทำให้หิ่งห้อยเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วและพากันมาเกาะตามต้นลำพูส่องแสงสวยงามตระการตาไปทั่วทั้งบริเวณ รู้แบบนี้แล้วห้ามพลาดเด็ดขาด รีบตามมาดูกันเยอะ ๆ นะจ๊ะ

        ที่อยู่ : เลขที่ 539 หมู 8 ตำบลวังกระแจะ อำเภอเมือง จังหวัดตราด 23000

        สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 1 ตราด โทรศัพท์ 0 3951 0962

        เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 1 ตราด

15. อำเภอละอุ่น จังหวัดระนอง

          ปากน้ำละอุ่นเป็นดินแดนแห่งขุนเขาและเป็นแหล่งที่บรรจบของแม่น้ำ 2 สายสำคัญ คือ คลองละอุ่นและคลองบางแก้ว มีทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลายและมีป่าที่อุดมสมบูรณ์ ในยามหน้าหนาวที่นี่จึงเป็นแหล่งชมหิ่งห้อยระดับเทพที่สวยงามมาก โดยเฉพาะคืนเดือนแรมนักท่องเที่ยวจะได้พบกับฝูงหิ่งห้อยมากมายเกาะอยู่ตามกิ่งของต้นลำพูกว่า 100 ต้น ส่องแสงระยิบระยับสวยงามตระการตามาก ทั้งนี้นักท่องเที่ยวท่านใดที่ต้องการนั่งเรือชมหิ่งห้อยยามค่ำคืนสามารถติดต่อและขึ้นเรือได้ที่ "ร้านอาหารเรือนแพ" บริเวณเชิงสะพานข้ามคลองละอุ่นฝั่งทางไปจังหวัดชุมพร ซึ่งทางร้านได้จัดบริการเหมาเรือสำหรับนักท่องเที่ยวจำนวนไม่เกิน 20 คน ในราคาไป-กลับ 1,500 บาท โดยเรือจะออกเวลา 19.30 น. และล่องไปตามลำน้ำละอุ่นใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง

          ที่อยู่ : หมู่ 6 ตำบลละอุ่นใต้ อำเภอละอุ่น จังหวัดระนอง

          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : อำเภอละอุ่น จังหวัดระนอง โทรศัพท์ 0 7789 9017

          แต่ละที่นับเป็นแหล่งชมหิ่งห้อยระดับพรีเมี่ยม มีไฮไลท์เด็ด ๆ เพียบเลยว่าไหมคะ ดังนั้นเพื่อน ๆ ควรหาวันว่างแล้วออกเดินทางไปสัมผัสเสน่ห์ของสัตว์ตัวน้อยแสงวูบวาบ สิ่งมีชีวิตจากธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์นี้กันเยอะ ๆ นะคะ แล้วจะรู้ว่าความสุขอยู่ใกล้แค่เอื้อม

หมายเหตุ : ข้อมูลและราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบรายละเอียดกับสถานที่อีกครั้งก่อนเดินทาง

แนะนำที่ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร พร้อมคูปองส่วนลดโรงแรม เพียบ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก