x close

15 ร้านซูชิอร่อยล้ำระดับพรีเมียม ไม่ลองไม่ได้แล้ว

             เมื่อพูดถึง "ซูชิ" หลายคนคงออกอาการน้ำลายสอ เพราะด้วยหน้าตาและรสชาติที่แสนอร่อย จึงทำให้เป็นเมนูยอดฮิตที่หลายคนต้องทานเมื่อไปถึงร้านอาหารญี่ปุ่น
 

             "ซูชิ" เป็นอาหารญี่ปุ่นที่ถือกำเนิดขึ้นมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่าร้อยปี โดยเกิดขึ้นจากความต้องการที่จะถนอมอาหารประเภทปลาไว้รับประทานได้นาน ด้วยวิธีการหมักปลากับเกลือไว้ระยะเวลาหนึ่ง จากนั้นจึงนำมาหมักต่อโดยนำข้าวสุกมาวางทับกับตัวปลา และหมักต่ออีกระยะ ในเวลาต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริโภคซูชิ เนื่องจากกระบวนการที่กล่าวมาในข้างต้นใช้เวลาค่อนข้างนาน ชาวญี่ปุ่นจึงเปลี่ยนรูปแบบการบริโภคใหม่ โดยการใช้ปลาสดแทนปลาหมัก ส่วนด้านรสชาติของความเปรี้ยวในการหมักนั้นก็เปลี่ยนมาเป็นที่ตัวข้าวสุกแทน ในปัจจุบันซูชิถือเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังแพร่หลายไปทั่วทุกมุมโลกอีกด้วย วันนี้กระปุกดอทคอมเลยถือโอกาสรวบรวมเอา 15 ร้านซูชิทั่วกรุงที่อร่อยล้ำระดับพรีเมี่ยมท่ามกลางบรรยากาศเลิศ ๆ มาฝาก สำหรับใครที่เป็นสาวกซูชิขอบอกว่าห้ามพลาด ! ท้องร้องกันแล้วล่ะสิท่า คว้าตะเกียบคู่ใจตามเรามาทางนี้เลยค่ะ
 

1. Shori Sushi House


Shori Sushi House
 
Shori Sushi House

Shori Sushi House

Shori Sushi House

Shori Sushi House
ภาพจากเฟซบุ๊ก Shori Sushi House

              เป็นร้านซูชิระดับพรีเมี่ยมอันเลื่องชื่อในเรื่องของคุณภาพและความสดใหม่ของวัตถุดิบที่ส่งตรงมาจากประเทศญี่ปุ่นและแถบยุโรป พร้อมกับราคาที่สมเหตุสมผล ท่ามกลางบรรยากาศร้านที่ดูอบอุ่นและมีกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นโดยแท้ ซึ่งเมนูแนะนำของทางร้าน คือ "Shori Toro Set" มีทั้งหมด 6 ชิ้นโต ๆ เป็นเนื้อปลาทูน่าที่ส่งตรงมาจากประเทศสเปน ซึ่งเซตนี้จะใช้ปลาตรงส่วนที่เรียกว่า "ชูโทโร" และ "โอโทโร" อันมีรสชาติที่หวานแทบจะละลายในปากกันเลยทีเดียว ถัดมาคือเมนู "Santi Roll" เป็นเมนูพิเศษที่ถูกตั้งชื่อมาจากเชฟเอ (สันติ) เชฟใหญ่ของทางร้าน เป็นเมนูที่ผสมผสานความหอม มัน ของฟัวกราส์ (ตับห่าน) และความมันนุ่มละมุนของเอนกาวะโรลที่มาพร้อมกับงาและสาหร่ายที่เข้ากันได้อย่างลงตัว และต่อมาคือเมนู "Salmon Roll" เป็นข้าวห่อสาหร่ายไส้ไข่หวาน แตงกวา ผสมผสานกับอะโวคาโด ห่อหุ้มด้วยเนื้อปลาแซลมอนชิ้นโต ๆ พร้อมเบิร์นด้วยไฟอ่อน ๆ ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ทางร้านยังมีซูชิอีกหลาก หลายเมนูให้ได้ลิ้มรสกัน อาทิ "โอโทโร่" คือส่วนของท้องปลา "ปลาคินเมได" (Kinmedai) หรือ ปลากะพงแดง "Akami" เนื้อสีแดงของปลา Maguro เรียกได้ว่าเป็นส่วนที่แทบจะไม่มีไขมันเลยทีเดียว ฯลฯ ต้องมาสัมผัสด้วยตัวเองรับรองว่าจะติดใจ !
 
            ที่อยู่ : 299/5 ซอยสุขุมวิท 21 อโศก (อาคารสุขุมวิทลีฟวิ่งทาวน์ อยู่ตรงข้ามโรงพยาบาลตาจักษุรัตนิน ติดกับอโศกทาวเวอร์) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
           
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-วันพฤหัสบดี เวลา 11.00-22.00 น.
           
วันศุกร์-วันอาทิตย์ เวลา 11.00-23.00 น.
           
โทรศัพท์ : 02 169 1532, 0817774998
           
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Shori Sushi House

2. Sushi-oo


Sushi-oo

Sushi-oo

Sushi-oo

Sushi-oo
 
Sushi-oo
ภาพจากเฟซบุ๊ก SUSHIOO

             เป็นร้านซูชิเจ้าแรกและเจ้าเดียวในประเทศไทยที่บินตรงมาจากโอซาก้า มีจุดเด่นในการรวมเอา "ซูชิ" และ "ซาชิมิ" ไว้ในคำเดียว โดยจะนำเอาปลาดิบมาวางไว้ด้านบนของซูชิเพิ่มอีก 1 ชั้น ซึ่งเวลาทานจะต้องทานปลาดิบจากชั้นบนก่อน เพื่อลิ้มลองรสชาติของซูชิแบบสด ๆ หลังจากนั้นจึงตามด้วยส่วนที่เป็นซูชิ หรือหากใครต้องการเพิ่มความอร่อยแบบเต็มคำมากขึ้นก็ทานเข้าไปพร้อมกันทั้งสองชิ้นเลยก็ได้ไม่ว่ากัน ในเรื่องของวัตถุดิบที่นี่เขารับประกันความสดไม่ใช้ปลาแช่แข็ง แถมยังบินตรงไปเลือกปลาจากตลาดปลาที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย ตัวเองอีกด้วย ซึ่งเมนูแนะนำของทางร้าน คือ "โอโทโร่" ซาชิมิชิ้นโต ๆ ที่วางอยู่ด้านบนของซูชิอีกชั้น "ปลาฮามาจิ" เนื้อปลาชิ้นหนาเต็มคำ เหนียวนุ่ม ถัดมาคือเมนู "เอนกาวะ" ครีบปลาตาเดียวที่เบิร์นไฟเล็กน้อย เพื่อให้น้ำมันในเนื้อปลาละลายออกมาช้า ๆ อร่อยเด็ดอย่าบอกใคร ต่อด้วยเมนู "แซลมอนโทโร่" ส่วนท้องของปลาแซลมอนที่หอมหวานนุ่มลิ้น และเมนู "ฟัวกราส์" ตับห่านชิ้นหนานุ่มรสเลิศละลายในปาก นอกจากนี้ที่นี่ยังมีเมนูซูชิให้เลือกทานอีกมากมาย ดังนั้นใครที่ชอบเบิ้ลปลาสด ๆ ต้องแวะมาที่นี่เลย
 
            ที่อยู่ : ซอยหลังสวน (ชั้น 3 ตึก Mercury Ville ชั้น 3 ห้อง 303 ตรงข้ามเซ็นทรัลชิดลม) ร้านอยู่ชั้นเดียวกันกับ School Food Thailand
           
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น.
           
โทรศัพท์ : 02 658 5858
           
 เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก SUSHIOO

3. Tororo Sushi


Tororo Sushi

Tororo Sushi

Tororo Sushi

Tororo Sushi
ภาพจาก tororosushi.com

             ร้านซูชิแท้แบบต้นตำรับญี่ปุนที่คัดสรรวัตถุดิบชั้นดีในการปรุงอาหาร มากด้วยเชฟที่มีคุณภาพและมีประสบการณ์ด้านซูชิโดยตรงมายาวนานกว่า 27 ปี จึงทำให้ร้านนี้มีสูตรเฉพาะที่ชูความเป็นญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ซึ่งเมนูแนะนำของทางร้าน คือ "ซูชิหน้าปลาโอโทโร่" ที่รังสรรค์มาจากปลาทูน่าครีบน้ำเงิน "ฟัวกราส์" (Foie Gras) ตับห่านย่างสุกที่เสิร์ฟคู่กับมะม่วงสุกรสหวาน ถึงแม้จะดูเหมือนไม่เข้ากัน แต่อยากบอกว่ารสชาติอร่อยล้ำลงตัวแบบสุด ๆ ถือเป็นเมนูสุดยอดของทางร้านที่อยากแนะนำให้ไปชิม ต่อมาคือเมนู "ไข่หอยเม่นสด" (Fresh Uni) เป็นไข่หอยเม่นสดสีเหลืองกับไข่ปลาแซลมอนสีส้มสดวางทอดตัวอยู่บนตัวข้าว กระตุ้นน้ำย่อยได้ดีเลยทีเดียว และหากใครที่ไม่ชอบทานปลาดิบทางร้านมีเมนูแนะนำคือ "Yasai" ข้าวปั้นผักรวม เมนูข้าวกับผักที่ทานคู่กับซอสโชยุได้อย่างอร่อยลงตัว เป็นเมนูที่เอาใจคนที่ชอบทานผักและรักสุขภาพได้เป็นอย่างดี ถือเป็นเมนูที่โดดเด่นไม่เหมือนร้านซูชิอื่น ๆ นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูซูชิอร่อยล้ำขั้นเทพอีกมากมายให้ได้ลิ้มลอง ดังนั้นผู้ที่รักซูชิเป็นชีวิตจิตใจต้องห้ามพลาด
 
            ที่อยู่ : ตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 Horizon building ด้านหลังร้านบ้านไร่กาแฟเอกมัย
           
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 11.00-14.00 น. และ เวลา 17.00-22.00 น. และวันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 11.00-22.00 น.
           
 โทรศัพท์ : 02 714 2228
           
เว็บไซต์ : tororosushi.com, เฟซบุ๊ก Tororo Sushi

4. Toro Sushi


Toro Sushi

Toro Sushi
ภาพจากเฟซบุ๊ก Toro Sushi 

             ร้านซูชิระดับพรีเมี่ยมที่อร่อยถูกปาก คุ้มค่า คุ้มราคา พร้อมทั้งใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ สด สะอาด และพิถีพิถันในการทำทุกขั้นตอน เพื่อให้ลูกค้าได้ทานอาหารที่รส ชาติอร่อยและมีคุณภาพ ซึ่งเมนูแนะนำของทางร้าน คือ "ซูชิหน้าไข่หอยเม่นสด" (Fresh Uni) หวาน สด ไม่มีกลิ่นคาวแม่แต่น้อย "โอโทโร่" (O-Toro) ชิ้นหนามีไขมันแทรกกัดคำแรกก็แทบจะลายในปากเลยทีเดียว "ตับห่าน" (Foie Gras) ย่างพอสุกกลิ่นหอมเย้ายวนชวนน้ำลายสอ "เนื้อโกเบและตับห่าน" (Kobe And Foie Gras Sushi) เป็นการผสมผสานระหว่างความหวานและความมันออกมาได้อย่างลงตัว "ไข่หอยเม่นและปลาอากามิ" (Toro King) ให้สาวกผู้หลงรักซูชิได้ลิ้มลองความสด มัน แบบฟิน ๆ กันไปเลย มาต่อกันที่เมนูถัดมา "Toro Volcano" ถือว่าเป็นทีเด็ดของทางร้านเลยก็ว่าได้ เป็นเมนูภูเขาไฟไส้เทมปุระสไปซี่โทโร่พ่นไฟ ราดด้วยซอสสูตรพิเศษสุดอร่อย ที่ทำเอาเหล่านักชิมต่างติดใจไปตาม ๆ กัน นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูแนะ นำอีกหนึ่งอย่างคือ "Sashimi Moriawase" ซึ่งประกอบไปด้วยเนื้อปลา 5 ชนิด อาทิ "โอโทโร่" "ปลาหิมะ" "ปลาซาบะ" "ปูอัด" และ "แซลมอน" เอาไว้สำหรับผู้ที่โปรดปรานปลาดิบโดยเฉพาะอีกด้วย
 
            ที่อยู่ : สุขุมวิท 53 (เข้าซอยทองหล่อ 5 เลี้ยวขวาซอยแรก จะเห็น MaxValu อยู่ทางซ้าย ร้านอยู่ชั้น 2 (No. 88)) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110 (อยู่ระหว่างซอยเชื่อมทองหล่อ 5 และทองหล่อ 9)
           
 เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 16.30-23.00 น. วันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 11.00-23.00 น.
           
โทรศัพท์ : 02 712 8447
           
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Toro Sushi

5. Sushi Otaru


Sushi Otaru

Sushi Otaru

Sushi Otaru
ภาพจากเฟซบุ๊ก Sushi Otaru
 
             ร้านซูชิพรีเมี่ยมใจกลางทองหล่อ การันตีความอร่อยจากซูชิมาสเตอร์แชมป์ 2 สมัยจากทีวีแชมป์เปี้ยน ภายในร้านตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นแบบเรียบง่าย มีความโปร่งสบาย พร้อมกับตกแต่งระแนงไม้บนเพดานให้เสมือนเป็นก้างปลา พร้อมด้วยการจัดวางเฟอร์นิเจอร์หนังสวย ๆ ให้ดูน่านั่ง อาหารของทางร้านการันตีความสดอร่อยจากวัตถุดิบคุณภาพที่ส่ง ตรงจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเมนูแนะนำของทางร้าน คือ "ซูชิหน้าปลาไหล" "ซูชิเซต" "ปลาดิบรวม" "สตรอว์เบอร์รีโมจิ" หรือจะเป็นเมนู "ไข่หอยเม่น" ที่มีความหวาน สด คำโตจนแทบล้นทะลักออกมาจากสาหร่าย "โอโทโร่" นุ่มเนียนละมุนลิ้น และเซตความอร่อยอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมจากประเทศญี่ปุ่นให้เลือกชิมอีกหลากหลาย แวะมาลองทานกันดูได้ แล้วจะรู้ว่าของดีมีอยู่จริง !
 
           
ที่อยู่ : 225/11 ซอยสุขุมวิท 55 ถนนสุขุมวิท (ทองหล่อ 10 (Arena 10) ร้านอยู่ชั้น 3 ข้างบนร้าน Tokiya) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
           
 เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 11.30-14.30 น. และ 17.30-22.30 น.
           
โทรศัพท์ : 02 392 7737
           
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Sushi Otaru

6. Teien Sushi Bar


Teien Sushi Bar
 
Teien Sushi Bar
ภาพจากเฟซบุ๊ก TEIEN SUSHI BAR

             ร้านซูชิและอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมี่ยมที่ครองใจเหล่านักชิมมากมาย ภายในร้านมีการตกแต่งด้วยไม้ให้ดูคล้ายกับเป็นสวนไผ่ขนาดย่อม ร้านนี้มีการรังสรรค์เมนูจากเซฟญี่ปุ่นมากประสบการณ์ที่ค่อนข้างพิถีพิถันกับตัวคุณภาพอาหารและวัตถุดิบ พร้อมทั้งบรรจงทำทุกคำด้วยใจ จึงทำให้อาหารที่ออกมามีหน้าตาที่น่ารับประทาน มีความเป็นญี่ปุ่นโดยแท้ ซึ่งเมนูแนะนำของทางร้าน คือ "Foie Gras Sushi" ซูชิหน้าตับห่านนำเข้ามาจากประเทศฝรั่งเศส ถูกนำมาย่างกับซอสสูตรพิเศษวางซ้อนกันสองชั้นอร่อยล้ำอย่า บอกใคร ต่อด้วยเมนู "Hotate Cream Cheese Roll" หอยเชลล์สดจากญี่ปุ่นกับ Cream Cheese รสนุ่มละมุนลิ้น ตามมาติด ๆ กับเมนู " Botan Ebi Foie Gras" หัวกุ้งยัดไส้ข้าวผัดเห็ดแล้วนำไปทอด "Omi Beef A5 Sushi" ซูชิหน้าเนื้อโอมิเกรดเอนำเข้าจาก ประเทศญี่ปุ่น เนื้อนุ่มละลายในปาก หรือจะเป็นเมนู "Hamachi Saikyo Don" ปลาฮามาจิย่างด้วยไฟอ่อน ๆ หอมกรุ่น ราดด้วยซอสมิโซะบนข้าวญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีเมนูซูชิและอาหารญี่ปุ่นอื่น ๆ อีกมากมายที่น่าไปลิ้มลอง
 
           
ที่อยู่ : สุขุมวิท 49 (โครงการพิมาน 49 ชั้น 4 (ตรงข้าม Starbucks) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
           
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 11.30-14.00 น. และ 18.00-22.00 น.
           
โทรศัพท์ : 02 662 5757
           
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก TEIEN SUSHI BAR
 

7. SuShi Ichi

 
             เป็นร้านซูชิน้องใหม่จากประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับรางวัลมิชลิน 1 ดาว เมื่อปี 2012 โดยร้านดั้งเดิมของ "ซูชิ อิชิ" ตั้งอยู่ในย่านกินซ่าใจก ลางมหานครโตเกียว ซึ่งเมนูแนะนำของทางร้าน คือ "ซาชิมิ" ที่ทำจากกุ้งหวาน เนื้อสด ใส มีวาซาบิสดวางอยู่ด้านบน จิ้มกับซอสผสมกับสาเก ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของเชฟที่นี่ เมนูต่อมาคือ "ปลาทาจิโอะ" (long tail fish) หั่นเป็นชิ้นพอดีคำแล้วนำไปย่างไฟพอสุก กลิ่นหอมชวนรับประทานมาก ๆ ถัดมาเป็นเมนู "ปลาซาบะดอง" ที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ บีบมะนาวลงไป รสชาติจะออกเค็มนิดเปรี้ยวหน่อยก็ถือว่าอร่อยไปอีกแบบ "ตับ Monk Fish" ปลาน้ำลึกที่นำมาต้มสุกพร้อมเสิร์ฟคู่กับวาซาบิสด อร่อยล้ำไม่แพ้กัน ส่วนเมนูนี้ถือเป็นซิกเนเจอร์เลย ก็คือ "ปูขน" จากฮอกไกโด (harry crab) เปลือกสีส้ม เนื้อมีรสชาติหอมหวานปนมัน ซึ่งมี 3 เมนูให้ได้ลิ้มลอง คือ เนื้อที่แกะออกมาเป็นแท่ง ๆ มาเสิร์ฟเรียกน้ำย่อย ส่วนเมนูที่สอง เนื้อปูตรงส่วนลำตัวมายีให้ละเอียด หยิบเป็นคำ ๆ ใส่จาน top ด้วยมันปู และเมนูสุดท้ายคือ นำเนื้อปูที่เหลือมาผสมกับข้าวปั้นและมันปูที่เหลือนำไปใส่ในกระดองปูนำไปนึ่งจนสุก นำออกมาหั่นครึ่ง top ด้วยไข่ปลาแซลมอน นอกจากนี้ยังมี "ซูชิเนื้อปลาโทโร่" ที่เป็นส่วนเนื้อท้องที่มันปานกลางสีเข้มมีลายแทรกเล็กน้อย "ไข่หอยเม่น" ที่มีความสด มัน อร่อย หรือจะเป็น "ไข่หวาน" รสชาติไม่หวานจัด เนื้อนุ่มละเอียด ซดคู่กับซุปเนื้อข้นที่ทำจากมันมือเสืออร่อยล้ำขั้นเทพเลยทีเดียว
 
           
ที่อยู่ : 494 ถ.ราชดำริ (ชั้น B1 โรงแรม Grand Hyatt Erawan) (ใกล้ BTS ชิดลม) แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
           
เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 12.00-14.30 น. และ 18.00-22.30 น.
           
โทรศัพท์ : 0 2250 0014
           
เว็บไซต์ : ginza-sushiichi.jp

8. In The Mood For Love Sushi Bar & Bistro


In The Mood For Love Sushi Bar & Bistro
 
In The Mood For Love Sushi Bar & Bistro
ภาพจากเฟซบุ๊ก IN the mood for LOVE: Sushi Bar & Bistro

             ร้านซูชิเกรดพรีเมี่ยมที่เน้นซูชิต้นตำรับและอาหารญี่ปุ่นสไตล์ฟิวชั่น ภายใต้ฝีมือการรังสรรค์อาหารของเชฟผู้มีประสบการณ์มากว่า 9 ปี ภายในถูกตกแต่งให้มีกลิ่นอายของอารยธรรมจีนในช่วงยุค 1960  ผสมผสานไปกับความเป็นญี่ปุ่น ส่วนของเพดานถูกประดับประดาไปด้วยกรงนกไม้ที่ดัดแปลงเป็นโคมไฟห้อยระย้าดูสวยเก๋ไก๋ไปอีกแบบ ในเรื่องคุณภาพอาหารทางร้านได้สร้างสรรเมนูที่เน้นความเป็นพรีเมี่ยมทั้งปลาที่ใช้ทำซูชิและซาซิมิ และมีความพิถีพิถันในการทำทุกขั้นตอน ซึ่งเมนูแนะนำของทางร้าน คือ "Elixir Oyster Shooter" หอยนางรมสดกับไข่นกกระทาตอกรวมกันในเหล้าญี่ปุ่น "Tori Nanban" ไก่ชุบแป้งทอดกรอบนอกนุ่มในราดซอสนันบัง "Gindara Saikyo Yaki" ชิ้นปลาจินดาระหมักกับมิโสะซอสย่างบนเตาถ่าน "Sweet 16" Signature Maki ของร้าน เป็นการรวมส่วนผสมชั้นดีทั้งปลา ไหลย่าง กุ้งเทมปุระ อะโวคาโด สไปซี่ทูน่า และสตรอว์เบอร์รี ที่อร่อยลงตัวในคำเดียว "Guilty But Happy" เมนู Highly Recommend เป็น Maki Roll ที่อัดแน่นไปด้วยกุ้งเทมปุระ ไข่กุ้ง ครีมชีส ต้นหอม วาซาบิมาโย และซอสนิซึเมะ ส่วนเมนูโรลซูชิยอดฮิตของทางร้านคือ "Four Seasons" โรลซูชิสอดไส้กุ้งเทมปุระ ปลาทูน่า อะโวคาโด และแตงกวา ห่อด้วยเนื้อลนไฟ โปะหน้าด้วยซอสสี่อย่าง "Happy To Get Her" เป็นโรลหอยเชลล์ฮอกไกโดกับไข่ปลาบิน โปะหน้าด้วยซอสเนื้อปูที่นำไปเผาไฟอ่อน ๆ ส่งกลิ่นหอมฉุยกระตุ้นน้ำย่อยมาก ๆ "Kinmedai Nigiri & Salmon Miso Aburi" เป็นปลา Kinmedai เนื้อนุ่ม ทานคู่ซอสโชยุและวาซาบิ และเมนู "Salmon Miso Aburi" เป็นปลาแซลมอนราดซอสมิโซะสูตรพิเศษ ให้รสชาติกลมกล่อมอร่อยสุด ๆ นอกจากนี้ยังมีค็อกเทล สาเก และโซจู ที่ส่งตรงมาจากประเทศญี่ปุ่นให้คุณ ๆ ได้เลือกดื่มกันอย่างเต็มที่อีกด้วย
 
             ที่อยู่ : สุขุมวิท 36 (ซอยมายชอยส์ ใกล้ BTS ทองหล่อ) แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
            
เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-วันศุกร์ เวลา 17.30-24.00 น. วันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 11.30-14.00 และเวลา 17.30-24.00 น.
            
โทรศัพท์ : 0 2661 5076
            
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก IN the mood for LOVE: Sushi Bar & Bistro

9. Seiryu Sushi


Seiryu Sushi

Seiryu Sushi
ภาพจากเฟซบุ๊ก Seiryu Sushi
 
              ร้านซูชิที่วางคอนเซ็ปต์แบบ "Sushi Cafe" ภายในร้านมีความโปร่งโล่งสบาย มีการใช้เหล็กเข้ามาตกแต่งร้านให้ดูทันสมัย แต่ก็ไม่ถึงกับทิ้งลายความเป็นญี่ปุ่นไปซะทีเดียว เรามาเริ่มกันที่เมนูแนะนำแรกกันเลย "Premium Sushi Set B" เป็นการรวมของดีหลาย ๆ อย่างเข้าไว้ด้วยกันอาทิ "Foie gras" (ฟัวกราส์) นำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส ชิ้นใหญ่หอม นุ่ม ชุ่มฉ่ำ "Mutsuzaka" เนื้อวัวมัทสึซากะส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น เนื้อนุ่ม ติดมันนิดหน่อย "Nama Uni" (ไข่หอยเม่นสด) นำเข้าจากฮอกไกโด รสชาติหวาน มัน ไม่มีกลิ่นคาว แทบจะละลายในปาก ต่อด้วย "Chu-Toro" (ชูโทโร่) ปลาส่วนที่มีความมันปานกลาง รสชาติกลมกล่อม ปิดท้ายด้วยปลาส่วนที่ดีที่สุดอย่าง "O-Toro" (โอโทโร่) ชุ่มฉ่ำไปด้วยไขมัน นุ่มละลายในปาก มาต่อกันที่เมนูถัดมาอย่าง "Sashimi Set C" เป็นการรวมของสดหลากชนิดเข้าไว้ด้วย กัน อาทิ "Salmon" (แซลมอน) ชิ้นโตชุ่มฉ่ำเต็มคำ "Tai" (ปลาไท้) ปลากะพงแดง ชิ้นสีขาวอมชมพู หวาน สด ไม่มีกลิ่นคาว "Shime-Saba" (ปลาซาบะดอง) รสเปรี้ยวกลมกล่อมกำลังดี "Tako" (หนวดปลาหมึกยักษ์) เนื้อแน่น กรุบกรอบ จบด้วย "Akami" (อากามิ) ปลาทูน่าครีบเหลืองส่วนเนื้อแดงสด ไม่มีไขมัน

              นอกจากนี้ยังมีเมนูเอาใจผู้ที่ชอบรสเผ็ดอีกคือ "Spicy Salmon Skin Roll" ข้าวอัดไส้ตรงกลางเป็นหนังปลาแซลมอน ด้านบนเป็นปลาแซลมอนสับโรยด้วยไข่ปลาแซลมอน ราดด้วยซอส spicy สูตรเฉพาะของทางร้านอร่อยได้ใจมาก ๆ หรือจะเป็นเมนู "Seiryu Sushi" ซูชิคำเดียวและใหญ่กว่าซูชิปกติ ประกอบไปด้วยวัตถุดิบชั้นดีอย่าง "Nama Uni" (ไข่หอยเม่นสด) ไข่ปลาแซลมอน เนื้อปลาโทโร่สับ ซึ่งทีเด็ดอยู่ที่การใช้ "เอ็นกาวะ" หรือครีบปลาตาเดียว เนื้อสีขาวนวลแทนสาหร่ายในการห่อข้าวปั้น รสชาติหวานนุ่ม กรุบ ๆ มัน ๆ ปิดท้ายด้วยเมนูเอาใจคนรักสุขภาพอย่าง "Seiryu Salad" สลัดผักปลาแซลมอน ที่อุดมไปด้วยผักหลากหลายชนิดทั้ง อะโวคาโด ผักสลัด มะเขือเทศ ผักกาดหอม บัตเตอร์เฮด และแครอท นอกจากนี้ยังมีเนื้อปลาแซลมอนชิ้นโตโรยด้วยไข่ปลาแซลมอน พร้อมราดด้วยน้ำมันงาสูตรพิเศษ ได้กลิ่นหอมของน้ำมันงาอ่อน ๆ ฟินมากขอบอก
 
             ที่อยู่ : 25/2 ซอยศาลาแดง 1 ถนนพระราม 4 (ซอยศาลาแดง 1 ตรงข้าม Treecreeper จอดรถได้ที่ Service Apt. สิริสาทร) แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
            
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น.
            
โทรศัพท์ : 0 2636 3338, 0 2636 3342, 08 3818 7744
            
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Seiryu Sushi

10. Joushitsu Sushi


Joushitsu Sushi
 
Joushitsu Sushi

Joushitsu Sushi
ภาพจากเฟซบุ๊ก Joushitsu Sushi โจชิซึ ซูชิ

             เป็นร้านซูชิระดับพรีเมี่ยมอีกหนึ่งร้านที่เน้นการปรุงรสชาติแบบ ต้นตำรับแท้ พร้อมเลือกสรรวัตถุดิบชั้นดี สด สะอาด มีคุณภาพ ที่ส่งตรงมาจากหลากหลายประเทศ อาทิ เมืองฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส และนอร์เวย์ โดยอาหารทุกจานได้ถูกรังสรรค์ขึ้นจากเชฟวิชิต วงศ์สมศรี ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในแวดวงอาหารญี่ปุ่นมายาวนานกว่า 20 ปี บวกกับความคิดสร้างสรรค์ของการคิดค้นเมนูแปลกใหม่ให้ลูกค้าได้ลิ้มลอง จนได้รางวัลระดับโรงแรม และผ่านงานระดับต่างประเทศอีกมากมาย ภายในร้านตกแต่งเป็นสไตล์ญี่ปุ่น มีบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง ซ่อนความหรูหราสบาย ๆ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งทานอาหารอยู่ในภัตตาคารที่ประเทศ ญี่ปุ่นเลยทีเดียว ซึ่งเมนูแนะนำของทางร้าน คือ "Joushitsu Sushi" โดยในจานจะมีซูชิทั้งหมด 12 ชิ้น อร่อยล้ำทุกชิ้นจริง ๆ เมนูถัดมาคือ "Maki Roll" ประกอบไปด้วย "Otoro" (ส่วนท้องปลาทูน่า) "Engawa" (ครีบปลาตาเดียว) "Kampachi" (ปลาคัมปาจิ) "Hamachi" (ปลาหางเหลือง) "Shima Aji" (ปลาหางแข็ง) "ปลาไหล" "ไข่หวาน" และ "Toro Maki" เมนูต่อมาคือ "Take Sashimi" ประกอบไปด้วย Sashimi 5 ชนิด ชนิดละ 2 ชิ้น ประกอบไปด้วย "Hamachi" (ปลาหางเหลือง) "Salmon" (แซลมอน) "Hirame" (ปลาตาเดียว) "Toro" (ปลาทูน่าญี่ปุ่น) และ "Hokkigai" (หอยปีกนก) นอกจากนี้ยังมีเมนู "Joushitsu Sashimi" เมนูสดใหม่เสิร์ฟทั้งเนื้อและผักที่ไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มเติมก็อร่อยได้แบบสุด ๆ ต่อมาคือ "Joushitsu Salad" เมนูเอาใจคนรักผัก ที่คัดสรรผักแต่ละชนิดที่มีความสดใหม่มาผสมกันให้ได้รสชาติที่อร่อยลงตัว นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูอร่อยสดใหม่อีกมากมายที่รอให้คุณไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง
 
             ที่อยู่ : ซอย เอกมัย 2 (80 เมตรจากปากซอยเอกมัย 2) แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
            
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 11.30-14.30 น. และ 18.00-23.00 น.
            
 โทรศัพท์ : 0 2714 3984, 0 2714 1551
            
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Joushitsu Sushi โจชิซึ ซูชิ

11. Sen-Ryo Sushi


Sen-Ryo Sushi

Sen-Ryo Sushi

Sen-Ryo Sushi
ภาพจากเฟซบุ๊ก Sen-ryo Thailand
 
              ซูชิสายพานแบรนด์พรีเมี่ยมชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น เป็นร้านต้นแบบที่เน้นสร้างบรรยากาศให้นึกถึงศิลปะการทำอาหารในประวัติศาสตร์ของโตเกียวอย่างแท้จริง พร้อมทั้งลูกค้าจะได้ทานอาหารที่มีความสดใหม่ระดับพรีเมี่ยมจากการรังสรรค์โดยเชฟผู้เชี่ยวชาญ จากประเทศญี่ปุ่น เหมือนได้รับประทานกันสด ๆ จากญี่ปุ่นเลยทีเดียว ซึ่งเมนูแนะนำของทางร้าน คือ "Wagyu & Foie Gras Sushi" เป็นการจับคู่สุดยอดความอร่อยบนบกและในน้ำ ด้วยการเอาเนื้อวากิวหวานละมุนนุ่มลิ้นมาย่างพอสุก จากนั้นท้อปด้วยฟัวกราส์ทอดกรอบนอกนุ่มใน ราดด้วยซอสสูตรพิเศษของร้าน นับว่าเป็นซูชิที่มีรสชาติเฉพาะ ตัวอยู่ในคำเดียวกัน ตามมาด้วยสุดยอดเมนูทูน่าอย่าง "Blue Fin Tuna Set" เป็นการรวมเอาส่วนต่าง ๆ ของปลาทูน่าไว้ในเซตเดียว ไล่เรียงไปตามระดับความหนาแน่นของไขมันในเนื้อปลาแต่ละส่วนคือ "อะคามิ" ส่วนเนื้อแดงของปลาทูน่า เป็นส่วนที่แทบจะไม่มีไขมันแทรก อยู่เลยก็ว่าได้ "ชูโทโร่" ท้องส่วนหลังของปลาทูน่า เนื้อจะเป็นสีชมพูอมส้ม มีไขมันผสมอยู่เล็กน้อย "โอโทโร่" ท้องส่วนหน้าของปลาทูน่า ซึ่งเป็นส่วนที่อร่อยที่สุด มีไขมันแทรกเป็นลายหินอ่อนอยู่ทั่วทั้งชิ้น ทำให้ได้รสสัมผัสที่นุ่มจน แทบละลายในปาก และชิ้นสุดท้ายคือ "คามะโทโร่" ส่วนแก้มของปลาทูน่า มีไขมันแทรกเป็นริ้วใหญ่ ๆ อยู่ทั่วทั้งชิ้น ส่วนคนที่หลงรักไข่หอยเม่นแนะนำให้ลองสั่ง 2 เมนูนี้มาลองชิม ต่อด้วยเมนู "Sen-ryo Sushi" เป็นซูชิคำโตที่รวมความอร่อยไว้ถึง 3 อย่างด้วยกัน ทั้งเนื้อส่วนท้องของปลาทูน่าสับจน ละเอียด จับคู่ความอร่อยกับไข่หอยเม่นสด ท้อปปิ้งด้วยไข่ปลาแซลมอน รับรองว่าฟินเว่อร์ ปิดท้ายกันด้วยเมนู "Hokkaido Sea Urchin" ซูชิหน้าไข่หอยเม่นฮอกไกโด ซึ่งใช้ไข่หอยเม่นสด ไม่แช่แข็ง จึงได้ทั้งความนุ่มและความหวาน อร่อยจนลืมอิ่มกันเลยทีเดียว
 
              ที่อยู่ : ทองหล่อ 13 ถนนสุขุมวิท (ชั้น 1 โครงการนิฮอนมูระมอลล์) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
             
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-วันพฤหัสบดี เวลา 11.30-14.30 น. และ 18.00-22.00 น. วันศุกร์-วันอาทิตย์ เวลา 11.30-14.30 น. และ 18.00-22.30 น.
             
โทรศัพท์ : 02 712 9688
             
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Sen-ryo Thailand

12. Honmono Sushi (ทองหล่อ 23)


Honmono Sushi (ทองหล่อ 23)
 
Honmono Sushi (ทองหล่อ 23)

Honmono Sushi (ทองหล่อ 23)
ภาพจากเฟซบุ๊ก Honmono Sushi

               ร้านอาหารญี่ปุ่นระดับไฮเอนด์ นำทีมโดยเชฟบุญธรรม ภาคโพธิ์ และเชฟบัณฑูร ชูผลา ที่พร้อมรวมพลังถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์ผ่านเมนูแปลกใหม่มาให้ลูกค้าได้เซอร์ไพรส์กันอยู่เสมอ ๆ พร้อมทั้งมีการเลือกใช้วัตถุดิบชั้นดีที่เน้นความสด สะอาด โดยเฉพาะปลาดิบที่ส่งตรงมาจากตลาดซึกิจิ ว่ากันว่าดีที่สุดในกรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว ร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติความอร่อยทั้งซูซิและซาซิมิ ซึ่งเมนูแนะนำของที่นี่ก็คือ "Shirauo Salada" สลัดปลาเงินทอดกรอบ ทานคู่กับผักสลัดราดซอสญี่ปุ่นและมายองเนส ท็อปด้วยไข่กุ้ง "Otoro Nigiri" ซูชิที่ทำจากปลาโทโร่คือส่วนท้องของปลาทูน่า มีคุณค่าอาหารสูงและไม่มีกลิ่นคาว เนื้อชิ้นใหญ่ สด นุ่มละลายในปาก ต่อด้วยทีเด็ดอย่าง "Matsuzaka Aburi" ซูชิเนื้อมัสสึซากะ เบิร์นกับไฟพอให้ผิวนอกสุก เหยาะซอสเพิ่มรสสักหน่อย อร่อยชนะเลิศมาก ๆ ปิดท้ายด้วย "Taraba Kaminabe" เป็นหม้อไฟปูจากฮอกไกโดขนาดใหญ่ รสชาติหวานนุ่ม เข้ากับน้ำซุปมิโสะร้อน ๆ ได้อย่างกลมกล่อม นอกจากนี้ยังมีเมนูอร่อยอีกมากมาย อาทิ "Hamachi Jarafino" ซูชิปลาฮามาจิ "Botan Ebi Sushi" ซูชิกุ้งทะเลน้ำลึกราดด้วยมันกุ้ง และ "Foie Gras Sushi" ซูชิตับห่าน อย่ารอช้า ! รีบสำรองจองโต๊ะกันเลยด่วน ๆ
 
              ที่อยู่ : 19 ซอยสุขุมวิท 55 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
              เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 11.30-14.30 น. และ 17.30 - 24.00 น.
              โทรศัพท์ : 0 2185 1447
              เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Honmono Sushi

13. Sushi Kanda


Sushi Kanda
 
Sushi Kanda

Sushi Kanda
ภาพจากเฟซบุ๊ก Sushi Kanda

              เป็นร้านซูชิระดับท็อปของประเทศไทย ทีเด็ดอยู่ตรงที่เจ้าของร้านลง ทุนบินไปกลับกรุงเทพ ฯ-โตเกียวทุกอาทิตย์ เพื่อไปซื้อวัตถุดิบที่ตลาดปลา Tsukiji ด้วยตัวเองเลยทีเดียว ซูชิของทางร้านเป็นแบบต้นตำรับแท้ ซึ่งเมนูซูชิแนะนำของที่นี่ก็คือ "Kinmedai" เป็นปลาเนื้อขาว เนื้อเนียนนุ่ม มีไขมันเข้มข้น ส่วนหนังถูกลนไฟมาพอตึง ๆ ส่งกลิ่นหอมอบอวนชวนกินมาก ๆ เมนูถัดมาถือเป็น Signature ของทางร้านเลยก็คือ "Uni หอยเม่น" โดยเชฟจะปั้นและตักหอยเม่นวางบนใบโฮบะก่อน พอจะเสิร์ฟจึงค่อยล อกเอาใบโฮบะออก พร้อมกับวางวาซาบิลงไปนิดหน่อย รสชาติอร่อยหวานฉ่ำชื่นใจมาก ต่อมาเป็นเมนู "Otoro" เนื้อปลาหวานหอมมัน ละลายในปากราวกับกินไอศกรีมเลย ทีเดียว ต่อด้วยเมนู "Kuruma Ebi" แบบสด ๆ เนื้อแน่น กรอบ หวานมาก ต่อด้วยเมนู "ข้าวซูชิโปะ Ikura" ใส่มาในจอกเหล้าภายในจอกมีสาหร่ายอบ หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ คั่นอยู่ระหว่างไข่ปลากับข้าว ถัดมาเป็นเมนู "Shime Saba" ปลาซาบะดองน้ำส้ม รสเปรี้ยวหวาน หอม มัน นิ่มจนแทบไม่ต้องเคี้ยว ตามด้วยเมนู "Shiro-ita Konbu" แผ่นบาง ๆ กรอบอร่อย เมนู "Aji" มีขิงขูดโปะหน้าตามแบบต้นตำรับ อร่อย สด และตบท้ายกันที่เมนู "Sawara" เป็นปลาที่มีขายอยู่แค่ไม่กี่ร้านเท่านั้นในกรุงเทพ ฯ มีรสชาติหวานอ่อน ๆ นอกจากนี้ยังมีเมนูต้นตำรับแท้แบบ Omakase course ให้เลือกทานอีกมากมาย ลองแวะมาลิ้มรสดูได้ รับรองว่าอร่อยจนแทบวางช้อนไม่ลงกันเลยทีเดียวล่ะ
 
              ที่อยู่ : ซอยไปดีมาดีกลาง ถนนสุขุมวิท (ชั้น 2 โครงการ No.88 (ระหว่างทองหล่อซอย 5 และซอย 9) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
             
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์ เวลา 11.30-13.30 น. และ 17.30-23.00 น. วันพุธ เวลา 17.30-23.00 น. วันพฤหัสบดี-วันอาทิตย์ เวลา 11.30-13.30 น. และ 17.30-23.00 น.
             
โทรศัพท์ : 02 712 6639
             
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Sushi Kanda

14. Yashin by Tenyuu


Yashin by Tenyuu
 Yashin by Tenyuu

Yashin by Tenyuuภาพจากเฟซบุ๊ก Yashin by Tenyuu

                เป็นร้านซูชิที่เน้นความเป็นญี่ปุ่นแบบออริจินัล พร้อมคัดสรรวัตถุดิบที่ดีและพิเศษส่งตรงจากตลาดปลาประเทศญี่ปุ่นทุกวัน เพื่อให้ลูกค้าได้ทานอาหารที่มีคุณภาพ และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ซึ่งเมนูแนะนำของที่นี่ คือ "Karei" หรือ "Sole Fish" เนื้อนุ่มวางบนข้าวอุ่น ๆ อร่อยอย่าบอกใคร เมนู "Shima-aji" หรือ "Horsemackerel" เนื้อแน่น ฟินสุด ๆ เมนู "Akami" ปลาทูน่าเนื้อแดงชิ้นหนา แช่ในโชยุให้มีรสก่อนเอาออกมาปั้น รสชาติหอมกลมกล่อม ตามมาติด ๆ กับเมนู "Chutoro - Medium Fat Tuna" เนื้อปลารสเข้มกำลังดี ต่อด้วยเมนู "Soboroไข่" ทำจากกุ้งที่ลวกแล้วคลุกเคล้ากับขุยสีเหลือง ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูที่น่าลอง มาถึงเมนูเด็ดของทางร้านคือ "Uni หอยเม่น" รสชาตินุ่มละมุนมาก ๆ ซึ่งทางร้านได้สั่งพิเศษมาจากฟาร์มหอยเม่นออร์แกนิก รสสัมผัสอร่อยสมกับที่สั่งมาเป็นพิเศษ จริง ๆ ตามด้วยเมนู "ไข่ปลาแซลมอน" สีส้มลูกโต กัดเต็มคำ "กั้งราดซอสหวาน" "ปลาตาเดียว" "Engawa" เบิร์นไฟหอมกรุ่นกำลังดี "กุ้งลายเสือ" กุ้งตัวเป็น ๆ ที่เนื้อกุ้งยังคงอุ่น ๆ ส่วนหัวมีมันกุ้งกัดเข้าไปแล้วอร่อยเพลินเกินห้ามใจ และปิดท้ายกันที่เมนู "ไข่หวาน" เนื้อฟู เบา อิ่มแปล้ไปตาม ๆ กัน
 
              
ที่อยู่ : 85 ซอยทองหล่อ 13 ถนนสุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
              
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 11.30-14.30 น. และ 17.30-22.00 น.
              
โทรศัพท์ : 02-712-6868 , 087-508-9395
              
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Yashin by Tenyuu

15. Hiso Sushi


Hiso Sushi
 
Hiso Sushi
ภาพจากเฟซบุ๊ก HISO Sushi ไฮโซะ ซูชิ

               ร้านซูชิที่มาพร้อมกับความอร่อยในระดับพรีเมี่ยม มีการสร้างสรรค์บรรยากาศร้านแนวคลาสสิกสบาย ๆ ในสไตล์ญี่ปุ่น จุดเด่นของร้านนี้อยู่ที่การใส่ใจในการคัดสรรวัตถุดิบนำเข้าชั้นดี มีความสด สะอาด พิถีพิถันในการทำทุกจานให้ออกมาน่ารับประทาน ภายใต้การรังสรรค์ของเชฟนิพล เชฟผู้มีประสบการณ์ในการทำอาหารโรงแรมระดับห้าดาว มากว่า 15 ปี ซึ่งเมนูแนะนำของทางร้านคือ Taraba King Crab, Sushi, Otoro, Salmon Sashimi, Otsukuri Salmon, Yakiniku Salad, Grand Hiso Salad, Tamago Sashimi Chutoro นอกจากนี้ทางร้านยังมีเซตความอร่อยอีกมากมาย แวะมาเติมความสุขลงท้องกันได้ ขอบอกเลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
 
             ที่อยู่ : 16 ซอยอารีย์ 1 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400
             
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 11.30-14.30 น. และ 17.30-22.00 น. วันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 11.30-15.00 น. และ 17.30-22.00 น.
             
โทรศัพท์ : 0 2619 6709, 08 1134 3979
              
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก HISO Sushi ไฮโซะ ซูชิ

          เป็นอย่างไรกันบ้าง 15 ร้านซูชิที่เรารวบรวมมาให้เด็ด ๆ ทั้งนั้นเลยใช่ไหมล่ะคะ บรรยากาศเจิดรสชาติแจ่มขนาดนี้ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เคลียร์พุงรอด่วน ๆ เลยจ้า

หมายเหตุ : ข้อมูลและราคาต่าง ๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบกับทางร้านอีกครั้ง

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : เฟซบุ๊ก Shori Sushi House, เฟซบุ๊ก SUSHIOO, Tororo Sushi, เฟซบุ๊ก Tororo Sushi, เฟซบุ๊ก Toro Sushi, เฟซบุ๊ก Sushi Otaru, เฟซบุ๊ก TEIEN SUSHI BAR, เว็บไซต์ร้าน SuShi Ichi, เฟซบุ๊ก IN the mood for LOVE: Sushi Bar & Bistro, เฟซบุ๊ก Seiryu Sushi, เฟซบุ๊ก Joushitsu Sushi โจชิซึ ซูชิ, เฟซบุ๊ก Sen-ryo Thailand, เฟซบุ๊ก Honmono Sushi, เฟซบุ๊ก Sushi Kanda, เฟซบุ๊ก Yashin by Tenyuu และ เฟซบุ๊ก HISO Sushi ไฮโซะ ซูชิ
 


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
15 ร้านซูชิอร่อยล้ำระดับพรีเมียม ไม่ลองไม่ได้แล้ว อัปเดตล่าสุด 7 กันยายน 2566 เวลา 16:20:09 151,259 อ่าน
TOP