ไหว้พระเมืองคอน เพิ่มพลังชีวิต เสริมสิริมงคลรับปีใหม่

ไหว้พระเมืองคอน เพิ่มพลังชีวิต เสริมสิริมงคลรับปีใหม่

           องค์เจดีย์ทรงลังกาที่เรียงรอบด้วยเจดีย์ราย ตามแนวคิดทางจักรวาลวิทยา ไม่เพียงเก่าแก่และงดงามเท่านั้น หากยังเปี่ยมไปด้วยรูปรอยทางประวัติศาสตร์ของเมืองโบราณ ยามแดดตกต้อง องค์พระธาตุเหลื่อมเงากลับทาบทอดไม่ถึงพื้น จนแลคล้ายว่าเจดีย์ยิ่งใหญ่องค์นี้นั้นไร้เงาอย่างน่าอัศจรรย์ นั่นอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้คณะกรรมการมรดกโลกมีมติเอกฉันท์รับรองให้ วัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร ขึ้นเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่อยู่ในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น


           แต่สำหรับชาวนครศรีธรรมราชและพุทธศาสนิกชน พระพุทธรูป และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ประดิษฐานอยู่มากมายภายใน กลับเป็นสิ่งที่ดึงดูดให้เดินทางมาเพื่อกราบขอพรและเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต อาทิ พระศรีศากยมุนีศรีธรรมราช องค์พระประธานที่ประดิษฐานอยู่ ในพระวิหารหลวง พระพุทธรูปขนาดใหญ่และงดงามด้วยศิลปะสมัยอยุธยาตอนต้น ขณะที่บันไดทางขึ้นสู่องค์พระบรมธาตุ ด้านซ้าย-ขวามีรูปปั้นของเทพผู้พิทักษ์ คือ ท้าวขัตตุคาม-รามเทพ เชื่อว่า คือ ท้าวจตุคามรามเทพ อันลือลั่นแห่งเมืองนคร แต่คู่แต่งงานที่อยากมีลูกมักจะมาขอพร พระมหากัจจายนะ ที่มีอีกหนึ่งชื่อเรียกว่า “พระแอดเมืองนคร” เพราะเชื่อกันว่าท่านสามารถดลบันดาลความสำเร็จสารพัด โดยเฉพาะการขอลูก จึงมีรูปเด็ก ๆ มารายงานผล ขอพรพร้อมกับการฝากเนื้อฝากตัวมากมาย


           ขณะที่ วัดพัทธเสมา ปาฏิหาริย์พระลากแห่งลานสกานั้น พระพุทธรูปปางยืนอุ้มบาตร เนื้อทอง สร้างขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยา ชื่อว่า พระอิศระชัย ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดใกล้เคียง ต่างทราบกันดีว่าไม่เพียงเป็นพระพุทธรูปที่มีความเก่าแก่ แต่ยังมีชื่อเสียงในด้านความศักดิ์สิทธิ์ ใครบนบานขอสิ่งใดมักประสงค์ดังใจหวัง เล่ากันว่า เมื่อครั้งที่หล่อองค์พระเกิดเหตุการณ์มืดฟ้ามัวดิน ชาวบ้านในพิธีเห็นเหตุการณ์ต่างก็วิ่งหนีกลับบ้าน จนเมื่อมีแสงสว่างก็พากันมาดู และได้เห็นองค์พระหล่อเสร็จแล้ว ทั้งยังมีความสวยงามมาก จึงเชื่อกันว่าเทวดาได้ลงมาทำการหล่อจนเสร็จ ในช่วงเดือนหกและเดือนสิบเอ็ดช่วงออกพรรษาของทุกปีจะมีการจัดพิธีสมโภชพระลาก โดยการสรงน้ำพระและประเพณีชักพระทางบกและทางน้ำ



           ส่วนวัดเจ้าแม่อยู่หัว ที่เชื่อกันว่าเป็นวัดแรกที่ “พระนางเลือดขาว” หรือ “เจ้าแม่อยู่หัว” อัครมเหสีแห่ง “พระเจ้าศรีธรรมโศกราช” สร้างขณะมีพระชนมายุ 30 พรรษา ราวปี พ.ศ. 1775 เป็นอีกวัดที่ควร แวะไปสักการบูชา



           นอกจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของประวัติศาสตร์แล้ว เมืองคอนแห่งนี้ยังมีเกจิอาจารย์ชื่อดัง ที่เป็นที่เคารพของพุทธศาสนิกชน หนึ่งในนั้นคือ พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ พระครูพิสิษฐ์ อรรถการ (คล้าย จนฺทสุวณฺโณ) แห่งวัดพระธาตุน้อย หลังมรณภาพด้วยโรคหืด เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2513 รวมอายุได้ 96 ปี บำเพ็ญกุศลครบ 100 วัน จึงได้บรรจุสรีระ ของท่านไว้ในโลงแก้ว ประดิษฐานอยู่ในองค์พระเจดีย์ในวัดพระธาตุน้อยจนถึงปัจจุบัน

           ขณะที่ พ่อท่านเขียว วัดหรงบน นะโมนมันสการพระอินทมุนี โพธิสัตโต อาราธนานัง นะมามิหัง คือ สุดยอดอมตะเถราจารย์แห่งลุ่มน้ำปากพนัง ไม่เพียงพระเพลิงไม่อาจเผาไหม้สรีระร่างกายท่านได้ ขนาดจีวรยังไม่ไหม้ไฟ ศพของท่านไม่เน่า ซ้ำยังแข็งกลายเป็นหิน แต่เมื่อครั้งที่ท่านยังไม่มรณะภาพ มีเรื่องราวปาฏิหาริย์ของพ่อท่านเขียวที่เล่าสืบต่อมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการรักษา ผู้ป่วยด้วยพุทธคุณ ของขลังที่ช่วยให้แคล้วคลาด ทั้งผ้ายันต์รอยมือรอยเท้า ชานหมาก ลูกอมเทียน เหรียญและพระต่าง ๆ


           ส่วน พ่อคลิ้ง จันทสิริ พระครูภาวนาภิรมย์แห่งวัดถลุงทอง ไม่เพียงมีอายุยืนนานถึง 104 ปี แต่ยังครองพรรษาได้ถึง 96 พรรษา หากนับพรรษาต่อเนื่องตั้งแต่บวชเป็นสามเณรกระทั่งเป็นพระภิกษุ ท่านเกิดเมื่อ พ.ศ. 2429 และมรณภาพใน ปี พ.ศ. 2533 โดยออกบวชเป็นสามเณร ขณะอายุ 8 ขวบ แล้วก็ครองเพศเป็นบรรพชิตมาตลอดจวบกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต


           อีกหนึ่งเกจิอาจารย์ที่โด่งดังไปทั่วภาคใต้ ก็คือ พ่อท่านกลาย พระครูวิบูลย์พนมรักษ์ แห่งวัดเขาขุนพนม ซึ่งเป็นวัดที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เสด็จมาประทับและจำพรรษาในฐานะพระภิกษุ หลังจากสิ้นรัชกาลกรุงธนบุรีเป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2325-2328 ท่านกินอยู่อย่างสมถะ เรียบง่าย เช่นพระป่าพระเขาทั่ว ๆ ไป ไม่ยึดติดกับข้าวของหรือทรัพย์สมบัติใด ๆ ว่ากันว่า เวลาที่รับนิมนต์ไปไหนมาไหนท่านมักจะเดินไป และไปถึงก่อนผู้ที่นั่งรถนั่งเรือไปเสียอีก เป็นที่ประหลาดใจแก่ผู้ที่พบเห็นอยู่เสมอ แต่ท่านไม่เคยอวดอ้างวิชาความรู้ความสามารถให้ใคร ๆ ได้ทราบ และเมื่อมรณะภาพสรีระของท่านก็ไม่เน่าไม่เปื่อยเช่นกัน


           แต่สำหรับคนคอนที่ตกทุกข์ได้ยากแล้ว “เทพเจ้าแห่งเมืองนคร” ชื่อที่ลูกศิษย์ลูกหาให้สมญานาม พ่อท่านสังข์ วัดดอนตรอ เป็นพระผู้มีความเมตตาสูง มีปฏิปทาในการปฏิบัติ ที่เชื่อกันว่าท่านได้ญาณสมาบัติชั้นสูง คำกล่าวที่เป็นคำไม่ดีทุกอย่างจะไม่ปรากฏ เพราะท่านเป็นพระที่ไม่กล่าวคำหยาบ หรือ “ผรุสวาจา” มีแต่ “ปิยะวาจา” คือ วาจาที่ดีเท่านั้น นอกจากมีเมตตาต่อทุกคนที่ไปกราบท่านอย่างไม่เลือกชั้นวรรณะแล้ว ยังให้ทานแก่ผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากอย่างไม่เลือกหน้าด้วย


           ก่อนจะตบท้ายด้วยการบูชาวัตถุมงคลเหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อซัง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเหรียญเบญจภาคีที่แพงที่สุดของเมืองนคร ของ “พระครูอรรถธรรมรส” หรือ พ่อท่านซัง สุวัณโณ พระเถราจารย์แห่งวัดวัวหลุง ที่ใครต่อใครรู้จักกันเป็นอย่างดี นอกจากจะเป็นเหรียญยอดนิยมที่สุดเหรียญหนึ่งในวงการพระเครื่องแล้ว ยังมากมายด้วยประสบการณ์ที่เกิดกับผู้อาราธนาติดตัว ด้วยเหตุนี้ชื่อเสียงของพ่อท่านซังจึงยิ่งกระฉ่อนมากขึ้นเป็นหลายเท่าตัว






ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก