x close

นกนางนวลบินอวดโฉม ก่อนไร้ป่าชายเลนบางปู

นกนางนวลบินอวดโฉม ก่อนไร้ป่าชายเลนบางปู


นกนางนวลบินอวดโฉม ก่อนไร้ป่าชายเลนบางปู (ไทยโพสต์)

สรณะ : รายงาน   

           เมื่อเอ่ยถึง “นกนางนวล” บางคนอาจคิดว่า เราต้องเดินทางไปดูไกลถึงต่างประเทศที่อากาศหนาวเย็น ขณะเดียวกันผู้ที่ชอบท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ ก็คงกำลังนั่งคิดอยู่ว่าจะไปหาป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่ไหนสักแห่งเพื่อการท่องเที่ยวที่มีอรรถรส

           ช่วงเวลานี้ ขอบอกว่าหากต้องการไปดูทั้ง “นกนางนวล” และเที่ยวชมความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติของป่า แวะมาที่นี่แห่งเดียวตอบโจทย์ได้ครบถ้วน แถมอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ พร้อมถือโอกาสหลบบรรยากาศการเมืองร้อน ๆ ไปผ่อนคลายสมอง

           สถานที่ซึ่งกำลังพูดถึงคือ “สถานตากอากาศบางปู”  ชื่อที่หลาย ๆ คนคุ้นหูมานานหลายปีตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ ด้วยมนต์เสน่ห์ที่ตั้งอยู่ริมทะเล มีทิวทัศน์สวยงามเพลินตา พร้อมกับได้ลิ้มรสอาหารทะเลสด ๆ อย่างเช่น ปูไข่นึ่ง กุ้งเผา เป็นต้น

           ยิ่งช่วงนี้ถือว่าเป็นโอกาสพิเศษมาก และยาวไปจนถึงต้นเดือนเมษายนปีหน้า (2557) เพราะฝูงนกนางนวลจะบินอพยพหนีหนาว เดินทางไกลมาเป็นระยะทางกว่า 3,000 ไมล์ จากแหล่งอาศัยบริเวณที่ราบสูงตอนในของทวีปเอเชียแถบทิเบต ทาจิกิสถาน จีนตอนเหนือ รัสเซีย และทางตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดียเข้ามาที่นี่

           เราชาวไทยถือโอกาสได้ชมวิถีชีวิตของนกนางนวลได้อย่างใกล้ชิด ตามเส้นทางสะพานสุขตา ที่จะมุ่งหน้าไปศาลาสุขใจตลอด 2 ข้างทาง ระยะทาง 500 เมตร แต่หากใครไม่อยากเดินเขาก็มีรถไฟฟ้าให้บริการฟรี โดยมีกล่องรับบริจาคตามความสมัครใจ

           ภาพที่เราเห็นคือนกนางนวลบินโฉบด้วยท่วงท่าการบินที่สวยงามแล้ว สีขาวของมันเวลาอยู่รวมกันดูเหมือนแก๊งการ์ตูนนก ยิ่งตัดกับสีของท้องฟ้าและท้องทะเล ยิ่งสวยงามสบายตา นกนางนวลนี่น่ารักมาก ยิ่งเวลามันกำลังเหินขึ้นบนฟ้า ดูแล้วสวยเหลือเกิน

           นกจะกล้ากับคนมาก หากซื้ออาหารนก ซึ่งเป็นกากหมูที่มีผู้นำมาขายถุงละ 10 บาท โปรยให้กินหรือจะวางบนฝ่ามือก็ได้ นกนางนวลจะกล้าโผมาจิกกินบนฝ่ามือเลยทีเดียว หรือเมื่อเราโยนไปที่พื้นน้ำ ตัวไหนตาดีและบินเร็วก็จะกระโจนลงไปคว้าได้อย่างนุ่มนวล

นกนางนวล บางปู

           ขณะที่บรรยากาศของ สะพานสุขตา ลมพัดค่อนข้างแรง เมื่อน้ำทะเลขึ้นเต็มฝั่ง สามารถมองเห็นด้านหนึ่งเป็นทะเลกว้างไกลสุดสายตา มีเรือเดินสมุทรแล่นเข้า-ออกปากอ่าว ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นริมฝั่ง จะมองเห็นทิวป่าแสมและป่าโกงกางขึ้นติดต่อกันเขียวชอุ่ม หากในช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตกทะเล ผู้มาเยือนส่วนใหญ่ก็จะไปถ่ายรูปตัวเองแบบย้อนแสงกัน ให้ความสวยงามแบบศิลปะ กลับไปอวดพรรคพวกเพื่อนฝูง

           เดินไปพลางถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ ก็ถึงศาลาสุขใจ ภายในมีร้านขายของที่ระลึกและร้านขายขนมขบเคี้ยวเล็ก ๆ น้อย ๆ มีมุมแสดงประวัติของสถานพักตากอากาศบางปู ภาพถ่ายนกนางนวลต่าง ๆ ถัดเข้าไปข้างในจึงจะเป็นร้านอาหาร แบ่งเป็นห้องสุขตากับห้องสุขใจ ให้บริการอาหารทะเล

           ห้ามพลาดเมนูเด็ดส่งตรงจากทะเล อย่างสั่งโป๊ะแตก ปลากะพงทอดน้ำปลา ปูผัดผงกะหรี่ ยำรวมมิตร ทอดมันกุ้ง ยำหอยแครง ปูนึ่ง เรารับประทานไปชมวิวไป อยากบอกว่ามีความสุขเหลือเกิน

           หลังจากท้องตึง เรานั่งรถไฟฟ้ากลับไปบริเวณทางเข้าเพื่อไปสัมผัสความงามของป่าชายเลนบริเวณศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก (บางปู) เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามหาราชินี

           พบว่าบริเวณนี้เป็นผืนป่าสีเขียวแผ่ออกไปกว้างไกล สุดสายตา แต่น่าเสียดาย ด้วยระบบทุนนิยมกำลังคืบคลานเข้ามา ทำให้เห็นห้างสรรพสินค้าปลีกขนาดใหญ่เข้ามาแทรกทัศนียภาพของธรรมชาติที่งดงาม

นกนางนวล บางปู

           เจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯ ได้เล่ารายละเอียดให้ฟังว่า เมื่อก่อนป่าชายเลนบางปูกว้างใหญ่กว่านี้มาก กินพื้นที่ไปถึงราว ๆ ถนนสายบางนา-บางปะกงเลยทีเดียว ตอนนี้ป่าชายเลนบางปูนั้นเหลือแค่ 600 กว่าไร่เท่านั้น และมีท่าทีว่าจะหดหายต่อไปอีก ในอนาคตหากไม่รักษาไว้ ทั้งจากการรุกรานของสิ่งก่อสร้างของมนุษย์ จากคลื่นลมแรง และทะเลที่ซัดเข้าฝั่ง ทำให้แผ่นดินหายไปทีละเล็กทีละน้อย

           สำหรับความเป็นมาของศูนย์แห่งนี้ ตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2548 และอยู่ในความดูแลของกรมพลาธิการทหารบก ต่อมาได้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว พร้อมจัดโปรแกรมเรียนรู้ต่าง ๆ สำหรับนักศึกษาและประชาชนทั่วไป เพื่อกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกหวงแหนป่าชายเลนขึ้นมา และช่วยหันมาอนุรักษ์พื้นที่สีเขียวเหล่านี้เอาไว้

           ในเส้นทางเดินชมป่าชายเลน ได้เห็นพื้นที่หลายแบบ มีทั้งบึงน้ำที่มีนกนางนวลและนกทะเลชนิดอื่น ๆ รวมทั้งปลาตีนที่เดินบนโคลนให้เห็นอย่างใกล้ชิด

           จากทางลาดซีเมนต์ของรอบนอกเขตเดินชม ก็ตัดเข้าไปตรงกลางของป่าชายเลน โดยเดินบนสะพานไม้เล็ก ๆ ที่ต่อเนื่องกันคดเคี้ยวหลายกิโลเมตร แม้อากาศจะร้อนจัด ก็เปลี่ยนเป็นเย็นชื่นใจทันทีเมื่อเข้าเขตนี้ ได้เห็นต้นโกงกางที่แทงรากขึ้นมาหายใจเบียดกันแน่นเต็มไปหมดที่พื้น ป่าเขียวขจีทำให้หัวใจเราสดชื่น หายใจได้เต็มปอด เพราะป่าชายเลนทำหน้าที่เหมือนเครื่องฟอกอากาศชั้นดีจัดการกับคาร์บอนไดออกไซด์และมลพิษให้แก่ชาวโลก

นกนางนวล บางปู

           แต่สิ่งที่ทำลายบรรยากาศในครั้งนี้ที่เข้ามาแทรกความสวยงามของธรรมชาตินั้น คือ ขวดนานาชนิด และถุงพลาสติก รวมทั้งกล่องโฟมใส่อาหาร ติดค้างตามต้นโกงกางอยู่ไม่น้อย เจ้าหน้าที่บอกว่าคือสิ่งที่แม่น้ำพัดพามา จากบ้านเรือนผู้คนมาตามน้ำแล้วก็ออกไปไม่ได้ รวมทั้งจากนักท่องเที่ยว โดยขยะเหล่านี้ กว่าจะย่อยสลายก็ใช้เวลาหลายร้อยปีเลยทีเดียว ผลที่ตามมาทำให้พืช สัตว์บริเวณนี้ได้รับผลกระทบทั้งโดยตรงและอ้อม

           เจ้าหน้าที่ยังเล่าด้วยว่า ก่อนหน้านี้เคยมีวาฬบรูด้าเข้ามาเกยตื้น ตอนนั้นผ่าท้องออกมาเพื่อดูสาเหตุการตายก็พบถุงพลาสติกจำนวนมากมายอัดแน่นอยู่ในท้องของมัน

           เราจบทริปตรงจุดนี้และออกจากชายเลนบางปู แม้จะตื่นตาตื่นใจกับธรรมชาติที่สรรค์สร้างอย่างสวยงาม แต่ก็อดจิตตกไม่น้อยกับภาพที่เห็น เรื่องราวที่ได้ยินเล็ก พร้อมแอบแปลกใจ ในเมื่อเราโชคดีเช่นนี้ เพราะมีทรัพยากรธรรมชาติชั้นดี แต่กลับไม่ดูแลและเอาใจใส่ ตามแนวคิด 7 Greens ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

           หรือต้องรอให้ไม่เหลืออะไรก่อน เข้าทำนอง “ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา” ทุกคนถึงจะสำนึกคุณค่า






ขอขอบคุณภาพประกอบและข้อมูลจาก






เรื่องที่คุณอาจสนใจ
นกนางนวลบินอวดโฉม ก่อนไร้ป่าชายเลนบางปู อัปเดตล่าสุด 11 พฤศจิกายน 2556 เวลา 16:27:08 2,601 อ่าน
TOP