เที่ยวอันดามันช่วงโลว์ซีซั่น สัมผัสทะเลงามราคาไทย

เที่ยวโลว์ซีซั่น "อันดามัน" สัมผัสทะเลงามราคาไทย (ไทยโพสต์)

เรื่อง : สรณะ

          เคยคิดเที่ยวทะเลอันดามันด้วยการขับรถจากกรุงเทพฯ ไปบ้างไหม เมื่อฟังดูแล้วอาจคิดว่าง่าย แต่จะเอาจริงคงเป็นเรื่องยาก นอกจากระยะทางไกลเกือบพันกิโลเมตร แล้วยังต้องมีเวลาท่องเที่ยวเกือบสัปดาห์ ที่สำคัญต้องมีความพร้อมทางด้านร่างกายของคนขับและคุณภาพของรถยนต์ที่ดีด้วย

          ถามว่าเที่ยวทะเลฤดูฝนมีอะไรดี ขอบอกเลยตรงนี้ แม้ทะเลจะไม่งามอย่างฤดูหนาวและหน้าร้อน แต่ก็มีจุดดึงดูดตรงที่พักราคาถูก จากราคาเป็นหมื่นบาทในช่วงไฮซีซั่น พร้อมใจกันลดราคาไม่เกิน 3 พันบาท โดยเฉพาะในจังหวัดภูเก็ต พังงา และกระบี่ และที่สำคัญการท่องเที่ยวไม่ต้องไปเบียดเสียดแย่งกันกินแย่งกันหายใจให้หงุดหงิดหัวใจ และหากโชคดีฝนตกน้อยหรือไม่ตกเลย ก็จะได้กำไรไปแบบเต็ม ๆ ทั้งนี้ หากจะไปจริง ๆ ก็ควรเช็กสภาพอากาศเอาไว้ด้วยก็จะดี

          สถานที่ดังที่กล่าวมาก่อนหน้านี้เคยแต่นั่งเครื่องบินไปเที่ยว อยากบอกว่าค่าใช้จ่ายสูงมาก และไม่สะดวกในการเดินไปไหนต่อไหน โดยเฉพาะการเช่ารถหรือว่าจ้างรถไปตามสถานที่ต่าง ๆ แพงมาก โดยเฉพาะที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อมีประสบการณ์ ดังนั้น จึงเลือกวิธีขับรถไปแทน เราเตรียมตัวเข้านอนแต่หัววัน พร้อมเช็กสภาพรถดูหม้อน้ำและเติมลมยาง ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่หกโมงเช้า โชคดีตลอดเส้นทางมีฝนตกบ้างเล็กน้อย แต่ที่เป็นปัญหา ก็คือ อาการง่วงนอน หลังรับประทานอาหารในแต่ละมื้อ แม้จะดื่มกาแฟก็ไม่หาย เครื่องดื่มชูกำลังก็ไม่ดีขึ้น แต่ก็ไม่พยายามดันทุรังขับต่อไป เลือกแวะปั๊มน้ำมันนอนพักแค่ไม่ถึง 20 นาที ตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นก็พร้อมเดินทางต่อไปได้


          การขับรถครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เดินทางไกลสุด และไม่ค่อยคุ้นเคยเส้นทางจึงใช้เวลานาน ไปถึงที่หมายแรกที่เขาหลัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ในช่วงค่ำ เล่นเอาเสียหมดแรง โดยบริเวณเขาหลักมีโรงแรมมากมายกว่าร้อยแห่ง ได้เข้าพักที่ เขาหลักปาล์ม บีช รีสอร์ท (Khao Lak Palm Beach Resort) ระดับ 4 ดาว ราคาคืนละ 2 พันกว่าบาท หลังจากตื่นนอนขึ้น เมื่อลงไปที่ชายหาด ต้องตะลึงกับความงามของเม็ดทรายขาวละเอียดและเงียบสงบ แม้คลื่นลมอาจจะแรงเสียหน่อย แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการเล่นน้ำ

          หลังจากทานข้าวเช้าแล้วก็ไปชมความงามของหาดสาธารณะอื่น ๆ อาทิ หาดบางสัก หาดคึกคัก หาดบางเนียง หาดนางทอง แหลมปะการัง ที่มีความเงียบสงบและร่มรื่นด้วยทิวมะพร้าว อ้อ ! ลืมบอกไป ช่วงนี้ไม่สามารถนั่งเรือไปเที่ยวเกาะสิมิลันและเกาะสุรินทร์ได้เพราะอยู่ในช่วงปิดเกาะให้ธรรมชาติได้ฟื้นตัว หลังจากมนุษย์ได้เข้าไปท่องเที่ยวเป็นเวลานาน และจะเปิดอีกครั้งในช่วงวันที่ 16 พฤศจิกายน-15 พฤษภาคมของทุกปี


          จากนั้นก็แวะซื้อหาเครื่องดื่มและขนมรับประทานที่เขาหลักเซ็นเตอร์ ที่ตั้งอยู่ใจกลางเขาหลัก มีร้านค้า ร้านอาหารนานาชาติ ผับบาร์ในเวลากลางคืน ทอดยาวข้างถนน ประมาณ 1 กิโลเมตร แต่ขอบอกว่าราคาอาหารในบริเวณนี้เป็นอัตราต่างชาติ

          ต่อไปก็มุ่งหน้าไปจังหวัดภูเก็ต ระยะทางไม่ถึงร้อยกว่ากิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง อยากบอกว่าเป็นเส้นทางที่เหมาะแก่การขับรถเป็นอย่างมาก สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวและสามารถมองเห็นทะเลได้ เมื่อถึงภูเก็ตก็มุ่งหน้าไปหาหาดป่าตองทันที โดยเลือกพัก โรงแรมไทเกอร์ ป่าตอง ที่ตกแต่งด้วยรูปเสือโคร่ง เพราะเจ้าของคือ "คุณปิยะ อิสระมาลัย" เกิดปีเสือ และที่สำคัญยังติดสนามมวยบางลา อยู่ใกล้กับศูนย์การค้าจังซีลอน ในระยะเดินถึง และอยู่ห่างหาดป่าตองประมาณ 500 เมตร โรงแรมแห่งนี้ถือว่ามีความสะดวกสบาย ราคาไม่สูงมาก หากเทียบกับจุดใกล้ ๆ ทะเล ที่สำคัญสุดนั้นใส่ใจต่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ด้วยการจัดการคัดแยกขยะ หรือการบำบัดน้ำเสียของโรงแรมเพื่อไม่ให้กระทบสิ่งแวดล้อม การสั่งอาหารมาบริการลูกค้าจะรับมาแต่พอดี บางส่วนก็สั่งซื้อจากชาวบ้านในภูเก็ต เพราะถือคติว่าต้องดูแลชุมชนควบคู่ไปพร้อมผู้ประกอบการ และหากอาหารเหลือก็นำไปดัดแปลงเลี้ยงพนักงานอีกด้วย ที่สำคัญตกค่ำในบางวันก็สามารถไปชมมวยไทยได้ที่สนามมวยบางลาติดกับโรงแรม เพื่อเป็นการส่งเสริมอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมของชาวไทยอีกด้วย ซึ่งคนไทยเข้าชมฟรี


          มีโอกาสพูดคุยกับ คุณปิยะ ได้เล่าถึงสถานการณ์ของผู้ประกอบการท่องเที่ยวว่า ช่วงนี้อาจจะเงียบไปเสียหน่อย เพราะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น แต่ข้อดีก็คือทำให้ได้ที่พักราคาถูกและเปิดโอกาสให้คนมีงบน้อย แต่ปัญหาที่เป็นกังวล คือ เรื่องสถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอน และเหตุการณ์ความไม่สงบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น อาจทำให้ต่างชาติเป็นกังวลและไม่กล้ามาเที่ยวในประเทศไทย และยังเป็นเหตุผลให้บริษัททัวร์ต่าง ๆ มากดราคาผู้ประกอบการโรงแรม อีกทั้งค่าเงินบาทของเราก็แข็ง ทำให้คนต่างชาติมาใช้เงินท่องเที่ยวลดลงแทนที่จะอยู่ยาวกว่านี้

         จากนั้นเราก็มุ่งหน้าไปหาดป่าตอง สภาพก็ไม่ต่างจากพัทยา เต็มไปด้วยความวุ่นวาย หากใครรักความสงบ และอยากพบทะเลที่สวยงามคงไม่เหมาะกับบริเวณนี้ และขอให้อดใจขับรถไปตามถนนเลียบชายหาดที่หาดกระรนและหาดกะตะ ที่มีน้ำทะเลและชายหาดสวยงาม และสามารถขับรถต่อไปจุดชมวิวสามอ่าวและแหลมพรหมเทพ แต่มีข้อสังเกตให้มาในช่วงเย็นเพื่อชมพระอาทิตย์ตกจะสวยมาก


         ต่อมาให้ขับรถเข้าตัวเมืองไปย่านเมืองเก่าบริเวณ ถนนถลาง ถนนพังงา ถนนเยาวราช ถนนดีบุก ถนนกระบี่ ถนนระนอง ถนนบางกอก รายล้อมไปด้วยอาคารเป็นตึกโบราณอายุเกือบร้อยปีที่ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมแบบ "ชิโนโปรตุกีส" นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูป แวะรับประทานอาหารพื้นเมืองและนานาชาติมากมาย ดื่มกาแฟสูตรภูเก็ตหรือกาแฟสากล ขนมเค้ก ร้านโรตี หรือจะชมแกลลอรีจัดแสดงงานศิลปะ แวะซื้อผ้าพื้นเมืองภูเก็ต และอย่าลืมจบทริปด้วยการหาเวลาไปไหว้พระที่วัดฉลอง เสริมสิริมงคลให้ตัวเองและคนรอบข้าง

         ยอมรับเลยว่าการมาเที่ยวทะเลอันดามันฤดูฝนครั้งนี้ ทั้งโรงแรมที่พักและสถานที่ท่องเที่ยว สามารถตอบโจทย์แนวคิด "7 Greens" ที่เน้นส่งเสริมความยั่งยืน ซึ่งสนับสนุนโดยของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือขอแผนที่ขับรถเที่ยวภูเก็ตได้ที่ ททท. สำนักงานภูเก็ต โทรศัพท์ 0 7621 2213, 0 7621 1036 หรือเว็บไซต์ tourismthailand.org/phuket



ขอขอบคุณข้อมูลจาก