ตามรอยนางฟ้า...หอมกลิ่นดารา...ที่แอล.เอ. (Lisa)
ไม่เพียงแต่เป็นที่ตั้งของเมืองมายาอย่างฮอลลีวูล แอล.เอ หรือ ลอสแองเจลิส ยังมีชายหาดสวย ๆ พิพิธภัณฑ์ดี ๆ และไลฟ์สไตล์หลากหลายให้คุณค้นหา
ในยุคที่วัฒนธรรมแล่นข้ามโลกได้ในชั่วพริบตา เราคุ้นเคยกับดาราดัง และหนังฮอลลีวูดอย่างแทบจะไม่น้อยหน้าคนอเมริกัน และก็พลอยคุ้นเคยกับมหานครอันมีสีสันอย่างลอส แองเจลิส (Los Angeles) ที่มี "ชื่อเล่น" อันคุ้นหูกว่าว่า "แอล.เอ." ไม่แพ้กัน และ แอล.เอ. ไม่ได้มีเพียงสีสันจัดจ้านของฮอลลีวูด รสชาติชีวิตของแอล.เอ. สนุนสนานและหลากหลายชวนให้ค้นหามากไปกว่านั้น...
เที่ยวเมืองนางฟ้าเมื่อไหร่ดี
แอล.เอ. เป็นเมืองหนึ่งที่คับคั่งด้วยนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ซึ่งช่วงที่ถือว่า "พีก" ที่สุดก็คือเดือนกรกฏาคม ถึงสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงหน้าร้อนแดดดี อากาศสดใสถึงแม้อุณหภูมิอาจร้อนจัดได้ถึง 32 องศาเซลเซียส แต่เนื่องจากเป็นเมืองที่อยู่ติดมหาสมุทรแปซิฟิก โดยส่วนใหญ่ของแอล.เอ.จึงมักจะเย็นสบายกำลังดี แม้แต่หน้าหนาวก็ไม่หนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุดก็อยู่ในราว 12 องศาเซลเซียส แต่หน้าหนาวจะมีฝนตกค่อนข้างบ่อย จึงค่อนข้างเฉอะแฉะไม่เหมาะแก่การท่องเที่ยวเท่าใดนัก แต่ถ้าอยากหนีคนเยอะๆ ช่วงหน้าร้อน ลองเลือกช่วงฤดูใบไม้ผลิในระหว่างเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม หรืออาจเลยในช่วงปลายปี รวมเดือนกันยายนถึงพฤษศจิกายน แต่เดือนมิถุนายนเป็นเดือนที่ควรเลี่ยง เพราะเป็นช่วงที่มีหมอกจัดมากที่สุดของปี
5 วันในแอล.เอ.
แอล.เอ. เป็นมหานครอันใหญ่โตอาจเป็นได้ยากที่จะสัมผัสกับเมืองนี้อย่างถึงแก่นในเวลาอันสั้น หากสำหรับนักท่องเที่ยว เวลาอย่างน้อย 5 วัน ก็อาจทำให้คุณได้รู้จักได้ประทับใจกับแอล.เอ.
Paramount Studios
Westwood Memorial Park
วันที่ 3 ศิลปวัฒนธรรมแบบแอล.เอ. เริ่มด้วยการแวะไป Getty Center หรือ J. Paul Getty Museum ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาซานตามอนิก้า ทำให้เห็นวิวอันสวยงามของแอล.เอ. และมหาสมุทรแปซิฟิกได้อย่างเต็มตา ที่นี่ยังงานมีงานศิลปะที่น่าสนใจมากมาย และอย่าลืมแวะไปพิพิธภัณฑ์ GettyVilly Malibu สักหน่อยที่นี่มีสวนสายและศิลปะแบบกรีกโรมันที่น่าสนใจมากมาย เช่นเดียวกับพิพิธภัณฑ์อีกสองแห่งที่คนรักศิลปะไม่ควรพลาด นั่นก็คือ Los Angeles County Museum of Art หรือ LACMA ตกเย็นแวะไปเยือน EL Pueblo หรือ Olvera Street ซึ่งเป็นย่านประวัติศาสตร์ของแอล.เอ.และชื่อเมืองนี้ก็ได้ชื่อมาจากโบสถ์เก่าแก่ในย่านนี้ The Cathedral of Our Lady of The Angels แถบนี้มีร้านอาหารเม็กซิกันดี ๆ หลายร้านรวมทั้งร้านเค้าร้านเล็ก ๆ มากมายอีกด้วย
หาด Zuma
Hollywood &Highland Mall
วันที่ 5 ฮูเรฮอลลีวูด ลองตื่นแต่เช้าและไปกินอาหารเช้าที่ Griddle Cafe ในเวสต์ฮอลลีวูดหรือถ้าอยากได้อาหารเช้าหรูๆ สักหน่อยก็ต้องที่ PoloLounge ในโรงแรมเบเวอร์ลี่ฮิลส์ จากนั้นมุ่งหน้าเข้าสู่ใจกลางฮอลลีวูดไปเยี่ยมดาราคนโปรดกันที่ Walk of Fame จากนั้นไปแวะ Hollywood &Highland Mall ซึ่งเป็นทำเลที่ดีที่สุดในการถ่ายรูปกับป้าย "Hollywood" ตัวใหญ่ยักษ์ที่คุ้นตากันดี และกินอาหารกลางวันที่นี่ ถ้าเป็นแฟนฮอลลีวูดตัวจริงก็แวะไปที่ Kodalk Theatre ที่ใช้จัดงานออสการ์ หรือไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ฮอลลีวูดเสียหน่อย คนชอบเพลงต้องแวะไปที่ร้าน Amoeba Records
ช่วงบ่ายไปเดินเล่นดูร้านรวงเก๋ๆ ที่ย่านเซ็ตบูลเลอวาร์ดและเมลโรสอะเวนิส ตกเย็นไปชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่ชายหาดซานตามอนิก้า และกินอาหารค่ำคืนนี้แถบเมนสตรีทในซานตามอนิก้า จบลงด้วยการไปเต้นรำที่ Cahuenga Corridor แถบฮอลลีวูด
แอล.เอ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายให้ได้สัมผัส โดนเฉพาะเด็ก ๆ (หรือแม้แต่ผู้ใหญ่) จะต้องชอบ สวนสนุกสุดมันอย่าง ดิสนีย์แลนด์ หรือ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ ซึ่งถ้าคุณมีเวลาเหลืออีกสักวันก็อาจจัดโปรแกรมสำหรับการท่องเที่ยวสวนสนุนเหล่านี้ได้
ช้อปสนุกสไตล์แอล.เอ.
แอล.เอ มีช้อปปิ้งมอล์มากมายหลายแห่งซึ่งมีทุกอย่างที่คุณต้องการ เช่น Hollywood & Highland Mall เป็นจุดนัดพบชื่อดังสำหรับคนที่จะไปเดินแถวWalk 0f Fame หรือ Beverly Center ซึ่งมีวิวสวย ๆ ของแอล.เอ. จากศูนย์อาหารชั้นบน
ย่านบรอดเวย์ในดาวน์ทาวน์จะเป็นย่านของสินค้าราคาไม่แพง แต่จะค่อนข้างวุ่นวายสักหน่อย เพราะเป็นย่านของคนละติน ส่วนย่านถนน Alvarado ในเขตเวสต์เลก ก็เป็นย่านที่คนทำงานส่วนใหญ่ชอบมาเดิน แต่สำหรับการช้อปปิ้งระดับหรูก็ต้องไปที่ โรดีโอไดรฟ์ (Rodeo Drive) แถบเบเวอร์ลี่ฮิลส์ซึ่งเป็นย่านที่มีคนดังชอบมาเดินกัน สำหรับบูติกเก๋ ๆ ของดีไซเนอร์อย่าง Marc Jacobs, Paul Smith หรือ Marni ก็ต้องแถบ Melrose Avenus ส่วนถ้าชอบของเก๋ ๆ ไม่เหมือนใครต้องลองไปเดินแถว Abbot Kinney Boulevard แถบชายหาดเวนิช
ขอขอบคุณข้อมูลจาก