ขอขอบคุณภาพประกอบจาก royalflora2011.com, เฟซบุ๊ก Royal Flora 2011
กลับมาอีกครั้งแล้วจ้า! สำหรับ "มหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554" หรือ "งานพืชสวนโลก 2554" ที่ก่อนหน้านี้เมื่อปี พ.ศ.2549 ประเทศไทยเคยจัดงานพืชสวนโลกไปแล้วครั้งหนึ่ง ปรากฏว่า ได้รับเสียงตอบรับมีผู้เข้าชมอย่างล้นหลามเลยทีเดียว
และสำหรับงานพืชสวนโลกในปีนี้ อากาศก็เย็นสบายเป็นใจให้พืชพรรณไม้ดอกบานสะพรั่งสวยงามเสียเหลือเกิน สงสัยว่าถ้าช่วงนี้ไม่ได้ไปเที่ยวเชียงใหม่แล้วเยี่ยมชมงานพืชสวนโลกก็คงจะตกเทรนด์แน่ ๆ เอาล่ะ...ตามไปดูกันดีกว่าว่า ในงานพืชสวนโลก 2554 นี้ มีอะไรน่าสนใจกันบ้าง
สำหรับงานพืชสวนโลก 2554 มีชื่อเต็ม ๆ ว่า "งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554" (The International Horticultural Exposition: Royal Flora Ratchaphruek 2011) จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ.2554 -14 มีนาคม พ.ศ.2555 รวม 92 วัน ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเฉลิมพระเกียรติฯ 3 วโรกาสสำคัญของคนไทย คือ
1. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในปี พ.ศ.2554
2. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในมหามงคลสมัยที่จะทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในปี พ.ศ.2555
3. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 60 พรรษา ในปี พ.ศ.2555
นอกจากนั้นแล้ว ยังเป็นการแสดงศักยภาพให้นานาประเทศได้เห็นความสามารถทางด้านการเกษตรของคนไทยอีกด้วย แถมยังเป็นการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจของประเทศได้ด้วย
สัญลักษณ์นำโชคของงานพืชสวนโลก
สำหรับใครที่ได้เข้าไปชมงานพืชสวนโลก ก็จะได้พบกับมาสคอตน่ารัก ๆ หรือสัญลักษณ์นำโชคของงาน ที่ปีนี้แท็คทีมกันมาทั้งหมด 5 ตัว นั่นก็คือ
น้องคูนแสดงถึงการเจริญเติบโต สดใส ร่าเริง เปี่ยมไปด้วยพลัง กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก เป็นตัวแทนของนักอนุรักษ์รุ่นใหม่ คือ New Generation ที่มีมุมมองที่ดีในเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ รักเกษตรกรรม รักโลก รักษ์สิ่งแวดล้อม
ลมบินเป็นตัวแทนของความขยัน ว่องไว ขี้เล่น สนุกสนาน พัดพาความสุขให้ทุกคน หมุนใบพัดเพื่อสร้างพลังงานกล และไฟฟ้า
ดินฉ่ำหมายถึงความแข็งแรง ใจดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มอบแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ และเป็นที่พึ่งพาอาศัยของทุกคน
น้ำใสแสดงถึงความอ่อนโยน ใจเย็น โอบอ้อมอารี สร้างความสดชื่น และอุดมสมบูรณ์ เป็นคู่หูกับ "ดินฉ่ำ" รับหน้าที่ทำให้พืชพรรณเจริญงอกงาม
ไออุ่นเป็นตัวแทนของความมีเสน่ห์ร้อนแรง แต่อบอุ่น มีความเป็นผู้นำ ดูแลทุกคนอย่างตรงต่อเวลาสม่ำเสมอ นำพลังงานแสงอาทิตย์มาให้ทุกวัน
ไฮไลท์เด็ด ๆ ของงานพืชสวนโลก
มาถึงไฮไลท์เด็ด ๆ ของงานพืชสวนโลกกันบ้าง สำหรับใครที่กำลังจะไปเที่ยวชมงานพืชสวนโลกแล้ว ต้องไม่พลาด 10 ไฮไลท์สำคัญของงานที่แนะนำให้ไปชมกัน ได้แก่
1. นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติทั้งสามพระองค์จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "ตามรอยพ่อ เกษตร คือทางออกเพื่อชีวิตที่ยั่งยืน" จัดแสดงในอาคารนิทรรศการ Expo Center 1 โดยนำเสนอโครงการพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ตามด้วยโครงการพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และโครงการส่วนพระองค์ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เกี่ยวกับการปลูกต้นไม้บนหลังคา โดยนำเสนอด้วยเทคนิคพิเศษที่เรียกว่า Panoramic Magic Virtual เป็นการจัดแสดงด้วยรูปแบบสื่อผสมบนจอภาพ 360 องศา เสมือนเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์จริง ตื่นตาไปกับ Model สุดอลังการประกอบฉากเคลื่อนไหว เป็นต้น
2. และนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ หอคำหลวง หอคำหลวง ถือเป็นสัญลักษณ์ของอุทยานหลวงราชพฤกษ์ที่มีความสวยงามตามแบบสถาปัตยกรรมล้านนา ซึ่งในครั้งนี้ พื้นที่บริเวณชั้นล่างของหอคำหลวง ได้ปรับปรุงและตกแต่งใหม่ทั้งหมด เพื่อจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
3. นิทรรศการโลกแมลงงานนี้ได้รวบรวมแมลงมีชีวิตและแมลงไม่มีชีวิตมานำเสนอยิ่งใหญ่กว่าครั้งก่อน โดยจะพบกับด้วงผู้สืบทอดเผ่าพันธุ์จากบรรพบุรุษผู้เป็นเจ้าแห่งทะเล สัตว์ดึกดำบรรพ์ที่เพิ่งค้นพบ และตั๊กแตนกิ่งไม้ ตั๊กแตนใบไม้ เจ้าแห่งการพรางตัว พร้อมฝูงผีเสื้อกลางวันและกลางคืนนับพันตัว ร่วมด้วยการจัดแสงดระบบมัลติมีเดีย นำเสนอเรื่องราวอันหลากหลายของแมลง
4. นิทรรศการ 3Gs 3Rs รากฐานสีเขียวเมื่อวันวาน สืบสานปัจจุบัน สร้างสรรค์อนาคต ลดโลกร้อนเป็นเรื่องของเมืองสีเขียว การปลูกพืชในเมืองใหญ่ เช่น การปลูกพืชในอาคาร การจัดสวนแนวตั้ง ซึ่ง "3Gs 3Rs 5nvเป็นแนวคิดหลัก (Theme) ในการจัดงานครั้งนี้ โดย 3Gs ประกอบด้วย "Greenitude" - การสร้างทัศนคติสีเขียว "Garden" - ให้คนมีความรักโลกสีเขียวและสวน "Generation" - การเรียนรู้ในงานพืชสวนโลกผ่านรุ่นสู่รุ่น ส่วน 3Rs ได้แก่ Reuse - การใช้ซ้ำ Reduce - การลดการใช้ และ Recycle - การนำกลับมาใช้ใหม่ เพื่อจัดการกับทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
5. สวนแสงแห่งจินตนาการ (Imagination Light Garden) ครั้งแรกที่ดวงไฟนับล้านดวงจากพลังงานแสงอาทิตย์กับผีเสื้อเรืองแสง จะได้มาเต้นรำพร้อมเสียงดนตรี ร่วมด้วยใบไม้เรืองแสงแบบ Interactive ตามการเคลื่อนไหว
6. สวนเยาวชนรักษ์โลก (Kids’ Eco Park) สวนแห่งการเรียนรู้ เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกการลดโลกร้อนและการอนุรักษ์ธรรมชาติให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ ด้วยสื่อผสมผสาน Interactive และมัลติมีเดีย พร้อมการ์ตูนแอนนิเมชั่น
7. นวัตกรรมพืชสวนประกอบด้วยนิทรรศการสวนสมุนไพรไทย นำเสนอสมุนไพรไทยมากมาย, นิทรรศการบัวไทย พบกับบัวหนึ่งเดียวในโลก เช่น บัวจิ๋วที่สามารถปลูกในถ้วยกาแฟ บัวยักษ์สีสันแปลกตาสามารถเปลี่ยนสีได้ภายในช่วง 5-6 วันที่ดอกบาน บัววันวิสาข์ และนิทรรศการกล้วยไม้ ลองไปชมกล้วยไม้หายากของเมืองไทย และกล้วยไม้น่าสนใจจากทั่วโลก
8. การประกวดพืชสวนตระการตาไปกับพืชสวนที่เข้าร่วมประกวดกว่า 100 ประเภท ครอบคลุมการประกวดกล้วยไม้ ไม้ดอก ไม้ใบประดับ การจัดดอกไม้สด ผัก เห็ด ผลไม้ ชาและกาแฟ เช่น การประกวดกล้วยไม้ "สวนสวรรค์แห่งกล้วยไม้นานาพันธุ์"
9. กระเช้าราชพฤกษ์ลอยฟ้า (Giant Flora Wheel)ไฮไลท์เด็ดสุด ๆ ของงานนี้ สำหรับคนที่ไม่กลัวความสูง และต้องการเก็บภาพแห่งความตระการตาทั้ง 360 องศา ต้องไม่พลาดการขึ้นกระเช้าลอยฟ้าสูง 42 เมตรที่จะทำให้คุณเห็นทัศนียภาพมุมสูงในพื้นที่ 470 ไร่ได้อย่างชัดเจน ในราคา 120 บาท ต่อ 6 นาที และในยามค่ำคืน กระเช้าลอยฟ้าแห่งนี้ยังจะเปิดไฟดูสวยงามมากยิ่งขึ้นไปอีก
10. การแสดงพิเศษ ชุด "มหัศจรรย์...พลังสีเขียว"พบกับการแสดงอันน่าตื่นตาตื่นใจ ไม่ว่าจะเป็น ม่านน้ำราชพฤกษ์ ที่จะมาเริงระบำ พร้อมกับชมขบวนพาเหรด แฟนซีราชพฤกษ์ รวมทั้งการแสดงดนตรีวัฒนธรรมทั้งไทยและต่างประเทศด้วย
นอกจาก 10 ไฮไลท์เด็ดของงานแล้ว หากใครยังไม่จุใจ ก็ยังมี "สวนนานาชาติ" ซึ่งจัดแสดงดอกไม้นานาพรรณในแบบฉบับของประเทศต่าง ๆ กว่า 30 ประเทศ ให้ชมกันอีกด้วย เรียกได้ว่ามาเชียงใหม่ที่เดียว เหมือนกับได้ไปเที่ยวทั่วโลกเลยล่ะ
ราคาบัตรเข้าชมงาน
มาถึงตรงนี้ หลายคนคงอยากจะไปเที่ยวงานพืชสวนโลกกันแล้วใช่ไหมล่ะ ไม่ต้องกังวลเลยว่าจะหาซื้อบัตรเข้าชมงานไม่ได้ เพราะสามารถซื้อบัตรได้ที่หน้างานพืชสวนโลกเลย โดยบัตรเข้าชมงานจะแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ
- บัตรประเภทเข้าชมงานครั้งเดียว : ผู้ใหญ่ คนละ 200 บาท , เด็ก (ความสูงไม่เกิน 100 ซม.) / นักศึกษา (อายุไม่เกิน 25 ปี) / ผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป)/ ผู้พิการ คนละ 100 บาท
- บัตรประเภทเข้าชมงานไม่จำกัดจำนวนครั้ง : ผู้ใหญ่ คนละ 800 บาท , เด็ก (ความสูงไม่เกิน 100 ซม.) / นักศึกษา (อายุไม่เกิน 25 ปี) / ผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป)/ ผู้พิการ คนละ 400 บาท
- บัตรประเภทหมู่คณะ 15-50 คน: ผู้ใหญ่ คนละ 150 บาท , เด็ก (ความสูงไม่เกิน 100 ซม.) / นักศึกษา (อายุไม่เกิน 25 ปี) / ผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป)/ ผู้พิการ คนละ 70 บาท
การเดินทางมายังงานพืชสวนโลก
หากมาถึงจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ต้องการเดินทางต่อไปยังสถานที่จัดงาน สามารถเดินทางไปได้ดังนี้ค่ะ
ทางรถยนต์ - จากตัวเมืองเชียงใหม่ วิ่งมาทางทิศใต้ประมาณ 6 กิโลเมตร โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 108 จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าสู่สถานที่จัดงานอีกประมาณ 2 กิโลเมตร
- จากท่าอากาศยานสากลจังหวัดเชียงใหม่ วิ่งเลียบคลองชลประทานมาทางทิศใต้ประมาณ 6 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าสู่สถานที่จัดงานอีกประมาณ 2 กิโลเมตร
ทางรถขนส่งสาธารณะ ทางจังหวัดเชียงใหม่ได้จัดบริการรถรับจ้างสาธารณะตามจุดหลักต่าง ๆ เช่น โรงแรม สถานีรถไฟ สนามบิน และตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อเดินทางมายังสถานที่จัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 ได้ถึงที่เลยค่ะ
เอ้า...ใครที่อดใจไม่ไหวอยากไปเที่ยวแล้วก็เคลียร์คิวเคลียร์งานกันให้พร้อมนะจ๊ะ ย้ำกันอีกครั้งว่า งานพืชสวนโลก 2554 จะจัดกันตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ.2554 -14 มีนาคม พ.ศ.2555 ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ โดยวันจันทร์-ศุกร์ ประตูจะเปิดตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น. แต่ถ้าเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะเปิดให้เข้าชมถึง 22.00 น. กันเลยค่ะ
หากต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถโทรศัพท์ไปได้ที่ศูนย์บริการข้อมูล 0-2610-2011 (เวลา 08.30-19.30 น. ทุกวัน) หรือคลิกเข้าไปดูที่ www.royalflora2011.com ได้เลยจ้า
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
royalflora2011.com
