เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณเกร็งข้อลากยาว จาก เว็บไซต์พันทิป
ภาพชายหาดที่สวยงาม และน้ำทะเลที่ใสสะอาด ส่งผลให้ "หมู่เกาะพีพี" กลายเป็นที่รู้จักของชาวไทย และคนทั่วโลก โดยแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนหมู่เกาะแห่งนี้เป็นจำนวนมาก และหลายคนก็หลงใหลในธรรมชาติของหมู่เกาะแห่งนี้ จนกลายเป็นแขกประจำของทะเลอันดามันทางภาคใต้ของไทยไปโดยปริยาย
แต่ไม่น่าเชื่อว่า ณ ขณะนี้ ทัศนียภาพความสวยงามของ "หมู่เกาะพีพี" กลับถูกบดบังด้วยเศษขยะจำนวนมหาศาลที่ลอยขึ้นมาริมชายหาด ดังที่ คุณเกร็งข้อลากยาว สมาชิกเว็บไซต์พันทิป นำรูปถ่ายบริเวณอ่าวโละดาลัม เกาะพีพีดอน ซึ่งถ่ายเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม เวลาประมาณ 12.00 น. มาโพสต์ในห้องบลู แพลนเน็ต เพื่อบอกให้ทุกคนรู้ และตั้งคำถามว่า "ขณะนี้กำลังเกิดอะไรขึ้นกับหมู่เกาะที่สวยงามติดอันดับโลกแห่งนี้?"
นั่นก็เพราะภาพถุงพลาสติก กระป๋องเบียร์ ถุงขนม กล่องนม ขวดน้ำ เศษใบไม้...ชิ้นน้อยชิ้นใหญ่ ถูกคลื่นซัดมาอยู่ริมหาดทรายจนดูสกปรก กลายเป็นภาพที่ทำให้น้ำทะเลใส ๆ บน "อ่าวโละดาลัม" ถูกมองในแง่ลบจากผู้ที่พบเห็น แม้กระทั่งในเว็บไซต์พันทิป ภาพดังกล่าวก็กลายเป็นประเด็นร้อนให้ชาวอินเทอร์เน็ตวิพากษ์วิจารณ์กัน โดยส่วนใหญ่รู้สึกตกใจ และเศร้าใจกับภาพความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับเกาะพีพี จนถึงขนาดเปรยว่าเกาะพีพีไม่น่าเที่ยวอีกต่อไปแล้ว...
อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีชาวเว็บไซต์พันทิปแสดงความคิดเห็น เพื่อร่วมกันค้นหาสาเหตุที่ทำให้ชายหาดของเกาะพีพีเต็มไปด้วยขยะมากมายขนาดนี้ โดยสาเหตุหนึ่งที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดมากที่สุดก็คือ เนื่องจากช่วงเดือนพฤษภาคม-ตุลาคมของทุกปี จะเป็นหน้ามรสุม ทำให้คลื่นพัดพาเอาขยะจากที่อื่นขึ้นมาติดตามชายฝั่งเป็นจำนวนมหาศาล ซึ่งแม้จะมีชาวบ้าน หรือเจ้าหน้าที่ชายหาดคอยดูแลเก็บกวาดแล้ว แต่เพราะขยะเหล่านี้จะลอยขึ้นมาทุก ๆ ชั่วโมง จึงไม่สามารถเก็บกวาดได้หมด และภาพเศษขยะบนอ่าวโละดาลัม ก็จะคล้าย ๆ กับชายหาดบนเกาะอื่น ๆ ในทะเลอันดามัน ที่แม้ว่าจะเป็นเกาะที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ แต่ก็จะพบเห็นขยะอยู่เกลื่อนชายหาดในช่วงมรสุมเช่นกัน
แต่ขณะเดียวกัน ก็ยังมีคนแย้งด้วยว่า แม้ว่าในช่วงหน้ามรสุม กระแสน้ำจะพัดพาขยะลอยขึ้นมาติดชายฝั่งเป็นเรื่องปกติ แต่หากชาวบ้าน ผู้ประกอบการ หรือนักท่องเที่ยวไม่ทิ้งขยะลงทะเลแต่แรก ก็คงจะไม่มีขยะที่ไหนลอยกลับคืนมาให้เห็นมากมายเช่นนี้ ดังนั้น จุดเริ่มต้นของ "ขยะ" เหล่านี้ ก็น่าจะมาจากฝีมือมนุษย์เป็นอันดับแรก
เพราะฉะนั้น เราคงไม่จำเป็นต้องมานั่งถกเถียงกันว่า ขยะที่อยู่เกลื่อนชายหาดเหล่านี้เป็นฝีมือของธรรมชาติที่พัดพาขึ้นมาหรือไม่ และควรจะกล่าวโทษใครอย่างไร แต่สิ่งที่เราควรใส่ใจ และให้ความสำคัญที่สุดก็คือ "จิตสำนึก" ที่มนุษย์ควรพึงกระทำต่อธรรมชาติมากกว่า เพราะจิตสำนึกที่ดีของมนุษย์จะช่วยรักษาสภาพความงดงามของธรรมชาติเอาไว้ได้
เช่นนั้นแล้ว หากคนไทยทุกคนทำหน้าที่เป็น "เจ้าบ้านที่ดี" ช่วยกันดูแลคนละไม้คนละมือ ไม่ทิ้งขยะลงทะเล หรือตามแม่น้ำลำคลอง ช่วยกันเก็บขยะที่เห็นตามชายหาด หรือในท้องทะเลกลับมาทิ้งในที่ทิ้งขยะอย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นที่เกาะพีพี หรือว่าสถานที่ท่องเที่ยวแห่งไหน ๆ ก็ตาม นอกจากจะเป็นการช่วยเยียวยาธรรมชาติที่กำลังถูกคนมักง่ายทำลายแล้ว ยังจะช่วยให้เมืองไทยเป็นเมืองที่น่าเที่ยว น่าจดจำ และน่าประทับใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลกไปอีกนานแสนนาน
มาช่วยกันดูแลทรัพย์สมบัติของธรรมชาติของพวกเราให้งดงามดังเดิมกันเถอะค่ะ
