x close

เรื่องน่ารู้อิสราเอล ประเทศมากภูมิหลัง ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ 3 ศาสนา

          ประเทศอิสราเอล กับหลากเรื่องน่ารู้ดินแดนแห่งอารยธรรม ประวัติศาสตร์ และศูนย์กลางวัฒนธรรมของชาวยิว และยังมากด้วยเสน่ห์น่าค้นหา

          อิสราเอล (Israel) ประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน หลายคนน่าจะยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับประเทศนี้เท่าไรนัก หรือบ้างก็น่าจะยังไม่เคยเดินทางไปท่องเที่ยว วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับประเทศนี้ให้มากขึ้นกัน ทั้งในเรื่องราวประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ตลอดจนวิถีชีวิตต่าง ๆ 

อิสราเอล (Israel)

ที่ตั้งของประเทศอิสราเอล

          อิสราเอล เป็นประเทศในตะวันออกกลาง บนชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและชายฝั่งเหนือของทะเลแดง มีจำนวนประชากรประมาณ 9 ล้านคน ประกอบด้วยหลากหลายชาติพันธุ์ ทั้งชาวยิว ชาวอาหรับ รวมถึงชาวยิวที่อพยพมาจากยุโรป แอฟริกา เอเชีย และประเทศในตะวันออกกลางอื่น ๆ

อิสราเอล

เมืองหลวงของอิสราเอล

          หลายคนอาจมีความสงสัยว่าเมืองหลวงของอิสราเอลคือ กรุงเทลอาวีฟ (Tel Aviv) หรือ เยรูซาเลม (Jerusalem) กันแน่ ? แต่จากเว็บไซต์ กรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา กระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า กรุงเทลอาวีฟ เป็นเมืองหลวงของอิสราเอล แม้จะไม่ได้รับการรับรองจากนานาชาติ ด้วยกรณีพิพาทในเรื่องของดินแดนและเชื้อชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง

อิสราเอล

ภาพจาก trabantos / Shutterstock.com

          ในขณะที่เยรูซาเลมเป็นเมืองที่มีความสำคัญและเก่าแก่ ตลอดจนมีประเด็นขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ ซึ่งต่างฝ่ายต่างบอกว่าเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของทั้ง 2 รัฐ โดยอ้างอิงถึงสถานที่สำคัญของศาสนายูดาห์และศาสนาอิสลาม ที่ตั้งอยู่ในเขตเยรูซาเลมทั้งคู่ และกลายเป็นปัญหาทางการเมืองที่ยังคงยืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบัน

อิสราเอล

ก่อนที่จะมีอิสราเอล

          ก่อนที่เราจะรู้เรื่องราวการก่อกำเนิดของประเทศอิสราเอล เห็นทีต้องย้อนกลับไปรู้จักกับดินแดนปาเลสไตน์ ที่ถือกันว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับ 3 ศาสนา คือ ศาสนายูดาห์ ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม โดยดินแดนนี้เป็นที่ตั้งของเมืองเยรูซาเลมอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งชาวคริสต์เชื่อว่าเป็นสถานที่ตรึงไม้กางเขนพระเยซู ชาวมุสลิมเชื่อว่ามัสยิดอัลอักศอในเมืองนี้ เป็นสถานที่ที่นบีมุฮัมมัดได้เดินทางสู่ฟากฟ้า และชาวยิวเชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งพันธสัญญาที่พระเจ้าประทานให้

          และด้วยความสำคัญของดินแดนแห่งนี้ที่เชื่อมโยงกับความเชื่อของแต่ละศาสนา จึงทำให้ต่างฝ่ายอยากที่จะครอบครองดินแดนนี้จนกลายเป็นความขัดแย้งมาอย่างยาวนาน ซึ่งในอดีตดินแดนแห่งนี้มีชาวยิวและชาวฮิบรูเคยอาศัยอยู่ก่อนแล้ว แต่มีเหตุให้ต้องย้ายออกไปยังดินแดนอื่น ๆ หากแต่สิ่งที่ยังอยู่ในใจของพวกเขานั่นคือ ความปรารถนาที่จะกลับมายังดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เหมือนเดิม 

กำเนิดอิสราเอล

          ย้อนกลับไปเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อครั้งจักรวรรดิออตโตมันพ่ายแพ้และยอมยกดินแดนปาเลสไตน์ให้กับอังกฤษ และได้อนุญาตให้ชาวยิวอพยพเข้ามาอยู่ได้ จึงทำให้ชาวปาเลสไตน์ในพื้นที่เกิดความไม่พอใจ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็เริ่มมีชาวยิวจากยุโรปอพยพเข้ามา และปัญหาก็เริ่มเกิดขึ้น เมื่อชาวยิวคิดว่าดินแดนแห่งนี้เป็นสิ่งที่พวกเขาสมควรได้รับจากการที่พระเจ้าประทานให้ ในขณะที่ชาวปาเลสไตน์ก็คิดว่าทำไมถึงต้องยอมแบ่งดินแดน ความขัดแย้งจึงค่อย ๆ ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น จนเมื่ออังกฤษได้ถอนกำลังออกจากพื้นที่ จึงทำให้ชาวยิวสถาปนา The state of Israel เป็นเหตุให้ชาวอาหรับที่อยู่รอบบริเวณเกิดความไม่พอใจ จนเกิดเป็นสงครามแย่งชิงพื้นที่ เกิดเป็นปัญหาซับซ้อนที่ยังคงยืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบัน

ภูมิประเทศอิสราเอล

          พื้นที่ครึ่งหนึ่งของอิสราเอลเป็นภูเขา ที่เหลือทางตอนใต้เป็นที่ราบสูงและทะเลทราย จึงทำให้สภาพอากาศทั่วไปมีแดดจัดเกือบตลอดทั้งปี หากจะแตกต่างกันบ้างตามแต่ละภูมิภาค ได้แก่
 

  • ทางตอนเหนือ อากาศอบอุ่นและค่อนข้างเย็นในช่วงฤดูหนาว ส่วนแถบภูเขาและที่ราบสูงจะมีหิมะตก
     
  • ทางแถบชายฝั่งทะเลและตอนกลาง มีอากาศร้อนชื้นและเย็น
     
  • ทางภาคตะวันออกและตอนใต้ มีอากาศร้อนจัดในตอนกลางวัน และอากาศเย็นในช่วงกลางคืน

สถานที่ท่องเที่ยวอิสราเอล มีอะไรบ้าง ?

          อิสราเอล นอกจากจะเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์เก่าแก่แห่งหนึ่งของโลกแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น
 

  • เมืองเทลอาวีฟ (Tel Aviv)

    เมืองท่าที่มีความสำคัญของอิสราเอล ผู้คนตลอดจนอาคารบ้านเรือนที่นี่ดูโอ่อ่า ทันสมัย และสะอาดตา ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร บาร์ และห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ตลอดจนผู้คนที่นี่ค่อนข้างมีความหลากหลาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวยิวที่ย้ายกลับมาจากที่ต่าง ๆ ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้กับเมืองเทลอาวีฟ ในแง่ของการผสมผสานวัฒนธรรมอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
อิสราเอล

  • เมืองเยรูซาเลม (Jerusalem)

    เมืองสำคัญของอิสราเอล เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ในฐานะดินแดนศักดิ์สิทธิ์อันเป็นต้นกำเนิดของทุกอย่าง เหตุการณ์สำคัญในพระคัมภีร์ถูกจารึกไว้ว่าเกิดขึ้นที่นี่ อีกทั้งชาวมุสลิมเชื่อว่าเป็นเมืองที่นบีมุฮัมมัดถูกรับขึ้นไปบนสวรรค์ และชาวยิวก็ถือเอาส่วน Western Wall เป็นแหล่งศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองเช่นกัน นั่นจึงทำให้เมืองเยรูซาเลมมีความสำคัญยิ่งสำหรับทุกคนในอิสราเอล
อิสราเอล

          ภายในเมืองเยรูซาเลมยังมีศาสนสถานต่าง ๆ เช่น Dome of the Rock มัสยิดอัลอักศอ, Wailing Wall กำแพงร้องไห้ และ Church of the Holy Sepulchre โบสถ์พระคูหาศักดิ์สิทธิ์ เป็นต้น เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานทางศาสนา ทั้งคริสต์ อิสลาม และยูดาห์ อันอบอวลไปด้วยวัฒนธรรมทางศาสนาที่แตกต่างกันมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

อิสราเอล

อิสราเอล

อิสราเอล

ภาพจาก photo.ua / Shutterstock.com

  • ทะเลสาบเดดซี (Dead sea)

    จุดเด่นทางภูมิศาสตร์ของอิสราเอลที่มีทั้งทะเลทราย ภูเขา ทะเลสาบ และชายหาด จึงทำให้มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจ หนึ่งในนั้นต้องมี “ทะเลสาบเดดซี” ทะเลสาบที่มีความเข้มข้นของเกลือสูงมาก จนมีชื่อเสียงเป็นที่ร่ำลือว่าสามารถลอยตัวอยู่ได้โดยไม่มีวันจม ไม่ว่าจะน้ำหนักน้อยหรือมากขนาดไหน นั่นเป็นเพราะน้ำในทะเลสาบมีความหนาแน่นมากกว่าร่างกายของเรานั่นเอง
อิสราเอล

  • ทะเลสาบกาลิลี (Sea of Galilee)

    ทะเลสาบที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับพระเยซูทรงแสดงปาฏิหาริย์ในพระคัมภีร์ เช่น การเดินบนน้ำ การฝ่าพายุในทะเลสาบกาลิลี และคำสอนต่าง ๆ หลายคนที่มีโอกาสมาเยือนทะเลสาบกาลิลี มักจะอดใจไม่ได้ที่จะชื่นชมกับวิวโดยรอบ ทั้งยังสะดวกสบาย เพราะมีทั้งโรงแรมและบ้านพักให้บริการมากมาย จึงเหมาะเป็นที่เที่ยวพักผ่อนสำหรับทุกคนโดยแท้
อิสราเอล

  • ป้อมปราสาทมาซาดา (Masada Fortress)

    ป้อมปราการที่อยู่กลางทะเลทรายยูเดีย เปรียบดั่งเป็นสัญลักษณ์ยิ่งใหญ่ของชาวยิว ในฐานะที่มั่นสุดท้ายที่ชาวยิวใช้เป็นที่ต่อต้านการรุกรานของโรมัน สร้างขึ้นโดยพระเจ้าเฮโรดมหาราช กษัตริย์โรมันแห่งยูเดีย มีลักษณะเป็นภูเขาสลับซับซ้อน บวกกับภูมิทัศน์รอบด้านที่ดูแปลกตา มองออกไปเบื้องหน้าไกล ๆ จะเห็นทะเลสาบเดดซี รวมถึงยังเป็นจุดสำหรับชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของอิสราเอลเลยทีเดียว
อิสราเอล

  • สวนบาไฮ (Baha’i Shrine and Gardens)

    สวนที่สร้างขึ้นโดยผู้นับถือศาสนาบาไฮ ตั้งอยู่บนเทือกเขา Camel มีลักษณะเป็นสวนสวยจัดลดหลั่นลงมาเป็นขั้นบันได โดยได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม มองไปเบื้องล่างจะเห็นเมืองไฮฟาและทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่ทั้งสวยและอากาศดี เป็นความงดงามที่สมบูรณ์แบบสุด ๆ ขณะเดียวกันก็เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเป็นรอบ ๆ โดยจะมีไกด์พาชม
อิสราเอล

คำแนะนำสำหรับการท่องเที่ยวในประเทศอิสราเอล

          สำหรับใครที่อยากเดินทางไปเที่ยวอิสราเอล มีคำแนะนำคร่าว ๆ จากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ดังนี้
 

  • เมื่อเดินทางถึงอิสราเอล เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจะสอบถามวัตถุประสงค์ในการเดินทาง รวมทั้งขอดูบัตรโดยสารเครื่องบินออกจากประเทศและหลักฐานการเงิน หากสงสัยว่าผู้เดินทางจะเข้าไปทำงานในอิสราเอลโดยผิดกฎหมาย
     
  • ผู้เดินทางต้องแสดงอุปกรณ์วิดีโอ เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนตัว และอุปกรณ์ดำน้ำ (หากมี) ต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำท่าอากาศยาน และวางเงินประกันสำหรับอุปกรณ์ดังกล่าว ซึ่งจะได้รับคืนก่อนเดินทางออกจากอิสราเอล
     
  • เก็บรักษาสิ่งของที่มีค่าในตู้นิรภัยของที่พัก
     
  • หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปในพื้นที่กรุงเยรูซาเลม ที่มีคนยิวออร์โธดอกซ์พำนักอยู่ในวันเสาร์
     
  • แต่งกายสุภาพในการเยี่ยมชมศาสนสถาน และสวมใส่เสื้อผ้าที่ปกปิดมิดชิดเมื่อเดินทางเข้าไปในเขตที่มีคนอาหรับพำนักอยู่ ได้แก่ เยรูซาเลมตะวันออก เบธเลเฮม นาซาเรธ รวมทั้ง Mount Olive และเขตเมืองเก่าของเยรูซาเลม
     
  • ไม่ถ่ายรูปคนในพื้นที่ที่มีชาวมุสลิมหรือยิวออร์โธดอกซ์พำนักอยู่
     
  • หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปในบริเวณรอบ ๆ ฉนวนกาซา เวสต์แบงก์ และบริเวณใกล้ชายแดนอิสราเอล-เลบานอน
     
  • ติดตามข่าวสารของท้องถิ่น และหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีผู้คนจำนวนมาก หรือมีการชุมนุมประท้วง


          ทั้งนี้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ telaviv.thaiembassy.org

การขอวีซ่า

          จากเว็บไซต์สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ให้รายละเอียดข้อมูลสำหรับการยื่นเอกสารเพื่อขออนุญาตเดินทางเข้าประเทศอิสราเอล (อัปเดตเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564) ดังนี้
อิสราเอล

  • ผู้ที่จะเดินทางไปประเทศอิสราเอลทุกคน ต้องกรอกแบบฟอร์มออนไลน์ของตนเอง โดยทางการจะไม่รับการยื่นเรื่องแบบคู่สมรส ครอบครัว หรือคณะ
     
  • กรุณาแนบเอกสารที่จำเป็นให้ครบถ้วน หากเอกสารไม่ครบจะไม่ได้รับการพิจารณา ท่านสามารถตรวจสอบรายการเอกสารได้ที่เว็บไซต์ embassies.gov.il
     
  • ต้องดำเนินการยื่นเอกสารก่อนออกเดินทางล่วงหน้า 2 สัปดาห์
     
  • กระบวนการพิจารณาจะใช้เวลา 10 วันทำการ นับตั้งแต่วันยื่นเอกสาร
อิสราเอล

ภาพจาก Alex Eidelman / Shutterstock.com

  • แบบฟอร์มการขอวีซ่า embassies.gov.il
  • ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ embassies.gov.il

          นอกเหนือไปจากภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ของอิสราเอล ประเทศนี้ยังมากมายไปด้วยเสน่ห์ ไม่ว่าจะเป็นผู้คน สถานที่ และวัฒนธรรม สงสัยเห็นทีว่าต้องหาโอกาสเหมาะ ๆ แล้วไปสัมผัสด้วยตัวเองเสียหน่อยแล้ว ^ ^

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เรื่องน่ารู้อิสราเอล ประเทศมากภูมิหลัง ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ 3 ศาสนา อัปเดตล่าสุด 10 ตุลาคม 2566 เวลา 11:46:14 42,815 อ่าน
TOP