เที่ยวญี่ปุ่น กับ 7 เทศกาลห้ามพลาดในเดือนตุลาคม

          ชวนเที่ยวญี่ปุ่นเดือนตุลาคม ช่วงรอยต่อของฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว กับเทศกาลต่าง ๆ ที่จะจัดขึ้นในเดือนนี้ บางเทศกาลก็สำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่น แถมยังจัดขึ้นเพียง 1 ครั้งในรอบปี ถ้าไม่อยากพลาดความสวยงามอลังการของเทศกาลช่วงนี้ อย่าลืมนึกถึงการมาเที่ยวญี่ปุ่นในเดือนตุลาคมนะคะ

          เดือนตุลาคมนอกจากจะเป็นช่วงเวลาที่ชาวญี่ปุ่นได้เต็มอิ่มกับความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีทั่วทั้งประเทศแล้ว ก็ยังเป็นช่วงเวลาที่มีเทศกาลสำคัญต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งบางเทศกาลก็มีความสำคัญและเก่าแก่เป็นอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว และแทบจะทุกเทศกาลที่จัดขึ้นเพียงครั้งเดียวในหนึ่งปี ต้องบอกว่าถ้าใครอยากชมเทศกาลเหล่านี้ ควรมาในช่วงเดือนตุลาคมเท่านั้น วันนี้เราจึงได้รวบรวม 7 เทศกาลที่ห้ามพลาดในเดือนนี้มาฝากกัน จะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน

1. Takayama Autumn Festival (Hachiman Matsuri)

เทศกาลญี่ปุ่น เดือนตุลาคม
ภาพจาก Amehime / Shutterstock.com

          ถ้าถามถึง 1 ใน 3 เทศกาล ที่มีความสวยงามและสำคัญมากที่สุดของญี่ปุ่น แน่นอนว่าจะต้องมีชื่อ Takayama Autumn Festival จัดขึ้นที่เมืองทาคายามะ จังหวัดกิฟุ อยู่ด้วย เพราะเป็นเทศกาลที่มีความหมายต่อคนญี่ปุ่น มีการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศจะเดินทางมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง

          เทศกาลนี้จัดขึ้น 2 ช่วง คือ ฤดูใบไม้ผลิ ประมาณเดือนเมษายนของทุกปี เรียกว่า Sanno Matsuri หรือ Takayama Spring Festival และอีกครั้งในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ประมาณเดือนตุลาคมของทุกปี เรียกว่า Hachiman Matsuri หรือ Takayama Autumn Festival สำหรับจุดเริ่มต้นของการจัดงานนั้น ก็เพื่อเป็นการเตือนให้ทุกคนเตรียมพร้อมสำหรับฤดูต่าง ๆ ที่กำลังจะมาเยือน การจัด Hachiman Matsuri ก็เป็นการเตือนถึงฤดูหนาวที่กำลังจะก้าวเข้ามานั่นเอง

เทศกาลญี่ปุ่น เดือนตุลาคม
ภาพจาก Amehime / Shutterstock.com

          ความพิเศษของงานนี้อยู่ตรงที่ขบวนแห่ในแต่ละวัน ซึ่งตลอดการจัดงานขบวนแห่จะมีการตกแต่งอย่างสวยงาม อย่างในวันแรกเป็นขบวนแห่รถโบราณที่เรียกว่า Yatai ซึ่งประดับประดาไปด้วยโคมไฟสวยงาม ยามค่ำคืนจึงสวยสะดุดตาน่าเที่ยวชมมาก ๆ ส่วนในวันต่อมาก็จะมีการแห่ Mikoshi หรือศาลเจ้าเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ เมือง เสมือนเป็นการอัญเชิญเทพเจ้าไปยังบ้านเรือนของชาวบ้าน โดยในขบวนแห่จะมีผู้คนเข้าร่วมมากกว่า 1,000 คน ผู้เข้าร่วมขบวนจะแต่งกายด้วยชุดพื้นเมือง บรรยากาศคล้ายกับในช่วงศตวรรษที่ 15 เลยทีเดียว

          การจัดงาน Takayama Autumn Festival 2018 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-10 ตุลาคม 2561 ณ เมืองทาคายามะ (Takayama) จังหวัดกิฟุ (Gifu)

          การเดินทาง : สามารถใช้บริการเส้นทางบินตรงกรุงเทพฯ - โตเกียว ของสายการบินสกู๊ต ราคาเริ่มต้นที่เที่ยวละ 3,940 บาท ไปลงที่เมืองโตเกียว จากนั้นใช้บริการ JR Tokaido Shinkansen ไปยังนาโกยาหรือโทยามะ แล้วก็ต่อ JR Hida ไปยังเมืองทาคายามะ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ hida.jp

2. Narita Fireworks Festival

เทศกาลญี่ปุ่น เดือนตุลาคม

          ในค่ำคืนที่อากาศเย็นสบาย ถ้าได้กุมมือใครสักคนแหงนหน้ามองดอกไม้ไฟที่ส่องสว่างหลากหลายสีสันเต้นระบำไปมาบนฟากฟ้า มันคงเป็นความรู้สึกที่ประทับใจไม่น้อยเลยล่ะ ซึ่งโอกาสพิเศษ ๆ แบบนี้คุณจะได้สัมผัสแน่นอนในเทศกาลดอกไม้ไฟนาริตะ (Narita Fireworks Festival) เขต Inbanuma เมืองนาริตะ เมืองที่น่าท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดชิบะ

          เทศกาลดอกไม้ไฟนาริตะ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีช่วงกลางเดือนตุลาคม อันเกิดจากความร่วมมือของหน่วยงานท้องถิ่นและสมาคมดอกไม้ไฟต่าง ๆ โดยภายในงานนักท่องเที่ยวจะได้ชมดอกไม้ไฟมากกว่า 10,000 ลูก ประกอบเสียงดนตรีสุดยิ่งใหญ่ ท่ามกลางบรรยากาศของนาข้าวที่เริ่มเป็นสีเหลืองทองอร่ามสวยงาม

เทศกาลญี่ปุ่น เดือนตุลาคม

          การโชว์ดอกไม้ไฟจะจัดขึ้นตามธีมในแต่ละปี หลากหลายรูปทรงและสีสัน รับรองว่าจะต้องทำให้คุณประทับใจไม่มีวันลืมแน่นอน สำหรับการจัดงาน Narita Fireworks Festival 2018 จะจัดขึ้นในวันที่ 13 ตุลาคม 2561

          การเดินทาง : สามารถใช้บริการเส้นทางบินตรงกรุงเทพฯ - โตเกียว ของสายการบินสกู๊ต ราคาเริ่มต้นที่เที่ยวละ 3,940 บาท ไปลงที่เมืองโตเกียว แล้วจากสถานีโตเกียวให้ใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน Sobu Main Line ไปลงที่สถานี Funabashi เดินประมาณ 5 นาที ไปที่สถานี Keisei-Funabashi เพื่อนั่งรถไฟฟ้า Keisei Main Line ไปลงที่สถานี Sogosando หรือ Kozunomori สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ narita-hanabi.com (ภาษาญี่ปุ่น)

3. Red Spider Lily Festival

เทศกาลญี่ปุ่น เดือนตุลาคม

          Red Spider Lily Festival เป็นเทศกาลที่จะทำให้นักท่องเที่ยวได้ชมความสวยงามของทุ่งดอกพลับพลึงแดงได้อย่างสวยงามตระการตา โดยเทศกาลนี้จะมีให้ชมทุกปี ณ Kinchakuda Manjushage Park เมืองฮิดากะ (Hidaka) จังหวัดไซตามะ (Saitama)

          ชาวญี่ปุ่นจะเรียกเทศกาลนี้กันว่า เทศกาลชมทุ่งดอกฮิกังบานะ (Higanbana) ซึ่งในช่วงปลายฤดูร้อนเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศอบอุ่นกำลังดี ดอกพลับพลึงแดงนี้ก็จะพากันบานสะพรั่งไปทั่วทั้งสวนมากกว่า 5 ล้านดอก พากันพลิ้วไหวไปตามแรงลมที่พัดเบา ๆ อยู่ใต้ร่มเงาอันร่มรื่นของต้นไม้น้อยใหญ่นานาพรรณภายในสวนแห่งนี้ และสวนยังอยู่ติดกับแม่น้ำเล็ก ๆ บรรยากาศเงียบสงบ ยามเช้าที่แสงสาดส่องผ่านช่องใบไม้ลงมายังทุ่งดอกพลับพลึงแดง จะเป็นช่วงเวลาที่งดงามและน่าจดจำสุด ๆ ไปเลยล่ะ

เทศกาลญี่ปุ่น เดือนตุลาคม

          สำหรับ Red Spider Lily Festival 2018 จะจัดขึ้นในช่วงระหว่างกลางเดือนกันยายน-ต้นเดือนตุลาคม 2561 ค่าเข้าชมคนละ 300 เยน (ประมาณ 89.30 บาท : ข้อมูล ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2561)

          การเดินทาง : สามารถใช้บริการเส้นทางบินตรงกรุงเทพฯ - โตเกียว ของสายการบินสกู๊ต ราคาเริ่มต้นที่เที่ยวละ 3,940 บาท ไปลงที่เมืองโตเกียว จากนั้นใช้บริการรถไฟใต้ดินโทเอสายโอเอะโดะ (Oedo Line) จากสถานี Tochomae ไปลงที่สถานี Nerima แล้วต่อรถไฟฟ้าใต้ดินสาย Seibu-Ikebukuro Line ไปลงที่สถานี Koma

4. Shibuya Halloween 2018

เทศกาลญี่ปุ่น เดือนตุลาคม
ภาพจาก MAHATHIR MOHD YASIN / Shutterstock.com

          เทศกาลฮาโลวีน เป็นเทศกาลที่มีการจัดงานกันอย่างคึกคักทั่วโลก ซึ่งหนึ่งในสถานที่ที่มีการพูดถึงว่ามีการจัดงานดีที่สุดและมีผู้เข้าร่วมงานกันอย่างล้นหลามนั้นก็อยู่ที่ย่านชิบูย่า เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น นี่เอง

เทศกาลญี่ปุ่น เดือนตุลาคม
ภาพจาก walailuk koychai / Shutterstock.com

          ในค่ำคืนวันที่ 31 ตุลาคม ของทุกปี ชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวหลายหมื่นคนจะแต่งกายและแต่งหน้าในธีมฮาโลวีนมารวมตัวกันในย่านนี้ ทุกคนต่างมาร่วมฉลองเทศกาลฮาโลวีนด้วยกัน ทั้งบนท้องถนน ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่ผีนานาชาติ หลากหลายรูปแบบ เป็นสีสันและความสนุกสนานที่คุณจะหาชมได้แค่ที่นี่เท่านั้น ลองแต่งกายแบบผีไทยไปโชว์ให้ชาวโลกชมก็เป็นไอเดียที่ดีไม่ใช่เล่นเลยนะ :)

          การเดินทาง : สามารถใช้บริการเส้นทางบินตรงกรุงเทพฯ - โตเกียว ของสายการบินสกู๊ต ราคาเริ่มต้นที่เที่ยวละ 3,940 บาท ไปลงที่เมืองโตเกียว จากสถานีโตเกียว ให้ใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินสาย Marunouchi Line แล้วไปลงที่สถานี Akasaka-mitsuke ต่อรถไฟฟ้าสาย Ginza Line ไปลงสถานีรถไฟฟ้าชิบูย่า


5. Niihama Taiko Festival

เทศกาลญี่ปุ่น เดือนตุลาคม
ภาพจาก akiyoko / Shutterstock.com

          เทศกาลนิอิฮะมะ ไทโกะ (Niihama Taiko Festival) อีกหนึ่งเทศกาลที่สำคัญของภูมิภาคชิโกกุ (Shikoku) ภูมิภาคที่เต็มเปี่ยมไปด้วยธรรมชาติและสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม เทศกาลนี้จะจัดกันอย่างยิ่งใหญ่เพื่อแสดงความขอบคุณฤดูใบไม้ร่วง จัดกันมาอย่างต่อเนื่องยาวนานมากกว่า 1,000 ปี ความโดดเด่นของเทศกาลนิอิฮะมะ ไทโกะ อยู่ที่ขบวนแห่แท่นกลองไทโกะอันใหญ่บิ๊กเบิ้ม มีน้ำหนักราว ๆ 3,000 กิโลกรัม สูง 5.5 เมตร ยาวประมาณ 12 เมตร ต้องใช้แรงงานผู้ชายเกือบ ๆ 200 คน ในการช่วยกันยกแท่นกลองไทโกะแต่ละอัน เป็นการรวบรวมแรงงานผู้ชายที่ไม่น้อยเลยล่ะ เทศกาลนี้จึงถูกเรียกอีกอย่างว่า โอโตโกะ มัตซึริ แปลว่า เทศกาลลูกผู้ชาย

เทศกาลญี่ปุ่น เดือนตุลาคม
ภาพจาก akiyoko / Shutterstock.com

          ความสนุกสนานภายในงานก็คือการที่แต่ละเขตพื้นที่จะประชันกันยกแท่นกลองไทโกะ ไปรอบ ๆ เมือง ผู้เข้าร่วมขบวนจะแต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองในสีสันต่าง ๆ อย่างสวยงาม โดยผู้ที่ทำหน้าที่ยกกลองไทโกะ จะตะโกนว่า "Sorya ! Sorya !" อย่างพร้อมเพรียงกัน มีเสียงดนตรีประกอบให้ความสนุกสนานตลอดการจัดงาน ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวก็จะมาเข้าร่วมชมงานกันอย่างคึกคัก มีงานปักใส่กรอบจากตระกูลช่างมะเอกะวะ ลวดลายมังกรทะยานฟ้าและมังกรทะยานสมุทรให้ได้เลือกซื้อเป็นที่ระลึก พร้อมกับมีเมนูอร่อยอย่างฟุกุสะกุจากแถบนิอิฮะมะ มาให้ได้ลิ้มลองกันด้วย

          ในปีนี้จะมีการจัดงาน Niihama Taiko Festival 2018 วันที่ 16-18 ตุลาคม 2561 หนึ่งปีมีให้ชมเพียงแค่ครั้งเดียวและมีเพียงแค่ที่นี่เท่านั้น จึงอยากให้ได้ลองมาสัมผัสด้วยตัวเองกันสักครั้ง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ city.niihama.lg.jp

          การเดินทาง : สามารถใช้บริการเส้นทางบินตรงกรุงเทพฯ - โอซาก้า ของสายการบินสกู๊ต ราคาเริ่มต้นที่เที่ยวละ 3,940 บาท ไปลงที่เมืองโอซาก้า จาก Osaka Airport Station ให้ใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินสาย Osaka-Monorail ไปลงสถานี Senri-Chuo แล้วต่อสาย Kita-Osaka Kyuko มาลงสถานี Shin-Osaka จากนั้นก็ใช้บริการสาย Tokaido-Sanyo Shinkansen ไปลงสถานี Okayama แล้วต่อสาย Yosan Line-Limited Express อีกครั้ง ไปลงสถานี Niihama แล้วใช้บริการรถโดยสารประจำทางท้องถิ่นไปยัง Yamane Park

6. Jidai Matsuri

เทศกาลญี่ปุ่น เดือนตุลาคม
ภาพจาก Kobby Dagan / Shutterstock.com

          ถ้าอยากรู้ว่าในช่วงระยะเริ่มแรกของการก่อตั้งเมืองเกียวโตนั้น บรรยากาศเป็นอย่างไร ต้องไม่พลาดกับงานเทศกาลสุดยิ่งใหญ่ของเมืองเกียวโต อย่างเทศกาล Jidai Matsuri เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในวันที่ 22 ตุลาคม เพื่อเป็นการรำลึกถึงวันก่อตั้งเมืองเกียวโต ซึ่งเทศกาลนี้ได้จัดอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1895 จนถึงปัจจุบันก็รวมเป็นระยะเวลามากกว่า 100 ปีเลยทีเดียว

เทศกาลญี่ปุ่น เดือนตุลาคม
ภาพจาก Aumphotography / Shutterstock.com

          ไฮไลต์ของเทศกาล Jidai Matsuri อยู่ที่ขบวนแห่สุดตระการตา ที่จะเริ่มจากพระราชวังอิมพีเรียล ไปจนถึงศาลเจ้าเฮอัน (Heian Shrine) ขบวนแห่นี้จะมีความยาวมากกว่า 2 กิโลเมตร แบ่งออกเป็นขบวนการแสดงต่าง ๆ มากมาย ซึ่งแต่ละการแสดงก็จะเกี่ยวข้องกับการก่อตั้งเมืองเกียวโต ผสมผสานกับวัฒนธรรมดั้งเดิมในยุคเอโดะจนถึงสมัยฟื้นฟูเมจิ มีผู้ร่วมอยู่ในขบวนมากกว่า 2,000 คน โดยผู้ที่ร่วมอยู่ในขบวนก็จะแต่งกายแบบยุคเอโดะและยุคฟื้นฟูเมจิทั้งหญิงและชาย ทำให้มีบรรยากาศเหมือนราวกับว่าได้ย้อนกลับไปในยุคนั้นจริง ๆ

          การเดินทาง : สามารถใช้บริการเส้นทางบินตรงกรุงเทพฯ - โอซาก้า ของสายการบินสกู๊ต ราคาเริ่มต้นที่เที่ยวละ 3,940 บาท ไปลงที่เมืองโอซาก้า จาก Osaka Airport Station ให้ใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินสาย Osaka-Monorail ไปลงสถานี Senri-Chuo จากนั้นต่อสาย Kitaosakakyuko ไปลงสถานี Shin-Osaka แล้วใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินสาย Tokaido-Sanyo Shinkansen ไปยังสถานีเกียวโต สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ discoverkyoto.com

7. Kurama Fire Festival

เทศกาลญี่ปุ่น เดือนตุลาคม

          เทศกาลไฟแห่งคุรามะ หรือเทศกาลคุระมะ โนะ ฮิมัตสึริ (Kurama no Hi-Matsuri) เป็นอีกหนึ่งเทศกาลสำคัญของเมืองเกียวโต เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เมืองเล็ก ๆ อันเงียบสงบของเกียวโตส่องสุกสว่างขึ้นมาเลยก็ได้ เพราะจะมีการแห่ขบวนคบเพลิงไฟไปรอบ ๆ เมืองอย่างสวยงามอลังการ 

เทศกาลญี่ปุ่น เดือนตุลาคม

          ในค่ำคืนของวันที่ 22 ตุลาคม ทุกปี ณ ศาลเจ้า Yuki Shrine เขตภูเขาคุรามะ (Kurama) เมืองเกียวโต คบเพลิงน้อยใหญ่จำนวนมากจะถูกเติมไฟให้ลุกโชน ส่องสว่างขึ้นท่ามกลางความมืดมิด แล้วคบเพลิงเหล่านี้ก็จะถูกแห่วนไปรอบ ๆ หมู่บ้านบริเวณเชิงเขาโดยผู้คนที่เข้าร่วมขบวนซึ่งแต่งกายด้วยชุดพื้นเมือง คบเพลิงที่ใช้ในเทศกาลนี้มีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ บางอันมีน้ำหนักมากถึง 80 กิโลกรัมเลยทีเดียว

          แน่นอนว่าเมื่อมีคบเพลิงจำนวนมากมายจุดขึ้นพร้อม ๆ กัน หมู่บ้านทั้งหมู่บ้านก็มีแต่สว่างขึ้น เมื่อประกอบกับดนตรีอันสนุกสนาน ก็ทำให้เทศกาลนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอย่างน่าอัศจรรย์

          การเดินทาง : สามารถใช้บริการเส้นทางบินตรงกรุงเทพฯ – โอซาก้า ของ สายการบินสกู๊ต ราคาเริ่มต้นที่เที่ยวละ 3,940 บาท ไปลงที่เมืองโอซาก้า จาก Osaka Airport Station ให้ใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินสาย Osaka-Monorail ไปลงสถานี Senri-Chuo จากนั้นต่อสาย Kitaosakakyuko ไปลงสถานี Shin-Osaka แล้วใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินสาย Tokaido-Sanyo Shinkansen ไปยังสถานีเกียวโต แล้วจากเมืองเกียวโตก็ให้มาตั้งต้นที่สถานีรถไฟฟ้า Tofukuji จากสถานีนี้ก็ไปลงที่สถานี Demachiyanagi แล้วต่อรถไฟฟ้าใต้ดินสาย Eizan Main Line ไปลงที่สถานี Kurama ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ discoverkyoto.com

          เห็นความน่าสนใจของแต่ละเทศกาลแล้ว ก็อยากมีโอกาสไปสัมผัสกันสักครั้งใช่ไหมล่ะคะ แล้วจะรออะไรละคะ จองตั๋วไปทัวร์ญี่ปุ่นในช่วงเดือนตุลาคมนี้กันเลย จองเลย ๆ ห้ะ...อะไรนะ ติดขัดเรื่องตั๋วเครื่องบินเหรอ ? มาค่ะ....มารวมกันตรงนี้ เราจะชี้เป้าไปแหล่งจองตั๋วเครื่องบินดี ๆ ให้ คลิกไปเลยที่ flyscoot.com

          ทำไมต้องบินไปญี่ปุ่นกับสกู๊ตด้วยล่ะ ? ตั้งใจอ่านดี ๆ นะคะ เราจะค่อย ๆ เล่าให้ฟัง เหตุผลแรกที่ควรเลือกสกู๊ตก็เพราะว่าในช่วงเดือนตุลาคมนี้ เส้นทางบินตรงกรุงเทพฯ - โตเกียว และกรุงเทพฯ - โอซาก้า ราคาจะเริ่มต้นเพียงเที่ยวละ 3,940 บาทเท่านั้น ฟังไม่ผิดค่ะ ราคาแค่นี้จริง ๆ โดนใจสายเที่ยวไปแล้วหนึ่งขั้น

นกสกู๊ต

          ยังไม่พอเท่านั้นนะคะ นอกจากจะจ่ายในราคาที่ดีงามต่อใจมาก ๆ แล้ว ยังจะได้นั่งเครื่องบิน 787 ดรีมไลเนอร์ด้วยนะ ความพิเศษของเครื่องบินประเภทนี้ก็อยู่ที่ความกว้างของลำตัวเครื่อง ซึ่งจะทำให้ห้องโดยสารมีพื้นที่กว้างขวางมากยิ่งขึ้น พื้นที่เก็บกระเป๋าเหนือศีรษะจึงใหญ่จุใจ สามารถเก็บของได้มากมาย บรรยากาศภายในห้องโดยสารก็ดูโล่งกว้าง ผ่อนคลาย ที่สำคัญขนาดความกว้างเก้าอี้ก็มากถึง 18 นิ้ว และยังมีระยะห่างระหว่างที่นั่งกว้างถึง 31 นิ้ว เลยทีเดียว คราวนี้ไม่ว่าจะขยับไปด้านไหน ก็สบาย ๆ จะปรับเบาะให้เอนลงเพื่อนอนหลับพักผ่อนบนเครื่องบินก็ทำได้กว้างมากขึ้น โอ๊ย...แค่นี้ก็เอาใจไปเต็ม ๆ แล้วค่ะ ถือว่าคุ้มค่าเกินราคาไปไกลโขเลยทีเดียว

          ความดีงามของสกู๊ตยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะเมื่อเครื่องบินบินไปที่ความสูงมากกว่า 40,000 ฟุตแล้ว ไม่ว่าคุณจะเลือกจองที่นั่งชั้นประหยัด หรือ ScootBiz ก็สามารถเล่นอินเทอร์เน็ตได้ เพราะมี Wi-Fi ออนบอร์ดทุกที่นั่ง เพิ่มความพิเศษให้กับผู้โดยสารชั้น ScootBiz อีกนิดด้วยที่ชาร์จแบตเตอรี่ ถ้าหากเครื่องมือสื่อสารหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่งสัญญาณว่าแบตเตอรี่กำลังอ่อนแรง ก็เสียบปลั๊กชาร์จไฟกันได้เลย 

          นอกจากนี้เส้นทางบินตรงกรุงเทพฯ - โตเกียว และกรุงเทพฯ - โอซาก้า ที่ว่านี้ยังมีให้บริการอย่างต่อเนื่องทั้งสัปดาห์ โดยเส้นทางบินตรงกรุงเทพฯ - โตเกียว จะมีวันละ 2 เที่ยวบิน ส่วนเส้นทางบินตรงกรุงเทพฯ - โอซาก้า ก็มีมากถึง 3 เที่ยวบินใน 1 สัปดาห์เลยล่ะ รู้แล้วใช่ไหมคะ ว่าทำไมเราถึงชี้เป้าให้เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นกับสกู๊ต ^^ ตั๋วเครื่องบินก็ดีต่อใจ สถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นก็สวยงามพาใจละลาย ไปค่ะ...ไปเที่ยวญี่ปุ่นกัน :)

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
flyscoot.com, hida.jp, jnto.or.th, japan-guide.com, narita-hanabi.com, japanistry.com, samuraimeetups.or.jp, tokyocheapo.com, jpninfo.com, japanvisitor.com, matcha-jp.com, ohmatsuri.com, visitehimejapan.com, tourism-alljapanandtokyo.org, city.niihama.lg.jp, discoverkyoto.com, kyototourism.org, jnto.go.jp และ การท่องเที่ยวญี่ปุ่น - Visit Japan

Advertisement
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เที่ยวญี่ปุ่น กับ 7 เทศกาลห้ามพลาดในเดือนตุลาคม อัปเดตล่าสุด 31 ตุลาคม 2561 เวลา 14:51:20 41,859 อ่าน
TOP