หลังจากที่ในหลวง รัชกาลที่ 10 มีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานที่ดินภายในศูนย์ห้วยฮ่องไคร้ ที่เป็นส่วนของเทือกเขารูปเกือกม้าประมาณ 40 ไร่ โดยให้สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ดำเนินการติดตั้งสถานีกล้องโทรทรรศน์วิทยุขนาดใหญ่จำนวน 2 จุด เพื่อดำเนินโครงการดาราศาสตร์ที่ก้าวหน้าที่สุดของโลกนั้น หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินชื่อของศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ กันมาบ้าง แต่วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับที่นี่กันให้มากขึ้นค่ะ พร้อมทั้งแนะนำกิจกรรมที่น่าสนใจภายในศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ด้วย
![ห้วยฮ่องไคร้ เชียงใหม่]( "ห้วยฮ่องไคร้ เชียงใหม่")
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่ในเขตรอยต่อของอำเภอป่าเมี่ยง และตำบลแม่โป่ง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ บนถนนหลวงเส้นทางที่ 118 สายเชียงใหม่ - เชียงราย ระยะทางประมาณ 27 กิโลเมตร โดยอยู่ทางขวามือ ห่างจากถนนประมาณ 2 กิโลเมตร
![ห้วยฮ่องไคร้ เชียงใหม่]( "ห้วยฮ่องไคร้ เชียงใหม่")
![ห้วยฮ่องไคร้ เชียงใหม่]( "ห้วยฮ่องไคร้ เชียงใหม่")
![ห้วยฮ่องไคร้ เชียงใหม่]( "ห้วยฮ่องไคร้ เชียงใหม่")
ประวัติความเป็นมาของศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ จัดตั้งขึ้นมาตามแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยได้รับพระราชดำริเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2525 ซึ่งพระองค์มีพระราชประสงค์ที่จะให้ที่นี่เป็นศูนย์กลางในการศึกษา ทดลอง ที่เหมาะสมกับพื้นที่ภาคเหนือ และเผยแพร่แก่ราษฎรให้สามารถนำไปปฏิบัติได้ด้วยตัวเองต่อไป โดยทำการศึกษาพัฒนาป่าไม้ 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง คือ ใช้สอย ไม้ผล ไม้เชื้อเพลิง ซึ่งจะอำนวยประโยชน์ในการอนุรักษ์ดินและน้ำ ตลอดจนคงความชุ่มชื้นเอาไว้เป็นประโยชน์อย่างที่ 4 และพื้นที่ต้นน้ำลำธารให้ได้ผลอย่างสมบูรณ์เป็นหลัก โดยต้นทางเป็นการศึกษาสภาพพื้นที่ป่าไม้ต้นน้ำลำธาร และปลายทางเป็นการศึกษาด้านการประมงตามอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ ผสมกับการศึกษาด้านการเกษตรกรรม ด้านปศุสัตว์และโคนม และด้านเกษตรอุตสาหกรรม
จากพื้นที่เสื่อมโทรมสู่พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต
เดิมที่นี่เคยเป็นพื้นที่เสื่อมโทรมกว้างกว่า 8,500 ไร่ มาวันนี้พื้นที่ดังกล่าวได้รับการพัฒนารูปแบบชลประทาน ที่ควบคู่ไปกับการพัฒนาดินและป่าไม้ จนได้รับการขนานนามว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต มีสิ่งที่น่าสนใจให้ได้เที่ยวชมพร้อมกับศึกษาหาความรู้จากธรรมชาติ ท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้สีเขียว บรรยากาศร่มรื่น พร้อมทั้งยังเหมาะแก่การเข้ามาเยี่ยมชมดูงาน ศึกษาเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในระบบนิเวศลุ่มน้ำ
![ห้วยฮ่องไคร้ เชียงใหม่]( "ห้วยฮ่องไคร้ เชียงใหม่")
![ห้วยฮ่องไคร้ เชียงใหม่]( "ห้วยฮ่องไคร้ เชียงใหม่")
ปัจจุบันมีศูนย์สาขาจำนวน 4 แห่ง
ในปัจจุบันมีหมู่บ้านรอบศูนย์จำนวน 10 หมู่บ้าน และมีศูนย์สาขาจำนวน 4 แห่งที่ผู้สนใจเรื่องใดเป็นพิเศษ ก็สามารถไปเข้าชมและศึกษาตามแต่ละศูนย์ได้ทันที โดยได้แก่
- โครงการศูนย์บริการการพัฒนาขยายพันธุ์ไม้ดอกไม้ผลบ้านไร่ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่
- โครงการพัฒนาเบ็ดเสร็จลุ่มน้ำสาขาแม่ปิงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน
- โครงการพัฒนาพื้นที่ป่าขุนแม่กวงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
- โครงการพัฒนาพื้นที่ห้วยลานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่
พื้นที่เกษตรกรรมสู่ที่ตั้งโครงการวิทยุแปรภาพจากสัญญาณนอกโลก
นอกจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร และเป็นแหล่งศึกษาความรู้ทางด้านเกษตรกรรม ปศุสัตว์และโคนม และด้านเกษตรอุตสาหกรรมแล้ว ในอนาคตอันใกล้ที่นี่ก็จะกลายเป็นสถานที่สำคัญแห่งวงการดาราศาสตร์โลก เพราะสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานที่ดินภายในศูนย์ห้วยฮ่องไคร้ ที่เป็นส่วนของเทือกเขารูปเกือกม้าประมาณ 40 ไร่ ให้สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ดำเนินการติดตั้งสถานีกล้องโทรทรรศน์วิทยุขนาดใหญ่และทันสมัยมากที่สุดของโลก จำนวน 2 จุด ด้วยมีทำเลสถานที่ตั้งที่เหมาะสม อีกทั้งลักษณะภูมิประเทศไทยก็อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรมากที่สุด ทำให้รับ-ส่งสัญญาณภาพจากนอกโลกได้เสถียรมากกว่าประเทศอื่น ๆ
![ห้วยฮ่องไคร้ เชียงใหม่]( "ห้วยฮ่องไคร้ เชียงใหม่")
กิจกรรมที่น่าสนใจภายในศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้
ด้วยพื้นที่ที่กว้างใหญ่ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ ซึ่งครบถ้วนไปด้วยด้านเกษตรกรรม ปศุสัตว์และโคนม และด้านเกษตรอุตสาหกรรม ทำให้ที่นี่มีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย โดยนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเยี่ยมชมกันได้ตลอดทั้งปี กิจกรรมที่ไม่ควรพลาด อาทิ การชมแปลงปลูกหญ้าแฝกทรงปลูกของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช, การเยี่ยมชมสวนสัตว์ป่าขนาดย่อม, การเยี่ยมชมการสาธิตเลี้ยงปลาในกระชัง, การเยี่ยมชมแปลงพืชไร่ แปลงผัก และโรงเพาะเห็ด, เยี่ยมชมสวน 6 ศูนย์, การเยี่ยมชมงานอนุรักษ์และพัฒนาพันธุ์กบ, การเยี่ยมชมฟาร์มแพะและโคนม พร้อมทั้งเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากนมแพะ, การเยี่ยมชมหอเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช, การเยี่ยมชมโครงการไม้สีม่วงเฉลิมพระเกียรติฯ 60 พรรษา, การเยี่ยมชมโครงการสวนหินเฉลิมพระเกียรติฯ 60 พรรษา, การเที่ยวชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติ, การปิกนิกริมอ่างเก็บน้ำกับวิวสวยบาดใจ, เลือกซื้อผลิตภัณฑ์คุณภาพดีจากศูนย์ ในราคาย่อมเยา เป็นต้น
![ห้วยฮ่องไคร้ เชียงใหม่]( "ห้วยฮ่องไคร้ เชียงใหม่")
![ห้วยฮ่องไคร้ เชียงใหม่]( "ห้วยฮ่องไคร้ เชียงใหม่")
การเที่ยวศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าเที่ยวชมศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ สามารถเข้าเที่ยวชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. ส่วนผู้ที่ต้องการเข้าศึกษาดูงานสามารถดูขั้นตอนได้ที่ hongkhrai.com
ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ โทรศัพท์ 0 5338 9228-9 ต่อ 102 / 114 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ hongkhrai.com และเฟซบุ๊ก ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ใครที่ไปเที่ยวเชียงใหม่ แล้วอยากหาที่เที่ยวใหม่ ๆ เพื่อไปเที่ยวผ่อนคลายกับธรรมชาติ พร้อมได้ความรู้มากมายกลับบ้าน ก็ขอแนะนำศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้นี่แหละค่ะ สามารถเที่ยวชมอยู่ได้ทั้งวัน ได้อยู่กับธรรมชาติอย่างเต็มที่ และเที่ยวกันได้ทั้งครอบครัวอีกต่างหาก ดีขนาดนี้ ไปเที่ยวเชียงใหม่ครั้งต่อไปอย่าได้พลาดเชียว :)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
, hongkhrai.com, tsdf.or.th, museumthailand.com
ที่ตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่ในเขตรอยต่อของอำเภอป่าเมี่ยง และตำบลแม่โป่ง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ บนถนนหลวงเส้นทางที่ 118 สายเชียงใหม่ - เชียงราย ระยะทางประมาณ 27 กิโลเมตร โดยอยู่ทางขวามือ ห่างจากถนนประมาณ 2 กิโลเมตร
ประวัติความเป็นมาของศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ จัดตั้งขึ้นมาตามแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยได้รับพระราชดำริเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2525 ซึ่งพระองค์มีพระราชประสงค์ที่จะให้ที่นี่เป็นศูนย์กลางในการศึกษา ทดลอง ที่เหมาะสมกับพื้นที่ภาคเหนือ และเผยแพร่แก่ราษฎรให้สามารถนำไปปฏิบัติได้ด้วยตัวเองต่อไป โดยทำการศึกษาพัฒนาป่าไม้ 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง คือ ใช้สอย ไม้ผล ไม้เชื้อเพลิง ซึ่งจะอำนวยประโยชน์ในการอนุรักษ์ดินและน้ำ ตลอดจนคงความชุ่มชื้นเอาไว้เป็นประโยชน์อย่างที่ 4 และพื้นที่ต้นน้ำลำธารให้ได้ผลอย่างสมบูรณ์เป็นหลัก โดยต้นทางเป็นการศึกษาสภาพพื้นที่ป่าไม้ต้นน้ำลำธาร และปลายทางเป็นการศึกษาด้านการประมงตามอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ ผสมกับการศึกษาด้านการเกษตรกรรม ด้านปศุสัตว์และโคนม และด้านเกษตรอุตสาหกรรม
จากพื้นที่เสื่อมโทรมสู่พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต
เดิมที่นี่เคยเป็นพื้นที่เสื่อมโทรมกว้างกว่า 8,500 ไร่ มาวันนี้พื้นที่ดังกล่าวได้รับการพัฒนารูปแบบชลประทาน ที่ควบคู่ไปกับการพัฒนาดินและป่าไม้ จนได้รับการขนานนามว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต มีสิ่งที่น่าสนใจให้ได้เที่ยวชมพร้อมกับศึกษาหาความรู้จากธรรมชาติ ท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้สีเขียว บรรยากาศร่มรื่น พร้อมทั้งยังเหมาะแก่การเข้ามาเยี่ยมชมดูงาน ศึกษาเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในระบบนิเวศลุ่มน้ำ
ปัจจุบันมีศูนย์สาขาจำนวน 4 แห่ง
ในปัจจุบันมีหมู่บ้านรอบศูนย์จำนวน 10 หมู่บ้าน และมีศูนย์สาขาจำนวน 4 แห่งที่ผู้สนใจเรื่องใดเป็นพิเศษ ก็สามารถไปเข้าชมและศึกษาตามแต่ละศูนย์ได้ทันที โดยได้แก่
- โครงการศูนย์บริการการพัฒนาขยายพันธุ์ไม้ดอกไม้ผลบ้านไร่ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่
- โครงการพัฒนาเบ็ดเสร็จลุ่มน้ำสาขาแม่ปิงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน
- โครงการพัฒนาพื้นที่ป่าขุนแม่กวงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
- โครงการพัฒนาพื้นที่ห้วยลานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่
พื้นที่เกษตรกรรมสู่ที่ตั้งโครงการวิทยุแปรภาพจากสัญญาณนอกโลก
นอกจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร และเป็นแหล่งศึกษาความรู้ทางด้านเกษตรกรรม ปศุสัตว์และโคนม และด้านเกษตรอุตสาหกรรมแล้ว ในอนาคตอันใกล้ที่นี่ก็จะกลายเป็นสถานที่สำคัญแห่งวงการดาราศาสตร์โลก เพราะสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานที่ดินภายในศูนย์ห้วยฮ่องไคร้ ที่เป็นส่วนของเทือกเขารูปเกือกม้าประมาณ 40 ไร่ ให้สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ดำเนินการติดตั้งสถานีกล้องโทรทรรศน์วิทยุขนาดใหญ่และทันสมัยมากที่สุดของโลก จำนวน 2 จุด ด้วยมีทำเลสถานที่ตั้งที่เหมาะสม อีกทั้งลักษณะภูมิประเทศไทยก็อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรมากที่สุด ทำให้รับ-ส่งสัญญาณภาพจากนอกโลกได้เสถียรมากกว่าประเทศอื่น ๆ
กิจกรรมที่น่าสนใจภายในศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้
ด้วยพื้นที่ที่กว้างใหญ่ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ ซึ่งครบถ้วนไปด้วยด้านเกษตรกรรม ปศุสัตว์และโคนม และด้านเกษตรอุตสาหกรรม ทำให้ที่นี่มีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย โดยนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเยี่ยมชมกันได้ตลอดทั้งปี กิจกรรมที่ไม่ควรพลาด อาทิ การชมแปลงปลูกหญ้าแฝกทรงปลูกของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช, การเยี่ยมชมสวนสัตว์ป่าขนาดย่อม, การเยี่ยมชมการสาธิตเลี้ยงปลาในกระชัง, การเยี่ยมชมแปลงพืชไร่ แปลงผัก และโรงเพาะเห็ด, เยี่ยมชมสวน 6 ศูนย์, การเยี่ยมชมงานอนุรักษ์และพัฒนาพันธุ์กบ, การเยี่ยมชมฟาร์มแพะและโคนม พร้อมทั้งเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากนมแพะ, การเยี่ยมชมหอเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช, การเยี่ยมชมโครงการไม้สีม่วงเฉลิมพระเกียรติฯ 60 พรรษา, การเยี่ยมชมโครงการสวนหินเฉลิมพระเกียรติฯ 60 พรรษา, การเที่ยวชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติ, การปิกนิกริมอ่างเก็บน้ำกับวิวสวยบาดใจ, เลือกซื้อผลิตภัณฑ์คุณภาพดีจากศูนย์ ในราคาย่อมเยา เป็นต้น
การเที่ยวศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าเที่ยวชมศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ สามารถเข้าเที่ยวชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. ส่วนผู้ที่ต้องการเข้าศึกษาดูงานสามารถดูขั้นตอนได้ที่ hongkhrai.com
ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ โทรศัพท์ 0 5338 9228-9 ต่อ 102 / 114 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ hongkhrai.com และเฟซบุ๊ก ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ใครที่ไปเที่ยวเชียงใหม่ แล้วอยากหาที่เที่ยวใหม่ ๆ เพื่อไปเที่ยวผ่อนคลายกับธรรมชาติ พร้อมได้ความรู้มากมายกลับบ้าน ก็ขอแนะนำศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้นี่แหละค่ะ สามารถเที่ยวชมอยู่ได้ทั้งวัน ได้อยู่กับธรรมชาติอย่างเต็มที่ และเที่ยวกันได้ทั้งครอบครัวอีกต่างหาก ดีขนาดนี้ ไปเที่ยวเชียงใหม่ครั้งต่อไปอย่าได้พลาดเชียว :)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
, hongkhrai.com, tsdf.or.th, museumthailand.com
