x close

มาทำความรู้จักกับ พระราชวังแวร์ซายส์ แห่งพระเจ้าหลุยส์ ที่ 14

          พาไปทำความรู้จักกับ พระราชวังแวร์ซายส์ (Chateau de Versailles) ประเทศฝรั่งเศส พระราชวังที่ใหญ่และสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก กับสถาปัตยกรรมและการตกแต่งสุดอลังการ สถานที่ที่ครั้งหนึ่งคณะทูตจากสยามในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งอยุธยา เคยเข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14

 
พระราชวังแวร์ซายส์
ภาพจาก alredosaz / Shutterstock.com

พระราชวังแวร์ซายส์
ภาพจาก John_Silver / Shutterstock.com

          พระราชวังแวร์ซายส์ (Chateau de Versailles) ประเทศฝรั่งเศส พระราชวังที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ด้วยความยิ่งใหญ่ หรูหราโอ่อ่า ทั้งสถาปัตยกรรม การตกแต่งภายใน และพื้นที่โดยรอบที่รายล้อมไปด้วยสวนสวยที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป ที่นี่ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่คนทั่วโลกต่างอยากได้ไปเห็นสักครั้งในชีวิต ซึ่งในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 นั้น ก็มีชาวสยามได้มีโอกาสเข้าเฝ้าพระองค์ถึงด้านในพระราชวังแวร์ซายส์มาแล้ว

          จากเหตุการณ์ครั้งนั้นก็ทำให้ชื่อของสยามเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในหมู่ชาวยุโรป นำมาสู่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอันดีมาจนถึงปัจจุบัน ถ้าใครได้ชมละครเรื่องบุพเพสันนิวาส ก็พอจะทราบว่าชาวสยามเหล่านั้น ก็คือคณะทูตที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชได้ทรงแต่งตั้งเพื่อไปเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศฝรั่งเศสนั่นเอง พระราชวังแวร์ซายส์มีความเป็นมาอย่างไร จะสวยงามหรูหรามากแค่ไหน เราไปทำความรู้จักกันเลยค่ะ

พระราชวังแวร์ซายส์
ภาพจาก Alvydas Kucas / Shutterstock.com

พระราชวังแวร์ซายส์อยู่ที่ใด

          พระราชวังแวร์ซายส์ ตั้งอยู่ในเมืองแวร์ซายส์ (Versailles) ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของกรุงปารีส ห่างจากใจกลางเมืองปารีสมาราว ๆ 17 กิโลเมตร

จุดกำเนิดพระราชวังที่ยิ่งสวยงามหรูหราแห่งหนึ่งของโลก

          สำหรับประวัติความเป็นมาของพระราชวังแวร์ซายส์นั้น ต้องย้อนไปจนถึงพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 แห่งฝรั่งเศส ด้วยพระองค์นั้นชอบไล่ล่าสัตว์และชอบใกล้ชิดกับธรรมชาติ พระองค์มีโอกาสมาล่าสัตว์ในป่ารอบ ๆ เมืองแวร์ซายส์อยู่หลายครั้ง จนในปี ค.ศ. 1622 ก็ได้เริ่มซื้อผืนป่าในเมืองนี้เพื่อล่าสัตว์ส่วนพระองค์ จนต่อมาปี ค.ศ. 1623 ก็ทำที่พักขนาดเล็กขึ้นที่นี่ และในปี ค.ศ. 1631 ก็มีการสร้างใหม่ให้กลายเป็นชาโตว์ขนาดย่อม ๆ

          ต่อมาในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส พระองค์ทรงตัดสินพระราชหฤทัยย้ายราชสำนักมาอยู่ที่เมืองแวร์ซายส์ และได้ปรับปรุงพระตำหนักหลังเก่าให้กลายมาเป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่ สวยงามและหรูหราที่สุดในยุโรป เริ่มดำเนินการในปี ค.ศ. 1661 และมีการสร้างเรื่อย ๆ ใช้เวลาในการก่อสร้างร่วมกว่า 30 ปี ตลอดสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส พระองค์ทรงใช้ที่นี่เป็นสถานที่ในการต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ซึ่งรวมทั้งคณะทูตจากสยามในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งอยุธยาด้วย

          พระราชวังแวร์ซายส์ เป็นสถานที่พำนักของกษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์เรื่อยมา จนถึงสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งฝรั่งเศส เมื่อเกิดการปฏิวัติฝรั่งเศสขึ้น ทั้งตัวของพระองค์เองและพระบรมวงศานุวงศ์ก็ได้เสด็จออกจากพระราชวังแวร์ซายส์เพื่อไปพำนักที่พระราชวังตุยเลอรีส์ในปารีส นับแต่นั้นพระราชวังแวร์ซายส์ก็ไม่เคยได้เป็นที่พำนักของกษัตริย์อีกเลย จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1837 พระเจ้าหลุยส์-ฟีลิปที่ 1 แห่งฝรั่งเศส ก็ได้มีคำสั่งให้เปลี่ยนพระราชวังแวร์ซายส์มาเป็นพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส    

ความหรูหราโอ่อ่าของพระราชวังแวร์ซายส์

          ปัจจุบันพระราชวังแวร์ซายส์มีพื้นที่ทั้งหมดมากกว่า 800 เฮกตาร์ แบ่งออกเป็น 5 ส่วนใหญ่ ๆ ด้วยกัน ได้แก่ The Palace, The Gardens, The Estate of Trianon, The Royal Stables และ The Park

          ในส่วนของ The Palace จะเป็นที่ตั้งของอาคารหลักพระราชวังแวร์วายส์ ซึ่งมีสถาปัตยกรรมแบบบาโรค-รอคโคโค สร้างด้วยหินอ่อนและวัสดุที่ดีเยี่ยม แบ่งออกเป็นห้องต่าง ๆ มากกว่า 700 ห้อง เตาผิงมากกว่า 1,200 เตา หน้าต่างอีกกว่า 2,000 บาน และบันไดราว ๆ 60 บันได ภายในพระราชวังแวร์วายส์ตกแต่งเป็นไปในธีมเดียวกัน มีลักษณะสวยงามหรูหราโอ่อ่า ทั้งของตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ล้วนมีการสั่งทำจากวัสดุชั้นดี วิจิตรบรรจง ซึ่งราคาก็แพงลิบลิ่ว ทำให้ต้องใช้เงินจากในพระคลังค่อนข้างมากในการก่อสร้าง

พระราชวังแวร์ซายส์
ภาพจาก Takashi Images / Shutterstock.com

          โดยเฉพาะห้อง The Hall of Mirrors เป็นห้องที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ด้วยการออกแบบที่งดงามเกินบรรยาย มีหน้าต่างกระจกโค้งทั้งหมด 17 บาน ซึ่งเมื่อเปิดออกก็จะเห็นสวนแวร์ซายส์กว้างใหญ่และสวยตระการตา ภายในตกแต่งด้วยภาพวาดบนผนังสุดอลังการและโคมไฟแชนเดอเรีย พร้อมทั้งของตกแต่งสีเหลืองทองอร่าม

          นอกจากนี้ที่นี่ยังเคยเป็นสถานที่ที่ใช้ในการลงนามสัญญาสงบศึกระหว่างสัมพันธมิตรกับจักรวรรดิเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่ 1 พร้อมทั้งลงนามเมื่อครั้งเยอรมนีบุกตีชนะฝรั่งเศสในสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกทั้งยังใช้เป็นสถานที่ต้อนรับบุคคลสำคัญจากทั่วโลก ตั้งแต่สมัยสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส

สิ่งที่น่าสนใจภายในพระราชวังแวร์ซายส์

พระราชวังแวร์ซายส์
ภาพจาก Brian Kinney / Shutterstock.com

          นอกจากห้อง The Hall of Mirrors แล้ว ที่นี่ก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกมากมาย อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าภายในอาคารหลักที่เรียกว่า The Palace นั้นมีการแบ่งออกเป็นห้องต่าง ๆ กว่า 700 ห้อง ซึ่งในแต่ละห้องก็จัดแสดงสิ่งที่น่าสนใจมากมาย พร้อมทั้งจัดแสดงผลงานภาพวาดกว่า 6,100 ภาพ และมีรูปปั้นอีกกว่า 15,000 ชิ้น รวมผลงานต่าง ๆ แล้วภายในพื้นที่ของพระราชวังแวร์ซายส์ทั้งหมดก็มีไม่น้อยกว่า 60,000 ชิ้นเลยทีเดียว

พระราชวังแวร์ซายส์
ภาพจาก Brian Kinney / Shutterstock.com

พระราชวังแวร์ซายส์
ภาพจาก photogolfer / Shutterstock.com

          สิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ ภายในบริเวณ The Palace อาทิ The King’s State Apartments, The Royal Chapel, The Royal Opera House, Marie-Antoinette’s private chambers (อยู่ระหว่างการซ่อมบำรุง), The King\'s Apartments, The King’s Private Apartments, The Queen’s Apartments, The Dauphin and the Dauphine’s apartments, The Congress Chamber, The Gallery of Great Battles เป็นต้น

พระราชวังแวร์ซายส์
ภาพจาก Takashi Images / Shutterstock.com

          นอกจากนี้ก็ยังมีสิ่งที่ไม่ควรพลาดอีกมากมาย เช่น โซน The Gardens เป็นสวนที่อยู่หน้าอาคารพระราชวังแวร์ซายส์ ซึ่งมีการออกแบบและตกแต่งให้สวยงาม จนได้รับการชื่นชมให้เป็นสวนที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก, โซน The Estate of Trianon พระตำหนักเล็ก ๆ ของพระนางมารี อ็องตัวแน็ต (Marie Antoinette) ที่มีการเนรมิตสวนสวยแบบชนบทของอังกฤษไว้ด้านหลัง และมีหมู่บ้านชนบทอยู่ด้วย, โซน The Royal Stables เป็นโซนแกลลอรี่ และโซน The Park อันเป็นสวนกว้างใหญ่ไพศาล

สวนที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป

พระราชวังแวร์ซายส์
ภาพจาก Alvydas Kucas / Shutterstock.com

พระราชวังแวร์ซายส์
ภาพจาก tanit123 / Shutterstock.com

          หากใครได้ชมภาพพระราชวังแวร์ซายส์ จะต้องสะดุดตากับสวนสวย ๆ เบื้องหน้าและรอบข้างของพระราชวังแห่งนี้ด้วยแน่นอน เพราะสวนแห่งนี้นั้นมีการจัดตกแต่งอย่างงดงาม ออกแบบให้มีการปลูกและตัดแต่งต้นไม้เป็นลวดลายที่น่าพิศมัย พื้นที่โดยรอบสะอาดสะอ้าน ร่มรื่น อีกทั้งยังมีรูปปั้นตกแต่งอยู่ทั่วทั้งสวน ที่โดดเด่นที่สุดก็คือ น้ำพุ ที่ตั้งอยู่ใจกลางสวน ซึ่งในโอกาสพิเศษต่าง ๆ ก็จะมีการแสดงน้ำพุพร้อมกับดนตรีด้วย เรียกได้ว่าเป็นสวนที่ใคร ๆ เห็นแล้วก็อยากครอบครองเลยล่ะ

พระราชวังแวร์ซายส์
ภาพจาก Felix Lipov / Shutterstock.com

มรดกโลกอันล้ำค่า

          ด้วยความสวยงามทั้งการออกแบบสถาปัตยกรรม และการตกแต่งภายใน รวมทั้งพื้นที่สวนโดยรอบที่งามสง่า ส่งผลให้พระราชวังแวร์ซายส์ และพื้นที่สวนโดยรอบ ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 1979

พระราชวังแวร์ซายส์กับคณะทูตโกษาปาน

          ในสมัยพระเจ้าหลุยส์ ที่ 14 นั้น ได้ตรงกับสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งอยุธยา ซึ่งเป็นยุคที่ชาติตะวันตกเริ่มเข้ามามีบทบาทกับสยามมากยิ่งขึ้น ชาวฮอลันดาเริ่มเข้ามาข่มเหงสยาม และเพื่อเป็นการให้ทางฝั่งฮอลันดาเกรงขาม สมเด็จพระนารายณ์มหาราชจึงได้เจริญพระราชไมตรีกับพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 มีการส่งคณะทูตไปสู่พระราชสำนักฝรั่งเศสถึง 2 ครั้ง แต่ครั้งที่ประสบความสำเร็จก็คือครั้งที่ 2 อันเป็นคณะทูตของโกษาปาน ซึ่งในสมัยนั้นยังคงดำรงตำแหน่งเป็นพระวิสุทธสุนทร

          สมเด็จพระนารายณ์มหาราชได้แต่งตั้งให้ออกพระวิสุทธสุนทรเป็นราชทูต ออกหลวงกัลยาราชไมตรีเป็นอุปทูต และออกขุนศรีวิสารวาจาเป็นตรีทูต โดยคณะของออกพระวิสุทธสุนทรได้เข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ณ ห้อง The Hall of Mirrors พระราชวังแวร์ซายส์ เมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2229 (ค.ศ. 1686) ด้วยความเก่งกาจด้านการทูต การวางตัวที่ดี และทำถูกต้องตามขนบธรรมเนียมประเพณีของฝรั่งเศสของคณะทูตชุดนี้ ทำให้เป็นที่ยกย่องของทั้งพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 และชาวฝรั่งเศส จนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วยุโรป นับเป็นการเจริญสัมพันธไมตรีที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง

ปัจจุบันของพระราชวังแวร์ซายส์

          ปัจจุบันพระราชวังแวร์ซายส์ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมตั้งแต่วันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) ซึ่งแต่ละโซนก็จะมีการเปิดให้ชมแตกต่างกันไป คือ The Palace ตั้งแต่เวลา 09.00-17.30 น., The Gardens เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น., The Estate of Trianon ตั้งแต่เวลา 12.00-17.30 น. และ The Royal Stables ตั้งแต่เวลา 12.30-17.30 น. ค่าเข้าชมแต่ละโซนก็จะไม่เท่ากันด้วยเช่นกัน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ chateauversailles.fr

          นับว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่อยากให้คุณเก็บไว้ในลิสต์สถานที่ท่องเที่ยวในฝันเลยค่ะ เพราะที่นี่นั้นสวยงามอลังการ คุ้มค่าแก่การไปเยือนสักครั้งแน่นอน ใครเคยไปเที่ยวมาแล้ว ก็คงจะประทับใจยังไม่ลืม ส่วนใครที่กำลังวางแผนไปเที่ยวฝรั่งเศสก็อย่าลืมแวะไปเที่ยวพระราชวังแวร์ซายส์กันนะคะ ไปตามรอยพี่ขุนศรีวิสารวาจาของออเจ้ากัน :)

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
en.chateauversailles.fr, unesco.org, softschools.com, kanchanapisek.or.th

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
มาทำความรู้จักกับ พระราชวังแวร์ซายส์ แห่งพระเจ้าหลุยส์ ที่ 14 อัปเดตล่าสุด 30 เมษายน 2564 เวลา 10:55:20 76,567 อ่าน
TOP