x close

โครเอเชีย อัญมณีแห่งทะเลอะเดรียติก

โครเอเชีย

โครเอเชีย

โครเอเชีย อัญมณีแห่งทะเลอะเดรียติก (Lisa)

          ตื่นตาตื่นใจกับรอยความจำในประวัติศาสตร์และชวนหลงมนต์ธรรมชาติริมทะเลอะเดรียติก

          ไม่เกินจริงหากจะบอกว่า "โครเอเชีย" เป็นหนึ่งในประเทศที่ต้องเดินทางไปให้ถึงในหนึ่งชีวิตนี้ เพราะดินแดนแห่งนี้สวยคลาสสิกทั้งยังทรงเสน่ห์ข้ามกาลเวลา นับเนื่องตั้งแต่ร่องรอยความเป็นมาเมื่อครั้งอดีตที่ยังมีชีวิต หาใช่เมืองโบราณที่สวยกริบแต่ร้างไร้ลมหายใจของผู้คน

          นอกจากนั้นสีเขียวมรกตที่แซมด้วยประกายระยิบระยับของทะเลอะเดรียติกยังงดงามเกินกว่าจะบรรยาย เหล่านี้ล้วนเป็นแรงดึงดูดให้ผู้คนมุ่งตรงสู่ดินแดนแห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย

โครเอเชีย

โครเอเชีย

เก่าและใหม่ลงตัวไม่เคอะเขินที่ กรุงซาเกร็บ

          มนต์เสน่ห์ที่ไม่เคยจางหายของเมืองหลวงแห่งสาธารณรัฐโครเอเชีย ก็คือโบราณสถานที่ยังไม่ร้างลมหายใจ จนบัดนี้ก็ยังมีการต่อเติมเสริมแต่งเชื่อความเก่าและความใหม่อยู่เสมอ จนยากที่จะแยกได้ว่าส่วนไหนคือความเก่าหรือส่วนไหนคือความใหม่ที่แปลกปลอมเข้ามา เพราะต่างก็สอดประสานซ้อนผ่านกาลเวลามาแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น มหาวิหารเซนต์สตีเฟน (St. Stephen’s Cathedral) ซึ่งมียอดแหลมทรงกรวยเคียงคู่อยู่ด้านบน ศาสนสถานแห่งนี้ถือเป็นจุดหมายแห่งสายตา ที่สามารถมองเห็นได้จากทุกมุมในกรุงชาเกร็บ

          ตามต่อด้วยการชมตัวเมืองเก่าบน เขากอร์นจิกราด (Gornji Grad) ซึ่งเราจะได้เห็นความงามในหลาย ๆ สถานที่ลดหลั่นกันไปตามไหล่เขา เริ่มต้นกันด้วย โบสถ์เซนต์แคเธอรีน ซึ่งเป็นโบสถ์รูปแบบบาร็อกสีขาวที่น่าเจริญศรัทธา อาคารพิพิธภัณฑ์ศิลปะภาพเขียน (Naïve Art) พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งโครเอเชีย พระราชวังบานซึ่งเป็นที่พำนักของประธานาธิบดี และมหาวิหารเซนต์มาร์กที่ตั้งอยู่ ณ จุดกลางเมืองเก่าชาเกร็บพอดิบพอดี

โครเอเชีย

ชมมรดกโลกทางธรรมชาติที่ ทะเลสาบพลิตวิเซ

          ความงามที่พิสุทธิ์ใสของ อุทยานแห่งชาติทะเลสาบพลิตวิเซ (Plitvice Lakes National Park) ถือเป็นความงามที่นักเดินทางหลายคนต่างก็พูดถึงไม่เคยคลายในทุกสมัย ซึ่งทะเลสาบแห่งนี้เกิดจากน้ำบนภูเขา มาลาคาเปลา (Mala Kapela) ไหลผ่านหินปูนนับเป็นพัน ๆ ปี จึงทำให้หินปูนที่ถูกกัดเซาะไหลลงมากองรวมกันเป็นระยะ ๆ เกิดเป็นเขื่อนธรรมชาติที่งามแปลกตา ทั้งยังมีความสูงลดหลั่นกันลงไปถึง 16 ชั้น ซึ่งก็ส่งผลให้สถานที่แห่งนี้มีน้ำตกถึง 16 แห่ง เป็นต้นธารก่อนที่จะไหลไปรวมกันเป็นทะเลสาบใหญ่เบื้องล่าง

          ความงามของที่นี่อีกอย่าง ก็คือราวป่าที่อยู่รายล้อมซึ่งอุดมไปด้วยต้นไม้เขตอบอุ่นหลากสายพันธุ์ ด้วยความที่เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่แปลกตาทั้งยังมีความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ องค์การยูเนสโกจึงได้รับเอาไว้เป็น มรดกโลกทางธรรมชาติตั้งแต่ปี ค.ศ.1979

โครเอเชีย

หลงมนต์จนยากถอดตัวที่ เมืองดูบรอฟนิก

          ด้วยภูมิประเทศที่เรียบเลาะไปกับชายทะเล ขณะที่ส่วนที่เป็นแผ่นดินก็เป็นเนินเขาสูงต่ำสลับกันไปรวมถึงอาคารบ้านเรือนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งหลายต่างก็ต้องมนต์สะกดของเมืองดูบรอฟนิก (Dubrovnik) ที่สำคัญยังทำให้เมืองงามแห่งนี้ ครองฉายาว่าเป็น “ไข่มุกแห่ทะเลอะเดรียติก” เมืองดูบรอฟนิกตั้งอยู่ทางตอนใต้ของโครเอเชียชื่อเสียงที่เลื่องลือที่สุดของเมืองนี้ก็ต้องยกให้เรื่องการทำฟาร์มเลี้ยงหอยนางรม หอยแมลงภู่ ริมทะเลอะเดรียติก ดังนั้น เมื่อมาเยือนดูบรอฟนิกหากไม่ได้ลิ้มลองรสชาติอันโชะของหอยนางรมและหอยแมลงภู่ตัวโตๆ แกล้มไวน์ขาวรสเยี่ยมแล้วละก็บอกได้คำเดียวว่าน่าเสียดายอย่างยิ่ง

          ในขณะที่ย่านเมืองเก่าของดูบรอฟนิกก็น่าไปเยี่ยมชมไม่น้อย เขตเมืองเก่าแห่งนี้มีสิ่งก่อสร้างที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกหลายสถานที่ไม่ว่าจะเป็น บ่อน้ำพุประจำเมือง (Onofrio Fountain) ซึ่งเป็นบ่อน้ำพุที่ใช้หล่อเลี้ยงผู้คนในยามศึกสงครามเรื่อยมา จนถึงหอนาฬิกากลางเมืองที่ตั้งอยู่ ณ ส่วนปลายสุดของถนนสายหลัก ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1444 ความพิเศษของนาฬิกาเรือนนี้ก็คือลูกกลม ๆ ใต้หน้าปัดซึ่งแทนพระจันทร์ใช้บอกเวลาข้างขึ้นข้างแรมในทางจันทรคติ เล่ากันว่าภายในย่านเมืองเก่าแห่งนี้ถือเป็นเขตชุมชนแรกที่บรรพบุรุษชาวดูบรอฟนิกมาสร้างบ้านเมืองในศตวรรษที่ 7

โครเอเชีย

เมืองสปลิต งามตั้งสวรรค์บนดิน

          สปติต (Split) เมืองใหญ่อันดับที่ 2 รองจากกรุงชาเกร็บ ถือเป็นอีกหนึ่งปลายทางของนักเดินทาง หลายคนที่ได้ไปเยือนต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเธองามดั่งสวรรค์บนดิน ในครั้งโบราณนั้น สปลิตถือเป็นศูนย์กลางการพาณิชย์และศูนย์กลางทางการเมือง รวมถึงยังเป็นแหล่งบ่มเพาะอารยธรรมศิลป์ของแคว้นดัลเมเชียน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เมืองแห่งนี้จะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งแรก ๆ ของโลก

          สิ่งที่ควรชมในเมืองสปลิตคือ พระราชวังดิโอคลีเทียน (Diocletian Palace) ที่สถาปนาขึ้นจากพระประสงค์ของจักรพรรดิดิโอคลีเทียน เล่ากันว่าใช้เวลาในการก่อสร้างยาวนานถึง 50 ปี ที่โดดเด่นที่สุดก็คือท้องพระโรงกลางอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตรงเสาโค้งมนที่แต่งด้วยช่อดอกไม้สลักจากหินอันอ่อนช้อยสิ่งสะท้อนความงดงามของพระราชวังดิโอคลีเทียนก็คือกวีชาวโครเอเชียในทุกยุคต่างก็ได้สรรเสริญความงามของสถานที่แห่งนี้ไว้ในงานประพันธ์ของตัวเองแทบทั้งสิ้น

โครเอเชีย

Extra Tip

        อาหารพื้นเมืองของชาวโครแอตไม่ต่างจากอาหารแบบยุโรปโดยทั่วไป ในกรุงชาเกร็บมีร้านอาหารให้เลือกมากมาย ที่เป็นเอกลักษณ์ก็คือร้านกาแฟในสไตล์ Side-Walk Cafe ที่เน้นการเสพบรรยากาศดี ๆ เคล้ากาแฟรสละมุนลิ้น ส่วนเมนูอร่อยที่ควรชิมก็คือไส้กรอก Spek และ Kulen ซึ่งเป็นอาหารเฉพาะถิ่น ในขณะที่ขนมหวานขึ้นชื่อของโครเอเชียก็คือคุกกี้รูปหัวใจเคลือบน้ำตาลสีแดงที่มีรสชาติหวานมันลงตัว

Fast Facts

          สาธารณรัฐโครเอเชียตั้งอยู่ในทวีปยุโรป ขณะนี้ยังไม่มีบริการเที่ยวบินตรงจากเมืองไทยไปยังโครเอเชีย วิธีเดินทางที่สะดวกที่สุดคือโดยสารเครื่องบินไปล  งที่กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรียแล้วเดินทางโดยสายการบินเข้าสู่โครเอเชีย หรือจะเดินทางต่อด้วยรถโดยสารประจำทางจากออสเตรีย ซึ่งจะผ่านสโลวีเนียเพื่อเข้าไปยังโครเอเชียก็ได้

          จากกรุงเทพฯ มีสายการบินที่ให้บริการเที่ยวบินกรุงเทพ-เวียนนา คือสายการบินออสเตรีย (www.aua.com) สายการบินการ์ตา (www.qatarairways.com) สายการบินเอมิเรตส์ (www.emirates.com) และสายการบิน EVA (www.evaair.com)

          ใช้ระยะเวลาในการเดินทางจากกรุงเทพฯ ถึงเวียนนา ประมาณ 11-12 ชั่วโมง

          ชาวโครแอตส่วนใหญ่ใช้ภาษาโครเอเชีย แต่สำหรับในเมืองท่องเที่ยวก็จะมีคนพูดภาษาอังกฤษได้มากพอสมควร
 



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Vol.11 No.36 15 กันยายน 2553


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
โครเอเชีย อัญมณีแห่งทะเลอะเดรียติก อัปเดตล่าสุด 16 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 16:02:36 8,244 อ่าน
TOP