x close

Boarding Pass คืออะไร สิ่งที่ต้องรู้ไว้ก่อนออกเดินทาง

Boarding Pass

          บอร์ดดิ้งพาส (Boarding Pass) คืออะไร เวลาเดินทางทำไมถึงจำเป็นต้องมีบอร์ดดิ้งพาส ไขคำตอบว่าบอร์ดดิ้งพาสสำคัญไฉน และแตกต่างจาก E-Ticket หรือไม่ ได้เลยที่นี่

          หลายท่านที่ต้องเดินทางด้วยเครื่องบินบ่อย ๆ อาจจะคุ้นเคยกันดีสำหรับคำว่าบอร์ดดิ้งพาส (Boarding Pass) เพราะถือว่าเป็นเอกสารสำคัญที่จะใช้ยืนยันในการอนุญาตให้ผู้โดยสารผ่านขึ้นเครื่องบิน แต่สำหรับนักท่องเที่ยวมือใหม่ อาจจะยังสับสนและไม่เข้าใจว่าบอร์ดดิ้งพาสคืออะไร และแตกต่างจาก E-Ticket หรือไม่ วันนี้เว็บไซต์ mushroomtravel.com จะมาพาไปทำความรู้จักและไขข้อสงสัยเกี่ยวกับบอร์ดดิ้งพาสกันค่ะ ใครที่กำลังเตรียมตัวเดินทางอยู่ ก็ตามไปเก็บข้อมูลกันได้เลยค่ะ
          Boarding Pass คืออะไร รู้ไว้ก่อนออกเดินทาง

          ก่อนอื่นต้องบอกว่าบทความนี้เขียนขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่ออธิบายและให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องของ Boarding Pass เนื่องจากมัชรูมทราเวลเล็งเห็นแล้วว่านักท่องเที่ยวหลาย ๆ ท่านไม่เข้าใจว่า Boarding Pass คืออะไร หลายคนตั้งคำถามว่า Boarding Pass ได้มาหลัง Check in ใช่หรือไม่ ? Boarding Pass และ E-Ticket คือตัวเดียวกันหรือเปล่า ? ทำไม Boarding Pass และ Ticket ต้องออกคู่กัน ? และจริง ๆ แล้ว Boarding Pass คืออะไรกันแน่ ? วันนี้เราจะไปหาคำตอบด้วยกันค่ะ

          Boarding Pass คือ ?!!

          Boarding Pass คือเอกสารที่อนุญาตให้ผู้โดยสารใช้ผ่านขึ้นเครื่องบิน ในสายการบินที่นักท่องเที่ยวได้ทำการจองเอาไว้

          Boarding Pass และ E-Ticket มิใช่ตัวเดียวกัน เพราะ E-Ticket เป็นเอกสารยืนยันการเดินทาง ส่วน Boarding Pass คือเอกสารยืนยันการขึ้นเครื่อง

          นักท่องเที่ยวจะได้รับ Boarding Pass เมื่อไปเช็กอินที่เคาน์เตอร์ของสายการบินที่ได้ทำการจองเอาไว้ในวันที่ต้องออกเดินทาง เมื่อเจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์ตรวจสอบข้อมูลเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะออก Boarding Pass ให้ นอกจากนั้นเรายังสามารถรับ Boarding Pass ได้เมื่อเช็กอินผ่านเครื่องเช็กอินอัตโนมัติ (Self Service Check-in Kiosk) ที่สนามบิน

          วิธีสุดท้ายที่จะสามารถรับ Boarding Pass ได้ก็คือการเช็กอินออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ หรือแอพพลิเคชั่นของสายการบินที่เราจะเดินทาง ซึ่งหลังจากเช็กอินเรียบร้อยนักท่องเที่ยวก็พรินท์ Boarding Pass หรือจะเลือกเป็น E-Boarding Pass เพื่อเก็บไว้ในโทรศัพท์ก็ได้เช่นเดียวกัน

          Boarding Pass จะแสดงรายละเอียดการเดินทางของผู้โดยสาร ในเที่ยวบินนั้น ๆ ได้แก่ นามสกุล ชื่อ คำนำหน้าชื่อ เที่ยวบิน วันเดินทาง ชั้นโดยสาร หมายเลขประตูทางออกขึ้นเครื่อง หมายเลขที่นั่ง เส้นทางการบิน หมายเลขตั๋วโดยสาร และลำดับการเช็กอิน
 
Boarding Pass

          คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการขึ้นเครื่อง

          สำหรับมือใหม่ที่ไม่เคยขึ้นเครื่องบินมาก่อน บางคนอาจไม่ทราบว่าคำศัพท์ต่าง ๆ ที่ระบุไว้บนเว็บไซต์ของสายการบิน ในสนามบิน หรือบน Boarding Pass นั้นหมายความว่าอย่างไร ไปค่ะ… ไปไขข้อข้องใจกัน

          Itinerary = ใบรายละเอียดการเดินทาง โดยผู้โดยสารจะได้ใบนี้หลังจากที่ซื้อตั๋วเครื่องบินทางอินเทอร์เน็ตเสร็จแล้ว

          Air Ticket = ตั๋วเครื่องบิน

          E-Ticket = ตั๋วเครื่องบินแบบอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบกระดาษ A4 ซึ่งทางสายการบินหรือเอเจนซี่จะส่งให้หลังจากการจองเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยตั๋วชนิดนี้จะไม่สามารถใช้ขึ้นเครื่องได้เลยนะคะ ต้องไป check in ที่สนามบินในวันเดินทางเสียก่อน

          Boarding Pass = ใบอนุญาตให้ผ่านขึ้นเครื่อง

          Departure Time = เวลาเครื่องออก

          Boarding Time = เวลาขึ้นเครื่อง

          Departing = เครื่องออกจาก (สนามบิน)/เวลาออก

          Arriving = เครื่องถึงที่หมาย (สนามบิน)/เวลาถึง

          ข้อควรระวังเกี่ยวกับ Boarding Pass

          1. พาสปอร์ตและ Boarding Pass คือสิ่งจำเป็นและสำคัญสำหรับการเดินทางและการโดยสารบนเครื่องบิน ทั้งนี้ต้องเก็บรักษาไว้อย่างดี ห้ามทำหายอย่างเด็ดขาด

          2. หลังจากการจองตั๋วเครื่องบินแล้วให้เก็บหมายเลข E-ticket หรือหมายเลขสมาชิกของสายการบิน เนื่องจากข้อมูลนี้จะต้องใช้สำหรับการรับ Boarding Pass

          3. Boarding Pass จะถูกใช้เฉพาะผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วเครื่องบินเท่านั้น (ซึ่งชื่อและข้อมูลในบอร์ดดิ้งพาสจะยืนยันตัวตนของบุคคลนั้น)

          4. ปัจจุบันหลาย ๆ คนมักจะถ่ายรูป Boarding Pass ของตัวเองเผยแพร่ลงในโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะอาชญากรสามารถสแกนบาร์โค้ดใน Boarding Pass ของท่าน เพื่อล้วงข้อมูลส่วนตัวของท่านได้อย่างง่ายดาย

          5. การใช้หรือการปลอมแปลง Boarding Pass ถือเป็นคดีอาชญากรรมที่ร้ายแรง

Boarding Pass

          ขั้นตอนการขึ้นเครื่องบิน

          หลังจากที่เราได้จองตั๋วเครื่องบินกับสายการบินหรือเอเจนซี่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราจะได้รับ Itinerary หรือ E-Ticket ซึ่งยังไม่ใช่ตั๋วที่ใช้ขึ้นเครื่องได้เลย เราจะต้องผ่านกระบวนการเช็กอิน เพื่อยืนยันว่าเรามาถึงสนามบิน พร้อมขึ้นเครื่องแล้ว (สำหรับผู้ที่เดินทางเป็นครั้งแรก หากกังวลว่าจะตกเครื่องหรือไม่ แนะนำว่าควรไปถึงสนามบินก่อนเครื่องออกประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ) โดยการเช็กอินนั้นเราจะมาแนะนำทั้งการเช็กอินที่สนามบินและการเช็กอินออนไลน์ผ่านอินเทอร์เน็ตค่ะ

          Check-in ที่สนามบิน

          1. พรินท์ E-ticket ก่อนออกเดินทางไปสนามบิน เพราะ E-ticket นี้จะเก็บข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการเดินทางของท่าน รวมทั้งข้อมูลส่วนตัวเพื่อยืนยันการรับ Boarding Pass และให้ปฏิบัติตามกฎของสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติอย่างเคร่งครัดในเรื่องของพาสปอร์ตและกระเป๋าสัมภาระ ทั้งนี้ผู้โดยสารควรจะไปให้ถึงสนามบินอย่างน้อยที่สุด 1 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง

          2. ปัจจุบันหลาย ๆ สายการบินได้มีการติดตั้งเครื่องบริการตัวเองที่ใช้งานอย่างง่ายดายเอาไว้ที่สนามบิน เพื่อความสะดวกรวดเร็วในขั้นตอนของการเช็กอิน และไม่ต้องเสียเวลาในการรอคอยเจ้าหน้าที่ซึ่งอาจไม่เพียงพอต่อการให้บริการ ซึ่งผู้โดยสารสามารถเดินไปใช้เครื่องเช็กอินด้วยตัวเองที่บริเวณ Departures

          3. ป้อนหมายเลขยืนยัน E-ticket ของคุณ และข้อมูลอื่น ๆ ซึ่งอาจรวมถึงการรูดบัตรเครดิต (เฉพาะผู้ที่ใช้บัตรเครดิตในการซื้อตั๋วออนไลน์) หรือหมายเลขสมาชิกของสายการบิน (เพื่อใช้สะสมไมล์ของสายการบิน ในกรณีที่บินบ่อยครั้ง)

          4. กรอกข้อมูลไปทีละขั้นตอนตามที่เครื่องร้องขอ และตอบคำถามเกี่ยวกับข้อมูลเที่ยวบินของคุณ (เช่นเมืองที่จะเดินทางไป) ยืนยันประเภทของที่นั่งและกระเป๋าเดินทาง เมื่อทำเสร็จทุกขั้นตอนแล้วเครื่องจะพิมพ์ Boarding Pass (จำเป็นต้องใช้) และแท็กกระเป๋าเดินทาง (ถ้าต้องการ)

          5. ตรวจสอบและโหลดกระเป๋าสัมภาระที่เคาน์เตอร์ของตัวแทนสายการบิน ซึ่งขั้นตอนนี้จำเป็นจะต้องโชว์ Boarding Pass และพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบด้วย ทั้งนี้อาจจะมีการตอบคำถามที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยสักเล็กน้อย (อาจเกี่ยวกับของที่นำติดตัวขึ้นเครื่องและของที่โหลดลงใต้ท้องเครื่อง) จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะติดป้ายแท็กที่กระเป๋าของท่าน เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอน

          6. เพื่อความปลอดภัย แม้ผู้โดยสารจะมีเพียงกระเป๋าที่ถือขึ้นเครื่องหรือมีเพียงกระเป๋าสัมภาระที่ต้องโหลดลงใต้ท้องเครื่อง แต่เจ้าหน้าที่ก็จำเป็นที่จะต้องตรวจ Boarding Pass และพาสปอร์ตของท่าน อันเป็นกฎระเบียบของสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด จากนั้นท่านควรเก็บเอกสารทุกอย่างไว้ในที่ที่ปลอดภัยเพื่อป้องกันการสูญหาย

          Check-in ออนไลน์

          1. เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องรอคิวนาน ผู้โดยสารควรทำการเช็กอินออนไลน์ไว้ล่วงหน้าเสียก่อน โดยเปิดเข้าไปที่เว็บไซต์สายการบินที่ท่านได้จองตั๋วเอาไว้อย่างน้อยที่สุด 24 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง จากนั้นคลิกไปที่แท็บ “Check-In”

          2. กรอกข้อมูลที่จำเป็นให้ครบถ้วนสมบูรณ์ โดยในขั้นตอนของการเช็กอินออนไลน์ คุณอาจจะต้องใส่รายละเอียดของเที่ยวบินที่ทำการจองหรือหมายเลข E-ticket (ซึ่งได้รับหลังจากทำการจองผ่านเว็บไซต์แล้วเรียบร้อยผ่านทางอีเมล) นอกจากนี้คุณอาจจะต้องกรอกนามสกุลและเมืองต้นทางด้วย

          3. ทำตามที่เว็บไซต์กำหนดไปทีละขั้นตอน ซึ่งก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนการรับ Boarding Pass บางสายการบินอาจจะมีการตั้งคำถามเพื่อความปลอดภัย หรืออ้างอิงถึงน้ำหนักกระเป๋าเดินทาง หรือระบุหมายเลขที่นั่ง ท่านควรเปลี่ยนข้อมูลเท่าที่จำเป็น (เช่น การปรับเปลี่ยนที่นั่ง) และให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ และกฎระเบียบของสายการบินว่าด้วยเรื่องสัมภาระที่จะนำติดตัวและโหลดลงใต้ท้องเครื่อง

          4. พรินท์ Boarding Pass และเก็บ Boarding Pass ที่ได้รับรวมทั้งพาสปอร์ตหรือเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ (เช่น ใบขับขี่สากล) ไว้ในกระเป๋าที่ท่านจะต้องถือขึ้นเครื่อง ห้ามทำหายหรือลืมอย่างใดอย่างหนึ่งอย่างเด็ดขาด เพราะนี่คือสิ่งสำคัญสำหรับทริปการเดินทางของท่าน

          5. เมื่อไปถึงสนามบิน ให้ไปยังเคาน์เตอร์สายการบินในช่อง Flight Departures เพื่อสแกนและโหลดกระเป๋าลงใต้ท้องเครื่อง ขั้นตอนนี้จะเป็นไปอย่างรวดเร็วเพราะท่านได้ทำการเช็กอินออนไลน์มาจากบ้านเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้อาจจะมีการตอบคำถามสักเล็กน้อยเกี่ยวกับสิ่งของที่ท่านได้นำติดตัวขึ้นเครื่อง

          6. เพื่อความรอบคอบ แม้ว่าท่านจะไม่มีกระเป๋าที่ต้องโหลดใต้ท้องเครื่อง แต่ก็ควรเดินทางมาถึงสนามบินอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงก่อนเวลาออกเดินทาง จากนั้นจึงผ่านขั้นตอนการตรวจ Boarding Pass กระเป๋าที่ถือขึ้นเครื่องและพาสปอร์ต เมื่อเสร็จแล้วจึงตรงไปยังประตูขึ้นเครื่องที่กำหนดไว้ใน Boarding Pass

          หากทำตามขั้นตอนทั้งหมดที่มัชรูมทราเวลแนะนำนี้แล้ว นักท่องเที่ยวก็มั่นใจได้เลยค่ะว่าจะสามารถขึ้นเครื่องได้โดยไม่ต้องตกเครื่องให้ช้ำใจอย่างแน่นอน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
mushroomtravel.com

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
Boarding Pass คืออะไร สิ่งที่ต้องรู้ไว้ก่อนออกเดินทาง อัปเดตล่าสุด 24 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 13:20:46 24,565 อ่าน
TOP