x close

เที่ยวเวียดนาม ชมเมืองไฮฟอง ล่องเรือฮาลองเบย์ และแวะชิลที่เกาะกั๊ตบา

ไฮฟอง เวียดนาม

         เที่ยวเวียดนาม ชมเมืองไฮฟอง-ฮาลองเบย์-เกาะกั๊ตบา สัมผัสแหล่งท่องเที่ยวทั้งศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิตผู้คน และแหล่งธรรมชาติที่สวยงาม รับประกันความสนุกแบบครบรส

         ก้าวแรกสู่การเดินทางไปยังเมืองไฮฟอง ประเทศเวียดนามในครั้งนี้ เราเดินทางไปพร้อมกับสายการบินเวียตเจ็ท สายการบินโลว์คอสต์น้องใหม่ และความพิเศษอยู่ตรงที่…เครื่องบินที่พาตัวเราทะยานขึ้นท้องฟ้าเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2559 นับเป็นการเปิดบริการเที่ยวบินปฐมฤกษ์เส้นทางใหม่ระหว่างกรุงเทพฯ-ไฮฟอง ทำให้เราได้มีโอกาสสัมผัสความสวยงามของประเทศนี้ในอีกแง่มุมที่ต่างออกไป การเดินทางทริปนี้ของเราจะสนุกและประทับใจแค่ไหน ตามเรามาดูด้วยกันเลย
ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

         ก่อนเดินทางสู่ไฮฟอง หลายคนอาจยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับชื่อเสียงเรียงนามของเมืองนี้เสียเท่าไหร่ แต่จากที่เราไปสืบค้นข้อมูลมา เมืองไฮฟองแห่งนี้ถือเป็นเมืองใหญ่อันดับสามของประเทศเวียดนาม มีชื่อเสียงในเรื่องแหล่งท่องเที่ยวเมืองมรดกโลก อาหารอร่อย จุดเด่นของเมืองอยู่ที่ธุรกิจท่าเรือ และที่สำคัญมีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามอย่างฮาลองเบย์ เดินทางจากสุวรรณภูมิไม่นาน เพียงแค่ 1 ชั่วโมง 40 นาที เครื่องบินก็นำเราลงสู่สนามบินก๊าตบี (Cat Bi) สนามบินแห่งนี้จัดได้ว่ามีความทันสมัย แม้ว่านักท่องเที่ยวที่นี่อาจจะยังไม่พลุกพล่านมากนัก แต่เชื่อว่าไม่นานจากนี้ ที่นี่น่าจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกอย่างแน่นอน

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

         หลังจากรับสัมภาระเสร็จเรียบร้อย คราวนี้ถึงเวลาการเดินทางอย่างแท้จริง จากสนามบินเรามุ่งหน้าเดินทางสู่เมืองไฮฟองทันที โดยใช้เวลานั่งรถบัสประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งถึง 3 ชั่วโมง ระหว่างที่เรานั่ง พลาดไม่ได้กับการเก็บรายละเอียดสองข้างทางที่รถวิ่งผ่าน เราได้เห็นวิถีชีวิต รวมถึงร้านรวง อาคารบ้านเรือนของชาวเวียดนาม ที่ดู ๆ ไปก็คล้ายเมืองไทยของเรานี่แหละ

         หลังจากนั่งรถมาสักพัก เราก็มาลงจุดหมายแรกของเราที่ Halong Night Market ตั้งอยู่ภายใน Halong Marina Plaza ที่นี่เป็นแหล่งช้อปปิ้งยามค่ำ ที่มีทั้งของกิน เสื้อผ้า ของที่ระลึก ไว้สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราให้ได้ช้อป โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ขายชาวเวียดนามที่นี่บอกเลยว่าไม่ธรรมดา ขยันขายของกันสุด ๆ ที่สำคัญ พูดภาษาไทยได้ด้วยนะ ยิ่งทำให้คนซื้ออย่างเรารู้สึกสนุกตามไปด้วย พอพูดไทยได้ เรื่องต่อรองราคาสินค้าก็เป็นเรื่องที่ง่ายนิดเดียว แต่ไกด์แอบบอกกับเราว่า ด้วยความที่เวียดนามเป็นประเทศที่ต้องเคร่งครัดกับระเบียบ ร้านค้าและสถานบันเทิงที่นี่จะเปิดไม่เกินสี่ทุ่ม ใครที่จะมาช้อปที่นี่ตอนค่ำ ๆ ต้องทำเวลากันหน่อยก็ดีค่ะ

         บรรยากาศใน Halong Night Market ที่เต็มไปด้วยร้านรวงมากมายให้นักช้อปอย่างเราได้เลือกซื้อ

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

         เช้าวันต่อมา เราเปลี่ยนบรรยากาศการท่องเที่ยวด้วยแผนการเดินทางไปยังฮาลองเบย์ (Ha Long Bay) เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยเห็นและเคยได้ยินถึงชื่อเสียงของแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้มาก่อน อีกทั้งที่นี่ยังเป็นแหล่งมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ความพิเศษของฮาลองเบย์เห็นจะหนีไม่พ้นบรรยากาศการล่องเรือ ที่ลัดเลาะไปกับเกาะหินปูนน้อยใหญ่มากมายเกือบ 2,000 เกาะ ที่กระจายตัวอยู่เป็นวงกว้าง ดูลดหลั่นกันไปอย่างสวยงาม ซึ่งล้วนเกิดจากธรรมชาติอย่างแท้จริง

         เรือมากมายจอดรอที่ท่า เพื่อรอรับนักท่องเที่ยวชื่นชมความสวยงามของฮาลองเบย์

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

         บรรยากาศของการล่องเรือพร้อมชมบรรยากาศความงดงามเกาะน้อยเกาะใหญ่ของฮาลองเบย์

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

         ในปี ค.ศ. 2000 ฮาลองเบย์ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก และนี่คือป้ายหลักฐานที่แสดงความยืนยันจากการได้รับเกียรติดังกล่าว

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

         นอกเหนือไปจากนี้ ฮาลองเบย์ยังมีถ้ำที่สวยงามอยู่ด้วยกันหลายแห่ง ซึ่งเราได้มีโอกาสแวะชมความสวยงามของถ้ำเทียนกุง (Thien Cung Cave) ชื่อเทียนกุง แปลว่า ถ้ำวังสวรรค์ ว่ากันว่าเป็นถ้ำที่สวยงามที่สุดของอ่าวนี้ ตอนแรกเราก็ยังไม่เชื่อ คิดไม่ออกว่าถ้ำถ้ำหนึ่งมันจะสวยงามได้สักแค่ไหน พอเราได้ลองเข้าไปเท่านั้นแหละ เราก็บรรลุเลยว่า ทำไมถ้ำแห่งนี้ถึงได้ชื่อว่าถ้ำวังสวรรค์ ก็จะไม่ให้สวยราวกับสวรรค์ได้ยังไงไหว ตั้งแต่พื้นเรื่อยขึ้นไปจนถึงเพดานถ้ำ เราจะได้พบกับความสวยงามของหินงอกหินย้อยที่ยิ่งใหญ่และอลังการมาก ๆ

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

         เมื่อเดินเข้าไปในถ้ำ รับประกันได้เลยว่านักท่องเที่ยวที่เข้าไปจะต้องตะลึงกับความสวยงาม ยิ่งใหญ่อลังการของหินงอกหินย้อย จนไม่เชื่อว่า...สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นทั้งหมด

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

         หลังจากที่ชื่นชมฮาลองเบย์แล้ว จุดหมายปลายทางถัดไปของเราอยู่ที่เกาะกั๊ตบา (Cat Ba Island) ที่นี่โดดเด่นด้วยเพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ ชื่อเกาะกั๊ตบา หมายถึง "เกาะของสตรี" ซึ่งมีตำนานเล่าขานกันมาหลายศตรวรรษ ว่ามีสตรี 3 คนในราชวงศ์ตราน ถูกสังหารและร่างได้ลอยมาติดที่เกาะแห่งนี้ โดยแต่ละร่างถูกพัดมาเกยชายหาดคนละแห่ง และทั้งหมดถูกค้นพบโดยชาวประมง จนกระทั่งเกาะแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อเกาะกั๊ตบา

         ระหว่างทางที่จะถึงเกาะกั๊ตบา เราก็เจอเข้ากับเกาะ ๆ หนึ่ง ซึ่งเป็นเกาะเดียวกับในธนบัตรสองแสนดองของเวียดนาม ไม่รอช้า...เราเลยเก็บรูปไว้เป็นหลักฐานเสียหน่อย

ไฮฟอง เวียดนาม

         สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเกาะกั๊ตบา คือ ป้อมปืนใหญ่ (Canon Fort) ป้อมแห่งนี้สร้างเมื่อครั้งเวียดนามถูกฝรั่งเศสเข้ายึดครอง และใช้เป็นที่ตั้งป้อมปืนใหญ่พิสัยไกล แวดล้อมด้วยทิวทัศน์ของเกาะกั๊ตบาที่สวยงาม รวมถึงภูมิประเทศแบบหินปูนบริเวณชายฝั่งของอ่าวฮาลองเบย์ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนที่นี่จะได้เห็นแนวบังเกอร์เก่าแก่ ที่ยังคงทิ้งร่องรอยประวัติศาสตร์ จนทำให้เราอดนึกย้อนสมัยที่เวียดนามต้องทำสงครามกับฝรั่งเศสไม่ได้ และพาลจินตนาการถึงฉากรบเหมือนกับในภาพยนตร์

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

         ด้วยเพราะความที่ป้อมนี้แวดล้อมด้วยภูเขาน้อยใหญ่ จึงนับเป็นทำเลที่ดีอีกจุดหนึ่ง สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการชื่นชมทิวทัศน์ยามเมื่อพระอาทิตย์อัสดง ที่ทั้งสวยงามและน่าประทับใจแบบสุด ๆ

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

        น่าแปลก...ขณะที่เราเดินทอดน่องดูบรรยากาศรอบ ๆ ก็ดูเหมือนว่าสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ทั้งก้อนหิน ก้อนกรวด กำแพงหรือแม้กระทั่งใบไม้ที่เราสัมผัส กำลังบอกเล่าเรื่องราวของมันอยู่กลาย ๆ

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

         หลังจากที่เราเต็มอิ่มไปกับบรรยากาศและเรื่องราวประวัติศาสตร์แล้ว เราจะชวนคุณมาผ่อนคลายความชิลกันต่อที่ชายหาดบนเกาะกั๊ตบา (Catba Island Beach) คือ หาดกั๊ตโก ประกอบด้วยชายหาดกั๊ตโก 1 และกั๊ตโก 2 ว่ากันว่าความชิลของชายหาดที่นี่ ถือเป็นสถานที่พักผ่อนที่ดีเยี่ยมแห่งหนึ่งเลยทีเดียว การเดินทางไปยังชายหาด นักท่องเที่ยวสามารถเดินหรือใช้บริการมอเตอร์ไซค์หรือแท็กซี่ก็ได้

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

          สิ่งที่เราสัมผัสได้จากเกาะกั๊ตโก เห็นจะเป็นความเงียบสงบ ผู้คนที่ยังไม่พลุกพล่าน จึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความเป็นส่วนตัว เพื่อสัมผัสถึงการพักผ่อนอย่างแท้จริง อย่างเช่นวันที่เราไป ส่วนใหญ่จะเห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มากันเป็นคู่ ๆ บ้างนั่งชมวิวทะเล บ้างก็ลงไปเล่นน้ำชิล ๆ ใครที่หัวใจไม่แข็งแรงพอ อาจเกิดอาการตาร้อนผ่าวกับภาพที่อยู่ตรงหน้าไม่มากก็น้อย

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

         เข้าสู่วันสุดท้าย เราเดินทางย้อนกลับมาสำรวจเมืองไฮฟองกันอีกครั้ง และเป็นที่แน่นอนว่าการจราจรของเวียดนามเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ใดในโลก ไม่กี่นาทีที่เท้าเราแตะพื้น สิ่งแรกที่เราได้ยินคือเสียงแตรรถที่ดังแบบไม่เว้นว่าง แต่การบีบแตรรถของเขาไม่ได้บีบด้วยความโกรธเคืองกันแต่อย่างใด แต่เป็นการบอกรถคันอื่น ๆ ให้ได้รู้ว่า รถของฉันอยู่ตรงนี้นะ !!! ผู้คนสองริมถนนส่วนใหญ่นิยมนั่งลงทานอาหารและพูดคุยแลกเปลี่ยนบทสนทนาบนเก้าอี้เล็ก ๆ อย่างง่าย ๆ ไม่ได้มีพิธีรีตองอะไรมากมาย

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

         หากแต่มุมหนึ่งที่ใครหลายคนมองว่าวุ่นวาย แต่วิถีชีวิตของชาวเมืองไฮฟองที่นี่ก็น่ารักไม่แพ้ที่ไหนเลย

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

         เมื่อเดินทางเข้าสู่เมืองไฮฟอง สถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดชม คือ โรงอุปรากรไฮฟอง (Hai Phong Opera House) ซึ่งเป็นโรงอุปรากรแห่งแรกของเมืองที่สร้างโดยคณะละครเร่ในโรงแรม Hotel des Colonies เมื่อปี ค.ศ. 1888 ความโดดเด่นของโรงอุปรากรเห็นจะเป็นโครงสร้างสถาปัตยกรรมของตัวอาคารที่ได้รับอิทธิพลจากฝรั่งเศส ตัวอาคารสีเหลืองสด (ซึ่งพี่ไกด์ได้บอกกับเราไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า ถ้าอยากรู้ว่าตึกอาคารไหนที่เวียดนามได้รับอิทธิพลจากฝรั่งเศส ให้สังเกตว่าอาคารนั้น ๆ มีสีเหลืองหรือไม่) ซึ่งในปัจจุบัน โรงอุปรากรไฮฟอง ถูกใช้เป็นโรงละครของนักสังคมนิยมและละครเพลงทั่วไป ทั้งใช้เปิดการแสดงคอนเสิร์ตศิลปินเวียดนาม ละครพื้นบ้าน และเพลงยอดนิยมอื่น ๆ

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

         และก่อนจะเดินทางกลับ ถัดมาไม่ไกลจากโรงอุปรากรไฮฟอง คือ วัดเหง่ (Nghe Temple) วัดนี้ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่สำคัญทางศาสนา หากยังเป็นสัญลักษณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยเป็นสถานที่เพื่อการรำลึกถึงสตรีนาม เล ฉาน ผู้ก่อตั้งเมืองไฮฟอง ซึ่งเป็นสตรีที่ต่อสู้กับชาวจีนร่วมกับวีรสตรีคนอื่น ๆ ในนามกลุ่ม Trung Sisters ในปี ค.ศ. 43 โดยจุดเด่นของวัดแห่งนี้อยู่ที่งานประติมากรรมหินที่สวยงามมาก

ไฮฟอง เวียดนาม

         อนุสาวรีย์สตรีนาม เล ฉาน ผู้ก่อตั้งเมืองไฮฟอง

ไฮฟอง เวียดนาม

         บรรยากาศทั่วไปภายในวัดเหง่ที่ทั้งสงบและสวยงาม

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

ไฮฟอง เวียดนาม

         เป็นอันว่าจบทริปไฮฟอง-ฮาลองเบย์-เกาะกั๊ตบาด้วยความอิ่มเอิบ ยิ่งถ้าใครมาช่วงหน้าร้อนและหน้าหนาว รับรองว่าคุณจะได้รับความประทับใจกลับไปเต็ม ๆ เพราะการมาเที่ยวไฮฟองจะไม่เข้าถึงบรรยากาศเลย ถ้าคุณไม่ได้มาชมเกาะแก่ง ถ้ำต่าง ๆ และเที่ยวทางเรือที่ฮาลองเบย์และเกาะกั๊ตบา ที่ถือว่าเป็นไฮไลท์เด็ดที่นักท่องเที่ยวทุกคนไม่ควรพลาด และทำให้รู้เลยว่า เวียดนามยังมีสถานที่เที่ยวสวย ๆ จนเราเองก็คิดไม่ถึง ซุกซ่อนอยู่เต็มไปหมด ใครอยากเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เมืองไฮฟองแบบนี้ อย่าลืมตามรอยมาเที่ยวกันได้นะคะ ^ ^


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
เว็บไซต์ vietjetair.com


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เที่ยวเวียดนาม ชมเมืองไฮฟอง ล่องเรือฮาลองเบย์ และแวะชิลที่เกาะกั๊ตบา อัปเดตล่าสุด 8 มีนาคม 2567 เวลา 16:55:30 13,039 อ่าน
TOP