x close

เที่ยวชม...ยลตลาดริมน้ำท่าจีน จังหวัดนครปฐม

เที่ยวนครปฐม

นาตยา สำราญทรัพย์ เรื่อง
นภดล กันบัว ภาพ

          ถ้าเอ่ยถึงคำว่า "ตลาด" หลาย ๆ คนคงนึกถึงภาพของความสับสนวุ่นวายของผู้คนมากหน้าหลายตา เสียงเรียกขานจากแม่ค้า "ซื้ออะไรคะ ?" "รับอะไรดีคะ ?" "เลือกได้นะคะ" รถเข็นส่งของ ความเปียกแฉะของพื้นทางเดินที่เกิดจากการละลายของน้ำแข็งสำหรับแช่ของสด และน้ำที่ใช้ล้างมือพรมผักผลไม้ ทำให้ผักและผลไม้ไม่เหี่ยวเฉาน่าซื้อหา

          ตลาดนั้นเป็นสถานที่ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ามาแต่ครั้งโบราณ ซึ่งวิถีชีวิตของคนไทยนั้นมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตลาดจนไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ในสมัยก่อนเราจะเห็นว่าตลาด ชุมชน หรือบ้านของผู้คนมักนิยมตั้งอยู่บริเวณที่ราบลุ่มริมแม่น้ำ เพราะมีข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์ การเดินทางสะดวกสบาย อีกทั้งการเดินทางทางน้ำยังเป็นการคมนาคมหลักของคนไทยในหลาย ๆ พื้นที่ และในพื้นที่ของจังหวัดนครปฐมก็เช่นกัน ตลาดเก่า ตลาดโบราณต่างก็ตั้งอยู่ริมสองฟากฝั่งของแม่น้ำท่าจีน
ตลาดน้ำนครปฐม

ตลาดบางหลวง ร.ศ. 122

          ตลาดบางหลวง ร.ศ. 122 หรือที่เรียกกันว่าตลาดบางหลวง ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำท่าจีนในเขตตำบลบางหลวง อำเภอบางเลน ผู้คนในชุมชนเป็นชาวไทยเชื้อสายจีนที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานในราวปี พ.ศ. 2446 และมีอาชีพค้าขาย ลักษณะบ้านเรียนของตลาดบางหลวงเป็นต้องแถวไม้ 2 ชั้น จำนวน 100 กว่าห้อง หันหน้าเข้าหากัน ชั้นบนเป็นที่พักอาศัย ส่วนชั้นล่างทำเป็นร้านค้าและที่เก็บสินค้า

          เมื่อประมาณ 50-60 ปีที่ผ่านมา ตลาดแห่งนี้ได้เคยเป็นศูนย์กลางของการค้าขายที่สำคัญแห่งหนึ่งของอำเภอบางเลน เพราะมีท่าเรือสะดวกสบายในการขนถ่ายสินค้า มีพ่อค้าทั้งจากกรุงเทพฯ (ท่าเตียน) และพ่อค้าในบริเวณใกล้เคียงล่องเรือนำสินค้าอุปโภคและบริโภค มาจอดเทียบท่าเพื่อซื้อขายสินค้ากันเป็นจำนวนมาก

ตลาดน้ำนครปฐม

          ส่วนที่เดินทางมาทางบกก็มีชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณบ้านสระห้วยม่วง กระตีบ หนองพงนก (บริเวณอำเภอกำแพงแสน) เดินทางมาด้วยเกวียนหรือไม่ก็เดินเท้า หาบสินค้ากันมาเป็นระยะทางนับสิบ ๆ กิโลเมตร เพื่อนำสินค้าซึ่งจะมีทั้งของป่าและพืชไร่ เช่น พริก ยาสูบ หน่อไม้ มันเทศ มันมือเสือ น้ำผึ้ง ถ่านหุงข้าว หนังสัตว์ ฯลฯ ใส่ปี๊บหรือใส่ไหมาขายให้พ่อค้าจากท่าเตียนหรือพ่อค้าคนกลางในตลาด เป็นผลให้เศรษฐกิจที่นี่เจริญเติบคึกคัก จนมีทั้งโรงฝิ่น โรงหนัง โรงพิมพ์ และแม้กระทั่งร้านขายทอง


          "โรงหนังหรือที่ชาวบ้านที่นี่เรียกว่าวิกหนัง สมัยก่อนล้อมรอบด้วยแผ่นสังกะสีสูง ข้างในจะมีแผ่นไม้กระดานยาวพาดเป็นแถว ๆ ไว้สำหรับนั่งดูหนัง ซึ่งจะฉายกันทั้งกลางวันและกลางคืน ถ้าใครที่ชอบดูหนังตอนกลางคืนก็จะต้องสู้รบตบกับยุงกันจนนั่งไม่เป็นสุข แต่สำหรับเด็ก ๆ และผู้ใหญ่สมัยนั้นแล้ว การได้เข้าไปดูหนังสักเรื่องหนึ่งนั้นนับเป็นความสุขที่สุดวิเศษเลยทีเดียว" แม้ค้าคนหนึ่งกล่าว

ตลาดน้ำนครปฐม

          เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนแปลงไป มีการตัดถนน สร้างถนนหนทางเพิ่มขึ้น ทำให้การเดินทางทางบกสะดวกสบาย การเดินทางทางน้ำไม่เป็นที่นิยม ส่งผลให้ตลาดบางหลวงที่เคยคึกคักจากที่เป็นศูนย์กลางการค้ากลับเงียบเหงา กิจการต่าง ๆ ทั้งโรงฝิ่น โรงหนัง และโรงพิมพ์ก็ค่อย ๆ ปิดตัวลง แต่ตลาดบางหลวงก็ยังคงปรากฏร่องรอยความเจริญอัตลักษณ์ท้องถิ่นในด้านต่าง ๆ ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาและเที่ยวชม

          ทั้งด้านสถาปัตยกรรม ความเชื่อ วิถีชีวิตของคนในชุมชนที่ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีที่ผสมกลมกลืนระหว่างวัฒนธรรมไทยและจีนของตนไว้ อย่างเช่น ประเพณีแห่ธงตรุษจีน ประเพณีนี้เป็นประเพณีที่สำคัญของชาวตลาดในวันชิวอิก หรือวันหลังจากวันไหว้บรรพบุรุษ 1 วัน จะมีสาวสวยหลายสิบคนใส่ชุดกี่เพ้าเดินแบกธงที่มีตัวอักษรภาษาจีนบนผืนผ้าขนาดใหญ่ไปรอบตลาด อีกทั้งยังมีประเพณีการกินเจ และประเพณีการทิ้งกระจาดหรือทิ้งทาน ที่คนในชุมชนถือปฏิบัติกันมาจนถึงทุกวันนี้

          ตลาดบางหลวงในปัจจุบันนั้นเป็นตลาดที่มีผู้คนไม่พลุกพล่านมากนัก บ้านเรือนที่เคยเปิดเป็นร้านค้าจำนวนเกือบร้อยร้านในวันนี้เหลือร้านค้าที่เปิดขายสินค้าเพียง 40 กว่าร้าน เนื่องมาจากในปี พ.ศ. 2536 ได้เกิดไฟไหม้ตลาด ทำให้ตลาดบางส่วนหายไป และเจ้าของร้านบางร้านไม่มีผู้สืบทอด ลูกหลานเข้ามาทำงานที่ตัวเมืองหรือกรุงเทพฯ ร้านจึงต้องถูกปิดตัวลง แต่ร้านค้าที่เหลืออยู่ก็มีทั้งร้านอาหาร ร้านสินค้าอุปโภคบริโภคเปิดขายให้คนที่ชื่นชอบตลาดเก่าตลาดโบราณ ได้เดินทอดน่องชมและเลือกซื้อสินค้ากันอย่างสบาย ๆ

ตลาดน้ำนครปฐม

          สถานที่ภายในตลาดบางหลวงที่เราอยากแนะนำให้แวะชม คือ "พิพิธภัณฑ์บ้านเก่าเล่าเรื่อง" ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยอาจารย์ชาลี ศรีพุทธาธรรม อาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยศิลปากร ภายในจัดแสดงข้าวของ เครื่องใช้สมัยโบราณ เช่น นาฬิกา จักรยาน แตรโบราณ และรถเจ๊ก เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการสาธิตตีเหล็กให้นักท่องเที่ยวได้ชมอีกด้วย

          การตีเหล็กนั้นถือเป็นอาชีพที่มีมาควบคู่กับสังคมเกษตรกรรม เพราะต้องใช้ทั้งมีด จอบ เสียม และพร้าในการประกอบอาชีพ แต่ปัจจุบันก็ไม่ค่อยมีใครทำกันแล้ว เนื่องจากเป็นอาชีพที่เหนื่อย หนัก (เพราะต้องยกค้อนขนาดใหญ่ในการดี) ได้เงินน้อย อีกทั้งสมัยนี้ยังมีเครื่องทุ่นแรงอื่น ๆ มาช่วย จึงทำให้อาชีพนี้ค่อย ๆ หมดความสำคัญลง

ตลาดน้ำนครปฐม

          อีกสถานที่หนึ่งคือ "โรงเจบ่วน ฮุกตึ้ง" โรงเจเก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม อายุกว่า 100 ปี ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกินเจ แสดงงิ้ว และงานทิ้งกระจาด และศาลเจ้าแม่ทับทิมซึ่งอยู่ตรงข้ามกับตลาด ถ้าเราเดินข้ามไปอยู่ฝั่งศาลฯ ก็จะสามารถมองเห็นภาพตลาดริมน้ำได้อย่างชัดเจนและสวยงาม

          หลังจากเดินชมแหล่งท่องเที่ยวจนเหนื่อยแล้ว บริเวณหัวตลาดริมแม่น้ำท่าจีนจะมีแพให้นั่งพักผ่อนเพื่อสัมผัสกับวิถีชีวิตริมน้ำ ให้อาหารปลารอบ ๆ แพ หรือจะซื้ออาหารนำลงไปรับประทานที่นั่นก็ได้ อาหารที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใครของตลาดแห่งนี้ ที่อยากแนะนำคือกวยจั๊บน้ำใส ร้านวิมลพร กวยจั๊บเส้นเหนียวนุ่ม โรยหน้าด้วยเนื้อหมูหั่นซอย หนังหมูส่วนเขาหั่นพอดีคำ และเลือดหมูที่ขายสืบทอดกันมา 50-60 ปี

ตลาดน้ำนครปฐม

          ถัดมาคือ ชุนเปี๊ยะ ร้านจันทิมา ชุนเปี๊ยะนั้นจะมีลักษณะคล้าย ๆ กับปอเปี๊ยะ ทำจากแป้งบาง ๆ มาม้วนใส่กุยช่าย กุ้งแห้ง และหมูสามชั้นรวนเค็ม นำไปทอดให้กรอบ และข้าวเกรียบปากหม้อ ไส้ผักกระเฉดลวกและไล้ถั่วฝักยาวลวก จิ้มด้วยน้ำจิ้มที่ปรุงจากน้ำปลา มะนาว และน้ำตาลปี๊บ รสชาติกลมกล่อม ขนมจีบโบราณ ไส้กุยช่าย ไส้หน่อไม้ เพิ่มรสชาติเปรี้ยวหวานด้วยน้ำจิ้มที่ทำจากซีอิ๊วเค็ม ผสมน้ำส้มสายชูและน้ำตาลทราย รวมทั้งผัดไทยเส้นสีแดงสูตรเฉพาะที่แตกต่างจากผัดไทยทั่วไป

          นอกจากนี้ยังมีหมูสะเต๊ะ ขนมหวาน กาแฟโบราณ และอาหารอื่น ๆ ให้เลือกชิมกันอีกหลายร้านเลยทีเดียว ซึ่งใครที่คาดหวังว่ามาเที่ยวตลาดบางหลวงแล้วจะเจอของกินมากมายหลายสิบร้านแบบตลาดอื่น อาจจะทำให้คุณผิดหวังไปบ้าง แต่คุณจะได้ลิ้มลองความอร่อยแบบที่คุณไม่เคยลิ้มลองมาก่อน

ตลาดน้ำ

ตลาดน้ำลำพญา

          ยามบ่ายคล้อยเราเดินทางออกจากตลาดบางหลวง เพื่อมุ่งหน้าสู่ตลาดริมแม่น้ำท่าจีนอีกแห่งหนึ่ง "ตลาดน้ำลำพญา" ซึ่งระยะทางจากตลาดบางหลวงถึงตลาดน้ำลำพญาก็ไม่ไกลกันนัก ประมาณ 20 กว่ากิโลเมตร ภาพทิวทัศน์สองข้างทางเต็มไปเรียกสวนไร่นาเรียงรายสลับกันไป แสดงให้เห็นว่าผู้คนบริเวณนี้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมกันเป็นส่วนใหญ่

          ตลาดน้ำลำพญาเป็นตลาดน้ำที่อยู่ภายในวัดลำพญา ตำบลลำพญา อำเภอบางเลน ตลาดแห่งนี้เกิดขึ้นจากการที่มีพุทธศาสนิกชนกลุ่มหนึ่งมาทำบุญที่วัดลำพญา ซึ่งทางวัดและชุมชนได้จัดการต้อนรับโดยนำเรือมาจอดขายของริมน้ำท่าวัดจำนวนกว่า 20 ลำ และปรากฏเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาหลาย ๆ คนที่มาร่วมงานบุญในครั้งนั้น จึงได้แนะนำให้ทางวัดและชุมชนเปิดเป็นตลาดน้ำ ให้คนในชุมชนและบริเวณใกล้เคียงนำผลิตผลทางการเกษตร พืชผักพื้นบ้าน ผลไม้ตามฤดูกาล และผลิตภัณฑ์ภายในท้องถิ่นลงเรือมาขายกัน นับตั้งแต่นั้นตลาดน้ำลำพญาจึงค่อย ๆ เป็นที่รู้จักและแพร่หลายในเวลาต่อมา

          ปัจจุบันตลาดน้ำลำพญายังคงเป็นตลาดน้ำที่มีความเป็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ มีต้นไม้น้อยใหญ่ให้ความร่มรื่น และคลาคล่ำไปด้วยผู้คนชอบเดินทางท่องเที่ยวในแบบวิถีชีวิตชุมชนและตลาดริมน้ำ ก่อนเดินทางเข้าตลาดเราได้แวะไปสักการะหลวงพ่อมงคลมาลานิมิต พระพุทธรูปเก่าแก่มีอายุกว่า 100 ปี ในโบสถ์ องค์พระสร้างด้วยศิลาแลงพอกปูนและปิดทองทับไว้อย่างสวยงาม จากนั้นจึงเริ่มเดินสำรวจตลาด

ตลาดน้ำ

          ตลาดน้ำลำพญาจะมีทั้งตลาดบนบกและตลาดในน้ำ ตลาดบนบกจะอยู่บริเวณริมเขื่อนของวัด สินค้าส่วนใหญ่ที่วางขายจะเป็นพวกผัก ผลไม้ ต้นไม้ และสินค้าแปรรูปทางการเกษตรของชาวบ้านที่นำมาให้เลือกสรรกันอย่างจุใจ ส่วนตลาดในน้ำจะเป็นแพที่ผูกเข้าด้วยกันเป็นจำนวนหลาย ๆ หลัง บนแพนั้นจะจำหน่ายทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน อีกทั้งบริเวณรอบ ๆ แพก็จะเต็มไปด้วยเรือที่จอดขายอาหารและปรุงสด ๆ กันบนเรือนับเป็นสิบ ๆ ลำเลยทีเดียว

          อาหารที่เราอยากจะแนะนำให้ชิม ได้แก่ หมูสะเต๊ะเจ้าอร่อยที่ปิ้งขายบนเรือ ราคาไม้ละ 5 บาท น้ำจิ้มสะเต๊ะกลมกล่อมกำลังดี เสิร์ฟพร้อมกับอาจาดรสเปรี้ยวหวาน เป็ดย่าง เป็ดพะโล้ เนื้อนุ่มรสชาติดี ซึ่งมาถึงอำเภอบางเลนทั้งทีก็ต้องลองชิม เพราะเป็นอาหารที่ขึ้นชื่อของอำเภอนี้ ทอดมันปลา ก๋วยเตี๋ยวเรือรสเด็ด กุ้งเผา ช่อนเผาเกลือน้ำจิ้มซีฟู้ด ผัดไทย ขนมผักกาด และอื่น ๆ อีกหลากหลายชนิด ส่วนขนมหวานขอแนะนำขนมบ้าบิ่นมะพร้าวอ่อน รสหวานมัน กรอบนอกนุ่มใน ลูกชุบ สีสันสวยงาม ขนมดาล และขนมไทยอื่น ๆ หลากหลายประเภท

ตลาดน้ำ

          นอกจากนี้บริเวณแพริมน้ำยังสามารถนั่งให้อาหารปลาและมีบริการล่องเรือชมวิถีชีวิต ซึ่งมีทั้งเรือแจวแบบโบราณ พาไปนมัสการ "ศาลเจ้าแม่ทับทิม" สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำตำบลลำพญา เรือลากล่องแม่น้ำท่าจีน ชมทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำ พาไปวัดสุขวัฒนารามหรือวัดบางระกำ สักการะพระพุทธทีปังกร ชมพิพิธภัณฑ์วิถีชาวนาไทย และพิพิธภัณฑ์เรือไทย เรือของภาคกลาง และเรือกระแซง พาไปสักการะ "หลวงพ่อเปิ่น" วัดบางพระ ซึ่งเส้นนี้จะใช้เวลาเดินนานกว่าสองเส้นแรก

          จากตลาดน้ำลำพญามาประมาณ 600 เมตร ซึ่งไม่ไกลกันนัก มีซอยที่สามารถดินลัดเลาะเข้าไปชมตลาดโบราณอีกแห่ง นั่นคือ "ตลาดเก่าก๊กพระยา" ตลาดเก่าก็พระยาเป็นตลาดโบราณริมน้ำประจำตำบลลำพญา ที่คนในชุมชนส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเชื้อสายจีน ประกอบอาชีพค้าขาย และก็เหมือนตลาดริมน้ำทั่วไปที่เคยมีผู้คนจำนวนมากมาซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากัน แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องการคมนาคมจึงให้ตลาดเงียบเหงาลง

ตลาดน้ำ

          ปัจจุบันสภาพของตลาดเป็นห้องแถวไม้ชั้นเดียวบ้าง สองชั้นบ้าง หันหน้าเข้าหากัน ห้องแถวด้านหนึ่งหลังบ้านจะติดกับลำน้ำท่าจีน และในตลาดเล็ก ๆ เงียบสงบแห่งนี้ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจให้แวะไปเที่ยวชม ได้แก่ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านภัณฑารักษ์ ซึ่งเป็นสถานที่รวบรวมของเล่น ของใช้ในอดีตที่เป็นมรดกทอดและของสะสมตั้งแต่ปี พ.ศ. 2489 ของเจ้าของบ้าน และได้จัดไว้อย่างเป็นระเบียบสวยงามพร้อม พิพิธภัณฑ์นี้เปิดให้เข้าชมเฉพาะวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น.

          และบ้านไม้โบราณกุลนที บ้านไม้สักที่สร้างขึ้นในสมัยปลายรัชกาลที่ 5 ปัจจุบันเปิดเป็นโฮมสเตย์ให้เข้าพักได้ ถ้าใครได้เดินทางมาเที่ยวตลาดน้ำลำพญาก็อย่าลืมแวะตลาดเก่าก๊กพระยาจะได้เที่ยวทั้งตลาดน้ำและเรียนรู้วิถีชีวิตของตลาดริมน้ำไปพร้อม ๆ กัน

ตลาดน้ำ

ตลาดน้ำดอนหวาย

          วันรุ่งขึ้นเราเดินทางลัดเลาะจากบริเวณอำเภอบางเลน ผ่านอำเภอพุทธมณฑลเข้าสู่อำเภอสามพราน เพื่อเยือนตลาดน้ำดอนหวาย ตลาดน้ำขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดนครปฐม ตลาดนี้อาจจะเป็นที่หมายของใครหลาย ๆ คนในการเดินทางท่องเที่ยวช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เพราะระยะทางใกล้กรุงเทพฯ มาก และใช้เวลาการเดินทางไม่นานนัก

          ตลาดน้ำดอนหวายตั้งอยู่ริมน้ำท่าจีน หลังวัดดอนหวาย ตำบลบางกระทึก อำเภอสามพราน ลักษณะตลาดเป็นอาคารไม้เก่าหันหน้าเข้าหากัน สร้างในสมัยรัชกาลที่ 6 สมัยก่อนตลาดนี้เป็นตลาดเล็ก ๆ เงียบ ๆ มีชาวบ้านพายเรือเอาผลไม้จากสวนมาขายในตลาด และบางบ้านก็ทำขนม ทำอาหารขายกันหน้าบ้าน จนวันหนึ่งได้มีนักเขียนคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเข้ามารับประทานอาหารที่ตลาดแห่งนี้ และได้ไปเขียนแนะนำในหนังสือพิมพ์ จึงทำให้ที่นี่เป็นที่รู้จักและมีผู้คนเดินทางมากันอย่างมากมาย

          ตัวตลาดดอนหวายเริ่มจากชุมชนดอนหวายที่เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าแม่เซ่งเนี้ย (เพ็กเล่งตึ้ง) ซึ่งเป็นที่เคารพของขาวชุมชน ไปจนถึงวัดดอนหวายบริเวณศาลแป๊ะกง ยาวประมาณ 400 เมตร แต่ละร้านจะตั้งขายของอยู่หน้าบ้านของตนเอง ส่วนบ้านที่ติดริมน้ำก็จะทำเป็นแพยื่นไปในน้ำ เปิดเป็นร้ายขายอาหาร สามารถสั่งอาหารมารับประทานพร้อมกับนั่งชมวิวสองฝั่งแม่น้ำท่าจีนได้อย่างสบาย ๆ

ตลาดน้ำ

          เสน่ห์ที่น่าหลงใหลของตลาดน้ำดอนหวายคือการมีอาหารคาวอาหารหวาน ผลิตผลทางการเกษตร ผักและผลไม้ ให้เลือกซื้อเป็นจำนวนมาก ขอย้ำว่ามากจริง ๆ ซึ่งนักชิมและนักช้อปทั้งหลายไม่ควรพลาด อาหารที่เราอยากจะแนะนำสำหรับตลาดแห่งนี้ คือเป็ดพะโล้นายโอและเป็ดพะโล้นายหนับ ซึ่งทั้งสองเจ้าได้ทำสืบทอดกันมาเป็นเวลาหลายสิบปี เนื้อเป็ดนุ่มอร่อย รสชาติดี ปลาทู ปลาตะเพียนต้มเค็ม ก้างเปื่อยยุ่ยสามารถรับประทานได้ทั้งตัว มีให้เลือกซื้อกันอยู่หลายร้าน ห่อหมกปลาช่อน ปลาช่อนเผาเกลือ ปลาช่อนทอด ทอดมันปลากราย

          ส่วนอาหารหวานขอแนะนำร้านขนมไทยป้าไข่ ซึ่งมีทั้งขนมตาลที่ทำจากลูกตาลแท้ ๆ ขนมถ้วยฟูน้ำตาลสด รสชาติอร่อย หอมหวานกำลังดี รวมทั้งร้านอัทนีย์ ร้านแม่อรุณขนมไทย และร้านโส่ยขนมไทย ซึ่งแต่ละร้านที่กล่าวมาก็มีขนมไทยอื่น ๆ หลากหลายชนิด และก็มีเคล็ดลับการทำขนมไทยให้อร่อยรสชาติดีไม่แพ้กัน

ตลาดน้ำ

          เมื่อเดินชิมและเดินช้อปกันทั่วแล้ว ถ้าอยากนั่งเรือชมวิวทิวทัศน์ธรรมชาติสองฟากฝั่งแม่น้ำท่าจีน ชมบ้านเรือนไทยสมัยโบราณ ก็สามารถไฟล่องเรือกับเรือศรีสวัสดิ์ย้อนยุค ซึ่งเขาได้นำเรือเอี้ยมจุ๊นและเรือกระแชงมาทำเป็นเรือท่องเที่ยว มีเส้นทางให้เราเลือก 3 เส้นทางด้วยกัน คือ

          เส้นแรก : เริ่มตั้งแต่วัดดอนหวาย วัดไร่ขิง-วังปลา ค่าเรือ ผู้ใหญ่ 80 บาท เด็ก 40 บาท วันหยุดมีเรือออก 4 รอบ (11.00 น., 11.30 น., 14.00 น. และ 16.15 น.)

          เส้นที่สอง : เริ่มจากวัดดอนหวาย-วัดทรงคะนอง-วัดหอมเกร็ด-วังปลา ค่าเรือ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท ในวันหยุดจะมีเรือออก 3 รอบ (10.45 น., 13.15 น. และ 15.30 น.)

          เส้นที่สาม : เริ่มจากวัดดอนหวาย-วัดไร่ขิง-วังปลา-สวนสามพราน ค่าเรือ ผู้ใหญ่ 120 บาท เด็ก 60 บาท ในวันหยุดมีเรือออก 2 รอบ (12.15 น. และ 14.30 น.)

          ส่วนในวันจันทร์-ศุกร์ จะมีเรือเส้นทางแรกออกเพียงเส้นทางเดียว สองรอบ เวลา 12.30 และ 14.15 น.

          การมาเยือนตลาดดอนหวายครั้งนี้ไม่ได้ทำให้เราผิดหวังเลยในเรื่องอาหารการกินและการต้อนรับของผู้คน

ตลาดน้ำ

ตลาดท่านา

          ในช่วงบ่าย ๆ เราเดินทางออกจากตลาดน้ำดอนหวายไปยังจุดหมายสุดท้ายของทริปนี้ "ตลาดท่านา" หรือตลาดนครชัยศรี ซึ่งอยู่บริเวณริมแม่น้ำท่าจีน ตำบลนครชัยศรี อำเภอนครชัยศรี ที่มาของคำว่า "ท่านา" มาจากสภาพพื้นที่โดยรอบของตลาด ในอดีตนั้นเป็นนาข้าว ท่าเรือขึ้นลงข้าว และขนถ่ายสินค้า ตามประวัติมีการอพยพของผู้คนเข้ามาตั้งถิ่นฐานตั้งแต่ราวสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 พื้นที่แห่งนี้ได้กลายเป็นชุมชนค้าขายสำคัญ มีการสร้างอาคารเรือนไม้ 2 ชั้น โอบล้อมตัวตลาดสดพร้อมสร้างสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน (สะพานรวมเมฆ) เพื่อเชื่อมต่อกับชุมชนงิ้วราย

          ปัจจุบันตลาดท่านอยู่ในความดูแลของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และผู้คนในชุมชนก็ยังคงรักษาวิถีชีวิต พร้อมกับสถาปัตยกรรมบ้านเรือนแบบดั้งเดิมไว้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ในวันเสาร์-วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะมีผู้คนเดินทางมายังตลาดท่านามากเป็นพิเศษ เพราะระยะทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯ นัก

          ตัวตลาดท่านามีลักษณะคล้ายโรงเรียนขนาดใหญ่ เป็นสถานที่จำหน่ายอาหารคาว อาหารหวาน ผัก ผลไม้ โดยเฉพาะส้มโอ ผลไม้ที่ขึ้นชื่อของอำเภอนครชัยศรี สามารถซื้อเป็นของฝากได้ มีให้เลือกกันอยู่หลายพันธุ์ เช่น ทองดี ขาวพวง ขาวแป้น และขาวน้ำผึ้ง เป็นต้น รอบตัวตลาดโอบล้อมไปด้วยอาคารเรือนไม้สองชั้นทำเป็นอาคารพาณิชย์ทาทับด้วยสีเหลือง เปิดเป็นร้านอาหารร้านขายสินค้าอุปโภคบริโภค ร้านขายยา และร้านขายองโบราณ ซึ่งก็มีทั้งของในประเทศและของต่างประเทศ ให้นักสะสมหรือผู้ที่ชื่นชอบของเก่าของโบราณได้เดินชมและเลือกซื้อกัน

          เมื่อมาถึงตลาดท่านาแนะนำให้มาชิมเป็ดพะโล้เจียมจันทร์ เจ้าเก่าดั้งเดิมของตลาด แต่ต้องมาให้เช้าหน่อย ถ้ามาตอนบ่ายหรือเย็นของเขาหมดแล้ว ขนมปังเย็นคุณป้อม ที่ตกแต่งเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ อย่างสวยงามน่ารัก ร้านนี้เด็ก ๆ และวัยรุ่นชอบมากมาม่อนจังนุ่ม ๆ ร้านหน่อยเบเกอรี่ ขนมไทยร้านเจ๊ฮุ้น ซึ่งขนมที่คนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวนิยมซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน คือข้าวเหนียวถั่วดำ ขนมกล้วย และข้าวเหนียวมูนหวาน มันอร่อย

          นอกจากนี้ยังมีผัดไทยเจ๊ตุ๊ก ปลาซ่อนแดดเดียว และร้านสีฟ้า ร้านอาหารริมแม่น้ำท่าจีน ที่มีเมนูให้เลือกสั่งหลากหลายชนิดให้มานั่งรับประทาน พร้อมชมบรรยากาศริมน้ำได้อย่างสบาย ๆ หรือถ้าอยากจะนั่งชิล ๆ ดูลำน้ำท่าจีน ก็สามารถมานั่งให้อาหารปลาบริเวณริมเขื่อนหน้าตลาดได้ ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าที่ขายอาหารปลาจะบริการเก้าอี้นั่งและร่มกันแดดให้อีกด้วย

          การเดินทางท่องเที่ยวตลาดน้ำ ตลาดโบราณริมน้ำ นอกจากเราจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตฟังเรื่องราวความเป็นมาในอดีต ได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชน ได้ล่องเรือท่องเที่ยว ได้ชิมอาหารพื้นถิ่น ได้เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง แล้วเรายังได้ความสุขสนุกสนานที่แฝงไปด้วย ความรู้แปลกใหม่ของแต่ละพื้นที่ ทำให้เราเข้าใจสังคมและวัฒนาธรรมซึ่งเป็นรากฐานในการดำเนินชีวิตของผู้คนริมน้ำเหล่านั้นด้วย...

ขอขอบคุณ

          คุณสมาน วิเชียรศรี, ชาวตลาดบางหลวง, ชาวตลาดน้ำลำพญา, ชาวตลาดเก่าก๊กพระยา, ชาวตลาดน้ำดอนหวาย และชาวตลาดท่านาทุกท่าน ที่ให้ข้อมูลในการจัดทำสารคดีครั้งนี้สำเร็จไปด้วยดี

ตลาดน้ำ

คู่มือนักเดินทาง

          ตลาดบางหลวง ร.ศ. 122 เดินทางโดยรถยนต์ จากกรุงเทพฯ ตามทางหลวงหมายเลข 9 (ตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี) ถึงสี่แยกนพวงศ์ เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 346 ข้ามสะพานแม่น้ำท่าจีนแล้วเลี้ยวขวาถึงตลาดบางเลน ผ่านสามแยก ตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 3351 ระยะทางประมาณ 14 กิเมตร นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางโดยรถตู้ (สายสนามหลวง-บางหลวง-บางแม่หม้าย) จากสนามหลวงซึ่งจอดอยู่บริเวณพระแม่ธรณี รถออกทุก ๆ 40 นาที ค่ารถโดยสาร 80 บาท

          ตลาดน้ำลำพญา เดินทางโดยรถยนต์ จากกรุงเทพฯ ตามทางหลวงหมายเลข 9 (ตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี) ถึงสี่แยกนพวงศ์ เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 346 ก่อนข้ามสะพานแม่น้ำท่าจีนให้เลี้ยวซ้ายไปประมาณ 8 กิเมตร ตลาดน้ำวัดลำพญาจะอยู่ทางขวามือ หรือจากถนนบรมราชชนนีตรงไปถึงพุทธมณฑล สาย 4 เลี้ยวขวาขึ้นสะพาน ขับตรงไปผ่านมหาวิทยาลัยมหิดล เลี้ยวซ้ายผ่านหน้าที่ว่าการอำเภอพุทธมณฑล ถึงสถานีตำรวจพุทธมณฑล แล้วเลี้ยวขวาตรงไปประมาณ 24 กิโลเมตร ตลาดน้ำวัดลำพญาจะอยู่ทางซ้ายมือ และสามารถเดินทางโดยรถตู้ (สายพาต้า-บางเลน) ซึ่งรถจะจอดบริเวณสวนอาหารกุ้งหลวง ค่าโดยสาร 60 บาท

          ตลาดน้ำดอนหวาย เดินทางโดยรถยนต์ จากถนนบรมราชชนนีตรงไป แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าพุทธมณฑล สาย 5 ระยะทาง 1 กิโลเมตร จะเจอสี่แยกเลี้ยวขวา ตรงไป แล้วเลี้ยวซ้ายไปวัดดอนหวาย

          ตลาดท่านา เดินทางโดยรถยนต์ จากถนนบรมราชนนีตรงไป ข้ามสะพานแม่น้ำท่าจีน แล้วเลี้ยวกลับรถเข้าพุทธมณฑล สาย 7 ตรงไปอำเภอนครชัยศรีก็จะถึงตลาดท่านา

บริการล่องเรือชมวิถีชีวิตริมน้ำ

          เรือศรีสวัสดิ์ย้อนยุค ตลาดน้ำดอนหวาย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08 1448 8876 และ 08 1659 5805

          ล่องเรือตลาดน้ำลำพญา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08 9065 8178

ของฝาก

          - เป็ดพะโล้นายโอ เป็ดพะโล้นายหนับ จากตลาดน้ำตอนหวาย อำเภอสามพราน

          - เป็ดพะโล้โกเท้ จากอำเภอบางเลน

          - ขนมเปี๊ยะครูสมทรง ขนมเปี๊ยะร้านเฮ้งเฮียง ขนมเปี๊ยะบางเลน (เจ้าเก่า) ตราพระปฐมเจดีย์ จากอำเภอบางเลน

          - ส้มโอ จากตลาดท่านา ตลาดน้ำดอนหวาย

          - กล้วยไม้ แอร์ออคิด ตำบลเราภิรมย์ อำเภอบางเลน (บนเส้นทางตลาดน้ำลำพญา-อำเภอพุทธมณฑล)

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

ปีที่ 57 ฉบับที่ 1 สิงหาคม 2559


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เที่ยวชม...ยลตลาดริมน้ำท่าจีน จังหวัดนครปฐม อัปเดตล่าสุด 20 พฤศจิกายน 2562 เวลา 15:07:47 8,998 อ่าน
TOP