x close

4 เมืองแลนด์มาร์คสุดปัง ที่เวียดนาม

vietjetair

          ซินจ่าว หรือ สวัสดี ในภาษาเวียดนาม คือจุดหมายปลายทางที่จะไปเยือนกันวันนี้...เวียดนามได้รับฉายาว่าเป็นดินแดนแห่งตัว S ในภาษาอังกฤษ เพราะรูปร่างคล้ายตัว S ถึงแม้เวียดนามจะไม่ได้อยู่ติดกับประเทศไทย แต่มีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศนิยมเดินทางไปเที่ยวกันอยู่ไม่น้อย

          ยิ่งเดี๋ยวนี้การเดินทางก็แสนสะดวกสบายมากขึ้น ทำให้โลกใบนี้เล็กลงถนัดตา ประจวบเหมาะได้โอกาสกลับไปเที่ยวเวียดนามอีกครั้ง และยังไปเตะตากับโปรโมชั่นของสายการบิน Vietjet ที่เห็นปุ๊บรีบอยากจะไปในทันที จึงไม่พลาดที่จะขอลองใช้บริการสักครั้ง

          ตั้งแต่การ Booking online Vietjet มีเที่ยวบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-เวียดนาม ในเส้นทางต่าง ๆ ให้เลือกมากที่สุด 3 เที่ยวต่อวัน !!! บริการเลือกที่นั่งล่วงหน้า Hot Seat ทางลัดที่ช่วยให้ประหยัดเวลาขึ้น-ลงเครื่องบินในช่วงเวลาเร่งด่วน ที่นั่งกว้างเป็นพิเศษที่พิสูจน์มาแล้วว่ายืดขาได้สบาย ๆ และอื่น ๆ ที่สาธยายไม่หมด ยิ่งช่วงที่ไปจัดโปรโมชั่นพิเศษ ราคาเริ่มต้น 0 บาท สุดคุ้มยิ่งกว่าซื้อ 1 แถม 1 !!!

          ที่ Vietjet ประเดิมเปิดให้บริการในไทย และยังมีเส้นทางบินใหม่ กรุงเทพฯ-ไฮฟอง (เมืองที่ใกล้ฮาลองเบย์ที่สุด) อีกด้วย ซึ่ง Vietjet นับว่าเป็นสายการบินที่มาแรงทั้งมาตรฐานการให้บริการและราคาที่น่าจับตามอง กล้าเสนอโปรโมชั่นดี ๆ ในยุคเศรษฐกิจแบบนี้

vietjetair

          ตลอดเวลาที่อยู่บนเครื่อง ขอบอกว่าความดีงามอย่างหนึ่งที่ผู้โดยสาร SkyBoss (เป็นบริการเสริมระดับพรีเมียมของเขา) Vietjet มอบสิทธิพิเศษตั้งแต่อยู่ในสนามบิน ขึ้นเครื่อง และถึงจุดหมายปลายทาง ปฏิเสธไม่ได้ว่าของเขาดีจริง ๆ ตั้งแต่ขั้นตอนการเช็กอิน สิทธิ์ในการเลือกที่นั่งก่อนใคร ห้องรับรองสุดหรูที่ให้ความเป็นส่วนตัว บริการรถบัสส่วนตัวรับ-ส่ง จากสนามบินไปขึ้นเครื่อง ฟรีน้ำหนักกระเป๋า 20 กิโลกรัม ประกอบกับแอร์บัสลำใหญ่ที่ใหม่ แอร์เย็นฉ่ำ บริการแสนประทับใจบนเครื่อง ทำให้ตัดสินใจแพ็คกระเป๋าไปเวียดนามอย่างไม่ลังเล เมื่อเริ่มต้นเดินทางยังตื่นเต้นขนาดนี้ จะช้าอยู่ไยเมื่อเวียดนามอยู่ใกล้แค่เอื้อม

          ยิ่งเดี๋ยวนี้การเดินทางไปเวียดนามนั้นแสนง่าย เพราะ Vietjet มีเส้นทางให้บริการบินตรงจากสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ-โฮจิมินห์, กรุงเทพฯ-ฮานอย และเร็ว ๆ นี้จะเปิดเส้นทางใหม่ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์เดินทางไปเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 และเมืองท่าที่สำคัญในเวียดนาม เส้นทางกรุงเทพฯ-ไฮฟอง ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของนักท่องเที่ยวชาวไทยแน่นอน เป็นไงล่ะงานดีงานปังจริง ๆ

vietjetair

          แพลนครั้งนี้ไม่พลาดที่จะโฟกัสไปที่ 4 เมืองแลนด์มาร์ค โดยบินจากกรุงเทพฯ ขึ้นที่สุวรรณภูมิ (ชอบมากเพราะสะดวกสบายกว่าดอนเมืองเยอะ) ไปฮานอย แล้วต่อด้วยฮาลองเบย์ จากนั้นนั่งรถไปเมืองไฮฟอง ก่อนจะบินจากไฮฟองไปโฮจิมินห์ จะบอกว่าเปิดทริปมานี้ได้สัมผัสเบาะนุ่ม ๆ และห้องโดยสารที่กว้างของ Vietjet พร้อม enjoy eating ตลอดการเดินทาง ถ้าพร้อมแล้วไป enjoy flying กับ Vietjet และตามไปเก็บแลนด์มาร์คสุดแสนประทับใจกันเลย

ฮานอย นครพันปี

          1 ชั่วโมง 50 นาที ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงเมืองฮานอย เมืองหลวงเก่าแก่ที่รายล้อมไปด้วยความสวยงามของตึกและอาคารสไตล์โคโลเนียล สถาปัตยกรรมสุดคลาสสิกที่สะท้อนศิลปวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมเอาไว้อย่างครบถ้วน มาฮานอยทั้งทีย่อมไม่พลาดแลนด์มาร์คยอดนิยมอย่าง สุสานลุงโฮ หรือสุสานโฮจิมินห์ เจดีย์เสาเดียว โรงละครหุ่นกระบอกน้ำที่ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิต ประเพณี ความเชื่อของชาวเวียดนามไว้อย่างครบถ้วน

          แต่ถ้าอยากสัมผัสกลิ่นอายย่านเมืองเก่า ย่านโอลด์ควอเตอร์ คือคำตอบที่แท้จริง ถนนคนเดินที่สามารถเดินเล่นชิล ๆ ชมบรรยากาศความเก่าแก่ และช้อปปิ้งสินค้าราคาประหยัดสไตล์ถนนข้าวสารเมืองไทย เรียกได้ว่าขาช้อปต้องช้อปจนเมื่อยขาแน่ ๆ เพราะตามตรอกซอกซอยที่ทอดยาวทับซ้อนกันถึง 36 ซอย ยังมีทั้งร้านอาหารพื้นเมือง ร้านขายของเก่า ร้านค้าแผงลอยขายของที่ระลึก เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ งานฝีมือ ฯลฯ อีกเยอะแยะ ที่ไม่รู้ว่าวันเดียวจะช้อปปิ้งหมดหรือไม่ ที่สำคัญราคายังต่อรองกันได้ด้วยนะว่าแล้วขอตัวไปช้อปปิ้งก่อน

เวียดนาม

ฮาลองเบย์ สรวงสวรรค์แห่งธรรมชาติ


          ไฮไลท์การเดินทางวันนี้ จุดหมายปลายทางนั้นเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ตัดสินใจให้มาเวียดนาม จากที่เคยเห็นแต่ในภาพถ่าย…เช้านี้ไม่ลืมรองท้องเสาะหาอาหารประจำชาติ ที่คนเวียดนามเรียกว่า "บั๋นหมี่" แซนด์วิชเวียดนามที่ฮิตทั่วโลก หรือที่บ้านเรารู้จักกันในนามขนมปังบาแก็ต มีขายมากมายตั้งแต่เป็นร้านขายไปจนถึงหาบเร่ เรียกว่าเป็น Vietnamese Street Food ที่หาทานกันได้ง่าย ๆ คล้ายข้าวแกงบ้านเรา

          การเดินทางไปฮาลองเบย์นั้น มีหลายเส้นทางที่เดินทางถึงจุดหมาย แต่ทริปนี้ตั้งใจดื่มด่ำธรรมชาติกันให้เต็มที่จึงขอนั่งรถกินลมชมวิวธรรมชาติ โดยนั่งรสบัสจากฮานอยไปเมืองฮาลอง ที่ห่างออกไป 160 กิโลเมตร ชมวิวไปเรื่อย ๆ ใช้เวลา 3 ชั่วโมงครึ่ง และจากสถานีรถบัสไปท่าเรืออ่าวฮาลองอีก 15 นาที จากนั้นไปต่อเรือที่ท่าเรือเฟอร์รี่ ซึ่งจะมีเรือไปยังเกาะกั๊ตบา ด้วยความสวยงามและสมบูรณ์ทางธรรมชาติที่ได้ยินได้ฟังมาเกี่ยวกับอ่าวฮาลองที่อยากไปให้เห็นสักครั้งในชีวิต

          การเดินทางแสนทรหดนี้ถือเป็นสิ่งคุ้มค่าที่ควรค่าแก่การมาเยือน อ่าวฮาลองหรือฮาลองเบย์ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากองค์กรยูเนสโกในปี 2537 เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ย มีเกาะหินปูนจำนวน 1,969 เกาะโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวทะเลหลายเกาะมีถ้ำขนาดใหญ่อยู่ภายใน กิจกรรมที่นี่หลัก ๆ คือล่องเรือ เข้าไปดูแสงสีในถ้ำที่ประดับด้วยไฟตกแต่งถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณอ่าวคือ "ถ้ำเสาไม้" หรือชื่อเดิมว่า Grotte des Merveilles เกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบริเวณอ่าว 2 เกาะ คือ เกาะกั๊ตบา และเกาะ Tuan Chau ทั้งสองเกาะนี้มีคนตั้งถิ่นฐานอยู่อย่างถาวร บนเกาะมีโรงแรมและชายหาดจำนวนมากคอยให้บริการ แบบนี้ติดเกาะก็ไม่อดตายแล้วสิ….

เวียดนาม

ไฮฟอง เมืองแห่งคนรักทะเล

          จากฮาลองเบย์ใช้เวลาชั่วโมงกว่า ๆ ก็เดินทางถึงเมืองไฮฟอง ซึ่งเดี๋ยวนี้การเดินทางจากฮาลองเบย์ถึงไฮฟองสะดวกสบายมากขึ้น โดยใช้เวลาไม่ถึง 30 นาที ถ้าใครไม่บินไปฮานอยก่อน แต่จะตรงมาที่ฮาลองเบย์เลย แนะนำว่าให้บิน Vietjet เลือกเส้นทางกรุงเทพฯ-ไฮฟอง มาก็สะดวกมาก ๆ
 
          ไฮฟองเป็นเมืองตากอากาศที่เที่ยวได้ตลอดทั้ง 4 ฤดู เมืองนี้ผสมเอาเอกลักษณ์ของท้องถิ่น ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมทัศนียภาพธรรมชาติที่สวยงาม วัฒนธรรมการกินและอาชีพพื้นเมืองที่น่าสนใจต่าง ๆ รวมไว้ด้วยกัน และที่โดดเด่นดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวด้วยงานเทศกาลท้องถิ่น และการนมัสการวัดวาอารามต่าง ๆ ในหน้าร้อน

          ไฮฟองคือเมืองตากอากาศ เพราะรวบรวมชายหาดที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง เช่น เกาะกั๊ตบา ชายหาดโด่เซิน อ่าวบ๊ายตื๋อลอง ในฤดูใบไม้ผลิสามารถมาร่วมทำกิจกรรมพื้นบ้านที่เป็นเอกลักษณ์ เทศกาลชนกระบือ ส่วนหน้าหนาวสนุกกับการไต่เขา เที่ยวชมถ้ำหินปูนหินงอกหินย้อย ไฮไลท์สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องไปเมื่อเยือนถิ่นไฮฟอง คือเกาะกั๊ตบาที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ มีบรรยากาศที่เงียบสงบ มาไฮฟองทั้งทีถ้าไม่ปีนเขาไต่หน้าผา ดำน้ำ พายเรือชมธรรมชาติ คงมาไม่ถึงไฮฟองสินะ

เวียดนาม

โฮจิมินห์ซิตี้เมืองที่ไม่หลับใหล

          "โฮจิมินห์" หรือ "ไซง่อน" เมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจที่มีกลิ่นอายวัฒนธรรมฝรั่งเศส พร้อมกับธรรมชาติที่สวยงาม ให้บรรยากาศเหมือนเที่ยวเมืองยุโรปแบบใกล้ ๆ ที่แทบไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็นกับตาในประเทศเวียดนาม ตึกเก่า ๆ ที่สะท้อนสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสอย่าง มหาวิหารนอร์เธอดาม (Notre Dame Cathedral) โบสถ์คาทอลิกเก่าแก่ สร้างด้วยอิฐแดง อายุกว่า 140 ปี, อาคารไปรษณีย์กลาง (Saigon Post Office), โรงละครโอเปร่า (Saigon Opera House) ทำให้ความแตกต่างระหว่างเมืองเก่าท่ามกลางความเจริญในยุคปัจจุบันผสมผสานกันได้อย่างลงตัว

          และแน่นอนไม่ลืมที่จะเอาใจขาช้อปทั้งหลายกับตลาดสุดฮิตที่มาโฮจิมินห์เมื่อใดต้องมาเยือน ตลาดบินถั่น (Ben Thanh Market) คล้ายตลาดนัดจตุจักรบ้านเราที่ขายสินค้าหลายอย่าง ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า นาฬิกา ของฝาก ของที่ระลึก อาหารสด อาหารแห้ง ขนม ดอกไม้ ฯลฯ เรียกได้ว่ามีทุกสิ่งให้เลือกสรรกันเลยทีเดียว ร้านเฝอ 2000 ข้าง ๆ ตลาดบินถั่น เฝอที่นี่น้ำซุปอาจไม่จัดจ้านนัก แต่รสชาติมีความนัว ๆ เครื่องจัดมาเต็ม โดยเฉพาะผักแทบบังเส้นมิดกันเลยทีเดียว ตบท้ายด้วยของหวานตามสูตรเดินลัดเลาะถนน Pasteur ร้านไอศกรีม Kem Bach Dang ซึ่งมีคนเวียดนามแนะนำว่างานดีงานอร่อย

          สำหรับนักท่องราตรี ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าคือจุดเริ่มต้นของแสงสีในยามค่ำคืนของโฮจิมินห์ ที่เต็มไปด้วยผับบาร์ฮิป ๆ ร้านอาหารบนดาดฟ้าหรู ๆ สำหรับดื่มและชมวิว หรือจะนั่งจิบเบียร์เย็น ๆ ชิล ๆ กับเพื่อน ให้เป็นไฮไลท์ก่อนปิดทริปเวียดนามด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์จาง ๆ

          การมาเวียดนามครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งทริปที่ประทับใจ ได้ดื่มด่ำกับกลิ่นอายวัฒนธรรมยุโรปที่สะท้อนออกมาตามตึกเก่า ๆ ขณะที่อีกด้านคือความศิวิไลซ์และวุ่นวายของชีวิตเมืองหลวง ได้เห็นวิถีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ของคนเวียดนาม ได้สัมผัสกับธรรมชาติที่งดงามเกินบรรยาย กลับไทยคราวนี้คงต้องหาเวลาจัดทริปเวียดนามอีกครั้งแน่นอน

          เมื่อกลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิ สายตาชำเลืองไปเห็นเครื่องบินแอร์บัสใหม่ รุ่น A320 ของ Vietjet สามลำจอดอยู่ใกล้ ๆ น้อง ๆ แอร์บอกว่าจะให้บริการภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ ยิ่งพิเศษไปกว่านั้น เครื่องบินรุ่นนี้ มีชื่อเรียกเป็นดอกไม้ชนิดต่าง ๆ เช่น อมาริลลิส บีโกเนีย คาร์มีเลีย พร้อมลวดลาย Amazing Thailand สีสันสดใส ต้อนรับการเปิด 3 เส้นทางใหม่ในเมืองไทย ที่ Vietjet Air มอบเป็นของขวัญให้คนไทย

          รู้แบบนี้แล้วไม่แปลกใจเลยที่สายการบิน Vietjet เป็นหนึ่งในสายการบินที่เติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาคอาเซียน และได้รับรางวัล High Quality Service in Tourism 2013 (voted by Vietnam National Administration of Tourism & Travel Newspaper) เห็นทีถึงบ้านต้องรีบไปหาโปร 0 บาท ไว้เที่ยวรอบหน้า เห็นว่ามีเส้นทางบินในประเทศ เชียงใหม่ ภูเก็ต เปิดให้บริการแล้วด้วยนะจองง่าย ๆ ผ่านทาง www.vietjetair.com หรือกดไลค์เพจไว้ที่ www.facebook.com/vietjetthailand จะได้ไม่พลาดโปรดี ๆ เยือนเวียดนามแบบสบาย ๆ กระเป๋า

เวียดนาม

เวียดนาม

          แหนกัปหลาย แล้วพบกันใหม่…เวียดนาม

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
4 เมืองแลนด์มาร์คสุดปัง ที่เวียดนาม อัปเดตล่าสุด 8 มีนาคม 2567 เวลา 16:56:26 26,370 อ่าน
TOP