x close

นั่งรถไฟเที่ยว ตาม 4 เส้นทางรถไฟรุ่นใหม่ ไปไหนได้บ้าง

นั่งรถไฟเที่ยว

นั่งรถไฟเที่ยว
ภาพจาก withit / shutterstock.com

นั่งรถไฟเที่ยว

          นั่งรถไฟเที่ยว ตามเส้นทางนำร่องรถไฟใหม่ ใน 4 เส้นทาง ชิลสุด ๆ กับบรรยากาศสองฟากฝั่งทางรถไฟ อิ่มอร่อยไปกับของกินมากมายหลากหลายแบบ และไปสนุกสนานกับจุดหมายปลายทางให้เต็มที่


          หลังจากที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ออกมาเปิดเผยถึงโครงการรถไฟรุ่นใหม่ ซึ่งจะนำเข้ามาใช้ในไทยในช่วงปี 2560 และยังได้เผยรูปแบบการตกแต่งทั้งภายนอกและภายในที่สวยงามไฉไลมาก ๆ จนอยากจะชวนทุกคนไปเที่ยวด้วยรถไฟกัน

          โดยได้รับพระราชทานชื่อขบวนและพระราชทานอนุญาตให้เชิญชื่อพระราชทานประดับที่ตู้โดยสารรถไฟใหม่ทั้ง 115 คัน จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ใน 4 เส้นทาง ได้แก่

          1. เส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ พระราชทานชื่อว่า "อุตราวิถี"
          2. เส้นทางกรุงเทพ-อุบลราชธานี-กรุงเทพ พระราชทานชื่อว่า "อีสานวัตนา"
          3. เส้นทางกรุงเทพ-หนองคาย-กรุงเทพ พระราชทานชื่อว่า "อีสานมรรคา"
          4. เส้นทางกรุงเทพ-หาดใหญ่-กรุงเทพพระราชทานชื่อว่า "ทักษิณารัถย์"

          วันนี้เราจึงได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวเด่น ๆ ของทั้ง 4 เส้นทาง มาดูสิว่าแต่ละเส้นทางมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอะไรบ้าง จะได้เตรียมวางแผนเที่ยวด้วยรถไฟกันได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

●  ที่เที่ยวจังหวัดเชียงใหม่

1. วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร

นั่งรถไฟเที่ยว

          หากได้มาเยือนเชียงใหม่ สถานที่ที่ไม่อยากให้พลาดก็คือ วัดพระธาตุดอยสุเทพ เพราะที่นี่เป็นดั่งสัญลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่ จากตัวเมืองเชียงใหม่ยังเดินทางไปเที่ยวได้ง่าย ๆ ด้วยรถสาธารณะ หรือแม้กระทั่งการเช่ามอเตอร์ไซค์ขี่ขึ้นไป แต่ไม่แนะนำ เพราะช่วงหน้าฝน ถนนจะลื่น อาจเกิดอันตรายได้

          วัดพระธาตุดอยสุเทพ ตั้งอยู่ที่ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ อยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 1,053 เมตร มีพระธาตุดอยสุเทพ เป็นโบราณสถานที่สำคัญของวัดและเมืองเชียงใหม่ มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงเชียงแสน ฐานสูงย่อมุมระฆังทรงแปดเหลี่ยมปิดด้วยทองจังโก 2 ชั้น มีพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประดิษฐานอยู่ภายใน เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00-21.00 น.

2. โครงการบ้านข้างวัด


          โครงการบ้านข้างวัด เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ที่มีคอนเซ็ปต์สุดชิค แตกต่างจากที่อื่น ๆ โดยสิ้นเชิง เพราะที่นี่นำบ้านไม้เก่ามาดัดแปลงให้เป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟสุดเก๋ไก๋ ซึ่งเน้นสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ทำขึ้นเองโดยคนในพื้นที่ ไม่ใช่สินค้าแบรนด์เนมหรูหรา นอกจากการมาเดินเที่ยวช้อปปิ้งเบา ๆ แล้ว ที่นี่ยังเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ของคนรุ่นใหม่ มีการจัดกิจกรรมให้ความรู้ในเรื่องต่าง ๆ อยู่ตลอด จึงทำให้ที่นี่มีชีวิตชีวา เป็นสถานที่ที่ทุกคนสามารถมาเที่ยวและนั่งพักผ่อนได้อย่างสบายใจ คล้ายกับการมาเที่ยวบ้านเพื่อนเลยทีเดียว

          โครงการบ้านข้างวัดตั้งอยู่ในซอยวัดอุโมงค์ ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก บ้าน"ข้างวัด"

3. บ้านแม่กำปอง

          ถ้าหัวใจเรียกร้องแต่ธรรมชาติ การไปเยือนแม่กำปองจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน เพราะหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้รายล้อมไปด้วยภูเขาสูงใหญ่ ไม่มีสิ่งบันเทิงมาสร้างให้เกิดความวุ่นวาย ที่นี่มีภูเขาสีเขียวและนาข้าวขั้นบันได้ให้ได้ชื่นชม พร้อมทั้งยังมีอากาศที่เย็นสบายสดชื่นมาก ๆ ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่าย ตื่นเช้ามาพร้อมกับสายหมอก เดินเข้าสวนกาแฟ หรือแปลงนาข้าวกันอย่างชิล ๆ ส่วนนักท่องเที่ยวก็สามารถที่จะพักในหมู่บ้าน ซึ่งมีโฮมสเตย์เปิดให้บริการหลายแห่ง แต่ละแห่งก็ตกแต่งอย่างน่ารัก ให้เข้ากับวิถีชีวิตของชาวบ้าน ในราคาย่อมเยา มีร้านกาแฟเล็ก ๆ สุดเงียบสงบไว้รอต้อนรับนักท่องเที่ยว กับวิวทิวทัศน์ของธรรมชาติที่สวยงามเกินราคา เชื่อได้เลยว่าการพักผ่อนที่นี่เพียงแค่วันเดียวจะทำให้คุณได้ชาร์จพลังงานอย่างเต็มที่

4. เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน

นั่งรถไฟเที่ยว
ภาพจาก Twenty-two hours / shutterstock.com

นั่งรถไฟเที่ยว

          เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 43 ของถนนจอมทอง-ดอยอินทนนท์ สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,000 เมตร เป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเส้นทางหนึ่งในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ด้วยตลอดทั้งเส้นทางมีธรรมชาติที่สวยงาม มีป่าหลากหลายแบบให้ได้ชม

          เส้นทางนี้จะเป็นการเดินวนรอบ โดยนักท่องเที่ยวจะเริ่มเดินจากทางทิศตะวันตกไปเรื่อย ๆ จนถึงสันกิ่วแม่ปาน ซึ่งจุดนี้จะเป็นชมวิวที่สวยงามมาก ๆ สามารถมองเห็นภูเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อน ในช่วงหน้าฝนจนถึงหน้าหนาวจะมองเห็นทะเลหมอกได้อย่างชัดเจน เมื่อเลยจากจุดนี้ไปจะเป็นการเดินลงมาทางทิศใต้ แล้วเดินวกกลับขึ้นทางทิศตะวันออก เพื่อไปบรรจบกับทางเดินเข้า

          นักท่องเที่ยวสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ โทรศัพท์ 0 5328 6730, 0 5328 6728

5. ขึ้นบอลลูนชมความสวยงามของเมืองเชียงใหม่

นั่งรถไฟเที่ยว

          การลอยขึ้นไปบนฟ้ากับบอลลูนจะไม่ใช่เพียงแค่ความฝันอีกต่อไป เพราะที่เชียงใหม่มีบริการบอลลูนสำหรับการท่องเที่ยว โดยจะพานักท่องเที่ยวลอยขึ้นสู่ฟากฟ้า เพื่อชมความสวยงามของเมืองเชียงใหม่และทัศนียภาพโดยรอบ ๆ เมืองเชียงใหม่ ใช้เวลาในการท่องเที่ยวบนฟ้าประมาณ 1 ชั่วโมง คุณจะได้เห็นเชียงใหม่ในอีกมุมมอง ได้รับประสบการณ์ที่แตกต่าง ไม่เหมือนใคร และจะทำให้คุณตกหลุมรักเชียงใหม่ได้อย่างไม่มีเงื่อนไข สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ balloonadventurethailand.com

6. กาดฝรั่ง วิลเลจ

          กาดฝรั่ง วิลเลจ เป็นอีกหนึ่งพื้นที่พักผ่อนของคนเชียงใหม่ สร้างเป็นโครงการ Boutique Lifestyle Mall ซึ่งออกแบบให้ร้านค้าต่าง ๆ มีความเก๋ไก๋ ด้วยสถาปัตยกรรมตามแบบพื้นเมือง รวมร้านค้า ร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ไว้มากมาย เพื่อให้คนในชุมชนได้มานัดพบปะสังสรรค์ สิ่งที่โดดเด่นจนไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ ร้าน Starbucks Coffee ที่ออกแบบร้านแปลกแหวกตามากกว่าสาขาอื่น ๆ เพราะที่นี่สร้างให้ตัวร้านเป็นแบบสไตล์ล้านนา ได้กลิ่นอายของร้านกาแฟพื้นเมืองสุด ๆ

●  ที่เที่ยวอุบลราชธานี

1. หาดชมดาวและสามพันโบก

          ถ้าให้นึกภาพของจังหวัดอุบลราชธานี ภาพแรกที่ผุดขึ้นมาในหัว ส่วนใหญ่ก็เป็นภาพของแก่งหินในลำน้ำโขงสุดกว้างใหญ่ ซึ่งเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติได้สรรค์สร้างขึ้นมาอย่างสวยงาม

 
นั่งรถไฟเที่ยว

          สามพันโบก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของจังหวัดอุบลราชธานีที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้น ๆ ของจังหวัด เมื่อฤดูร้อนมาถึง ผู้คนจากทั่วสารทิศจะหลั่งไหลกันมาที่นี่ เพื่อชมแก่งหินกลางแม่น้ำโขงที่โผล่ขึ้นมา กินพื้นที่กว้างกว่า 30 ตารางกิโลเมตร โดยบนแก่งหินจะมีโบก หรือหลุม รูปร่างสวยงามแปลกตา หาชมได้ยาก

นั่งรถไฟเที่ยว

          หาดชมดาว ตั้งอยู่ที่ตำบลนาตาล อำเภอนาตาล เป็นแหล่งท่องเที่ยวกลางลำน้ำโขงเกิดใหม่ ที่มีความสวยงามไม่แพ้สามพันโบกเลยทีเดียว ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นมินิแกรนด์แคนยอนของเมืองไทย ด้วยแก่งหินต่าง ๆ มีลวดลายที่สวยงาม อีกทั้งยังมีหลุม บ่อน้ำ และหาดทรายอยู่หลายจุด รวมแล้วมีพื้นที่ประมาณ 200 ไร่

          ทั้งสามพันโบกและหาดชมดาวอยู่ไม่ไกลกันมากนัก ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งเพียงแค่ 20 นาทีเท่านั้น จึงสามารถวางแผนเที่ยวทั้ง 2 แห่งได้ในวันเดียว

2. เมืองเขมราฐ

นั่งรถไฟเที่ยว

          อำเภอเขมราฐ เป็นอำเภอเล็ก ๆ ของจังหวัดอุบลราชธานีที่มีความชิคไม่น้อยหน้าที่เที่ยวไหน ๆ ใครที่ชอบความเงียบสงบ และต้องการสัมผัสวิถีชีวิตสุดเรียบง่ายของชาวบ้าน ต้องแวะเวียนมาสัมผัสบรรยากาศสุดอบอุ่นของที่นี่กันสักครั้งค่ะ ในตัวเมืองเขมราฐ จะมีบ้านเรือนไม้เก่าแก่ปลูกเรียงรายอย่างสวยงาม ซึ่งบ้านบางหลังได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยว และยังจัดตกแต่งสถานที่ให้สวยงาม น่ารัก เป็นจุดถ่ายภาพเซลฟี่สวย ๆ ไม่เหมือนใคร

          ทุก ๆ เสาร์ที่ 2 และเสาร์สุดท้ายของเดือน จะมีการจัดถนนคนเดิน มีสินค้าและอาหารพื้นเมืองมากมายมาจำหน่าย ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ก็จะช่วยกันสรรหาของดี มีคุณภาพ มาให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อ เลือกชิม ใครมีเวลาลองพักค้างคืนสักคืน ก็จะได้เห็นวิถีชีวิตในแบบสโลว์ไลฟ์ ได้ลองใช้ชีวิตในอีกรูปแบบ แล้วคุณจะค้นพบว่าพลังงานมากมายได้กลับคืนสู่ร่างกายอย่างอัศจรรย์

3.  อุทยานแห่งชาติผาแต้ม

นั่งรถไฟเที่ยว

          อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ตั้งอยู่ที่อำเภอโขงเจียม ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 340 ตารางกิโลเมตร ที่นี่จึงมีความหลากหลายของธรรมชาติค่อนข้างมาก และยังค้นพบสิ่งมหัศจรรย์หลายแห่ง ถ้าพูดถึงจุดชมวิว จะมี 2 จุดไฮไลท์ คือผาชะนะไดและผาแต้ม ซึ่งทั้งสองจุดนี้เป็นจุดที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นได้ก่อนใครในประเทศไทย นักท่องเที่ยวจะมองเห็นพระอาทิตย์สีแดง ดวงกลมโต ค่อย ๆ ลอยเด่นขึ้นมาจากหลังเขา ก่อนที่จะส่องสะท้อนสีเหลืองทองลงสู่แม่น้ำโขงอย่างสง่างาม

          เสาเฉลียง เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวภายในอุทยานแห่งชาติผาแต้ม มีลักษณะเป็นเสาหินสูง รูปทรงแปลกตา มีอายุหลายล้านปี โดยรอบปกคลุมไปด้วยต้นไม้สีเขียวขจี จึงทำให้มีภูมิทัศน์ที่สวยงามน่าหลงใหล อีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดของอุทยานแห่งชาติผาแต้มก็คือทุ่งดอกไม้ป่าหลากสีสัน จุดที่สามารถชมดอกไม้จะอยู่บริเวณทุ่งดอกไม้น้ำตกห้วยพอก ทุ่งดอกไม้ป่าดงนาทาม บริเวณเสาเฉลียงคู่ ลานภูจ้อมก้อม ฯลฯ โดยแต่ละแห่งก็จะมีพันธุ์ดอกไม้แตกต่างกันออกไป อาทิ ดอกกระดุมเงิน, ดุสิตา, จอกบ่วาย, หญ้าหมู่ดาว, สร้อยสุวรรณา, ทิพเกสร และกล้วยไม้แดงอุบล เป็นต้น

          นอกจากนี้ยังไม่ควรพลาดการไปชมภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งมีภาพปรากฏอยู่บนผนังหินยาวประมาณ 180 เมตร มีมากกว่า 300 ภาพ ซึ่งเป็นภาพคน สัตว์ และอื่น ๆ เป็นแหล่งโบราณคดีที่ต้องไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง

4. น้ำตกสร้อยสวรรค์

นั่งรถไฟเที่ยว

          น้ำตกสร้อยสวรรค์
ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม มีชื่อเสียงมากที่สุดของอุบลราชธานี ด้วยเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ เกิดจากลำห้วย 2 แห่ง คือห้วยสร้อยและห้วยไผ่ ไหลจากหน้าผาคนละด้านมาบรรจบกัน มีลักษณะคล้ายกับสร้อยคอ จึงเรียกว่าน้ำตกสร้อยสวรรค์ สายน้ำมากมายจะไหลจากหน้าผาลงสู่พื้นด้านล่าง ซึ่งมีความสูงประมาณ 30 เมตร แล้วจึงไหลผ่านซอกหินลดหลั่นตามชั้นหินลงไปอย่างสวยงาม โดยรอบล้อมรอบไปด้วยต้นไม้สีเขียวขจี บรรยากาศร่มรื่น อีกทั้งต้องไม่พลาดการชมทุ่งดอกไม้ป่าหลากสีสัน ซึ่งจะออกดอกให้ชมในช่วงปลายฝนต้นหนาว เป็นความงดงามของผืนป่าที่ต้องไปเที่ยวชมกันให้ได้

5. วัดพระธาตุหนองบัว

นั่งรถไฟเที่ยว

          วัดพระธาตุหนองบัว ตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุบลราชธานี เป็นวัดที่มีความสำคัญต่อชาวอุบลฯ อย่างมาก ด้วยเป็นที่ประดิษฐานของพระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ ซึ่งมีการจำลองแบบมาจากเจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ยามค่ำคืนทางวัดจะเปิดไฟส่องพระธาตุ เป็นสีเหลืองทองอร่าม ใครได้มาเที่ยวอุบลราชธานี ต้องหาโอกาสมาสักการะพระธาตุแห่งนี้กันให้ได้


●  ที่เที่ยวหนองคาย

1. ภูห้วยอีสัน

นั่งรถไฟเที่ยว

          ภูห้วยอีสัน เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่มีความสวยงามแบบอันซีนสุด ๆ ของจังหวัดหนองคาย ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านม่วง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย เป็นภูเขาสูงริมแม่น้ำโขง มีต้นไม้สีเขียวโดยรอบ บรรยากาศเงียบสงบ อากาศจะเย็นสบายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนและหน้าหนาว จะมีทะเลหมอกลอยละล่องอยู่ในหุบเขา เหนือแม่น้ำโขง ยามเช้าแสงพระอาทิตย์จะส่องลงมาที่หมอกสีขาวอย่างสวยงาม เป็นภาพแห่งความประทับใจที่ใคร ๆ ก็อยากมาเห็นด้วยตาตัวเอง

2. สะพานมิตรภาพไทย-ลาว

นั่งรถไฟเที่ยว

          สะพานมิตรภาพไทย-ลาว
ตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำโขงในตัวเมืองหนองคาย สร้างขึ้นจากความร่วมมือของ 3 ประเทศ คือ ประเทศออสเตรเลีย ประเทศลาว และประเทศไทย เป็นสะพานข้ามแม่น้ำโขงจากอำเภอเมืองหนองคายไปยังเมืองท่าเดื่อ ประเทศลาว ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองเวียงจันทน์เพียงแค่ 20 กิโลเมตรเท่านั้น ทำให้การสัญจรไป-มาระหว่างประเทศไทยและประเทศลาวทำได้ง่ายยิ่งขึ้น ทั้งด้านการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมเติบโตอย่างเห็นได้ชัด

           นักท่องเที่ยวสามารถที่จะเดินเล่นบนสะพานข้ามไปยังประเทศลาวได้อย่างง่ายดาย ยามเย็นบรรยากาศโดยรอบจะเงียบสงบ สวยงาม มีถนนริมแม่น้ำโขงให้ได้เดินเล่นเพลิน ๆ อีกด้วย

3. วัดโพธิ์ชัย หรือวัดหลวงพ่อพระใส

          วัดโพธิ์ชัย วัดสำคัญของจังหวัดหนองคาย ตั้งอยู่เลขที่ 873 ถนนประจักษ์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ เดิมชื่อ วัดผีผิว เพราะใช้เป็นที่เผาศพ ต่อมาได้มีการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "วัดโพธิ์ชัย" ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานของ "หลวงพ่อพระใส" พระพุทธรูปขัดสมาธิราบ ปางมารวิชัย เป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะงดงาม หน้าตักกว้าง 2 คืบ 8 นิ้ว มีความสูงจากเบื้องล่างพระชงฆ์ ถึงยอดพระเกศ 4 คืบ 1 นิ้ว

          ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี ประชาชนจะอัญเชิญหลวงพ่อพระใสลงมาแห่รอบเมือง เพื่อทำพิธีสรงน้ำพระตามประเพณีดั้งเดิม ประชาชนจากทั่วสารทิศก็จะแห่แหนมายังเมืองหนองคาย เพื่อร่วมทำบุญและสรงน้ำพระหลวงพ่อพระใสกันอย่างเนืองแน่น

4. ตลาดท่าเสด็จ

          ตลาดท่าเสด็จ ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำโขง ในเขตอำเภอเมืองหนองคาย ใกล้กับสะพานมิตรภาพไทย-ลาว มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "ตลาดอินโดจีน" และตลาดท่าเรือ เหตุที่เรียกว่าตลาดอินโดจีน ก็เพราะว่าสินค้าที่ขายส่วนใหญ่ในตลาดเป็นสินค้าที่ผลิตขึ้นในแถบอินโดจีน ก่อนที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาวจะสร้างเสร็จ ท่าเรือบริเวณตลาดแห่งนี้จะคึกคักไปด้วยเรือสินค้าและเรือของนักท่องเที่ยว เพราะจุดนี้เป็นเสมือนหน้าด่านเข้าเมืองไทยและลาว จึงเรียกกันอีกชื่อว่าตลาดท่าเรือ ส่วนคำว่าตลาดท่าเสด็จ ได้มาจากการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินมาเยี่ยมเยียนราษฎรผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดหนองคาย และได้เสด็จฯ ขึ้นจากเรือพระที่นั่ง ณ ท่าเรือของตลาดแห่งนี้ ประชาชนจึงเรียกว่าตลาดท่าเสด็จมาจนถึงปัจจุบัน

          ไม่ว่าสินค้าอะไรก็ตามที่คุณต้องการ สามารถมาเดินหาได้ที่นี่ เพราะภายในตลาดแห่งนี้มีทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า, เสื้อผ้า, กระเป๋า, รองเท้า, เครื่องประดับ, อุปกรณ์ก่อสร้าง และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.30 น.

5. ศาลาแก้วกู่

นั่งรถไฟเที่ยว

          ศาลาแก้วกู่ ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองหนองคายไปทางอำเภอโพนพิสัยประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นเทวสถานที่มีความสวยงามและอลังการมาก สร้างขึ้นโดยหลวงปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์ เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2521 ภายในบริเวณศาลาแก้วกู่จะมีประติมากรรมปูนปั้นรูปทรงต่าง ๆ ตามคำสอนของแต่ละศาสนา ซึ่งมีเทวรูปทั้งหมดมากกว่า 200 ปาง ทั้งเล็กและใหญ่ ออกแบบอย่างสวยงาม ละเอียดอ่อนช้อย สามารถเข้าเที่ยวชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุดรธานี (รับผิดชอบจังหวัดอุดรธานี, จังหวัดหนองคาย และจังหวัดบึงกาฬ) โทรศัพท์ 0 4232 5406-7

●  หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

1. พระมหาธาตุเจดีย์ไตรภพ ไตรมงคล

นั่งรถไฟเที่ยว

          พระมหาธาตุเจดีย์ไตรภพ ไตรมงคล ตั้งอยู่บนยอดเขาคอหงส์ ถนนปุณณกัณฑ์ ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ เป็นพระมหาธาตุเจดีย์ที่สร้างขึ้นจากสเตนเลสแห่งแรกของโลก ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวจึงเรียกกันว่าเจดีย์สเตนเลส พระมหาธาตุเจดีย์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสทรงครองสิริราชสมบัติ 60 ปี มีลักษณะที่โดดเด่นสวยงาม เป็นสีเงินแวววาว ช่วงกลางวันจะสะท้อนแสงพระอาทิตย์อย่างงดงาม ส่วนยามค่ำคืนจะมีการเปิดไฟที่ตัวพระมหาธาตุ จนกลายเป็นลำแสงสวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวชมได้ทุกวัน

2. วนอุทยานควนเขาวัง

          หาดใหญ่ เป็นอำเภอที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นแหล่งการค้า เศรษฐกิจ การศึกษา และการท่องเที่ยวที่สำคัญของภาคใต้ ตัวเมืองหาดใหญ่จึงมีความเจริญรุ่งเรืองมากกว่าอำเภออื่น ๆ ซึ่งจริง ๆ แล้ว อำเภอนี้ไม่ได้มีแค่บ้านเรือน ตึกสูงใหญ่เท่านั้น เพราะยังมีป่าเขาลำเนาไพรให้ได้เที่ยวชมอีกมากมาย วนอุทยานควนเขาวัง ก็เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวจะได้ไปเสพอากาศบริสุทธิ์และอยู่กับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ มีจุดชมวิวภูเขาและทะเลหมอกที่งดงาม พร้อมทั้งเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมป่าไม้กันอย่างอิ่มเอม

3. น้ำตกโตนงาช้าง

นั่งรถไฟเที่ยว

          น้ำตกโตนงาช้าง ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 7 ชั้น เรียกชื่อแตกต่างกัน ได้แก่ โตนบ้า, โตนปลิว, โตนงาช้าง, โตนดำ, โตนน้ำปล่อย, โตนฤาษีคอยบ่อ และโตนเหม็ดชุน แต่ละชั้นจะมีความสวยงามไม่เหมือนกัน บางชั้นมีน้ำไหลลงจากหน้าผาสูงมาก บางชั้นเป็นเพียงโขดหิน มีน้ำไหลผ่านเท่านั้น ชั้นที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดจะอยู่ที่ชั้น 2 (โตนปลิว) และชั้น 3 (โตนงาช้าง) เพราะมีสายน้ำไหลลงจากหน้าผาสูงประมาณ 20 เมตร เป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม มีแอ่งน้ำด้านล่างให้นักท่องเที่ยวได้ลงเล่นน้ำ และยังนั่งปิกนิกริมน้ำตกได้อีกด้วย เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.

4. ตลาดน้ำคลองแห

นั่งรถไฟเที่ยว
ภาพจาก Phasut Warapisit / shutterstock.com

          ตลาดน้ำคลองแห ตั้งอยู่ที่วัดคลองแห ตำบลคลองแห อำเภอหาดใหญ่ เป็นตลาดน้ำชุมชนแห่งแรกของภาคใต้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก เพราะมีอาหารพื้นเมืองจำหน่ายหลากหลาย ทั้งอาหารไทย อาหารมุสลิม และผัก-ผลไม้สด ซึ่งชาวบ้านนำมาขายในราคาย่อมเยา และยังมีสินค้าพื้นเมืองให้เลือกซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านอีกนับไม่ถ้วน บรรยากาศของตลาดน้ำคลองแหจะคึกคักตลอด มีพ่อค้าแม่ค้าพายเรือมาจอดเรียงรายบริเวณท่าน้ำของวัดมากกว่าร้อยลำ ซึ่งก็มีอาหารแตกต่างกันออกไป นักท่องเที่ยวสามารถเดินเลือกซื้อทั้งของกินและสินค้าได้อย่างเพลิดเพลิน ตลาดน้ำคลองแห เปิดให้บริการทุกวันศุกร์, เสาร์ และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 16.00-20.00 น.

5. ตลาดกิมหยง

นั่งรถไฟเที่ยว
ภาพจาก vichie81 / shutterstock.com

          ตลาดกิมหยง ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหาดใหญ่ เป็นตลาดขายปลีก-ส่ง ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ จำหน่ายทั้งอาหาร สินค้าพื้นเมือง ของฝาก เครื่องใช้ไฟฟ้า และอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าคุณต้องการสินค้าประเภทไหน เพียงแค่เดินเข้ามาที่นี่ ก็จะได้ทุกสิ่งอย่างที่ปรารถนา โดยเฉพาะขนมต่าง ๆ ที่นี่มีให้คุณเลือกมากมาย กินกันให้อ้วนไปเลย

อัตราค่าโดยสารแต่ละเส้นทาง (อัพเดท ณ วันที่ 18 สิงหาคม 2560)

          ตารางอัตราค่าโดยสารขบวนรถด่วนพิเศษ "อุตราวิถี"(กรุงเทพฯ-เชียงใหม่)


ภาพจาก เฟซบุ๊ก ทีม พีอาร์ การรถไฟแห่งประเทศไทย

          ตารางกำหนดเวลาและอัตราค่าโดยสารขบวนรถด่วนพิเศษ "อีสานมรรคา" (กรุงเทพฯ-หนองคาย)


ภาพจาก เฟซบุ๊ก ทีม พีอาร์ การรถไฟแห่งประเทศไทย

          ตารางกำหนดเวลาและอัตราค่าโดยสารขบวนรถด่วนพิเศษ "อีสานวัฒนา" (กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี)


ภาพจาก เฟซบุ๊ก ทีม พีอาร์ การรถไฟแห่งประเทศไทย

          ตารางกำหนดเวลาและอัตราค่าโดยสารขบวนรถด่วนพิเศษ "ทักษิณารัถย์" กรุงเทพฯ-หาดใหญ่



ภาพจาก เฟซบุ๊ก ทีม พีอาร์ การรถไฟแห่งประเทศไทย

          แต่ละเส้นทางยังคงมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมายให้คุณได้ไปสัมผัส ซึ่งการท่องเที่ยวด้วยรถไฟในเมืองไทยก็เป็นทางเลือกที่ดีเลยทีเดียว เพราะนอกจากราคาจะไม่สูงมากแล้ว ยังจะได้เห็นสองฟากฝั่งของทางรถไฟ มีทั้งวิวภูเขา ทะเล หมู่บ้านให้ชมตลอดเส้นทาง แล้วไปเที่ยวไทยด้วยรถไฟกันนะคะ :)

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
, , tatcontactcenter.com, เฟซบุ๊ก บ้าน"ข้างวัด", mae-kampong.com, chiangmaipao.go.th, balloonadventurethailand.com, kadfarangvillage.com, เฟซบุ๊ก ภูห้วยอีสัน, เฟซบุ๊ก วัดโพธิ์ชัย

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
นั่งรถไฟเที่ยว ตาม 4 เส้นทางรถไฟรุ่นใหม่ ไปไหนได้บ้าง อัปเดตล่าสุด 1 มิถุนายน 2565 เวลา 11:49:30 20,338 อ่าน
TOP